ผมไม่เคยมีโพสต์เป็นของตัวเองเลย ขออภัยหากอธิบายเยิ่นเย้อนะครับ พยายามเล่าเรื่องให้เข้าใจง่ายๆ
รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยอ่าน และช่วยให้คำแนะนำผมหน่อยนะครับ
ผมซื้อคอนโดเพื่ออยู่เองราคา 8.5 ล้านบาท เมื่อต้นปี 2559 (ซื้อตั้งแต่โครงการเปิด คือยังไม่ได้ก่อสร้างตึกครับ)
จ่ายค่าผ่อนดาวน์ครบถ้วนมาตลอดจนถึงเดือนกันยายน 2561
วันที่ 23 กันยายน 2561
โครงการแจ้งถึงกำหนดเข้าตรวจรับห้อง ผมก็ไปตรวจด้วยตัวเอง พบว่าภาพรวมส่วนกลางสร้างไม่ตรงตามแบบอย่างมีนัยสำคัญหลายจุดครับ
และส่วนของในห้องที่ผมซื้อมี Defect สำคัญ ได้แก่
1) โครงการลืมติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเล็ก ให้ตามเอกสารข้อตกลงที่ระบุว่าโครงการจะติดตั้งให้ทั้ง 2 ห้องนอน
2) ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ไม่ตรงแบบ ไม่ตรงทั้งยี่ห้อ และรูปทรง โดยไม่ได้มีการแจ้งลูกค้าก่อนเปลี่ยนแบบ
3) พื้นและผนังส่วนยื่นต่อระเบียง / ส่วนยื่นต่อห้องรับแขก / ส่วนยื่นต่อห้องนอนไม่เรียบร้อย คือ มีน้ำรั่วจากชั้นบน + ส่วนยื่นต่อมีลักษณะ
เป็นแอ่งน้ำ ทำให้เป็นคราบสกปรก + ยาแนวและการฉาบผนังไม่เรียบร้อย
4) ติดตั้งกระจกบานกระทุ้ง สลับตำแหน่งกับบานฟิก (เฉพาะข้อนี้ โครงการเสนอขอจ่ายชดเชยเป็นเงิน 25,000 บาท โดยไม่แก้ไข : ผมตกลง)
5) ผนังปูนเบี้ยว
นอกจากนี้ ยังมี Defect จำพวกงานไม่เรียบร้อยเล็กๆ น้อยๆ รวมกว่า 40 รายการ เช่น กระจกเป็นรอย, ลามิเนตยวบ, กระเบื้องบิ่น เป็นต้น
วันที่ 5 ตุลาคม 2561
ผมตกลงรับโอนกรรมสิทธิ์แบบมีเงื่อนไขคือ "ยังไม่เซ็นรับสภาพห้อง" เพราะโครงการยังแก้ Defect ให้ไม่ครบ โดยโครงการระบุ
ในเอกสารตรวจ Defect ว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ตุลาคม 2561
วันที่ 27 ตุลาคม 2561
Defect ส่วนใหญ่ยังไม่แล้วเสร็จ และโครงการได้ส่งเจ้าหน้าที่อาวุโส (นาย P) มาเจรจากับผมรับปากว่าจะปรับแก้ Defect ให้ โดย
นาย P ได้ทำการร่างบันทึกข้อตกลงเป็นสัญญาว่าจะดำเนินการแก้ไข Defect ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561
หากทำไม่สำเร็จโครงการจะจ่ายค่าชดเชยล่าช้าให้ผมเป็นรายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 5,000 บาท (นาย P เขียนเอง ผมไม่ได้ร้องขอ
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำให้ผมรู้สึกวางใจโครงการมากขึ้นครับ)
ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม 2561 - 24 ธันวาคม 2561
ผมทราบจากกลุ่มไลน์เจ้าของร่วมว่าห้องพวกเขามี Defect ที่ผมตรวจไม่พบแต่แรก แต่พอไปลองตรวจก็พบว่าห้องผมก็เป็นปัญหาเหมือนกัน เช่น
ปล่องดูดควันและสวิสต์เปิด-ปิด ติดตั้งไม่เรียบร้อย เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ / กระเบื้องห้องน้ำร่อน เป็นต้น ผมได้แจ้งให้นาย P ทราบว่า
ต้องแก้ให้ผมก่อนเซ็นรับสภาพห้อง ทั้งนี้ ผมและนาย P เข้าใจดีว่า Defect ที่ผมแจ้งภายหลังจะไม่เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการปรับสัปดาห์ละ 5,000
วันที่ 24 ธันวาคม 2561
ผมประเมินแล้วว่านาย P น่าจะไม่สามารถจบงานได้โดยเร็ว ผมจึงได้จัดทำ Excel File สรุปให้ว่าเหลืออีกไม่ถึง 10 รายการ แต่นาย P กลับ
ไม่สนใจฟังผม โดย Focus แต่เรื่องที่เขาพยายามขอร้องผมว่า "น้องไม่ปรับพี่เลยได้ไหม?" ผมตอบทันทีว่าไม่ได้ครับ เพราะขนาดผมปรับพี่ยัง
แก้ไขงานได้ช้ามาก จากนั้นเขาจึงให้ผมส่งไฟล์ Excel ให้ทีมงานเขา
วันที่ 26 มกราคม 2562
นาย P ทำบันทึกให้ผมเซ็น โดยระบุในเอกสารว่าโครงการได้ปรับแก้ Defect ตามข้อตกลงครบถ้วนแล้ว ยินดีจ่ายค่าปรับชดเชยล่าช้าให้ผมรวม 50,000 บาท ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เพราะ Defect สำคัญข้อ 3) ยังแก้ได้ไม่สมบูรณ์ และ Defect เล็กๆ เช่น กระจกภายใน/ภายนอกก็ยังเป็นรอยกรีดอยู่ หรือ Defect ที่นาย P รับปากเป็นคำพูดว่าจะทำให้เช่น การต่ออายุรับประกันแอร์ เนื่องจากผมได้เข้าอยู่ล่าช้า นาย P กลับมาบอกในวันนี้ว่า
Verbal ก็คือ Verbal นะครับจะเอามาเป็นหลักฐานไม่ได้ ผมจึงไม่ยอมเซ็นบันทึกครับ จากนั้น นาย P จึงแจ้งว่าถ้างั้นขอตั้งกรรมการตรวจสอบผม
ผมก็ตอบกลับว่า OK ให้แจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษรนะว่าจะตรวจสอบอะไรผม
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562
นาย P ส่งจดหมายเชิญผมเข้าตรวจสอบห้องอีกครั้งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562
นาย P และเจ้าหน้าที่อาวุโสของโครงการอีก 2 ท่าน คือ นาง H (ฝ่ายบริการลูกค้า) และนาย T (ฝ่ายดูแลงานซ่อมหลังโอน) มาร่วมเจรจากับผม
ซึ่งเข้าดูหน้างานพร้อมกัน ทั้งหมด Confirmed ว่า Defect ตามข้อตกลงยังไม่แล้วเสร็จจริงๆ ด้วย แต่ขอร้องให้ผมหยุดระยะเวลาการปรับถึงแค่วันนี้
เพราะ A) Defect สำคัญข้อ 3) เป็นภายนอก ซึ่งจำเป็นต้องรอนัดช่างโรยตัวทำทีเดียวทุกชั้น เขาขอทำภายใน 31 พฤษภาคม 2562
B) งานกระจกเป็นรอย รอสั่งกระจกจะได้ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562
C) งานเอกสารประกันต่างๆ ผมให้เวลาถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562
D) ระหว่างรอให้ผมเอาช่างบิ้วอินเข้ามาตกแต่งห้องได้
E) งานทำความสะอาด หรือเก็บรอยต่างๆ ขอทำหลังผมบิ้วอินเสร็จ
F) ค่าปรับล่าช้าถึงวันนี้รวม 65,000 บาท บวกกับดอกเบี้ยเงินกู้ถึงวันนี้รวมประมาณ 35,000 บาท โครงการจะจ่ายให้ผมภายใน
วันที่ 30 เมษายน 2562
สรุปผมยอมหยุดปรับถึงวันนี้ โดยมีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1.หากครบกำหนดเสร็จในแต่ละเรื่อง (A-C, E) เขาจบงานไม่ได้ต้องนับค่าปรับต่อออกไป และ
2.ขอให้โครงการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร ที่ผมกู้มาซื้อห้องนี้ให้ผม จนกว่าจะดำเนินการทุกอย่างเสร็จ เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ตกลง และทำเป็นหนังสือออกจากโครงการ เซ็นชื่อร่วมกันทั้งหมด ในวันที่ 16 มีนาคม 2562
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562
นาย T แจ้งผมว่าได้นำกระจกมาเปลี่ยนให้ใหม่แล้ว แต่บานใหม่ก็ดันเป็นรอยอีก ต้องรอสั่งของประมาณ 1 เดือน
วันที่ 31 มีนาคม 2562
โครงการยังคงไม่ดำเนินการตามข้อ C)
วันที่ 5 เมษายน 2562
นาย T แจ้งว่าเปลี่ยนบานกระจกให้ใหม่แล้วแต่ไม่ทำนัดให้ผมเข้าไปตรวจสอบ
วันที่ 30 เมษายน 2562
ผมไม่ได้รับค่าชดเชยตามที่โครงการตกลงในข้อ F) ทั้งๆ ที่ทวงถามล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รับสาย ไม่โทรกลับ
วันที่ 1 มิถุนายน 2562
โครงการส่งเจ้าหน้าที่นัดผมเข้าไปรับค่าชดเชยประมาณ 100,000 บาท ตามข้อ F) แต่มีบันทึกแนบระบุว่าผมจะยินยอมรับแค่นี้เท่านั้น โดยจะ
ไม่เรียกร้องอะไรเพิ่มอีก ซึ่งไม่มีการระบุเกี่ยวกับเรื่อง Defect เลย ทั้งที่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ผมจึงไม่ขอเซ็น และแจ้งไปว่าผมจะไป
ฟ้อง สคบ. เพราะสิ่งที่เขาทำวันนี้ มันโกงชัดๆ และมันขัดแย้งกับข้อตกลงล่าสุดที่เขาทำเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน พูดง่ายๆ เลยคืองานข้า
ก็ไม่สน ข้าสนแต่ว่าค่าจะจ่ายแค่นี้อะ ผิดหวังกับองค์กรนี้มากจริงๆ
วันที่ 4 มิถุนายน 2562
ผมยื่นเรื่องร้องเรียนกับ สคบ. ผ่านทางออนไลน์ จนถึงตอนนี้ผมก็รอให้เป็นตามกระบวนการต่อไปครับ
เรื่องราวทั้งหมดประมาณนี้ครับ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ว่าผมควรต้องทำอย่างไรกับโครงการต่อดีครับ ถึงให้เขายอมปิด Job ให้ผมสักที
ส่วนเรื่องเงินค่าปรับ ผมเองก็เคยบอกกับเจ้าหน้าที่ของโครงการไปแล้วครับว่า ทำงานก่อนไหม แล้วเงินมากน้อยค่อยมาคุยทีหลัง
ขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนา DisCredit โครงการครับ แต่หากข้อมูลขอผมจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคท่านอื่นๆ ที่วางแผนซื้อคอนโด
ผมก็ยินดีให้ข้อมูลทางหลังไมค์นะครับ
จริงๆ ยังมีโจทย์ส่วนกลางอีก เพราะเขาทำออกมาไม่ตรงแบบหลายจุดมาก แต่ขอเป็นโอกาสหน้า
ครั้งนี้ขอกวนผู้รู้แค่เรื่องห้องส่วนตัวก่อนแล้วกันครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
ขอคำปรึกษาครับ กรณี Developer Condo ชื่อดังสร้างไม่ตรงแบบ + Defect เพรียบ!! แก้ไม่จบ + ผิดสัญญา + โกงเงิน ควรทำไงดีครับ
รบกวนผู้มีประสบการณ์ช่วยอ่าน และช่วยให้คำแนะนำผมหน่อยนะครับ
ผมซื้อคอนโดเพื่ออยู่เองราคา 8.5 ล้านบาท เมื่อต้นปี 2559 (ซื้อตั้งแต่โครงการเปิด คือยังไม่ได้ก่อสร้างตึกครับ)
จ่ายค่าผ่อนดาวน์ครบถ้วนมาตลอดจนถึงเดือนกันยายน 2561
วันที่ 23 กันยายน 2561
โครงการแจ้งถึงกำหนดเข้าตรวจรับห้อง ผมก็ไปตรวจด้วยตัวเอง พบว่าภาพรวมส่วนกลางสร้างไม่ตรงตามแบบอย่างมีนัยสำคัญหลายจุดครับ
และส่วนของในห้องที่ผมซื้อมี Defect สำคัญ ได้แก่
1) โครงการลืมติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเล็ก ให้ตามเอกสารข้อตกลงที่ระบุว่าโครงการจะติดตั้งให้ทั้ง 2 ห้องนอน
2) ติดตั้งโถสุขภัณฑ์ไม่ตรงแบบ ไม่ตรงทั้งยี่ห้อ และรูปทรง โดยไม่ได้มีการแจ้งลูกค้าก่อนเปลี่ยนแบบ
3) พื้นและผนังส่วนยื่นต่อระเบียง / ส่วนยื่นต่อห้องรับแขก / ส่วนยื่นต่อห้องนอนไม่เรียบร้อย คือ มีน้ำรั่วจากชั้นบน + ส่วนยื่นต่อมีลักษณะ
เป็นแอ่งน้ำ ทำให้เป็นคราบสกปรก + ยาแนวและการฉาบผนังไม่เรียบร้อย
4) ติดตั้งกระจกบานกระทุ้ง สลับตำแหน่งกับบานฟิก (เฉพาะข้อนี้ โครงการเสนอขอจ่ายชดเชยเป็นเงิน 25,000 บาท โดยไม่แก้ไข : ผมตกลง)
5) ผนังปูนเบี้ยว
นอกจากนี้ ยังมี Defect จำพวกงานไม่เรียบร้อยเล็กๆ น้อยๆ รวมกว่า 40 รายการ เช่น กระจกเป็นรอย, ลามิเนตยวบ, กระเบื้องบิ่น เป็นต้น
วันที่ 5 ตุลาคม 2561
ผมตกลงรับโอนกรรมสิทธิ์แบบมีเงื่อนไขคือ "ยังไม่เซ็นรับสภาพห้อง" เพราะโครงการยังแก้ Defect ให้ไม่ครบ โดยโครงการระบุ
ในเอกสารตรวจ Defect ว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 23 ตุลาคม 2561
วันที่ 27 ตุลาคม 2561
Defect ส่วนใหญ่ยังไม่แล้วเสร็จ และโครงการได้ส่งเจ้าหน้าที่อาวุโส (นาย P) มาเจรจากับผมรับปากว่าจะปรับแก้ Defect ให้ โดย
นาย P ได้ทำการร่างบันทึกข้อตกลงเป็นสัญญาว่าจะดำเนินการแก้ไข Defect ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561
หากทำไม่สำเร็จโครงการจะจ่ายค่าชดเชยล่าช้าให้ผมเป็นรายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 5,000 บาท (นาย P เขียนเอง ผมไม่ได้ร้องขอ
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำให้ผมรู้สึกวางใจโครงการมากขึ้นครับ)
ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม 2561 - 24 ธันวาคม 2561
ผมทราบจากกลุ่มไลน์เจ้าของร่วมว่าห้องพวกเขามี Defect ที่ผมตรวจไม่พบแต่แรก แต่พอไปลองตรวจก็พบว่าห้องผมก็เป็นปัญหาเหมือนกัน เช่น
ปล่องดูดควันและสวิสต์เปิด-ปิด ติดตั้งไม่เรียบร้อย เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ได้ / กระเบื้องห้องน้ำร่อน เป็นต้น ผมได้แจ้งให้นาย P ทราบว่า
ต้องแก้ให้ผมก่อนเซ็นรับสภาพห้อง ทั้งนี้ ผมและนาย P เข้าใจดีว่า Defect ที่ผมแจ้งภายหลังจะไม่เกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องการปรับสัปดาห์ละ 5,000
วันที่ 24 ธันวาคม 2561
ผมประเมินแล้วว่านาย P น่าจะไม่สามารถจบงานได้โดยเร็ว ผมจึงได้จัดทำ Excel File สรุปให้ว่าเหลืออีกไม่ถึง 10 รายการ แต่นาย P กลับ
ไม่สนใจฟังผม โดย Focus แต่เรื่องที่เขาพยายามขอร้องผมว่า "น้องไม่ปรับพี่เลยได้ไหม?" ผมตอบทันทีว่าไม่ได้ครับ เพราะขนาดผมปรับพี่ยัง
แก้ไขงานได้ช้ามาก จากนั้นเขาจึงให้ผมส่งไฟล์ Excel ให้ทีมงานเขา
วันที่ 26 มกราคม 2562
นาย P ทำบันทึกให้ผมเซ็น โดยระบุในเอกสารว่าโครงการได้ปรับแก้ Defect ตามข้อตกลงครบถ้วนแล้ว ยินดีจ่ายค่าปรับชดเชยล่าช้าให้ผมรวม 50,000 บาท ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เพราะ Defect สำคัญข้อ 3) ยังแก้ได้ไม่สมบูรณ์ และ Defect เล็กๆ เช่น กระจกภายใน/ภายนอกก็ยังเป็นรอยกรีดอยู่ หรือ Defect ที่นาย P รับปากเป็นคำพูดว่าจะทำให้เช่น การต่ออายุรับประกันแอร์ เนื่องจากผมได้เข้าอยู่ล่าช้า นาย P กลับมาบอกในวันนี้ว่า
Verbal ก็คือ Verbal นะครับจะเอามาเป็นหลักฐานไม่ได้ ผมจึงไม่ยอมเซ็นบันทึกครับ จากนั้น นาย P จึงแจ้งว่าถ้างั้นขอตั้งกรรมการตรวจสอบผม
ผมก็ตอบกลับว่า OK ให้แจ้งมาเป็นลายลักษณ์อักษรนะว่าจะตรวจสอบอะไรผม
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562
นาย P ส่งจดหมายเชิญผมเข้าตรวจสอบห้องอีกครั้งในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562
วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562
นาย P และเจ้าหน้าที่อาวุโสของโครงการอีก 2 ท่าน คือ นาง H (ฝ่ายบริการลูกค้า) และนาย T (ฝ่ายดูแลงานซ่อมหลังโอน) มาร่วมเจรจากับผม
ซึ่งเข้าดูหน้างานพร้อมกัน ทั้งหมด Confirmed ว่า Defect ตามข้อตกลงยังไม่แล้วเสร็จจริงๆ ด้วย แต่ขอร้องให้ผมหยุดระยะเวลาการปรับถึงแค่วันนี้
เพราะ A) Defect สำคัญข้อ 3) เป็นภายนอก ซึ่งจำเป็นต้องรอนัดช่างโรยตัวทำทีเดียวทุกชั้น เขาขอทำภายใน 31 พฤษภาคม 2562
B) งานกระจกเป็นรอย รอสั่งกระจกจะได้ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562
C) งานเอกสารประกันต่างๆ ผมให้เวลาถึงวันที่ 31 มีนาคม 2562
D) ระหว่างรอให้ผมเอาช่างบิ้วอินเข้ามาตกแต่งห้องได้
E) งานทำความสะอาด หรือเก็บรอยต่างๆ ขอทำหลังผมบิ้วอินเสร็จ
F) ค่าปรับล่าช้าถึงวันนี้รวม 65,000 บาท บวกกับดอกเบี้ยเงินกู้ถึงวันนี้รวมประมาณ 35,000 บาท โครงการจะจ่ายให้ผมภายใน
วันที่ 30 เมษายน 2562
สรุปผมยอมหยุดปรับถึงวันนี้ โดยมีเงื่อนไข 2 ข้อ คือ 1.หากครบกำหนดเสร็จในแต่ละเรื่อง (A-C, E) เขาจบงานไม่ได้ต้องนับค่าปรับต่อออกไป และ
2.ขอให้โครงการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร ที่ผมกู้มาซื้อห้องนี้ให้ผม จนกว่าจะดำเนินการทุกอย่างเสร็จ เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ตกลง และทำเป็นหนังสือออกจากโครงการ เซ็นชื่อร่วมกันทั้งหมด ในวันที่ 16 มีนาคม 2562
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562
นาย T แจ้งผมว่าได้นำกระจกมาเปลี่ยนให้ใหม่แล้ว แต่บานใหม่ก็ดันเป็นรอยอีก ต้องรอสั่งของประมาณ 1 เดือน
วันที่ 31 มีนาคม 2562
โครงการยังคงไม่ดำเนินการตามข้อ C)
วันที่ 5 เมษายน 2562
นาย T แจ้งว่าเปลี่ยนบานกระจกให้ใหม่แล้วแต่ไม่ทำนัดให้ผมเข้าไปตรวจสอบ
วันที่ 30 เมษายน 2562
ผมไม่ได้รับค่าชดเชยตามที่โครงการตกลงในข้อ F) ทั้งๆ ที่ทวงถามล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่รับสาย ไม่โทรกลับ
วันที่ 1 มิถุนายน 2562
โครงการส่งเจ้าหน้าที่นัดผมเข้าไปรับค่าชดเชยประมาณ 100,000 บาท ตามข้อ F) แต่มีบันทึกแนบระบุว่าผมจะยินยอมรับแค่นี้เท่านั้น โดยจะ
ไม่เรียกร้องอะไรเพิ่มอีก ซึ่งไม่มีการระบุเกี่ยวกับเรื่อง Defect เลย ทั้งที่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ผมจึงไม่ขอเซ็น และแจ้งไปว่าผมจะไป
ฟ้อง สคบ. เพราะสิ่งที่เขาทำวันนี้ มันโกงชัดๆ และมันขัดแย้งกับข้อตกลงล่าสุดที่เขาทำเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน พูดง่ายๆ เลยคืองานข้า
ก็ไม่สน ข้าสนแต่ว่าค่าจะจ่ายแค่นี้อะ ผิดหวังกับองค์กรนี้มากจริงๆ
วันที่ 4 มิถุนายน 2562
ผมยื่นเรื่องร้องเรียนกับ สคบ. ผ่านทางออนไลน์ จนถึงตอนนี้ผมก็รอให้เป็นตามกระบวนการต่อไปครับ
เรื่องราวทั้งหมดประมาณนี้ครับ ขอคำแนะนำจากผู้รู้ว่าผมควรต้องทำอย่างไรกับโครงการต่อดีครับ ถึงให้เขายอมปิด Job ให้ผมสักที
ส่วนเรื่องเงินค่าปรับ ผมเองก็เคยบอกกับเจ้าหน้าที่ของโครงการไปแล้วครับว่า ทำงานก่อนไหม แล้วเงินมากน้อยค่อยมาคุยทีหลัง
ขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนา DisCredit โครงการครับ แต่หากข้อมูลขอผมจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคท่านอื่นๆ ที่วางแผนซื้อคอนโด
ผมก็ยินดีให้ข้อมูลทางหลังไมค์นะครับ
จริงๆ ยังมีโจทย์ส่วนกลางอีก เพราะเขาทำออกมาไม่ตรงแบบหลายจุดมาก แต่ขอเป็นโอกาสหน้า
ครั้งนี้ขอกวนผู้รู้แค่เรื่องห้องส่วนตัวก่อนแล้วกันครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ