ก่อนอื่นต้องขออภัยที่มาอัพเดทช้านะคะ
#เราเจ้าของกระทู้ เป็นน้องสาวของเจ้าของร้านขายขนมจีน ที่ขายอาหารกลางวันในโรงเรียน
พี่สาวของเราเป็นแม่ค้าหน้าใหม่ ที่ไม่เคยค้าขายมาก่อน ช่วงแรกๆ เลยนั้น ที่ได้ทำน้ำยาขนมจีนตีนไก่ ไปขายในโรงอาหารของโรงเรียน
ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนมาซื้อ น้อยมาก จนถีงขายไม่ได้เลย เราซึ่งเป็นน้องสาวก็ได้มาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ
ตามกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/38907986 เราได้อ่านทั้งหมด ก็ซึ้งน้ำใจที่เพื่อนให้คำแนะนำมามากมาย
วันที่ 27 พค ช่วงเย็น เราได้คุยกับพี่สาวเรา พี่สาวเราท้อมากๆ แล้ว ตั้งใจจะไม่เดินหน้าต่อ เราพยายามพูดอย่างไรก็เหมือนไม่ดีขึ้น
ช่วงนี้ เราก็รู้สึกไม่ดี รู้สึกผิดที่เราอาจจะก้าวก่ายพี่สาวเรามากเกินไป เราก็ไม่ได้คุยกับพี่สาวเราอีกเลย
แต่ในช่วงนี้ เราก็ตามอ่านในกระทู้ และในเพจตลอดๆ ว่าเพื่อนๆ แนะนำอย่างไรบ้าง
ตอนแรกเราคิดว่าจะปริ้นความคิดเห็นของเพื่อนๆ ทำเป็นเล่ม แล้วส่งให้พี่สาวได้อ่าน (พี่สาวไม่เล่นอินเตอร์เน็ต ไม่มีเฟซบุ๊ค ไม่มีไลน์)
เราลองปริ้นออกมาแล้ว แต่ไม่หมด เพราะคำแนะนำจากเพื่อนๆ มีเยอะมากๆ ทั้งในกระทู้ และในเพจ
#จนวันที่ 1-3 มิถุนายน ที่เป็นวันหยุดยาว 3 วัน เราไปหาที่บ้าน เอาให้อ่านทั้งในกระทู้ และในเพจ พี่สาวก็อ่านทั้งหมดนะ
(คุยกับพี่สาวเยอะมาก แบบละเอียด ถึงวันแรกๆ ที่ทำไปขาย ทำแบบไหน อะไรยังไง และอีกเยอะมากๆ)
- ทำไมทำน้ำยาตีนไก่เหมือนร้านเดิม
พี่สาวบอกว่า ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเดิม ทำน้ำยาตีนไก่ วันแรกไปขายก็ขายได้อยู่ พอวันต่อมาก็ทำน้ำยาตีนไก่อีก ก็พอขายได้ พอวันต่อมาก็ลองเอาตีนไก่ออก
มีเด็กคนนึง คนเดิมมาถามหาตีนไก่ พอบอกว่าไม่มี มีแต่ลูกชิ้น ก็ทำหน้าจ๋อย แล้วก็เล่าว่า เมื่อวานตีนไก่สองตีนเพื่อนแย่งกินหมดเลย ไม่ได้กิน ก็เลยสงสาร วันต่อมาก็ทำน้ำยาตีนไก่ไปอีก
เด็กคนเดิมก็มาซื้ออีก กับเพื่อนอีก 2 คน (เด็กชาย ม.ต้น) พอวันต่อมาเด็กคนเดิมมาบอก ป้าๆ วันนี้ผมอยากกินราดแกงนะป้า ไม่ได้ซื้อป้าครับ ซึ่งเป็นวันที่ ขายไม่ได้สักจานเดียว
- ทำไมไม่ลองทำน้ำยาอย่างอื่นดู
พี่สาวบอกว่า คิดอยู่ ว่าจะลองทำกินเองก่อน ตอนนี้ถนัดทำน้ำยาแบบนี้ ถ้าน้ำยาอย่างอื่นยังไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่ ว่าจะทำแบบไหนยังไง เลยทำขายอย่างเดียว
- ลองคุยกับทางโรงเรียนดีไหม ว่าขนมจีนให้มีร้านเดิมก็พอ ขอขายอย่างอื่นที่ยังไม่มีขายดีกว่าไหม
พี่สาวบอกว่า ลองคุยแล้ว ขอลองขายข้าวมันไก่ ไม่ก็ก๋วยจั๊บ หรือเย็นตาโฟ
ครูบอกว่าเรียกประชุมทุกร้านแล้ว มีสองร้านที่ไม่เห็นด้วย ครูเลยอนุญาตให้ทำยำขนมจีน หรือยำมาม่า เพิ่มได้
- ถ้าเลิกขายเลยก็ไม่ได้เหรอ
พี่สาวบอกว่า สัญญา 1 ปี ต้องขายขนมจีน ปีหน้าถึงจะประมูลขายข้าว หรือก๋วยเตี๋ยวได้ ถ้ายกเลิกก็ไม่ได้เงินคืน
- เกี่ยวไหม ว่าร้านพี่เป็นร้านใหม่ เด็กน้อยเลยไม่มากิน
พี่สาวบอกว่า ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเล่าว่า วันแรกที่มาขาย ขายได้ 200 กว่า เกือบ 300 ชาม ทั้งที่มีเจ้าเดิมขายอยู่ก่อนแล้ว วันต่อมาก็ขายได้ เขาบอกว่า ถ้าพี่ขายก๋วยเตี๋ยว หรือข้าว ก็ขายได้ทุกวันเหมือนกันแหละ เพราะเด็กน้อยชอบก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวมากกว่าขนมจีน
- ลองสมมุติเรียกเด็กน้อยให้มากินให้ฉันฟังที
พี่สาวก็เล่าว่า ก็ชวนมากินนี่แหละ ก็ยิ้มนะ ไม่ได้หน้าบูดหน้าบึ้ง แทนตัวว่าป้านี่แหละ เรียกเด็กน้อยว่าลูกๆ นี่แหละ
* ในใจลึกๆ ของเรา ที่ได้ฟังพี่สาวระบายทุกๆ อย่างออกมา เราเข้าใจความรู้สึกของแกได้เป็นอย่างดี และได้แต่คิดว่า การที่เรานั่งฟังแกพูดจนจบนั้น ได้ช่วยแบ่งเบาความท้อ ความไม่สบายใจของแกได้บ้าง ประโยคสุดท้ายก่อนกลับเราบอก "สู้ๆ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครที่จะแพ้ได้ทุกวัน"
เราก็กลับบ้านเรา แต่ในใจเรา เราก็อยากรู้คำตอบว่าพี่สาวจะทำอย่างไรต่อไป
จนวันที่ 4 มิถุนายน เราได้โทรคุยกับแม่ แม่บอกว่า "วันนี้พี่ไปขายแล้ว" เราได้ยินแบบนี้ น้ำตาไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว
เพราะเราดีใจ เราเชื่อมั่นว่าพี่สาวเราต้องทำได้ ต้องสู้กันต่อ แก้ไขกันต่อไป สู้ด้วยตัวเองแล้วภูมิใจที่สุด
ตอนเย็น เราได้คุยกับพี่สาว พี่สาวบอกว่า แรกๆ เนอะ เดี๋ยวลองปรับนู่นนี่ดู ขอบใจนะ
#จากแม่ค้าหน้าใหม่ สู่แม่ค้าหน้าคุ้น (พยายามเปลี่ยนแปลงนู่นนิด นี่หน่อย เริ่มเข้าที่เข้าทาง)
นำไปแก้ไข ปรับปรุง สร้างแรงบันดาลใจในการทำมาค้าขายดังนี้
1. ทำน้ำยาตีนไก่ แต่ลดปริมาณตีนไก่ลง เพิ่มเนื้อเป็นชิ้นๆ มากขึ้น ปรับรสชาติ จากเดิมใส่เครื่องแกงเยอะ ลดเครื่องแกงลง ไม่เผ็ด ออกรสหวานนิดๆ ถ้าใครไม่กินตีนไก่ ก็ไม่ตักให้ ตักให้แต่เนื้อๆ
2. ทำน้ำยาแบบอื่นเพิ่ม มีน้ำยาแกงเขียวหวาน น้ำยาหวาน
3. เพิ่มปริมาณเส้นจากเดิม
4. แจกลูกอมคนเม็ดสองเม็ด ให้หยิบเอาเองได้เลย
5. มีป้ายโปรโมชั่น มา 4 คน จ่าย 3 คน เท่ากับว่า จานนี้จ่ายคนละ 15 บาท
6. เด็กๆ ที่มาซื้อ เขียนชื่อหย่อนในกล่อง ไว้จับฉลากแจกรางวัลเล็กๆ น้อยๆ และ จับฉลากกินฟรี 3 จาน ทุกอาทิตย์
#ผลการเปลี่ยนแปลง
1. วันแรกเด็กเดินมายืนมุงดู เพื่ออ่านป้ายกันเยอะ วันแรกนี้ขายไม่หมด (เส้น 6 กิโล)
2. วันถัดมา เตรียมเส้นไป 7 กิโล เหลือกลับ 2 จาน
3. วันถัดๆ มา ขายหมด (เพิ่มเส้นวันละ 1 กิโล)
เราคิดว่าภายในอาทิตย์นี้ เด็กๆ น่าจะรู้จักคุ้นเคยกับร้านพี่สาวเรามากขึ้น และต้องดีกว่าเดิม ฝึกการขายไว้รอปีหน้าประมูลอย่างอื่นค่ะ
"สู้ๆ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครที่จะแพ้ได้ทุกวัน"
ขอบคุณจากใจสำหรับคำแนะนำดีๆ จากเพื่อนๆ นะคะ
(พี่สาวฝากขอบคุณเพื่อนๆ มาด้วยนะคะ)
*************************************************
ขนมจีนป้าพัน(ทิป) มาอัพเดทผลการขายขนมจีนในโรงเรียน จากเจ้าของกระทู้ขายอาหารกลางวันที่โรงเรียนกระทู้ก่อนหน้านี้ค่ะ
#เราเจ้าของกระทู้ เป็นน้องสาวของเจ้าของร้านขายขนมจีน ที่ขายอาหารกลางวันในโรงเรียน
พี่สาวของเราเป็นแม่ค้าหน้าใหม่ ที่ไม่เคยค้าขายมาก่อน ช่วงแรกๆ เลยนั้น ที่ได้ทำน้ำยาขนมจีนตีนไก่ ไปขายในโรงอาหารของโรงเรียน
ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียนมาซื้อ น้อยมาก จนถีงขายไม่ได้เลย เราซึ่งเป็นน้องสาวก็ได้มาตั้งกระทู้ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ
ตามกระทู้นี้ https://ppantip.com/topic/38907986 เราได้อ่านทั้งหมด ก็ซึ้งน้ำใจที่เพื่อนให้คำแนะนำมามากมาย
วันที่ 27 พค ช่วงเย็น เราได้คุยกับพี่สาวเรา พี่สาวเราท้อมากๆ แล้ว ตั้งใจจะไม่เดินหน้าต่อ เราพยายามพูดอย่างไรก็เหมือนไม่ดีขึ้น
ช่วงนี้ เราก็รู้สึกไม่ดี รู้สึกผิดที่เราอาจจะก้าวก่ายพี่สาวเรามากเกินไป เราก็ไม่ได้คุยกับพี่สาวเราอีกเลย
แต่ในช่วงนี้ เราก็ตามอ่านในกระทู้ และในเพจตลอดๆ ว่าเพื่อนๆ แนะนำอย่างไรบ้าง
ตอนแรกเราคิดว่าจะปริ้นความคิดเห็นของเพื่อนๆ ทำเป็นเล่ม แล้วส่งให้พี่สาวได้อ่าน (พี่สาวไม่เล่นอินเตอร์เน็ต ไม่มีเฟซบุ๊ค ไม่มีไลน์)
เราลองปริ้นออกมาแล้ว แต่ไม่หมด เพราะคำแนะนำจากเพื่อนๆ มีเยอะมากๆ ทั้งในกระทู้ และในเพจ
#จนวันที่ 1-3 มิถุนายน ที่เป็นวันหยุดยาว 3 วัน เราไปหาที่บ้าน เอาให้อ่านทั้งในกระทู้ และในเพจ พี่สาวก็อ่านทั้งหมดนะ
(คุยกับพี่สาวเยอะมาก แบบละเอียด ถึงวันแรกๆ ที่ทำไปขาย ทำแบบไหน อะไรยังไง และอีกเยอะมากๆ)
- ทำไมทำน้ำยาตีนไก่เหมือนร้านเดิม
พี่สาวบอกว่า ก็ไม่รู้ว่าเจ้าเดิม ทำน้ำยาตีนไก่ วันแรกไปขายก็ขายได้อยู่ พอวันต่อมาก็ทำน้ำยาตีนไก่อีก ก็พอขายได้ พอวันต่อมาก็ลองเอาตีนไก่ออก
มีเด็กคนนึง คนเดิมมาถามหาตีนไก่ พอบอกว่าไม่มี มีแต่ลูกชิ้น ก็ทำหน้าจ๋อย แล้วก็เล่าว่า เมื่อวานตีนไก่สองตีนเพื่อนแย่งกินหมดเลย ไม่ได้กิน ก็เลยสงสาร วันต่อมาก็ทำน้ำยาตีนไก่ไปอีก
เด็กคนเดิมก็มาซื้ออีก กับเพื่อนอีก 2 คน (เด็กชาย ม.ต้น) พอวันต่อมาเด็กคนเดิมมาบอก ป้าๆ วันนี้ผมอยากกินราดแกงนะป้า ไม่ได้ซื้อป้าครับ ซึ่งเป็นวันที่ ขายไม่ได้สักจานเดียว
- ทำไมไม่ลองทำน้ำยาอย่างอื่นดู
พี่สาวบอกว่า คิดอยู่ ว่าจะลองทำกินเองก่อน ตอนนี้ถนัดทำน้ำยาแบบนี้ ถ้าน้ำยาอย่างอื่นยังไม่มั่นใจตัวเองเท่าไหร่ ว่าจะทำแบบไหนยังไง เลยทำขายอย่างเดียว
- ลองคุยกับทางโรงเรียนดีไหม ว่าขนมจีนให้มีร้านเดิมก็พอ ขอขายอย่างอื่นที่ยังไม่มีขายดีกว่าไหม
พี่สาวบอกว่า ลองคุยแล้ว ขอลองขายข้าวมันไก่ ไม่ก็ก๋วยจั๊บ หรือเย็นตาโฟ
ครูบอกว่าเรียกประชุมทุกร้านแล้ว มีสองร้านที่ไม่เห็นด้วย ครูเลยอนุญาตให้ทำยำขนมจีน หรือยำมาม่า เพิ่มได้
- ถ้าเลิกขายเลยก็ไม่ได้เหรอ
พี่สาวบอกว่า สัญญา 1 ปี ต้องขายขนมจีน ปีหน้าถึงจะประมูลขายข้าว หรือก๋วยเตี๋ยวได้ ถ้ายกเลิกก็ไม่ได้เงินคืน
- เกี่ยวไหม ว่าร้านพี่เป็นร้านใหม่ เด็กน้อยเลยไม่มากิน
พี่สาวบอกว่า ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเล่าว่า วันแรกที่มาขาย ขายได้ 200 กว่า เกือบ 300 ชาม ทั้งที่มีเจ้าเดิมขายอยู่ก่อนแล้ว วันต่อมาก็ขายได้ เขาบอกว่า ถ้าพี่ขายก๋วยเตี๋ยว หรือข้าว ก็ขายได้ทุกวันเหมือนกันแหละ เพราะเด็กน้อยชอบก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวมากกว่าขนมจีน
- ลองสมมุติเรียกเด็กน้อยให้มากินให้ฉันฟังที
พี่สาวก็เล่าว่า ก็ชวนมากินนี่แหละ ก็ยิ้มนะ ไม่ได้หน้าบูดหน้าบึ้ง แทนตัวว่าป้านี่แหละ เรียกเด็กน้อยว่าลูกๆ นี่แหละ
* ในใจลึกๆ ของเรา ที่ได้ฟังพี่สาวระบายทุกๆ อย่างออกมา เราเข้าใจความรู้สึกของแกได้เป็นอย่างดี และได้แต่คิดว่า การที่เรานั่งฟังแกพูดจนจบนั้น ได้ช่วยแบ่งเบาความท้อ ความไม่สบายใจของแกได้บ้าง ประโยคสุดท้ายก่อนกลับเราบอก "สู้ๆ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครที่จะแพ้ได้ทุกวัน"
เราก็กลับบ้านเรา แต่ในใจเรา เราก็อยากรู้คำตอบว่าพี่สาวจะทำอย่างไรต่อไป
จนวันที่ 4 มิถุนายน เราได้โทรคุยกับแม่ แม่บอกว่า "วันนี้พี่ไปขายแล้ว" เราได้ยินแบบนี้ น้ำตาไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว
เพราะเราดีใจ เราเชื่อมั่นว่าพี่สาวเราต้องทำได้ ต้องสู้กันต่อ แก้ไขกันต่อไป สู้ด้วยตัวเองแล้วภูมิใจที่สุด
ตอนเย็น เราได้คุยกับพี่สาว พี่สาวบอกว่า แรกๆ เนอะ เดี๋ยวลองปรับนู่นนี่ดู ขอบใจนะ
#จากแม่ค้าหน้าใหม่ สู่แม่ค้าหน้าคุ้น (พยายามเปลี่ยนแปลงนู่นนิด นี่หน่อย เริ่มเข้าที่เข้าทาง)
นำไปแก้ไข ปรับปรุง สร้างแรงบันดาลใจในการทำมาค้าขายดังนี้
1. ทำน้ำยาตีนไก่ แต่ลดปริมาณตีนไก่ลง เพิ่มเนื้อเป็นชิ้นๆ มากขึ้น ปรับรสชาติ จากเดิมใส่เครื่องแกงเยอะ ลดเครื่องแกงลง ไม่เผ็ด ออกรสหวานนิดๆ ถ้าใครไม่กินตีนไก่ ก็ไม่ตักให้ ตักให้แต่เนื้อๆ
2. ทำน้ำยาแบบอื่นเพิ่ม มีน้ำยาแกงเขียวหวาน น้ำยาหวาน
3. เพิ่มปริมาณเส้นจากเดิม
4. แจกลูกอมคนเม็ดสองเม็ด ให้หยิบเอาเองได้เลย
5. มีป้ายโปรโมชั่น มา 4 คน จ่าย 3 คน เท่ากับว่า จานนี้จ่ายคนละ 15 บาท
6. เด็กๆ ที่มาซื้อ เขียนชื่อหย่อนในกล่อง ไว้จับฉลากแจกรางวัลเล็กๆ น้อยๆ และ จับฉลากกินฟรี 3 จาน ทุกอาทิตย์
#ผลการเปลี่ยนแปลง
1. วันแรกเด็กเดินมายืนมุงดู เพื่ออ่านป้ายกันเยอะ วันแรกนี้ขายไม่หมด (เส้น 6 กิโล)
2. วันถัดมา เตรียมเส้นไป 7 กิโล เหลือกลับ 2 จาน
3. วันถัดๆ มา ขายหมด (เพิ่มเส้นวันละ 1 กิโล)
เราคิดว่าภายในอาทิตย์นี้ เด็กๆ น่าจะรู้จักคุ้นเคยกับร้านพี่สาวเรามากขึ้น และต้องดีกว่าเดิม ฝึกการขายไว้รอปีหน้าประมูลอย่างอื่นค่ะ
"สู้ๆ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ไม่มีใครที่จะแพ้ได้ทุกวัน"
ขอบคุณจากใจสำหรับคำแนะนำดีๆ จากเพื่อนๆ นะคะ
(พี่สาวฝากขอบคุณเพื่อนๆ มาด้วยนะคะ)
*************************************************