ได้อ่านบทความ 2 ตอน ที่ดร.คณิศ เขียนอธิบายถึงการทำงานในโครงการรถไฟเชื่อมสนามบินแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน จากมุมมองของคนทำงาน (1) https://www.prachachat.net/columns/news-335850
ไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน จากมุมมองของคนทำงาน (จบ) https://www.prachachat.net/property/news-336170
ได้ความรู้มากมาย ตอบคำถามข้อสงสัยในใจหลาย ๆ เรื่อง (ที่เคยฟังความข้างเดียวมาจาก NGO, กลุ่มโจมตี, กลุ่มคัดค้านไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ที่ผลัดกันออกมาสาดน้ำลายเรื่องโน้นทีเรื่องนี้ที) ชนิดเคลียร์คัตชัดเจนเป็นประเด็น ๆ กันไปเลย
อ่านถึงตอนจบ จับอารมณ์ได้ว่า คนทำงานที่ตั้งใจทำงานกันแทบตาย ต้องผ่านกระบวนการคิด การประสานงาน การแก้ปัญหาหลาย ๆ ขั้นหลายตอน เพื่อให้ผลกระทบต่อประเทศชาติ ต่อประชาชนน้อยที่สุด แต่กลับโดนพวกมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ วัน ๆ ไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ คอยแต่ก่นด่า หวาดระแวง แช่งชักหักกระดูก ขุดเรื่องโน้นเรื่องนี้มาโจมตี ก็เข้าใจความรู้สึกคนตั้งใจทำงานได้อย่างดีทีเดียว
อยากให้กลุ่มโจมตีทั้งหลายแหล่ ได้อ่านและคิดตามกันบ้าง เงยหน้ามองโลก ไม่ใช่เอาแต่จ้องโจมตี ก่นด่าอย่างเมามันส์ เพื่อสนุกปากสนุกมือไปวัน ๆ หรือเพียงแค่หาผลงาน เพื่อไปเบิกเงินจากต้นสังกัดอย่างเดียว หัดเปิดตาเปิดใจให้หูตาสว่างขึ้นมาบ้าง จะได้รู้ว่าคนทำงานเขามีวิธีคิดอย่างไรในการทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
ทั้งคนของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายเอกชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ เขาต้องเสียสละตัวเองขนาดไหน
อย่างคนของรัฐ ต้องเจ็บตัวแค่ไหน อย่างไร ดร.คณิศ บอกไว้ชัดเลยว่า
“...ความเสี่ยงก็เยอะ เงินเดือนราชการก็นิดเดียว พลาดก็ถูกฟ้อง ทำไม่ถูกใจคนดูก็อาจกลายเป็นจำเลยของสังคม พูดน้อยก็กลัวถูกกล่าวหาปิดข้อเท็จจริง พูดมากก็หาว่าเอาข้อมูลลับมาเปิดเผย”
ส่วนฝ่ายเอกชน เขาเข้ามาลงทุน มาร่วมแบกรับความเสี่ยงที่รัฐไม่สามารถแบกรับฝ่ายเดียวไหว ก็ต้องเห็นใจเขา การลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน จะให้เขาเข้ามาโดยไม่เห็นหนทางสร้างรายได้ สร้างกำไร เขาจะอยู่ได้อย่างไร ตรงนี้ดร.คณิศ ก็ชี้แจงให้เข้าใจได้ว่า
“การร่วมทุนคือการเอาทุนมารวมกัน กำไรด้วยกัน รับความเสี่ยงด้วยกัน อย่างเท่าเทียมกันของรัฐและเอกชน เงื่อนไขสัญญาจึงไม่เหมือนรัฐจ้างเอกชนมาก่อสร้างหรือการรับสัมปทาน ...การร่วมทุนเป็นการดึงเงินจากเอกชนให้รัฐลงทุนน้อยลง หรือรัฐได้กำไร ใช้กับโครงการที่เอกชนพอมีผลตอบแทนทางการเงิน และช่วยรัฐบาลลดภาระทางการคลังและการเป็นหนี้สาธารณะ”
มาถึงตอนนี้ โครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ก็กำลังจะลงนามและทำการก่อสร้าง ใครที่เตรียมจะวางยาอะไร ตรงไหน ให้โครงการไปต่อไม่ได้ หรือหยุดชะงักกลางคัน อ้างวาทกรรมโฮปเวลล์ ก็ขอให้วางความคิดชั่วร้ายนั้นเสียเถอะ แล้วมาช่วยกันทำประโยชน์เพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชน กันจริง ๆ ช่วยให้ประเทศไทยออกจากหลุมกับดักของตัวเอง เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างนานาอารยประเทศกันจะดีกว่าคอยขัดแข้งขัดขากันเอง
เลขาอีอีซีพ้อ ทำไฮสปีดเทรน เหนื่อยแต่ต้องสู้ วอนเห็นใจคนทำงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่ต้องบุกเบิกสร้างอนาคตใหม่ให้ประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ได้ความรู้มากมาย ตอบคำถามข้อสงสัยในใจหลาย ๆ เรื่อง (ที่เคยฟังความข้างเดียวมาจาก NGO, กลุ่มโจมตี, กลุ่มคัดค้านไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ ที่ผลัดกันออกมาสาดน้ำลายเรื่องโน้นทีเรื่องนี้ที) ชนิดเคลียร์คัตชัดเจนเป็นประเด็น ๆ กันไปเลย
อ่านถึงตอนจบ จับอารมณ์ได้ว่า คนทำงานที่ตั้งใจทำงานกันแทบตาย ต้องผ่านกระบวนการคิด การประสานงาน การแก้ปัญหาหลาย ๆ ขั้นหลายตอน เพื่อให้ผลกระทบต่อประเทศชาติ ต่อประชาชนน้อยที่สุด แต่กลับโดนพวกมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ วัน ๆ ไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ คอยแต่ก่นด่า หวาดระแวง แช่งชักหักกระดูก ขุดเรื่องโน้นเรื่องนี้มาโจมตี ก็เข้าใจความรู้สึกคนตั้งใจทำงานได้อย่างดีทีเดียว
อยากให้กลุ่มโจมตีทั้งหลายแหล่ ได้อ่านและคิดตามกันบ้าง เงยหน้ามองโลก ไม่ใช่เอาแต่จ้องโจมตี ก่นด่าอย่างเมามันส์ เพื่อสนุกปากสนุกมือไปวัน ๆ หรือเพียงแค่หาผลงาน เพื่อไปเบิกเงินจากต้นสังกัดอย่างเดียว หัดเปิดตาเปิดใจให้หูตาสว่างขึ้นมาบ้าง จะได้รู้ว่าคนทำงานเขามีวิธีคิดอย่างไรในการทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
ทั้งคนของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายเอกชนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ เขาต้องเสียสละตัวเองขนาดไหน
อย่างคนของรัฐ ต้องเจ็บตัวแค่ไหน อย่างไร ดร.คณิศ บอกไว้ชัดเลยว่า “...ความเสี่ยงก็เยอะ เงินเดือนราชการก็นิดเดียว พลาดก็ถูกฟ้อง ทำไม่ถูกใจคนดูก็อาจกลายเป็นจำเลยของสังคม พูดน้อยก็กลัวถูกกล่าวหาปิดข้อเท็จจริง พูดมากก็หาว่าเอาข้อมูลลับมาเปิดเผย”
ส่วนฝ่ายเอกชน เขาเข้ามาลงทุน มาร่วมแบกรับความเสี่ยงที่รัฐไม่สามารถแบกรับฝ่ายเดียวไหว ก็ต้องเห็นใจเขา การลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสนล้าน จะให้เขาเข้ามาโดยไม่เห็นหนทางสร้างรายได้ สร้างกำไร เขาจะอยู่ได้อย่างไร ตรงนี้ดร.คณิศ ก็ชี้แจงให้เข้าใจได้ว่า
“การร่วมทุนคือการเอาทุนมารวมกัน กำไรด้วยกัน รับความเสี่ยงด้วยกัน อย่างเท่าเทียมกันของรัฐและเอกชน เงื่อนไขสัญญาจึงไม่เหมือนรัฐจ้างเอกชนมาก่อสร้างหรือการรับสัมปทาน ...การร่วมทุนเป็นการดึงเงินจากเอกชนให้รัฐลงทุนน้อยลง หรือรัฐได้กำไร ใช้กับโครงการที่เอกชนพอมีผลตอบแทนทางการเงิน และช่วยรัฐบาลลดภาระทางการคลังและการเป็นหนี้สาธารณะ”
มาถึงตอนนี้ โครงการไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ก็กำลังจะลงนามและทำการก่อสร้าง ใครที่เตรียมจะวางยาอะไร ตรงไหน ให้โครงการไปต่อไม่ได้ หรือหยุดชะงักกลางคัน อ้างวาทกรรมโฮปเวลล์ ก็ขอให้วางความคิดชั่วร้ายนั้นเสียเถอะ แล้วมาช่วยกันทำประโยชน์เพื่อชาติ เพื่อบ้านเมือง เพื่อประชาชน กันจริง ๆ ช่วยให้ประเทศไทยออกจากหลุมกับดักของตัวเอง เพื่อก้าวไปข้างหน้าอย่างนานาอารยประเทศกันจะดีกว่าคอยขัดแข้งขัดขากันเอง