
มียื่นซื้อมา 4 ทีม แต่แรชฟอร์ดปฏิเสธทั้งหมด (อาจจะยังไม่ใช่ทีมที่อยากไป)
ถ้าสมมุติแรชฟอร์ดมีความภักดีกับสโมสรจริงๆ แค่อยู่รอเวลาให้เปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ (ก็อาจจะเป็นไปได้)
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนว่านักเตะแมนยู ไม่เชื่อมั่นในตัวอโมริมแล้ว
ยิ่งเซิร์กเซ่นี่ก็น่าจะเสียความรู้สึกมากเลยหล่ะ
อโมริมเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป อะไรที่จะต้องปรับปรุง/ปรับเปลี่ยน ก็น่าจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง
เพราะอย่าลืมว่าแผนการเล่นรูปแบบใหม่ ที่เอามาใส่นั้น เมื่อนักเตะทำไม่ได้ ผลการแข่งขันไม่มา
ผมไม่เห็นด้วยกับความมั่นใจเกินไปของอโมริมหรอกนะครับ
เขาน่าจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยน อะไรดีอยู่แล้วก็น่าจะคงไว้ก่อน
อโมริมควรให้ความสำคัญของผลการแข่งขัน มากกว่าอีโก้ของตัวเอง
และพอนักเตะทำไม่ได้ กลายเป็นความผิดของนักเตะซะงั้น
แบบนี้มันก็ไม่ได้ใจนักเตะสิครับ เขาน่าจะสร้างความเชื่อมั่นและความจริงใจ เพื่อให้ได้ใจนักเตะให้ได้เสียก่อน
มาอีหรอบเดียวกับเทนฮากตอนมาใหม่ๆ เลย ที่พอบอลแพ้ ไปลงโทษนักเตะว่าวิ่งกันน้อย พานักเตะไปวิ่ง (ไม่แน่ใจว่ากี่กิโล)
มันเหมือนโยนความผิดทั้งหมดให้นักเตะ
ปล.และไม่ชอบอากัปกิริยาอีกอย่างของอโมริมคือแบบนี้ มันขาดความเป็นผู้นำนะในความคิดของผม

โชคดีที่ลิเวอร์พูลไม่เอามา ต้องบอกว่าทีมหลังบ้านลิเวอร์พูลดีมาก แต่ทีมหลังบ้านแมนยูคิดอะไรอยู่ (ที่คิดจะเปลี่ยนระบบทีม โดยไม่สนใจตัวนักฟุตบอล)
อย่าลืมว่ามันต้องถูกปูพื้นฐานมาจากเยาวชนของสโมสรด้วยนะครับ น่าจะกระทบไปหมด ทั้งความเข้าใจในเกมและแผนการเล่น
ไม่ใช่เยาวชนเล่นแบบนึง พอขึ้นชุดใหญ่ก็ต้องปรับตัวมาเล่นอีกแบบนึง กว่าจะปรับตัวได้ก็จะเกิดปัญหาแบบนี้ไปเรื่อยๆ
หลังจากนี้ต้องดูว่า นักบอลแมนยูกับอโมริมและแฟนบอลใครจะอึดกว่ากัน ถ้าหากอะไรๆ มันยังไม่มีแววว่าจะดีขึ้น ใครจะไปก่อนกัน
ระหว่างแรชฟอร์ดกับอโมริมใครจะไปก่อนกัน
มียื่นซื้อมา 4 ทีม แต่แรชฟอร์ดปฏิเสธทั้งหมด (อาจจะยังไม่ใช่ทีมที่อยากไป)
ถ้าสมมุติแรชฟอร์ดมีความภักดีกับสโมสรจริงๆ แค่อยู่รอเวลาให้เปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ (ก็อาจจะเป็นไปได้)
สถานการณ์ตอนนี้เหมือนว่านักเตะแมนยู ไม่เชื่อมั่นในตัวอโมริมแล้ว
ยิ่งเซิร์กเซ่นี่ก็น่าจะเสียความรู้สึกมากเลยหล่ะ
อโมริมเชื่อมั่นตัวเองมากเกินไป อะไรที่จะต้องปรับปรุง/ปรับเปลี่ยน ก็น่าจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลง
เพราะอย่าลืมว่าแผนการเล่นรูปแบบใหม่ ที่เอามาใส่นั้น เมื่อนักเตะทำไม่ได้ ผลการแข่งขันไม่มา
ผมไม่เห็นด้วยกับความมั่นใจเกินไปของอโมริมหรอกนะครับ
เขาน่าจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยน อะไรดีอยู่แล้วก็น่าจะคงไว้ก่อน
อโมริมควรให้ความสำคัญของผลการแข่งขัน มากกว่าอีโก้ของตัวเอง
และพอนักเตะทำไม่ได้ กลายเป็นความผิดของนักเตะซะงั้น
แบบนี้มันก็ไม่ได้ใจนักเตะสิครับ เขาน่าจะสร้างความเชื่อมั่นและความจริงใจ เพื่อให้ได้ใจนักเตะให้ได้เสียก่อน
มาอีหรอบเดียวกับเทนฮากตอนมาใหม่ๆ เลย ที่พอบอลแพ้ ไปลงโทษนักเตะว่าวิ่งกันน้อย พานักเตะไปวิ่ง (ไม่แน่ใจว่ากี่กิโล)
มันเหมือนโยนความผิดทั้งหมดให้นักเตะ
ปล.และไม่ชอบอากัปกิริยาอีกอย่างของอโมริมคือแบบนี้ มันขาดความเป็นผู้นำนะในความคิดของผม
โชคดีที่ลิเวอร์พูลไม่เอามา ต้องบอกว่าทีมหลังบ้านลิเวอร์พูลดีมาก แต่ทีมหลังบ้านแมนยูคิดอะไรอยู่ (ที่คิดจะเปลี่ยนระบบทีม โดยไม่สนใจตัวนักฟุตบอล)
อย่าลืมว่ามันต้องถูกปูพื้นฐานมาจากเยาวชนของสโมสรด้วยนะครับ น่าจะกระทบไปหมด ทั้งความเข้าใจในเกมและแผนการเล่น
ไม่ใช่เยาวชนเล่นแบบนึง พอขึ้นชุดใหญ่ก็ต้องปรับตัวมาเล่นอีกแบบนึง กว่าจะปรับตัวได้ก็จะเกิดปัญหาแบบนี้ไปเรื่อยๆ
หลังจากนี้ต้องดูว่า นักบอลแมนยูกับอโมริมและแฟนบอลใครจะอึดกว่ากัน ถ้าหากอะไรๆ มันยังไม่มีแววว่าจะดีขึ้น ใครจะไปก่อนกัน