@ Anfield : เส้นทาง UCL#6 ของลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2017-18 ลิเวอร์พูลจบพรีเมียร์ลีกด้วยคะแนน 75 คะแนน ตามหลังแมนยู สเปอร์ส และแมนซิตี้ที่เป็นแชมป์ลีก แต่ก็รอดตัวในอันดับสี่กับโควต้า UCL และได้เข้าไปเป็นทีมวางในรอบแบ่งกลุ่มทันที ปีนั้นเราได้เข้าชิงถ้วยนี้ด้วยนะแต่ที่รู้ๆกัน เราพลาดอย่างเจ็บปวด น้ำตาจากนักเตะและแววตาของผู้แพ้มันก็สร้างความหดหู่ให้กับกองเชียร์อยู่บ้างเหมือนกัน แต่เอาหน่ากีฬาก็เป็นแบบนี้ ยังไงก็จะขอติดตามเชียร์ทีมลิเวอร์พูลตลอดไปครับ


พอฤดูกาล 2018-19 เริ่มต้นขึ้น มีการเสริมนักเตะหลายราย เราได้เกอิต้า ที่เซ็นสัญญาไว้ล่วงหน้าแล้ว ได้ฟาบิญโญ่ผู้มาอย่างลับๆ ได้ชาคิรี่ในราคาที่ไม่แพงนัก และได้นักเตะสำคัญอย่างอลิสซอน ผู้มาพร้อมกับค่าตัวสถิติโลกของผู้รักษาประตู 65 ล้านปอนด์ และทั้งสี่คนนี้ล้วนมีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์ UCL ด้วยเช่นกัน


ลิเวอร์พูลได้เป็นทีมวางแต่อยู่ในโถที่ 3 ผลการจับกลุ่มมีดังนี้ ปารีส นโปลี ลิเวอร์พูล และเเซอร์เวน่า ซเวซด้า หลายคนอาจงงทีมจากโถ 4 คือใคร เก่งแค่ไหน เขาคือแชมป์จากลีกเซอร์เบียที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้ามา ชื่อเดิมคือ เรดสตาร์ เบลเกรด อันนี้พอจะคุ้นชื่อหน่อย เคยเป็นแชมป์ถ้วยนี้มาแล้วในปี 1990-91 เอาล่ะซิสายแข็งนะเนี่ย

ผลงานลิเวอร์พูลในรอบแบ่งกลุ่มจะว่าเราไฉไลก็ไม่เต็มปากนัก ในบ้านอย่างกับราชสีห์ขย้ำเหยื่อ นอกบ้านเป็นน้องหมากระเป๋า ผลงาน 5 นัด สถานการณ์อึมครึมมาก การตัดสินเข้ารอบต้องลุ้นนัดสุดท้ายในบ้านกับนโปลี และต้องชนะเท่านั้น


แต่อย่างว่าในบ้านเราคือราชสีห์ ลิเวอร์พูลเฉือนชนะด้วยสกอร์แค่ลูกเดียวจากนักเตะ "Egyptian King" ซาล่าห์ แตะหลบกองหลัง สอนเชิงน้องคูลิบาลี ซัดลอดขาผู้รักษาประตูเข้าไป พร้อมท่าดีใจอย่างเท่ห์ๆ เกมนี้นโปลีก็มีโอกาสตีเสมอหลายครั้ง แฟนๆหงส์ถึงกับเกร็งกับการปัดป้องของผู้รักษาประตูมือใหม่ทุกครั้ง


เดชะบุญปีนี้ เรามีผู้รักษาประตูที่ชื่อว่า พ่อหมี เอ๊ะ...ชื่อว่า อลิสซอน เบ๊กเกอร์ ผู้กลายมาเป็นที่รักของแฟนๆก็มาจากการเซฟสำคัญในนัดนี้ด้วย สุดท้ายลิเวอร์พูลผ่านเข้าสู่รอบน๊อคเอาท์ โดยต้องลุ้นกันว่าจะจับฉลากได้เจอกับทีมไหนในรอบต่อไป โดยมีโปรโมชั่นให้คู่แข่งนิดนึงตรงนัดหน้า ฟานไดจ์จะติดโทษแบน เอาล่ะซิตัวสำคัญมากซะด้วย ใจเริ่มไม่ดีเหมือนกันเพราะเหลือแต่ทีมเขี้ยวๆทั้งนั้น

รอบ 16 ทีมแล้วครับ ผลการจับฉลาก เหมือนฟ้าต้องการพิสูจน์ความสามารถของป๋าคลอป ถือเป็นบิ๊กแมตช์ในรอบนี้เลย ลิเวอร์พูลเล่นในบ้านก่อนกับบาเยิร์น มิวนิคและเหลือบมองอริร่วมลีกหน่อย...สม!!! แมนยูเจอปารีส ไม่รอดแน่แมนยูเอ๋ย ใจเราก็เกรงแชมป์ลีกจากเยอรมันเช่นกัน 55 แต่นิ่งไว้ บรัฟเพื่อนไปก่อน

ฟานไดจ์ไม่อยู่ โกเมซเจ็บ ลอฟเรนไม่ฟิต ได้แต่นึกในใจ"ตายห่านแล้ว กองหลังทีมกรูไปไหนหมด" นัดบาเยิร์นมาถึงแล้ว เซนเตอร์เกมนี้คือ มาติปคู่กับฟาบิญโญ แล้วตำแหน่งหลักของฟาบี้คือกองกลางนะ ไหวไหมเนี่ย

รูปเกมกระท่อนกระแท่น โอกาสยิงประตูมีกันน้อย และจบอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย 0-0 พร้อมกับอาการดีใจของบาเยิร์นที่บุกมาเสมอกับยอดทีมอย่างลิเวอร์พูลได้ ไม่รู้ซะแล้วกองเชียร์กลัวจะแย่กับคู่เซนเตอร์จำเป็นของเรา


นัดที่ 2 ต้องออกไปเยือน ความมั่นใจตอนนั้นคิดว่าอาจจะเสียทีให้แชมป์บุนเดสลีก้านะ แต่ความยอดเยี่ยมของนักเตะและแผนของคลอป ลิเวอร์พูลสามารถเอาชนะบาเยิร์นได้ถึงถิ่น 3-1 จากซาดิโอ มาแน่ ๆ 2 ลูก และซูเปอร์กองหลัง ฟานไดจ์ เอาจริงๆเกมนี้พอเราได้ประตูนำสุดสวยของมาเน่ ก็คิดว่าน่าจะง่ายแล้วเพราะได้ประโยชน์จากกฎอเวย์โกล มาเสียวนิดหน่อยที่มาติปทำเข้าประตูตัวเอง เอาเหอะสุดท้ายผ่านเข้ารอบต่อไปแบบชิลชิล

รอบ 8 ทีมสุดท้ายมีเซอร์ไพร์นิดหน่อย เพื่อนรักแมนยูผ่านปารีสเข้ามาด้วยแฮะ แต่ก็ดีใจที่เห็น เนย์มาจอมดิ้น และแทคติคถ่วงเวลา ตกรอบไปเหอะจ้า

การลุ้นจับฉลากรอบนี้ทิ้งเวลานานหน่อย และจะเป็นการแบ่งสายจนถึงรอบชิงชนะเลิศเลยด้วย มีทีมจากพรีเมียร์ลีกผ่านเข้ามาถึง 4 ทีมด้วยกัน แมนซิ ลิเวอร์พูล แมนยู และสเปอร์ส ผลการจับฉลากดูจะเป็นใจมากที่สุด ลิเวอร์พูลพับกบ..พบกับเอฟซีปอร์โต้ ในขณะที่แมนยูเจอหมูอย่างบาร์เซโลน่า และผลการจับฉลากแบ่งสายนี้ ทำให้ แมนซิ ก้าวขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่ง มีนัดต้องดวลกับสเปอร์สเต็งหก ส่วนลิเวอร์พูลเป็นเต็งสามร่วมกับบาร์ซ่า อีกทีมจากอังกฤษแมนยูนะหรือ...เต็งห้าครับ

ถึงเวลาลุ้นใครจะเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้าย ทีมจากอังกฤษศพแรก คือแมนยูแพ้คาบ้าน 0-2 ลิเวอร์พูลถล่มปอร์โต้ 2-0 นักเตะใหม่อย่างเกอิต้า ทำประตูแรกได้ด้วย และสเปอร์สชนะเต็งหนึ่งแมนซิ 1-0 จริงๆรอบนี้ ก็หวังให้แมนยูเข้ารอบมานะ เพราะคู่นี้จะมาตัดเชือกกับลิเวอร์พูลหรือปอร์โต้ แบบว่าอยากแดงเดือดเวอร์ชั่นยุโรปบ้าง แล้วก็อยากหลบบาร์ซ่าด้วยแหล่ะ ใครมั่งไม่กลัวเมสซี่ 55

เกมนัดสอง ไม่มีปัญหาลิเวอร์พูลผ่านปอร์โต้สบายๆ 4-1 เข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายแบบสบายใจกองเชียร์มากที่สุดแล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะเจอใครแมนยูหรือบาร์ซา แล้วเพื่อนรักต้องชีช้ำโดนบาร์ซ่าสอนบอลอีก 3-0 ไม่มาตามนัดเลยเพื่อนฉัน ส่วนเต็งหนึ่งแมนซิก็สามล้อคว่ำซะอีก ไปไม่ถึงจุดหมาย เสียอเวย์โกลให้สเปอร์สตกรอบอย่างฉิวเฉียดมากๆ สรุปคือ ลิเวอร์พูลตัดกับเมสซี่...อะบาร์ซ่าซิ แล้วสเปอร์สตัดกับอาแจกซ์...เก่งนะพลังหนุ่มอาแจกซ์ที่ผ่านมาดริดและยูเว่มาได้ แล้วผู้ชนะทั้งสองคู่จะมุ่งสู่สนามนัดชิงชนะเลิศ ในกรุงมาดริดต่อไป


เกมตัดเชือกกับบาร์ซ่า บอกได้เลยแฟนๆตั้งหน้าตั้งตาลุ้นมาก นัดแรกหงส์แดงต้องออกไปเยือนก่อน ก่อนเกมแซวแมนยูโดนมาเยอะ แอบกลัวโดนคืนเหมือนกัน อะจ๊าก!!!....จริงๆด้วย ลิเวอร์พูลเกมพอใช้ได้ แต่จังหวะจบสกอร์ไม่เป็นใจเลย ไม่รู้มีใครแช่งอยู่ไหม ฝั่งบาร์ซ่ายิงเป็นเข้า ต้องยอมเลย สุดท้ายเมสซี่ 2 ซัวเรสเด็กเก่าหงส์ตัวแสบอีก 1 รวมแพ้เละเทะ 0-3 ไม่ได้อเวย์โกล์ด้วย พังแล้วโอกาสเข้าชิงเหลือน้อยมากๆ ..แต่ใครจะรู้ว่าโอกาสที่น้อยนั้น มีช่องว่างที่จะสร้างแมตช์ที่น่าจดจำมากสุดอีกนัดหนึ่งในการติดตามเชียร์ทีมรักสโมสรลิเวอร์พูลแห่งนี้


แมตช์แห่งความทรงจำ ก่อนเกมส์นัดนี้จะเริ่ม แฟนหงส์หลายคนคงถอดใจแล้ว ยิ่งแฟนทีมอื่นยิ่งเซย์ impossible เพราะทีมคู่แข่งคือ บาร์ซ่านะครับ เหตุผลที่ลิเวอร์พูลจะตกรอบ มีดังนี้ครับ
- นัดแรกแพ้มาเยอะ 3-0 แล้วไม่ได้อเวย์โกล บาร์ซ่ายิง1 ลูก เราต้องยิง ชนะ 5-1
- นักเตะตัวจริงบาร์ซ่าได้พักมาเต็มๆ จากลีกในประเทศที่ได้แชมป์ไปแล้ว ขณะที่ลิเวอร์พูล ต้องอัดหนักกับนิวคลาสเซิ่ลมา
- บาร์ซ่าและเมสซี่มุ่งมั่นกับรายการนี้มาก หลังไม่ได้มาหลายปี ในขณะที่หงส์แดงอยู่ในห้วงห่วงหน้าพะวงหลัง
- บาร์ซ่าเคยนำสามลูกแล้วกลับแพ้นัดสองตกรอบ ปีที่แล้วนี้เอง ทีมอย่างบาร์ซ่าไม่พลาดซ้ำๆหรอก
- นักเตะสำคัญ ซาล่าห์ และฟิร์มิโน่ ไม่ฟิตและไม่มีชื่อแม้ตัวสำรอง ต้องใช้โอริกี้และชาคิรี่

แต่ข้อดีของลิเวอร์พูล ก็มีคือเล่นในแอนฟิลด์ และการพ่ายแพ้ปีที่แล้วเป็นพลังใจให้สู้อย่างเต็มที่ในการกลับไปแก้ไขลุ้นนัดชิงอีกครั้ง

การต่อสู้ในเกมวันนั้น ตั้งแต่เริ่มเกมนักเตะลิเวอร์พูลพุ่งโจนทะยาน วิ่งบีบเข้าหานักเตะบาร์ซ่าอย่างราชสีห์ตะปบเหยื่อ แล้วก็ได้ประตูนำเร็วจากลูกซ้ำของเทพโอริกี้ แฟนหงส์ตอนนั้นแอบดีใจ ตกรอบอย่างไม่อายแล้ว เกมครองได้หมดแต่สกอร์ก็เท่าเดิม กัปตันเฮนโด้กับโรเบิร์ตสันก็มีอาการบาดเจ็บ จบครึ่งแรก เอาเว้ยเรายังไม่เสียประตู เริ่มครึ่งหลัง...โอ้คุณพระ ดุมเอ็งวอร์มทำไมเนี่ย จะลงมาแทนใคร คิดว่าเฮนโด้ไม่ไหวซะแล้ว แต่กลายเป็นแทนโรเบิร์ตสายรันซะงั้น เอาท่านรองขยับไปแทนแบ็คซ้ายซะ

และแล้ว ซีดุมที่ลงมาก็จัด 2 ประตู ไล่ตีเสมอประตูรวม 3-3 แบบงงๆ บาร์ซ่าเป็นอะไรกันหมด ลิเวอร์พูลของฉันมีความหวังแล้ว แต่ยังกลัวอเวย์โกลอยู่นะ ลุ้นหนักต่อไป


#@$¥}~β%......โอริกี้...โกลลลลล อ้าวเฮ้ย...มาไงคร๊าบบบ แบบว่าต้องดูภาพช้า งงกันทั้งสนาม คนพากษ์ ผู้ชม กองเชียร์ นักเตะบาร์ซ่า หรือนักเตะลิเวอร์พูลเอง น้องเทรนด์เองครับบบบบ น้องเทรนด์แอบเปิดบอลไวให้พี่กี้ยัดประตูไปแบบสวยงามมาก สะใจโว้ย!!!! สกอร์รวม 4-3 อึดหน่อย อีกนิดเดียว แล้วอารมณ์ดูสดมันดีใจสุดๆ ตอนเปาเป่าหมดเวลา....เย้เย้ ลิเวอร์พูลทำได้ครับ เข้าไปรอชิงชนะเลิศที่ มาดริดแล้ว


หลังเกมบรรยากาศมันสุดยอดจริงๆ ดูซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบมาก ลูกยิงแต่ละลูก ป๋าคลอปกอดไปทั่ว นักเตะกอดคอดีใจ เสียง Walk on, walk on With hope in your heart And you'll never walk alone…มันกินใจมากครับ...ดื่มด่ำอย่างเต็มที่ แต่เรายังไม่ได้ถ้วยนะ

ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน : มาแล้วครับ ลิเวอร์พูลพร้อมแล้วกับนัดชิงปีนี้ ข่าวร้ายสักหน่อยที่ต้องพลาดถ้วยพรีเมียร์ลีกแบบเจ็บปวด 97 คะแนนแพ้แมนซิซึ่งเก่งมากจริงๆ นัดชิงปีนี้นักเตะจึงมีความมุ่งมั่นมาก โดยเฉพาะซาล่าห์ ปีก่อนอาการบาดเจ็บอาจเป็นแผลในใจที่ต้องกลับมาแก้ไขในปีนี้ ส่วนป๋าคลอปก็ดูเป็นกังวลกับการพ่ายแพ้นัดชิงมาตลอด แฟนบอลก็กดดันเช่นเดียวกัน เราอยากให้นักเตะและคลอปประสบผลสำเร็จบ้างกับความพยายาม ความทุ่มเทที่มีมาตลอดทั้งปี และคู่ชิงในปีนี้คือสเปอร์ส เพื่อนร่วมลีกของเรานี่เอง


ใครจะคิดครับ สเปอร์สก็บากบั่นจนทะลุเข้าชิง UCL เป็นครั้งแรกภายใต้การนำของ โปเซตติโน่ และนักเตะอย่างเอริคเซ่น ซน อัลลี เคน ก็อยากสร้างฝันให้กับแฟนๆสเปอร์สมีความสุขด้วยเช่นกัน


ปรี๊ด.....จุดโทษ มาไวดีจัง เฮนโดตักมาเน่หลุดไปโยน โดนมือผู้เล่นสเปอร์ส กรรมการเป่าทันที จุดโทษแน่นอน....ซาล่าห์ ทำได้ ยิงได้ในนัดชิงแล้วครับ ออกนำอย่างรวดเร็ว แต่ไปๆมาๆเกมอืดมากทั้งสองทีมพลาดกันบ่อย บอลนัดเดียวก็อย่างนี้แหล่ะเพลย์เซฟกันน่าดู ตอนนี้มั่นใจในกองหลังน่าจะเอาอยู่ ประตูเดียวก็ไม่เป็นไร

ฟิร์มิโน่ ไม่ฟิตจริงๆ เปลี่ยนเทพกี้ลงมาเร็วมาก แค่ต้นครึ่งหลังเอง และแล้ว.....กรี๊ด ออกสาวเลยฮะ เทพกี้ยิงซ้ายคมกริป ออกนำ 2-0 ....แชมป์แล้วคร๊าบบบบบบ นาที 80 กว่า ไม่ทันแล้วสเปอร์สเอ๋ย แชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก สมัย 6 แล้วจ้าาาาาา ไปต่อไม่รอแล้วกองแช่งทั้งหลาย


บรรยากาศรับถ้วยมันตื้นตันไปหมด พวกคุณทำสำเร็จแล้ว มันเป็นความพยายาม ความทุ่มเทของทุกๆคนจริงๆ

กัปตันเฮนเดอร์สัน ทำหน้าที่ผู้นำได้ดีมาก
ท่านรองผู้รับทุกบทบาท แม้แต่ปลุกใจในห้องแต่งตัว
โอริกี้ ชาคิรี่ สเตอร์ริด รอฟเรน โกเมซ ร่วมถึงดาวรุ่งที่ร่วมทีมมาด้วย ถึงได้รับโอกาสน้อยแต่ก็ช่วยกันเต็มที่
มิญโญเล่ ก็ยอมรับในอลิสซอน พร้อมเป็นแบ็คอัพที่ดี
โรเบิร์ตสัน เทรนด์ สุดยอดแบ็คดาวรุ่งขึ้นลงไม่มีหมด
ฟานไดจ์ มาติป อลิสซอน ปราการหลังเข้าขา ช่วยคลีนชีทได้อย่างหมดจด
มาเน่ ซาล่าห์ ฟิร์มิโน่ 3 ประสานวุ่นวายใจคู่แข่ง
ป๋าคลอป...บุรุษที่สร้างทีมลิเวอร์พูลด้วยความเชื่อมั่น พร้อมกอดรักทุกคนด้วยความอบอุ่น
กองเชียร์ในสนาม และนอกสนามที่แสดงพลังศรัทธาในทีม

ขอขอบคุณสมาชิกที่คอยตั้งกระทู้บ้าน
< < < + + This Is Anfield + + > > >

ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆ ในห้องนี้ที่ร่วมกันเชียร์สโมสรลิเวอร์พูลเหมือนๆกัน จะแพ้หรือชนะเราก็พร้อมจะอยู่กับทีมที่เรารักตลอดไปขอรับ

You'll never walk alone
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่