10 อันดับ กิมมิคซีนละครไทยประจำปี 2024 ที่ใครเห็นก็จำได้!
ปี 2024 เรียกได้ว่าเป็นปีไวรัลของวงการละครไทยที่เต็มไปด้วยฉากที่ติดตาของคนดูและเป็นกิมมิคซีนที่กลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน วันนี้เรารวบรวม 10 อันดับฉากเด็ดที่ทำให้แฟนละครต้องพูดถึงและแชร์สนั่นออนไลน์ จะมีฉากในดวงใจของคุณหรือไม่ ไปดูกันเลย!
**1. “แมวดำโดนวางยา” จาก แม่หยัว
หนึ่งในฉากที่กลายเป็นกระแสสังคมไปไกลเกินกว่าจอแก้ว คือเหตุการณ์ที่ “แมวดำ” ในละคร แม่หยัว ถูกวางยาอย่างโหดร้าย ฉากนี้ไม่เพียงกระแทกหัวใจคนดู แต่ยังจุดประเด็นร้อนแรงบนโซเชียลมีเดีย จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างดุเดือด
แม้จะเป็นเพียงฉากในละคร แต่ความสมจริงในการถ่ายทอดความทุกข์ทรมานของแมวทำให้ผู้ชมหลายคนเข้าใจผิดว่ามีการกระทำรุนแรงต่อสัตว์จริงๆ ข่าวลือกระจายไปไกลถึงต่างประเทศ จนถึงขั้นถูกหยิบยกเป็นประเด็นใน BBC World News ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ในวงการบันเทิงไทย
ฉากนี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับวงการบันเทิงไทย ที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างความสมจริงและการคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ชมทั้งทางบวกและลบ!
**2. “ต้นไม้คุณบุษ” จาก ทิชา
ใน ทิชา เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อ ทิชา หญิงสาวที่เคยหนีตายจากบุษรา กลับมายังบ้านบุษรา สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำเลวร้าย บ้านหลังใหญ่ที่ดูดี แต่สำหรับทิชา เธอยังจำได้ทุกซอกทุกมุม ราวกับทุกอย่างยังติดอยู่ในหัวใจ
สิ่งที่ทำให้เธอสะเทือนใจที่สุดคือ ต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตตรงจุดนั้นเปรียบเสมือนหลักฐานที่ย้ำเตือนถึงความอยุติธรรมในอดีต
ในฉากนี้ ทิชายืนอยู่หน้าต้นไม้อย่างนิ่งงัน น้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว
การกลับมาของทิชาไม่ใช่เพียงเพื่อเผชิญหน้ากับอดีต แต่คือการเปิดศึกแห่งการแก้แค้นที่เธอเตรียมมาอย่างดี ทุกการเคลื่อนไหวของเธอจะเต็มไปด้วยแผนการที่แยบยลและความเฉลียวฉลาด เพื่อล้มล้างทุกสิ่งที่เคยทำให้เธอและแม่ต้องเจ็บปวด
**3. “จิ๊กซอว์บ้านในฝันของน้องเอิน” จาก ใจซ่อนรัก
หนึ่งในฉากที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมายในละคร ใจซ่อนรัก ซีรีส์ GL ของช่อง 3 คือการที่ พี่หมอ มอบ “จิ๊กซอว์บ้านในฝัน” ให้กับ น้องเอิน แฟนสาวผู้มีจิตใจอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความฝัน ฉากนี้ไม่เพียงแสดงถึงความรักอันลึกซึ้งที่พี่หมอมีต่อน้องเอิน แต่ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กคนหนึ่ง
“จิ๊กซอว์บ้านในฝันของน้องเอิน” ไม่ได้เป็นแค่ของเล่น แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเอิน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกล้าที่จะวาดฝันและเชื่อมั่นในความรักที่เป็นไปได้อีกครั้ง
#ใจซ่อนรัก ฉากนี้ไม่ได้เพียงแค่สร้างความประทับใจ แต่ยังเติมเต็มความหวังให้กับคนดูทุกคนว่า ไม่ว่าชีวิตจะยากลำบากเพียงใด หากเรามีความอดทนและความรัก สักวันเราจะประกอบ “จิ๊กซอว์” ของเราให้สมบูรณ์ได้เหมือนกัน
**4. “ฉากเต้นที่บอกตัวตนว่าใครคือทิวาหรือตะวัน” จาก ในรอยทราย
หนึ่งในฉากที่ทั้งฮาและตลก ก็คือฉากที่สองพี่น้องฝาแฝด ทิวา และ ตะวัน ต้องสวมรอยกันและกัน เมื่อ ทิวา ผู้สุภาพ เรียบร้อย และอ่อนโยน ต้องสวมรอยเป็น ตะวัน ผู้มั่นใจ เจ้าเล่ห์ และเก่งกาจในการเต้น
#ในรอยทราย ฉากนี้คือบทพิสูจน์ว่าแม้พี่น้องจะหน้าตาเหมือนกัน แต่ตัวตนที่แท้จริงจะไม่มีวันซ่อนเร้นได้ตลอดไป และการเต้นครั้งนี้บอกตัวตนทั้งสองคน!
**5. “เจมส์จิ ตอนอายุ 80” จาก โลกหมุนรอบเธอ
โลกหมุนรอบเธอ ละครรักโรแมนติกที่หลายคนติดตามอย่างจดจ่อ ก็มาถึงตอนจบที่ควรเป็นบทสรุปสุดประทับใจ…แต่กลับกลายเป็น มหกรรมความพัง ที่สร้างเสียงหัวเราะแทนน้ำตาซึ้ง
เริ่มต้นด้วยการเร่งเครื่องดราม่าที่ดูเหมือนจะไปได้สวย แต่ฉากสุดท้ายคือจุดที่ทุกคนหลุดขำจนตัวโยน เมื่อสองตัวละครหลัก มานะ (เจมส์ จิรายุ) และ ตะวัน (โบว์ เมลดา) ถูกแต่งหน้าทำผมในลุควัยชราที่ขัดกับอายุจริงของตัวละครที่ไม่น่าเกิน 30-35 ปี ทั้งสองถูกจัดให้นั่งคู่กันในบ้านเก่าคร่ำคร่า มือของทั้งคู่จับกันแน่น สายตาที่มองกันเหมือนกำลังจะลาจากโลกนี้ไปด้วยกัน
ความพีคคือ เจมส์ จิรายุ ที่ถูกแต่งหน้าเหมือนเพิ่งผ่านวันสงกรานต์พระประแดงมา ส่วน โบว์ เมลดา ที่ควรสะท้อนความงามแบบผู้หญิงสูงวัย กลับดูเหมือนพอกหน้าด้วยแป้งสำลี
แม้ว่าผู้จัดจะตั้งใจให้ฉากนี้สื่อถึงการเดินทางของความรักที่ยาวนาน แต่การแสดงและการแต่งหน้ากลับทำให้ผู้ชมหลุดขำมากกว่าซึ้ง กลายเป็นตำนานที่คนขำกันทั้งประเทศ และยังเป็นบทเรียนสำคัญของวงการบันเทิง ว่าตอนจบที่ดี ไม่ควรพยายามลากเกินพอดีจนกลายเป็นตลกโดยไม่ตั้งใจ
**6. “ชะชะช่าหรอคะ” จาก หวานรักต้องห้าม
กระแสโซเชียลลุกเป็นไฟอีกครั้งกับละครสุดแซ่บ “หวานรักต้องห้าม” ที่ปล่อยฉากเต้น “ชะชะช่า” สุดฮา จนชาว TikTok แห่ Cover กันสนั่น แฮชแท็ก #จังหวะชะชะช่า #หวานรักต้องห้าม ติดเทรนด์ในฉากนี้เป็นอันรวดเร็ว บางคนถึงกับยกให้เป็นฉากเต้นในตำนานแห่งปี เพราะทั้งจังหวะ ท่าทาง และสีหน้าของนักแสดงเข้ากันจนกลายเป็นไวรัลขำขัน
โดยในละคร หวานรักต้องห้าม จะเป็นตอนที่มาดามเคท (มาช่า วัฒนพานิช) กำลังพูดคุยเรื่องตีมงานเต้น แต่จู่ๆ ผกามาลิน (แมท ภีรนีย์) แทรกเข้ามา และพูดว่า “ชอบจังหวะนี้ ชะชะช่า อ๊ะ ๆ ชะชะช่า อ๊ะ ๆ “ เต้นกวนประสาท มาดามเคทจนโดนกลับไปว่า ”xxxเป็นอะไร เต้นท่าxxxอะไร“ ซึ่งถือว่าแรงมาก
ไม่เพียงแต่ฉากเต้นจะเป็นที่พูดถึงเท่านั้น แต่บทพูดในละครที่ถูกมองว่า “แรง ! แต่ไม่เกินจริง” กลับได้รับเสียงชื่นชมว่าดูเหมาะสมกับการออกอากาศทางทีวี โดยแฟนละครหลายคนบอกว่ามันช่วยเสริมความเข้มข้นให้เรื่องราวโดยไม่รู้สึกเกินเลย
เรียกได้ว่า “หวานรักต้องห้าม” ฉากนี้ คนคอฟเวอร์ฉ่ำ ชะชะช่ากันถ้วนหน้า
**7. “เดี๋ยวก็ตัดเดี๋ยวก็ยืด” จาก ทองประกายแสด
“วีนเมียจนสะเทือนประเทศ! ‘เก้า จิรายุ’ โชว์ความปังใน ทองประกายแสด
กลายเป็นกระแสไวรัลที่ผู้ชมพูดถึงกันสนั่น เมื่อ เก้า จิรายุ ในบทบาทสุดจี๊ดจากละคร ทองประกายแสด ได้โชว์ฝีมือการแสดงอันจัดจ้านกับซีนที่ทำให้คนดูสะดุ้งเฮือก โดยเฉพาะคนเป็นเมียทั้งประเทศที่ถึงขั้นต้องหันไปถามแฟนตัวเองว่า “นี่พูดถึงเราหรือเปล่า!?”
ซีนสุดเดือดที่วีนเมียในตำนาน เกิดขึ้นกลางวงสนทนาที่เดิมควรเป็นบทพูดธรรมดา แต่กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ตัวละครของเก้าเดือดจนใครก็ห้ามไม่อยู่ เมื่อเขาเปิดฉากบ่น เมียสุดแซ่บของตัวเอง อีทอง ที่ดูเหมือนจะทำตัวเกินลิมิตในเรื่องความงาม
“ช่วงนี้ก็เบาๆ หน่อยไอทำผมเนี่ย ทำ
ทุกวันเลย วันนี้ดัด พรุ่งนี้ยืด มะรืนไปดัดอีกแล้ว เลือกสักอันจะดัดหรือจะยืด!!”
ยังไม่พอ เก้ายังต่อด้วยประโยคสุดจี๊ดที่ทำเอาผู้ชมถึงกับหัวเราะจนท้องแข็ง:
“เล็บด้วยเนี่ย ต่อยาวขนาดนั้นจะล้าง-ูด ยังไง๊!!!”
ความพีค: ไม่ใช่แค่เนื้อหาของบทสนทนา แต่การแสดงของเก้าที่ใส่อารมณ์จนเหมือนหลุดมาจากชีวิตจริง การยืนเท้าเอว สายตาจิกกัด และน้ำเสียงที่พุ่งตรงไปยังเป้าหมาย ทำให้ตัวละครดูทั้งจริงจังและน่าขำในเวลาเดียวกัน สร้างอารมณ์ที่ทั้งสนุกและแสบสันจนเมียทั้งประเทศสะดุ้งโหยง
ใครยังไม่ได้ดู ทองประกายแสด ต้องรีบไปดู เพราะไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องที่เข้มข้น แต่ยังมีซีนฮาๆ และการแสดงสุดปังแบบนี้ให้ได้ขำและสะดุ้งกันอีกเพียบ!
**8. “ต้นผลไม้รวม” จาก มรกตสีรุ้ง
“ต้นไม้วิเศษใน มรกตสีรุ้ง ที่ทำเอาผู้ชมงง! จะกล้ากินหรือไม่?”
ในโลกแห่งความแฟนตาซีของละคร มรกตสีรุ้ง ไม่เพียงแค่การเดินทางผจญภัยและเรื่องราวลึกลับ แต่ยังมี “ต้นไม้วิเศษ” ที่สร้างความงุนงงและฮือฮาในโลกของผู้ชม เมื่อมันเริ่มออกผลเป็น ลองกอง, องุ่น, และแอปเปิ้ล แทนที่จะเป็นผลไม้ธรรมดาๆ! บางทีเราอาจต้องสงสัยว่า นี่มันต้นไม้เวทมนตร์หรือเปล่า?
เอาจริงๆ ถ้าคุณเจอเข้าไปในป่าลึกลับ แล้วเดินไปเจอต้นไม้ที่ผลออกมาไม่ตรงกับความคาดหมาย ทั้งลองกองที่ทิ้งเปลือกหอมๆ องุ่นที่ดูน่ากิน และแอปเปิ้ลที่ล่อใจสุดๆ แต่…คุณจะกล้ากินไหม?
ในฉากนี้ใน มรกตสีรุ้ง กลับสร้างความสับสนจนกลายเป็นประเด็นฮาในโซเชียล เพราะการปรากฏตัวของต้นไม้ที่ออกผลผิดปกตินี้ ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่า “นี่คือละครปี 2024 ใช่ไหม ?”
**9. “ปณตด่าพ่อกลางศาล” จาก สงครามสมรส
“ศึกกลางศาลที่สะเทือน!” จาก สงครามสมรส
กลายเป็นซีนไวรัลในทันที เมื่อใน สงครามสมรส เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ชมแทบลืมหายใจ กับฉากปณตด่าพ่อในศาล
#สงครามสมรส ฉากนี้ไม่ได้มีแค่ดราม่า แต่ยังสอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวและการเลี้ยงดูลูก ความจริงที่ถูกพูดออกมาโดยเด็กคนหนึ่งกลับเป็นกระจกสะท้อนพฤติกรรมของผู้ใหญ่ได้อย่างเจ็บแสบ
ใครยังไม่ได้ดูฉากนี้ บอกเลยว่าพลาด!
**10. “บ้านจารึกอนันต์” จาก อย่ากลับบ้าน
“บ้านจารึกอนันต์” จาก อย่ากลับบ้าน
ในละครสุดหลอนแห่งปีอย่าง อย่ากลับบ้าน “บ้านจารึกอนันต์” เป็นสถานที่สำคัญที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมด บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี กลับแฝงไปด้วยบรรยากาศวังเวงและความอึมครึมที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวตั้งแต่แรกเห็น
บ้านจารึกอนันต์ มาจากป้ายหินเก่าแก่ที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเขียนคำว่า “จารึกอนันต์” ในตัวอักษรโบราณ แม้จะเป็นบ้านที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมยุคเก่า หลังคาทรงจั่ว ผนังปูนสีซีด และหน้าต่างไม้บานใหญ่ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ชวนขนลุก
“บ้านจารึกอนันต์” จึงไม่ใช่แค่บ้านธรรมดา แต่เปรียบเสมือนตัวละครสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวความลับ ความสูญเสีย และแรงอาฆาตที่ยังคงหลอกหลอนเหล่าตัวละครที่พยายามค้นหาคำตอบ
ทั้ง 10 กิมมิคซีนนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจ แต่ยังตอกย้ำความคิดสร้างสรรค์ของทีมผู้จัดและนักแสดงที่ทำให้ละครไทยปีนี้ยิ่งใหญ่และน่าจดจำ!
10 อันดับ กิมมิคซีนละครไทยประจำปี 2024 ที่ใครเห็นก็จำได้ !
ปี 2024 เรียกได้ว่าเป็นปีไวรัลของวงการละครไทยที่เต็มไปด้วยฉากที่ติดตาของคนดูและเป็นกิมมิคซีนที่กลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน วันนี้เรารวบรวม 10 อันดับฉากเด็ดที่ทำให้แฟนละครต้องพูดถึงและแชร์สนั่นออนไลน์ จะมีฉากในดวงใจของคุณหรือไม่ ไปดูกันเลย!
**1. “แมวดำโดนวางยา” จาก แม่หยัว
หนึ่งในฉากที่กลายเป็นกระแสสังคมไปไกลเกินกว่าจอแก้ว คือเหตุการณ์ที่ “แมวดำ” ในละคร แม่หยัว ถูกวางยาอย่างโหดร้าย ฉากนี้ไม่เพียงกระแทกหัวใจคนดู แต่ยังจุดประเด็นร้อนแรงบนโซเชียลมีเดีย จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างดุเดือด
แม้จะเป็นเพียงฉากในละคร แต่ความสมจริงในการถ่ายทอดความทุกข์ทรมานของแมวทำให้ผู้ชมหลายคนเข้าใจผิดว่ามีการกระทำรุนแรงต่อสัตว์จริงๆ ข่าวลือกระจายไปไกลถึงต่างประเทศ จนถึงขั้นถูกหยิบยกเป็นประเด็นใน BBC World News ที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับการคุ้มครองสัตว์ในวงการบันเทิงไทย
ฉากนี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับวงการบันเทิงไทย ที่ต้องสร้างสมดุลระหว่างความสมจริงและการคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ชมทั้งทางบวกและลบ!
**2. “ต้นไม้คุณบุษ” จาก ทิชา
ใน ทิชา เรื่องราวเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อ ทิชา หญิงสาวที่เคยหนีตายจากบุษรา กลับมายังบ้านบุษรา สถานที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำเลวร้าย บ้านหลังใหญ่ที่ดูดี แต่สำหรับทิชา เธอยังจำได้ทุกซอกทุกมุม ราวกับทุกอย่างยังติดอยู่ในหัวใจ
สิ่งที่ทำให้เธอสะเทือนใจที่สุดคือ ต้นไม้ใหญ่ที่เติบโตตรงจุดนั้นเปรียบเสมือนหลักฐานที่ย้ำเตือนถึงความอยุติธรรมในอดีต
ในฉากนี้ ทิชายืนอยู่หน้าต้นไม้อย่างนิ่งงัน น้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว
การกลับมาของทิชาไม่ใช่เพียงเพื่อเผชิญหน้ากับอดีต แต่คือการเปิดศึกแห่งการแก้แค้นที่เธอเตรียมมาอย่างดี ทุกการเคลื่อนไหวของเธอจะเต็มไปด้วยแผนการที่แยบยลและความเฉลียวฉลาด เพื่อล้มล้างทุกสิ่งที่เคยทำให้เธอและแม่ต้องเจ็บปวด
**3. “จิ๊กซอว์บ้านในฝันของน้องเอิน” จาก ใจซ่อนรัก
หนึ่งในฉากที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยความหมายในละคร ใจซ่อนรัก ซีรีส์ GL ของช่อง 3 คือการที่ พี่หมอ มอบ “จิ๊กซอว์บ้านในฝัน” ให้กับ น้องเอิน แฟนสาวผู้มีจิตใจอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความฝัน ฉากนี้ไม่เพียงแสดงถึงความรักอันลึกซึ้งที่พี่หมอมีต่อน้องเอิน แต่ยังสะท้อนถึงความสำคัญของการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กคนหนึ่ง
“จิ๊กซอว์บ้านในฝันของน้องเอิน” ไม่ได้เป็นแค่ของเล่น แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเอิน เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกล้าที่จะวาดฝันและเชื่อมั่นในความรักที่เป็นไปได้อีกครั้ง
#ใจซ่อนรัก ฉากนี้ไม่ได้เพียงแค่สร้างความประทับใจ แต่ยังเติมเต็มความหวังให้กับคนดูทุกคนว่า ไม่ว่าชีวิตจะยากลำบากเพียงใด หากเรามีความอดทนและความรัก สักวันเราจะประกอบ “จิ๊กซอว์” ของเราให้สมบูรณ์ได้เหมือนกัน
**4. “ฉากเต้นที่บอกตัวตนว่าใครคือทิวาหรือตะวัน” จาก ในรอยทราย
หนึ่งในฉากที่ทั้งฮาและตลก ก็คือฉากที่สองพี่น้องฝาแฝด ทิวา และ ตะวัน ต้องสวมรอยกันและกัน เมื่อ ทิวา ผู้สุภาพ เรียบร้อย และอ่อนโยน ต้องสวมรอยเป็น ตะวัน ผู้มั่นใจ เจ้าเล่ห์ และเก่งกาจในการเต้น
#ในรอยทราย ฉากนี้คือบทพิสูจน์ว่าแม้พี่น้องจะหน้าตาเหมือนกัน แต่ตัวตนที่แท้จริงจะไม่มีวันซ่อนเร้นได้ตลอดไป และการเต้นครั้งนี้บอกตัวตนทั้งสองคน!
**5. “เจมส์จิ ตอนอายุ 80” จาก โลกหมุนรอบเธอ
โลกหมุนรอบเธอ ละครรักโรแมนติกที่หลายคนติดตามอย่างจดจ่อ ก็มาถึงตอนจบที่ควรเป็นบทสรุปสุดประทับใจ…แต่กลับกลายเป็น มหกรรมความพัง ที่สร้างเสียงหัวเราะแทนน้ำตาซึ้ง
เริ่มต้นด้วยการเร่งเครื่องดราม่าที่ดูเหมือนจะไปได้สวย แต่ฉากสุดท้ายคือจุดที่ทุกคนหลุดขำจนตัวโยน เมื่อสองตัวละครหลัก มานะ (เจมส์ จิรายุ) และ ตะวัน (โบว์ เมลดา) ถูกแต่งหน้าทำผมในลุควัยชราที่ขัดกับอายุจริงของตัวละครที่ไม่น่าเกิน 30-35 ปี ทั้งสองถูกจัดให้นั่งคู่กันในบ้านเก่าคร่ำคร่า มือของทั้งคู่จับกันแน่น สายตาที่มองกันเหมือนกำลังจะลาจากโลกนี้ไปด้วยกัน
ความพีคคือ เจมส์ จิรายุ ที่ถูกแต่งหน้าเหมือนเพิ่งผ่านวันสงกรานต์พระประแดงมา ส่วน โบว์ เมลดา ที่ควรสะท้อนความงามแบบผู้หญิงสูงวัย กลับดูเหมือนพอกหน้าด้วยแป้งสำลี
แม้ว่าผู้จัดจะตั้งใจให้ฉากนี้สื่อถึงการเดินทางของความรักที่ยาวนาน แต่การแสดงและการแต่งหน้ากลับทำให้ผู้ชมหลุดขำมากกว่าซึ้ง กลายเป็นตำนานที่คนขำกันทั้งประเทศ และยังเป็นบทเรียนสำคัญของวงการบันเทิง ว่าตอนจบที่ดี ไม่ควรพยายามลากเกินพอดีจนกลายเป็นตลกโดยไม่ตั้งใจ
**6. “ชะชะช่าหรอคะ” จาก หวานรักต้องห้าม
กระแสโซเชียลลุกเป็นไฟอีกครั้งกับละครสุดแซ่บ “หวานรักต้องห้าม” ที่ปล่อยฉากเต้น “ชะชะช่า” สุดฮา จนชาว TikTok แห่ Cover กันสนั่น แฮชแท็ก #จังหวะชะชะช่า #หวานรักต้องห้าม ติดเทรนด์ในฉากนี้เป็นอันรวดเร็ว บางคนถึงกับยกให้เป็นฉากเต้นในตำนานแห่งปี เพราะทั้งจังหวะ ท่าทาง และสีหน้าของนักแสดงเข้ากันจนกลายเป็นไวรัลขำขัน
โดยในละคร หวานรักต้องห้าม จะเป็นตอนที่มาดามเคท (มาช่า วัฒนพานิช) กำลังพูดคุยเรื่องตีมงานเต้น แต่จู่ๆ ผกามาลิน (แมท ภีรนีย์) แทรกเข้ามา และพูดว่า “ชอบจังหวะนี้ ชะชะช่า อ๊ะ ๆ ชะชะช่า อ๊ะ ๆ “ เต้นกวนประสาท มาดามเคทจนโดนกลับไปว่า ”xxxเป็นอะไร เต้นท่าxxxอะไร“ ซึ่งถือว่าแรงมาก
ไม่เพียงแต่ฉากเต้นจะเป็นที่พูดถึงเท่านั้น แต่บทพูดในละครที่ถูกมองว่า “แรง ! แต่ไม่เกินจริง” กลับได้รับเสียงชื่นชมว่าดูเหมาะสมกับการออกอากาศทางทีวี โดยแฟนละครหลายคนบอกว่ามันช่วยเสริมความเข้มข้นให้เรื่องราวโดยไม่รู้สึกเกินเลย
เรียกได้ว่า “หวานรักต้องห้าม” ฉากนี้ คนคอฟเวอร์ฉ่ำ ชะชะช่ากันถ้วนหน้า
**7. “เดี๋ยวก็ตัดเดี๋ยวก็ยืด” จาก ทองประกายแสด
“วีนเมียจนสะเทือนประเทศ! ‘เก้า จิรายุ’ โชว์ความปังใน ทองประกายแสด
กลายเป็นกระแสไวรัลที่ผู้ชมพูดถึงกันสนั่น เมื่อ เก้า จิรายุ ในบทบาทสุดจี๊ดจากละคร ทองประกายแสด ได้โชว์ฝีมือการแสดงอันจัดจ้านกับซีนที่ทำให้คนดูสะดุ้งเฮือก โดยเฉพาะคนเป็นเมียทั้งประเทศที่ถึงขั้นต้องหันไปถามแฟนตัวเองว่า “นี่พูดถึงเราหรือเปล่า!?”
ซีนสุดเดือดที่วีนเมียในตำนาน เกิดขึ้นกลางวงสนทนาที่เดิมควรเป็นบทพูดธรรมดา แต่กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ตัวละครของเก้าเดือดจนใครก็ห้ามไม่อยู่ เมื่อเขาเปิดฉากบ่น เมียสุดแซ่บของตัวเอง อีทอง ที่ดูเหมือนจะทำตัวเกินลิมิตในเรื่องความงาม
“ช่วงนี้ก็เบาๆ หน่อยไอทำผมเนี่ย ทำ
ยังไม่พอ เก้ายังต่อด้วยประโยคสุดจี๊ดที่ทำเอาผู้ชมถึงกับหัวเราะจนท้องแข็ง:
“เล็บด้วยเนี่ย ต่อยาวขนาดนั้นจะล้าง-ูด ยังไง๊!!!”
ความพีค: ไม่ใช่แค่เนื้อหาของบทสนทนา แต่การแสดงของเก้าที่ใส่อารมณ์จนเหมือนหลุดมาจากชีวิตจริง การยืนเท้าเอว สายตาจิกกัด และน้ำเสียงที่พุ่งตรงไปยังเป้าหมาย ทำให้ตัวละครดูทั้งจริงจังและน่าขำในเวลาเดียวกัน สร้างอารมณ์ที่ทั้งสนุกและแสบสันจนเมียทั้งประเทศสะดุ้งโหยง
ใครยังไม่ได้ดู ทองประกายแสด ต้องรีบไปดู เพราะไม่ใช่แค่เนื้อเรื่องที่เข้มข้น แต่ยังมีซีนฮาๆ และการแสดงสุดปังแบบนี้ให้ได้ขำและสะดุ้งกันอีกเพียบ!
**8. “ต้นผลไม้รวม” จาก มรกตสีรุ้ง
“ต้นไม้วิเศษใน มรกตสีรุ้ง ที่ทำเอาผู้ชมงง! จะกล้ากินหรือไม่?”
ในโลกแห่งความแฟนตาซีของละคร มรกตสีรุ้ง ไม่เพียงแค่การเดินทางผจญภัยและเรื่องราวลึกลับ แต่ยังมี “ต้นไม้วิเศษ” ที่สร้างความงุนงงและฮือฮาในโลกของผู้ชม เมื่อมันเริ่มออกผลเป็น ลองกอง, องุ่น, และแอปเปิ้ล แทนที่จะเป็นผลไม้ธรรมดาๆ! บางทีเราอาจต้องสงสัยว่า นี่มันต้นไม้เวทมนตร์หรือเปล่า?
เอาจริงๆ ถ้าคุณเจอเข้าไปในป่าลึกลับ แล้วเดินไปเจอต้นไม้ที่ผลออกมาไม่ตรงกับความคาดหมาย ทั้งลองกองที่ทิ้งเปลือกหอมๆ องุ่นที่ดูน่ากิน และแอปเปิ้ลที่ล่อใจสุดๆ แต่…คุณจะกล้ากินไหม?
ในฉากนี้ใน มรกตสีรุ้ง กลับสร้างความสับสนจนกลายเป็นประเด็นฮาในโซเชียล เพราะการปรากฏตัวของต้นไม้ที่ออกผลผิดปกตินี้ ทำให้ผู้ชมตั้งคำถามว่า “นี่คือละครปี 2024 ใช่ไหม ?”
**9. “ปณตด่าพ่อกลางศาล” จาก สงครามสมรส
“ศึกกลางศาลที่สะเทือน!” จาก สงครามสมรส
กลายเป็นซีนไวรัลในทันที เมื่อใน สงครามสมรส เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ชมแทบลืมหายใจ กับฉากปณตด่าพ่อในศาล
#สงครามสมรส ฉากนี้ไม่ได้มีแค่ดราม่า แต่ยังสอดแทรกแง่คิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวและการเลี้ยงดูลูก ความจริงที่ถูกพูดออกมาโดยเด็กคนหนึ่งกลับเป็นกระจกสะท้อนพฤติกรรมของผู้ใหญ่ได้อย่างเจ็บแสบ
ใครยังไม่ได้ดูฉากนี้ บอกเลยว่าพลาด!
**10. “บ้านจารึกอนันต์” จาก อย่ากลับบ้าน
“บ้านจารึกอนันต์” จาก อย่ากลับบ้าน
ในละครสุดหลอนแห่งปีอย่าง อย่ากลับบ้าน “บ้านจารึกอนันต์” เป็นสถานที่สำคัญที่เต็มไปด้วยความลึกลับและเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมด บ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางป่าเขียวขจี กลับแฝงไปด้วยบรรยากาศวังเวงและความอึมครึมที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวตั้งแต่แรกเห็น
บ้านจารึกอนันต์ มาจากป้ายหินเก่าแก่ที่ตั้งอยู่หน้าบ้าน ซึ่งเขียนคำว่า “จารึกอนันต์” ในตัวอักษรโบราณ แม้จะเป็นบ้านที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมยุคเก่า หลังคาทรงจั่ว ผนังปูนสีซีด และหน้าต่างไม้บานใหญ่ แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ชวนขนลุก
“บ้านจารึกอนันต์” จึงไม่ใช่แค่บ้านธรรมดา แต่เปรียบเสมือนตัวละครสำคัญที่บอกเล่าเรื่องราวความลับ ความสูญเสีย และแรงอาฆาตที่ยังคงหลอกหลอนเหล่าตัวละครที่พยายามค้นหาคำตอบ
ทั้ง 10 กิมมิคซีนนี้ ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจ แต่ยังตอกย้ำความคิดสร้างสรรค์ของทีมผู้จัดและนักแสดงที่ทำให้ละครไทยปีนี้ยิ่งใหญ่และน่าจดจำ!