11/6/2562 โพสท์โดย เบิ้ดคำสิเว้า
เรียกได้ว่าเป็นสาระดีๆ สำหรับ”สับปะรด” เป็นผลไม้ที่มีตลอดทั้งปี แถมมีสารอาหารมากมาย ไม่ได้เป็นอะไรกินสับปะรดก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า “สับปะรด” ไม่เพียงอร่อยและมีประโยชน์กับร่างกาย แถมยังช่วยรักษาอาการเห็นเงาดำๆ ลอยในตา (Floater) ได้ด้วย!
จากการรายงานของ ETtoday เมื่อเร็วๆ นี้งานวิจัยชิ้นหนึ่งของจีนที่ใช้เวลาถึง 3 ปีพบว่า คนที่มีอาการเห็นเงาดำๆ ลอยในตาเมื่อกินสับปะรดวันละ 100-300 กรัมทุกวัน ผ่านไป 3 เดือนอาหารเห็นเงาดำจะลดลงได้ถึง 70% และได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science ของอเมริกาเมื่อเดือนเมษายน
นักวิจัยบอกว่า อาจเป็นไปได้ว่าเอนไซม์ในสับปะรดสามารถสลายสาร extracellular และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในวุ้นตา ชะลอการเสื่อมของวุ้นตาในร่างกายมนุษย์ที่เกิดจากออกซิเจน
จากการรายงาน งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นโดยภาควิชาเภสัชศาสตร์ของ Darien University of Science and Technology ร่วมกับโรงพยๅบาล Fuying โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมด 3 ปี ใช้สับปะรดจากไต้หวันในการบำบัด ทดลองใช้ biochemical และเภสัชวิทยๅในการกำจัดปัญหาเห็นเงาดำๆ ในตา มีผู้เข้าทดสอบ 388 คน อายุเฉลี่ย 42 ปี ผู้ป่วยจะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มตามอาการคือ น้อย กลาง มาก โดยให้พวกเขากินสับปะรด 1 ชิ้น 2 ชิ้น และ 3 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นหนัก 100 กรัม ปรากฏว่า
Hong Qiting จักษุแพทย์ผู้ทำการวิจัยเปิดเผยว่า หลังจากให้ผู้เข้ารับการทดสอบรับประทานไป 3 เดือน อาการเห็นเงาดำลอยๆ จาก 100% ก็ลดลง 45.5%, 37.8% และ 30.2% โดย % ของอาการเห็นเงาดำลอยๆ ที่ลดลง สัมพันธ์กับปริมาณสับปะรดที่รับประทานหลังอาหารกลางวัน “แปลว่ากินสับปะรดเยอะ ก็จะยิ่งลดอาการเห็นเงาดำลอยๆ ได้มาก”
ผลงานวิจัยได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science เมื่อเดือนเมษายน การรับปะทานสับปะรดเป็นประจำสามารถช่วยลดอาการเห็นเงาดำลอยๆ ในตาได้เฉลี่ย 55% – 70% หลัง 3 เดือน! ศาสตราจารย์ Xie Bojun จากภาควิชาเภสัชศาสตร์ที่ร่วมวิจัยด้วยเล่าว่า ในอดีตมีการสกัดเอนไซม์และโปรตีนหลายชนิดจากสับปะรด ซึ่งสามารถช่วยภาควิชาเภสัชศาสตร์ด้านระงับประสาท ต่อต้านการอักเสบ การบวมน้ำ ลิ่มเลือด การละลายของไฟเบอร์ รักษาอาการอักเสบเฉียบพลัน อาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ทำให้อาการความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น อาการประจำเดือนผิดปกติ ลดอาการปอดบวมน้ำ ลดน้ำหนัก และสามารถรักษาอาการเห็นเงาดำลอยๆ ในตา จอประสาทตาฉีก และอื่นๆ นี่เป็นการค้นพบครั้งแรกในโลก ที่เยี่ยมไปกว่านั้นคือไม่มีผลข้างเคียง
Hong Qiting สันนิษฐานว่าเงาดำลอยๆ สามารถรักษาได้ด้วยสับปะรด อาจเป็นเพราะสารสกัดน้ำสับปะรดอุดมไปด้วยเอนไซม์จากสับปะรด ซึ่งสามารถย่อยสลายสาร extracellular ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการดึงวุ้นในตา เรตินาฉีกขาด หรือถึงขนาดตาบอด อีกอย่างคือในสับปะรดมีวิตามิน C ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในวุ้นตา สามารถช่วยลดความเสียหายต่อตาวุ้นตาที่เกิดจากปฏิกิริยๅออกซิเจน และป้องกันต้อกระจก
สุดท้าย Hong Qiting อธิบายว่า อาการเห็นเงาดำๆ ลอยในตาเกิดจากวุ้นตามีความขุ่น จึงเห็นเป็นเงาดำๆ จึงสาเหตุใหญ่ของอาการมาจากความชรา หรือใช้สายตามากเกินไป บ่อยครั้งที่เมื่อมองกระดาษขาวหรือท้องฟ้าจะเห็นเหมือนมีเงาดำลอยๆ
แต่สุดท้ายต้องขอเตือนทุกคน แม้ว่างานวิจัยจะพบว่าการกินสับปะรดสามารถช่วยลดอาการเห็นเงาดำลอยๆ แต่สับปะรดมีปริมาณน้ำตาลสูง รับประทานมากเกินไปจะมีผลต่อปริมาณน้ำตาลในเลือด ดังนั้นผู้ป่วยที่มีอาการเบาหวาน หรืออาการที่เกี่ยวข้อง ขอแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ห้ามรับประทานแทนข้าว สำหรับทางเลือกอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา
สุดท้ายมาดูข่าวพร้อมๆ กัน
คลิป
ขอบคุณที่มา:
http://www.fastviweuk.com/?p=482
POSTJUNG
เคยเป็นกันไหม “เห็นเงาดำๆลอยในตา” งานวิจัยพบว่า “กินสับปะรด” ช่วยรักษาได้
เรียกได้ว่าเป็นสาระดีๆ สำหรับ”สับปะรด” เป็นผลไม้ที่มีตลอดทั้งปี แถมมีสารอาหารมากมาย ไม่ได้เป็นอะไรกินสับปะรดก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า “สับปะรด” ไม่เพียงอร่อยและมีประโยชน์กับร่างกาย แถมยังช่วยรักษาอาการเห็นเงาดำๆ ลอยในตา (Floater) ได้ด้วย!
จากการรายงานของ ETtoday เมื่อเร็วๆ นี้งานวิจัยชิ้นหนึ่งของจีนที่ใช้เวลาถึง 3 ปีพบว่า คนที่มีอาการเห็นเงาดำๆ ลอยในตาเมื่อกินสับปะรดวันละ 100-300 กรัมทุกวัน ผ่านไป 3 เดือนอาหารเห็นเงาดำจะลดลงได้ถึง 70% และได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science ของอเมริกาเมื่อเดือนเมษายน
นักวิจัยบอกว่า อาจเป็นไปได้ว่าเอนไซม์ในสับปะรดสามารถสลายสาร extracellular และเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในวุ้นตา ชะลอการเสื่อมของวุ้นตาในร่างกายมนุษย์ที่เกิดจากออกซิเจน
จากการรายงาน งานวิจัยนี้จัดทำขึ้นโดยภาควิชาเภสัชศาสตร์ของ Darien University of Science and Technology ร่วมกับโรงพยๅบาล Fuying โดยใช้ระยะเวลาทั้งหมด 3 ปี ใช้สับปะรดจากไต้หวันในการบำบัด ทดลองใช้ biochemical และเภสัชวิทยๅในการกำจัดปัญหาเห็นเงาดำๆ ในตา มีผู้เข้าทดสอบ 388 คน อายุเฉลี่ย 42 ปี ผู้ป่วยจะถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่มตามอาการคือ น้อย กลาง มาก โดยให้พวกเขากินสับปะรด 1 ชิ้น 2 ชิ้น และ 3 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นหนัก 100 กรัม ปรากฏว่า
Hong Qiting จักษุแพทย์ผู้ทำการวิจัยเปิดเผยว่า หลังจากให้ผู้เข้ารับการทดสอบรับประทานไป 3 เดือน อาการเห็นเงาดำลอยๆ จาก 100% ก็ลดลง 45.5%, 37.8% และ 30.2% โดย % ของอาการเห็นเงาดำลอยๆ ที่ลดลง สัมพันธ์กับปริมาณสับปะรดที่รับประทานหลังอาหารกลางวัน “แปลว่ากินสับปะรดเยอะ ก็จะยิ่งลดอาการเห็นเงาดำลอยๆ ได้มาก”
ผลงานวิจัยได้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Science เมื่อเดือนเมษายน การรับปะทานสับปะรดเป็นประจำสามารถช่วยลดอาการเห็นเงาดำลอยๆ ในตาได้เฉลี่ย 55% – 70% หลัง 3 เดือน! ศาสตราจารย์ Xie Bojun จากภาควิชาเภสัชศาสตร์ที่ร่วมวิจัยด้วยเล่าว่า ในอดีตมีการสกัดเอนไซม์และโปรตีนหลายชนิดจากสับปะรด ซึ่งสามารถช่วยภาควิชาเภสัชศาสตร์ด้านระงับประสาท ต่อต้านการอักเสบ การบวมน้ำ ลิ่มเลือด การละลายของไฟเบอร์ รักษาอาการอักเสบเฉียบพลัน อาการบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย ทำให้อาการความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น อาการประจำเดือนผิดปกติ ลดอาการปอดบวมน้ำ ลดน้ำหนัก และสามารถรักษาอาการเห็นเงาดำลอยๆ ในตา จอประสาทตาฉีก และอื่นๆ นี่เป็นการค้นพบครั้งแรกในโลก ที่เยี่ยมไปกว่านั้นคือไม่มีผลข้างเคียง
Hong Qiting สันนิษฐานว่าเงาดำลอยๆ สามารถรักษาได้ด้วยสับปะรด อาจเป็นเพราะสารสกัดน้ำสับปะรดอุดมไปด้วยเอนไซม์จากสับปะรด ซึ่งสามารถย่อยสลายสาร extracellular ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการดึงวุ้นในตา เรตินาฉีกขาด หรือถึงขนาดตาบอด อีกอย่างคือในสับปะรดมีวิตามิน C ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระในวุ้นตา สามารถช่วยลดความเสียหายต่อตาวุ้นตาที่เกิดจากปฏิกิริยๅออกซิเจน และป้องกันต้อกระจก
สุดท้าย Hong Qiting อธิบายว่า อาการเห็นเงาดำๆ ลอยในตาเกิดจากวุ้นตามีความขุ่น จึงเห็นเป็นเงาดำๆ จึงสาเหตุใหญ่ของอาการมาจากความชรา หรือใช้สายตามากเกินไป บ่อยครั้งที่เมื่อมองกระดาษขาวหรือท้องฟ้าจะเห็นเหมือนมีเงาดำลอยๆ
แต่สุดท้ายต้องขอเตือนทุกคน แม้ว่างานวิจัยจะพบว่าการกินสับปะรดสามารถช่วยลดอาการเห็นเงาดำลอยๆ แต่สับปะรดมีปริมาณน้ำตาลสูง รับประทานมากเกินไปจะมีผลต่อปริมาณน้ำตาลในเลือด ดังนั้นผู้ป่วยที่มีอาการเบาหวาน หรืออาการที่เกี่ยวข้อง ขอแนะนำให้รับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ห้ามรับประทานแทนข้าว สำหรับทางเลือกอื่นๆ ยังอยู่ในระหว่างการศึกษา
สุดท้ายมาดูข่าวพร้อมๆ กัน
คลิป
ขอบคุณที่มา: http://www.fastviweuk.com/?p=482
POSTJUNG