ก่อนอื่นต้องขอซูฮกให้คุณคงเดช กับความแนบเนียน แยบยลในการนำเสนอประเด็นแฝงต่างๆ ในหนังเรื่องนี้
ด้วยความที่ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แบบไม่ได้อ่านรีวิว สปอยล์ รวมทั้งบทสัมภาษณ์ใดๆ ของทั้งผู้กำกับ และน้องๆนักแสดง เรียกว่าเข้าไปดูแบบหัวโล่งๆ ก็เลยจะชิลล์ ดูไป 1 รอบถ้วนค่ะ
ขอสรุปฉากที่ชอบดังต่อไปนี้
ซีนที่ชอบมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ ซีนทะเล หลังซู ไปเคลียร์กับมิว แต่ได้ความพังกลับมา มิว เย็นชา และหวุดหวิดจะมีเรื่องกลางห้างกับเจ้าเบล เพื่อนตัวเล็กที่สู้ยิบตา
ฉากที่เบล ซู กระโดดลงทะเล เบลถอดเสื้อตัวนอกทิ้งแบบไม่สนใจไยดี ส่วนซู ก็ใช้ภาษาโอบกอดเบลอย่างอบอุ่น เป็นฉากที่ทั้งคู่เหมือนเปิดเปลือยความรู้สึกที่มันดิ่งลึกอยู่ในใจ
ถ้าเราเป็นเบล ช่วงเวลานี้ึคงเป็นเวลาที่ประทับใจที่สุด ซู ได้แสดงความรู้สึกและตัวตนในด้านอบอุ่นและแสดงความรัก จากการที่ซู เป็นฝ่ายโอบกอด และดึงใบหน้าเบลไว้ ก่อนที่ซีนนั้นจะจบลง เราว่าเบลมีซู เป็นของตัวเองมากที่สุดแล้วในเวลานั้น...
ฉากที่ชอบลำดับ2 คือ ฉากเครื่องเล่น ปลาหมึกหมุน
เป็นช่วงเวลาที่ ซู ชีวิตโคตรพังสลาย สิ่งที่คิดว่าจะอยู่กับมันได้ก็ ไม่เป็นอย่างคิด ซ้ำแย่ลง แถมโอกาสที่เลือกแล้วก็อาจจะสูญไปอีก สงสารตัวละครมาก และเชื่อว่าถ้าใครเลยเจอช่วงชีวิตพังๆ น่าจะทัชได้เลย
เรามองว่าเครื่องเล่นปลาหมึกหมุน เหมือนตัวแทนความเป็นเด็ก-วัยรุ่น คนไปเล่นเครื่องเล่นมันต้องสนุกสิ แต่ซู กลับร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ มันอาจจะบ่งบอกว่า ซู กำลังสิ่งที่มันฝืนอยู่ จะเหวี่ยงมันออกไป หริอ หมุนไปตามมันแบบฝืนๆ
ส่วน "คนดู" ก็หมุนไปตามแรงเหวี่ยงของภาพปลาหมึกหมุน ฉากนี้ดิ่งมาก ทำคนดูดิ่งไปพร้อมกับตัวละคร
ฉากที่ชอบอันดับ 3
คือฉากท้ายเรื่อง ซู ไปหาย่าเบล โดยมีซูไปเป็นเพื่อน ซู เดินไปยืนแทนเงาของย่า โอบกอดตรงหน้าอกของย่า เราว่า มันเป็นฉากที่บอกถึงความเติบโตขึ้นของซู และอาจจะเป็นภารกิจนอกเช็คลิสต์ที่ซูค้นพบระหว่างทำภารกิจต่างๆก่อนจะจากที่ี่นี่ไป
เรามองว่าซู พยายามจะเปลี่ยนภาพความทรงจำที่ฝังแน่นของย่าเรื่องคุณกานต์ มันเป็นตลกร้าย และโหดร้ายมากนะ ถ้าผู้หญิงคนนึงต้องจำผู้ชายคนนึงไปตลอดชีวิต ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
ประโยค "ซู(จู)จะไปไหน" มันน่าจะสื่อว่า ซู สร้างความทรงจำใหม่ให้ย่าได้แล้วหรือไม่ แต่ที่น่าดีใจคืออย่างน้อยๆ ย่าก็อยู่กับปัจจุบัน
ฉากที่ชอบอันดับ 4
คือช่วง(ประมาณ) 10 นาทีสุดท้ายของหนังที่ไม่มีซูอยู่ในเรื่องนี้แล้ว แสงส้มๆ ของพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ตอนจะจบเรื่อง เบาะหลังบนมอร์เตอร์ไซค์ของเบล ที่ไม่มีซูอีกต่อไปแล้ว เต็มไปด้วยของใช้-ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ของย่าที่มีสายรัดแน่นอยู่ "งานที่เป็นมากกว่างาน" รอเบลอยู่ที่บ้าน มันอาจเหมือนพันธะในชีวิตที่ผูกติดกับเบล...แต่มันก็ไม่ได้แย่หรอก จากรอยยิ้มและดวงตาที่อบอุ่นของเบล ชีวิตมันก็ต้องเติบโตต่อไปนะวัยรุ่น ...
ฉากที่ชอบอันดับ 5
ได้แก่ฉาก ทิ้งถุงเสื้อผ้า ...
เป็นพาร์ทของหนังที่เล่าเรื่องฝั่งเบลบ้าง หนังได้สะท้อนอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับสังคมปัจจุบัน แม่ลูกเดินห้าง กินอาหารแพง (มาก) ที่บ่งบอกฐานะ แต่มันก็ดูจะขัดๆ กับเสื้อผ้า - และรถคันเล็กๆ ที่แม่ขับ
เบลต้องฝืนไปตลอดครึ่งวัน จนแม่กลับไป และเบลทิ้งถุงกระดาษใส่เสื้อผ้าที่แม่ซื้อให้ สายตาเกรี้ยวกราดของมิวสิคตอนนั้น ดูแล้วตกใจเลยมันแว๊บเดียว แต่มีพลังทางการแสดง
where we belong รู้ทัน "คงเดช" กับที่สุดของ 5 ฉากที่ชอบ (สปอยล์นะ)
ด้วยความที่ไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ แบบไม่ได้อ่านรีวิว สปอยล์ รวมทั้งบทสัมภาษณ์ใดๆ ของทั้งผู้กำกับ และน้องๆนักแสดง เรียกว่าเข้าไปดูแบบหัวโล่งๆ ก็เลยจะชิลล์ ดูไป 1 รอบถ้วนค่ะ
ขอสรุปฉากที่ชอบดังต่อไปนี้
ซีนที่ชอบมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ ซีนทะเล หลังซู ไปเคลียร์กับมิว แต่ได้ความพังกลับมา มิว เย็นชา และหวุดหวิดจะมีเรื่องกลางห้างกับเจ้าเบล เพื่อนตัวเล็กที่สู้ยิบตา
ฉากที่เบล ซู กระโดดลงทะเล เบลถอดเสื้อตัวนอกทิ้งแบบไม่สนใจไยดี ส่วนซู ก็ใช้ภาษาโอบกอดเบลอย่างอบอุ่น เป็นฉากที่ทั้งคู่เหมือนเปิดเปลือยความรู้สึกที่มันดิ่งลึกอยู่ในใจ
ถ้าเราเป็นเบล ช่วงเวลานี้ึคงเป็นเวลาที่ประทับใจที่สุด ซู ได้แสดงความรู้สึกและตัวตนในด้านอบอุ่นและแสดงความรัก จากการที่ซู เป็นฝ่ายโอบกอด และดึงใบหน้าเบลไว้ ก่อนที่ซีนนั้นจะจบลง เราว่าเบลมีซู เป็นของตัวเองมากที่สุดแล้วในเวลานั้น...
ฉากที่ชอบลำดับ2 คือ ฉากเครื่องเล่น ปลาหมึกหมุน
เป็นช่วงเวลาที่ ซู ชีวิตโคตรพังสลาย สิ่งที่คิดว่าจะอยู่กับมันได้ก็ ไม่เป็นอย่างคิด ซ้ำแย่ลง แถมโอกาสที่เลือกแล้วก็อาจจะสูญไปอีก สงสารตัวละครมาก และเชื่อว่าถ้าใครเลยเจอช่วงชีวิตพังๆ น่าจะทัชได้เลย
เรามองว่าเครื่องเล่นปลาหมึกหมุน เหมือนตัวแทนความเป็นเด็ก-วัยรุ่น คนไปเล่นเครื่องเล่นมันต้องสนุกสิ แต่ซู กลับร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ มันอาจจะบ่งบอกว่า ซู กำลังสิ่งที่มันฝืนอยู่ จะเหวี่ยงมันออกไป หริอ หมุนไปตามมันแบบฝืนๆ
ส่วน "คนดู" ก็หมุนไปตามแรงเหวี่ยงของภาพปลาหมึกหมุน ฉากนี้ดิ่งมาก ทำคนดูดิ่งไปพร้อมกับตัวละคร
ฉากที่ชอบอันดับ 3
คือฉากท้ายเรื่อง ซู ไปหาย่าเบล โดยมีซูไปเป็นเพื่อน ซู เดินไปยืนแทนเงาของย่า โอบกอดตรงหน้าอกของย่า เราว่า มันเป็นฉากที่บอกถึงความเติบโตขึ้นของซู และอาจจะเป็นภารกิจนอกเช็คลิสต์ที่ซูค้นพบระหว่างทำภารกิจต่างๆก่อนจะจากที่ี่นี่ไป
เรามองว่าซู พยายามจะเปลี่ยนภาพความทรงจำที่ฝังแน่นของย่าเรื่องคุณกานต์ มันเป็นตลกร้าย และโหดร้ายมากนะ ถ้าผู้หญิงคนนึงต้องจำผู้ชายคนนึงไปตลอดชีวิต ทั้งที่ผู้ชายคนนั้นไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
ประโยค "ซู(จู)จะไปไหน" มันน่าจะสื่อว่า ซู สร้างความทรงจำใหม่ให้ย่าได้แล้วหรือไม่ แต่ที่น่าดีใจคืออย่างน้อยๆ ย่าก็อยู่กับปัจจุบัน
ฉากที่ชอบอันดับ 4
คือช่วง(ประมาณ) 10 นาทีสุดท้ายของหนังที่ไม่มีซูอยู่ในเรื่องนี้แล้ว แสงส้มๆ ของพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ตอนจะจบเรื่อง เบาะหลังบนมอร์เตอร์ไซค์ของเบล ที่ไม่มีซูอีกต่อไปแล้ว เต็มไปด้วยของใช้-ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ของย่าที่มีสายรัดแน่นอยู่ "งานที่เป็นมากกว่างาน" รอเบลอยู่ที่บ้าน มันอาจเหมือนพันธะในชีวิตที่ผูกติดกับเบล...แต่มันก็ไม่ได้แย่หรอก จากรอยยิ้มและดวงตาที่อบอุ่นของเบล ชีวิตมันก็ต้องเติบโตต่อไปนะวัยรุ่น ...
ฉากที่ชอบอันดับ 5
ได้แก่ฉาก ทิ้งถุงเสื้อผ้า ...
เป็นพาร์ทของหนังที่เล่าเรื่องฝั่งเบลบ้าง หนังได้สะท้อนอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับสังคมปัจจุบัน แม่ลูกเดินห้าง กินอาหารแพง (มาก) ที่บ่งบอกฐานะ แต่มันก็ดูจะขัดๆ กับเสื้อผ้า - และรถคันเล็กๆ ที่แม่ขับ
เบลต้องฝืนไปตลอดครึ่งวัน จนแม่กลับไป และเบลทิ้งถุงกระดาษใส่เสื้อผ้าที่แม่ซื้อให้ สายตาเกรี้ยวกราดของมิวสิคตอนนั้น ดูแล้วตกใจเลยมันแว๊บเดียว แต่มีพลังทางการแสดง