คิท แฮริงตัน เครียดเพราะกดดันชีวิต ไม่ใช่เพราะบท ส่วนโซฟี เทอร์เนอร์ชื่นชมผลงาน Game of thrones

ไม่ว่าจะเป็นข่าวสังคม การเมือง  ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ทุกอย่างมีการปั่นกระแส เต้าข่าวเล่นสำนวนครับ ไว้ให้คนมาเมาท์มาวิจารณ์สนุกสนาน  

แต่ก็ต้องขออภัยสื่อประเภทนั้นด้วยนะครับ เพราะยุคนี้มันก็มีคนที่ชอบออกมาหักกระแสและชี้แจงข้อมูลจริงเหมือนกัน  เหมือนเราเสพข่าวฟุตบอล ช่วงนี้ข่าวโม้เยอะ เขียนสำนวนกันเอง แล้วก็จะมีชาแนลหรือสื่อที่ต้องคอยมาชี้แจงมูลจริง


ในช่วงที่มีกระแสวิจารณ์ซีซั่นสุดท้าย คิท ได้ออกมาตอบโต้คนวิจารณ์ เขาเป็นคนตรงๆครับ ใครจะเกลียดรับไม่ได้ก็เกลียดไปครับแต่ผมชอบ เขาด่าคนวิจารณ์ว่า "f..k themselves"  


ส่วนโรคของคิท แฮริงตัน ก็คือโรคเดียวกับเคิร์ท โคเบนนั่นแหละครับ เวลาดังขึ้นมา มีคนรักมากๆ รู้สึกไม่พอใจ กดดันทำตัวไม่ถูก ลักษณะนี้วัยเด็กคือมักมีความเป็นซึมเศร้ามาก่อน และเคยถูกสังคมหรือเพื่อนๆเกลียดมาก่อน  พอกลายมาเป็นคนที่ถูกชอบ เขารับกับความรู้สึกไม่ไหว  เคิร์ทเคยพูดทำนองนี้


และตอนนี้คิทก็เจอความเครียดอยู่ในภาวะนี้เหมือนกัน ก็เลยหาทางออกด้วยการติดเหล้า แต่โชคดีที่ยอมเข้าบำบัด ไม่งั้นอาจจบลงด้วยการฆ่าตัวตาย เหมือน Linkin Park ก็ได้ ส่วน Nirvana ถ้าการฆ่าตัวตายเป็นความจริง ก็สาเหตุมาจากที่เคิร์ทเครียดล่ะครับ

ส่วนเรื่องคิท ไอ้ที่มาเขียนสำนวนกันเองว่าเศร้าเพราะบท มันเป็นการเล่นกับกระแสเฉยๆครับ คนไม่พอใจเยอะ บางสื่อเขาเลยฉวยกระแสตรงนี้มาบิดเบือนข่าว (แต่ถ้าเรื่องความเศร้าหลังงานจบ อันนี้มีส่วนจริงครับ เพราะ 10 ปีมันเหมือนตรงนั้นเป็นครอบครัวเขาไปแล้ว)











มูลข่าวมันมีเท่านี้เองครับ ที่เหลือน่ะเอาไปปั้นแต่งดราม่าเองล้วนๆ


คนดูล้านกว่าคนไม่พอใจอยากให้สร้างใหม่ แต่แฟนๆอีกเป็น 10 กว่าล้านที่พอใจก็มี ที่ไปปรากฏตัวในชาแนลที่สนับสนุนและชี้แจงเนื้อหา  อันนี้ก็แล้วแต่เลยครับ ความคิดและความชอบมันจะให้ทุกคนตรงกันเป็นไปไม่ได้  เพียงแต่จะบอกว่าคนทำงานมาเขาพอใจกัน

บางคนก็กล้าออกมาพูดตอบโต้กระแส อย่างโซฟี เทอร์เนอร์






(อันนี้ทิ้งท้ายมีปั่นนิดๆ ยั่วกระตุ้นต่อมคนเกลียดซานซ่า ^^)

ที่ยกมาคือผมให้ดูข้อมูลที่ว่าส่วนไหนเป็นความคิดเห็นของคนในข่าว ส่วนไหนเป็นสำนวนที่คอลัมนิสต์ใส่สีเอาเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่