โทรไปสายด่วนสุขภาพจิต วางสายแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ

ต้องบอกก่อนว่า เราทำงานเป็น เซล วันๆ เจอเรื่องกดดันมากมาย จนเครียดสะสม พอดีเสิชใน pantip มีเคสหลายคนที่โทรไปปรึกษาสายด่วนนี้
ตอนแรกก็กลัวว่า เราเอง อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอ ที่ต้องปรึกษา กรมสุขภาพจิต แต่ มันไม่ไหวจริงๆ เลยลองโทรไป 
เล่าให้เขาฟัง ... บอกตามตรงถึงเขาจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา ให้เรา แต่เขาพูดดีมาก อธิบายเข้าใจรับฟังเรา 
อย่างที่บอก พอวางสายเท่านั้นแหละคะ ปล่อยโฮ เลย... เหมือน ทุกอย่างมันปลดล็อค 

ขอบคุณที่มี หน่วยงานนี้ขึ้นมา มันช่วยได้จริงๆค่ะ เพราะบางทีคนรอบข้างเราเขาไม่ได้มีเวลามากพอที่จะรับฟังความทุกข์ของเรา
แล้วเราก็อยู่กับคำว่า โตแล้วเราต้องอดทน แต่บางเรื่อง เราขอแค่คนเข้าใจและรับฟังเรา มันก็ต่อลมหายใจ ให้เราสู้ต่อไปได้เหมือนกัน

แนะนำนะคะ ใครมีปัญหา ไม่รู้จะระบายอย่างไร โทรไปเลยค่ะ รอสายนานหน่อย แต่คุ้มค่ากับความรู้สึกในใจค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
มีครั้งเดียวเท่านั้นที่โทรไปแล้วอยากกราบหัวใจของสาวนักจิตวิทยา
แนะนำดี ตอบคำถามดี ไม่มีวี่แววที่จะรำคาญ แถมบอกว่าถ้าหนหน้าโทรมาเจอเธอ
ให้เล่าความคืบหน้าให้ฟังด้วย (คงยากอะนะ)

ขอกราบด้วยหัวใจอย่างจริงใจตรงนี้ก็แล้วกัน
ขอบคุณจริงๆ ค่ะ ถ้าวันนั้นคุณไม่รับสายอีกดึ๊ดเดียว (หลังจากรอมาเกือบ ชม.)
เราก็จะไปฆ่าตัวตายแล้วล่ะ (โทรติดตอนห้าทุ่มสิบห้านาที)
ความคิดเห็นที่ 8
ยืนยันค่ะ เราก็เคยมีวันนึงที่รู้สึกแย่มากๆ เกือบจะฆ่าตัวตายแล้ว แต่ยังตั้งสติแล้วโทรไปสายด่วนสุขภาพจิต

คุยกับเจ้าหน้าที่อยู่ราวๆ ชั่วโมงนึง

บอกเลยว่า เพราะเจ้าหน้าที่คนนั้น ทำให้เรายังมีชีวิตอยู่จนทุกวันนี้

ขอบคุณคนๆ นั้นและเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำหน้าที่นี้ พวกคุณสร้างกุศลได้มหาศาลจริงๆ ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 17
หน่วยงานดีๆ แบบนี้ รัฐบาลน่าจะส่งเสริมโดยการเพิ่มงบประมาณ เพิ่ม จนท เพิ่มคู่สาย และประชาสัมพันธ์ออกสื่อให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนยังไม่รู้จักสายด่วนสุขภาพจิต คงจะช่วยลดอัตราการฆ่าตัวตายได้บ้าง ไม่มากก็น้อย
ความคิดเห็นที่ 15
ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์ครับ  

ผมโทรไปสายด่วนสุขภาพจิต
ในวันที่ ๑๐ มิถุนายน เวลาตีสามเศษ

เวลานั้นผมรู้สึกไม่สบายใจ  
เป็น ๑ ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต

รอสายสักพักเจ้าหน้าที่ก็ขานรับ  ผมเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง  ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ให้คำตอบในเชิงลบเป็นส่วนใหญ่ เช่น ก็ตัดใจได้แล้ว เพราะคุณทำตัวคุณเอง ฯลฯ  นาทีนั้นความรู้สึกผมเหมือนจมในมหาสมุทรดำมืดครับ  ยิ่งปวดร้าว ยิ่งรู้สึกไร้ค่า และได้แต่ถามตัวเองว่าเรามาทำอะไรตรงนี้  สุดท้ายผมขออนุญาตวางสายโดยให้เหตุผลว่าคงมีคนที่จำเป็นกว่า

ผมคงไม่โทรไปอีกเป็นครั้งที่ ๒ ครับ
ความคิดเห็นที่ 1
เราโทรไม่เคยติดเลยค่ะ แต่ยังดีที่เรายังรู้จักปล่อยวาง หาที่เงียบๆ ปล่อยให้น้ำตามันไหล
ทุกคนมีเรื่องเครียด วิธีคือปลดล็อกความคิด พลิกความคิด หาวิธีที่เราอยู่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่