คืนวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม ปี 61
ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นยินดีกับความสำเร็จของภารกิจการค้นหาน้องๆ 13 หมูป่าที่หายตัวไปในถ้ำหลวงนานกว่าอาทิตย์
อีกฟากนึงที่ไม่มีใครรายงานข่าว
ในห้องของคอนโดเงียบๆแห่งนึง มีผมที่กำลังจมอยู่กับความคิดลบในหัว ที่มีสาเหตุมาจากความผิดหวังที่ไม่ได้เจอกับคน(เคย)รักมานานกว่าสองเดือนเพราะข้ออ้างต่างๆของเธอ บวกกับความเครียด ความคาดหวัง และแรงกดดันต่างๆ
จนช่วงประมาณเที่ยงคืน อาบน้ำเรียบร้อยเตรียมที่จะเข้านอน อยู่ๆรู้สึกปวดหน้าอกฝั่งซ้ายรุนแรงขึ้น (ก่อนนี้เคยปวดนิดๆ) และเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น มือเท้าเย็น หัวสมองสับสน แล้วจู่ๆความกลัวที่ซ่อนอยู่ลึกๆในใจก็เผยตัวขึ้นมา
ความกลัวที่ว่าถ้าตายไป คงไม่มีใครหาศพผมเจอแน่ เพราะคนที่บ้านผมไม่มีใครรู้ว่าผมพักอยู่ที่ไหน แม้แต่เพื่อนสนิทก็ไม่มีใครรู้ว่าผมย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียว (จริงๆก่อนนั้นอยู่กับแฟน)
ด้วยใจที่หวาดกลัวและความนอย ผมรีบส่งไลน์ไปบอกเพื่อนสนิทคนนึงว่าคอนโดผมอยู่ที่ไหนชั้นอะไร และให้เบอร์พ่อแม่ผมไว้เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน
เสร็จแล้วผมคิดว่าควรรีบไปโรงพยาบาล เลยโทรหาคุณพี่รุ่นน้าที่อยู่ข้างห้อง ให้ช่วยเรียกแท๊กซี่ให้ รอแท๊กซี่นานมากจนอยากจะขับรถไปเอง รออยู่นานจนรถมาถึง พี่เค้าก็แสนดีนั่งแท๊กซี่ไปเป็นเพื่อน ระหว่างทางคอยบีบมือและเรียกชื่อให้ผมรู้สึกตัวอยู่ตลอด
ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจผมสามารถหยุดเต้นได้ทุกเวลา ผมรีบโทรหาคุณพ่อคุณแม่ บอกเค้าไปว่ากำลังจะไปโรงพยาบาล xxx (ขอสงวนชื่อ) เพราะรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น... คนเราพอเข้าจุดที่กลัวที่สุดก็จะคิดถึงพ่อแม่หรือคนที่รักเรามากๆเสมอเนอะ...
จนไปถึงโรงพยาบาล xxx ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเก่าๆโทรมๆแต่ใกล้สุด ในใจแอบมีอคติว่าจะไหวมั้ยโรงบาลโทรมขนาดนี้ แต่ตอนนั้นก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเลือกมากละเด๋วจะตายซะก่อน
ไปถึงก็แจ้งอาการกับพยาบาล และหมอเวรที่เดินมาอย่างงัวเงียแบบเหวี่ยงๆเนื่องจากถูกปลุกให้ตื่น พยาบาลก็ทำการตรวจคลื่นหัวใจวัดความดัน วัดไข้ วัดน้ำหนัก (เพื่อ!!!)
ที่น่าตกใจคือ
ผลทุกอย่างปกติ การเต้นหัวใจ ความดัน อุณหภูมิร่างกาย ทุกอย่างไม่มีตรงไหนบ่งบอกว่าป่วย (นอกจากน้ำหนักที่เยอะหน่อยๆ)
ในใจผมได้แต่คิดว่า จะเป็นไปได้ยังไง คนจะตายอยู่แล้ว สงสัยหมอที่นี่ไม่เก่ง ก็เลยเรียกแท๊กซี่ไปอีกโรงพยาบาลที่ดีและทันสมัยกว่าในละแวกใกล้ๆกันพร้อมกับโทรแจ้งที่บ้านว่าย้ายโรงพยาบาล
พอไปถึง คุณหมอสองสามคนมารุมตรวจ ผมก็แจ้งว่าเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น มือเท้าเย็น สติเหมือนหลุดลอย ปวดหน้าอกด้านซ้าย คุณหมอเลยส่งผมไปวัดคลื่นหัวใจและชั่งน้ำหนัก (อีกแล้ว) แถมด้วย x-ray ปอด และเจาะเลือด คือจัดเต็มเพื่อหาต้นเหตุให้ได้ เผื่อเป็นโรคหัวใจ
แต่สุดท้ายแล้วก็หาอะไรไม่เจอเหมือนเดิม
คุณหมอบอกว่ากลับบ้านได้ แต่ใจผมก็ยังกลัวว่าจะเป็นอะไร ตอนแรกก็ขอแอดมิดเพื่อความปลอดภัย ระหว่างรอๆอาการก็ดีขึ้นมาเป็นลำดับ
สรุปคืนนั้นจบลงด้วยการได้ยาคลายกล้ามเนื้อและเจลนวดแก้ปวด 😓
ได้กลับมาถึงห้องประมาณหกโมงเช้า
.... มีต่อนะครับ ...
[CR] รีวิวการเป็นโรคแพนิคแบบหมดเปลือก(มั้ง)
ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นเต้นยินดีกับความสำเร็จของภารกิจการค้นหาน้องๆ 13 หมูป่าที่หายตัวไปในถ้ำหลวงนานกว่าอาทิตย์
อีกฟากนึงที่ไม่มีใครรายงานข่าว
ในห้องของคอนโดเงียบๆแห่งนึง มีผมที่กำลังจมอยู่กับความคิดลบในหัว ที่มีสาเหตุมาจากความผิดหวังที่ไม่ได้เจอกับคน(เคย)รักมานานกว่าสองเดือนเพราะข้ออ้างต่างๆของเธอ บวกกับความเครียด ความคาดหวัง และแรงกดดันต่างๆ
จนช่วงประมาณเที่ยงคืน อาบน้ำเรียบร้อยเตรียมที่จะเข้านอน อยู่ๆรู้สึกปวดหน้าอกฝั่งซ้ายรุนแรงขึ้น (ก่อนนี้เคยปวดนิดๆ) และเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น มือเท้าเย็น หัวสมองสับสน แล้วจู่ๆความกลัวที่ซ่อนอยู่ลึกๆในใจก็เผยตัวขึ้นมา
ความกลัวที่ว่าถ้าตายไป คงไม่มีใครหาศพผมเจอแน่ เพราะคนที่บ้านผมไม่มีใครรู้ว่าผมพักอยู่ที่ไหน แม้แต่เพื่อนสนิทก็ไม่มีใครรู้ว่าผมย้ายออกมาอยู่คอนโดคนเดียว (จริงๆก่อนนั้นอยู่กับแฟน)
ด้วยใจที่หวาดกลัวและความนอย ผมรีบส่งไลน์ไปบอกเพื่อนสนิทคนนึงว่าคอนโดผมอยู่ที่ไหนชั้นอะไร และให้เบอร์พ่อแม่ผมไว้เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน
เสร็จแล้วผมคิดว่าควรรีบไปโรงพยาบาล เลยโทรหาคุณพี่รุ่นน้าที่อยู่ข้างห้อง ให้ช่วยเรียกแท๊กซี่ให้ รอแท๊กซี่นานมากจนอยากจะขับรถไปเอง รออยู่นานจนรถมาถึง พี่เค้าก็แสนดีนั่งแท๊กซี่ไปเป็นเพื่อน ระหว่างทางคอยบีบมือและเรียกชื่อให้ผมรู้สึกตัวอยู่ตลอด
ตอนนั้นความรู้สึกเหมือนกับว่าหัวใจผมสามารถหยุดเต้นได้ทุกเวลา ผมรีบโทรหาคุณพ่อคุณแม่ บอกเค้าไปว่ากำลังจะไปโรงพยาบาล xxx (ขอสงวนชื่อ) เพราะรู้สึกเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น... คนเราพอเข้าจุดที่กลัวที่สุดก็จะคิดถึงพ่อแม่หรือคนที่รักเรามากๆเสมอเนอะ...
จนไปถึงโรงพยาบาล xxx ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเก่าๆโทรมๆแต่ใกล้สุด ในใจแอบมีอคติว่าจะไหวมั้ยโรงบาลโทรมขนาดนี้ แต่ตอนนั้นก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาเลือกมากละเด๋วจะตายซะก่อน
ไปถึงก็แจ้งอาการกับพยาบาล และหมอเวรที่เดินมาอย่างงัวเงียแบบเหวี่ยงๆเนื่องจากถูกปลุกให้ตื่น พยาบาลก็ทำการตรวจคลื่นหัวใจวัดความดัน วัดไข้ วัดน้ำหนัก (เพื่อ!!!)
ที่น่าตกใจคือ
ผลทุกอย่างปกติ การเต้นหัวใจ ความดัน อุณหภูมิร่างกาย ทุกอย่างไม่มีตรงไหนบ่งบอกว่าป่วย (นอกจากน้ำหนักที่เยอะหน่อยๆ)
ในใจผมได้แต่คิดว่า จะเป็นไปได้ยังไง คนจะตายอยู่แล้ว สงสัยหมอที่นี่ไม่เก่ง ก็เลยเรียกแท๊กซี่ไปอีกโรงพยาบาลที่ดีและทันสมัยกว่าในละแวกใกล้ๆกันพร้อมกับโทรแจ้งที่บ้านว่าย้ายโรงพยาบาล
พอไปถึง คุณหมอสองสามคนมารุมตรวจ ผมก็แจ้งว่าเหมือนหัวใจจะหยุดเต้น มือเท้าเย็น สติเหมือนหลุดลอย ปวดหน้าอกด้านซ้าย คุณหมอเลยส่งผมไปวัดคลื่นหัวใจและชั่งน้ำหนัก (อีกแล้ว) แถมด้วย x-ray ปอด และเจาะเลือด คือจัดเต็มเพื่อหาต้นเหตุให้ได้ เผื่อเป็นโรคหัวใจ
แต่สุดท้ายแล้วก็หาอะไรไม่เจอเหมือนเดิม
คุณหมอบอกว่ากลับบ้านได้ แต่ใจผมก็ยังกลัวว่าจะเป็นอะไร ตอนแรกก็ขอแอดมิดเพื่อความปลอดภัย ระหว่างรอๆอาการก็ดีขึ้นมาเป็นลำดับ
สรุปคืนนั้นจบลงด้วยการได้ยาคลายกล้ามเนื้อและเจลนวดแก้ปวด 😓
ได้กลับมาถึงห้องประมาณหกโมงเช้า
.... มีต่อนะครับ ...
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้