วันนี้นายสิระ เจนจาคะ สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เผย สมาชิกพรรคพลังประชารัฐเห็นพ้องกันว่า ควรดูแลกระทรวงสำคัญเช่นคมนาคมและเกษตรฯ เพื่อความเหมาะสมในฐานะเป็นพรรคแกนนำและต้องทำตามสัญญาที่หาเสียงไว้กับประชาชน แม้มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าได้จัดสรรทั้ง 2 กระทรวงให้พรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว
นายสิระ เจนจาคะ ขณะนี้ภายในพรรคพลังประชารัฐ กำลังมีความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับกระแสข่าวการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายที่พวกเราหาเสียงไว้กับประชาชนทั่วประเทศ จึงอยากฝากไปยังนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ผู้ได้รับมอบหมายให้ประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล สมควรต้องได้ดูแลกระทรวงสำคัญต่างๆ เพื่อสานงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งขับเคลื่อนงานนโยบายที่หาเสียงไว้
พรรคพลังประชารัฐควรได้กระทรวงสำคัญที่ดูแลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ริเริ่มไว้หลายโครงการ รวมทั้งการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตรที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วน หากพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ดูแลกระทรวงที่สามารถทำงานเข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง จะเกิดปัญหาในระยะยาว เพราะจะไม่สามารถทำงานตามที่รับปากกับประชาชนได้ ผู้ใหญ่ในพรรคต้องให้ความสำคัญว่าเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หากจะทำการเมืองต่อไปต้องดูแลภาคเกษตร ไม่ว่าชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ พืชผลทางการเกษตร ส.ป.ก.4-01 ซึ่งสส.ส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะเราเคยหาเสียงไว้ หากไม่ได้ดูแลกระทรวงสำคัญ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ไม่สามารถผลักดันโครงการต่างๆ ได้เต็มที่
ดังนั้น อยากให้ผู้บริหารพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เราเคยรับปากกับประชาชนในการหาเสียงไว้ด้วย เพราะนโยบายเหล่านี้ทำให้เราได้สส.ถึง 116 ที่นั่ง อีกทั้งเป็นเพียงพรรคเดียวที่มีสส.จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เราไม่ควรโกหกประชาชน และควรปกป้องสิทธิในฐานะพรรคแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล
ความคืบหน้าในการการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากการโหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐจะเร่งหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติในเรื่องของการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมถึงพิจารณารายชื่อผู้มีความเหมาะสมเป็นรัฐมนตรีทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลและภายในพรรคพลังประชารัฐเอง เพื่อเตรียมนำรายชื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ดุลพินิจพิจารณาความเหมาะสม และอาจต้องมีการเกลี่ยกระทรวงใหม่อีกครั้งเพื่อขอคืนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงคมนาคม
ก่อนหน้านี้ผู้ประสานการพูดคุยขั้นต้นกับพรรคร่วม ได้เสนอทั้ง 2 กระทรวงให้กับให้กับพรรคร่วมแล้ว แต่แกนนำกลุ่มต่างๆในพรรคไม่พอใจ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตร เพราะอยากได้กระทรวงใหญ่มาดูแลเองและเปลี่ยนผู้เจรจาเป็นแกนนำที่มาจากสายการเมืองในพรรคโดยตรง เพื่อป้องกันข้อครหาคนนอกเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของพรรค
https://news.ch7.com/detail/345506?fbclid=IwAR1Gj-awfTqSkEYYxHuBPGo0m_eEehIwKCnvaaJGFZ-rsD5XfHoQW6YqvPU
ไม่ลือแล้วจ้า เอาจริง! พปชร.ทวงคืน คมนาคม-เกษตรฯ อ้างเพื่อความเหมาะสมของพรรคแกนนำ
นายสิระ เจนจาคะ ขณะนี้ภายในพรรคพลังประชารัฐ กำลังมีความกังวลอย่างมาก เกี่ยวกับกระแสข่าวการแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายที่พวกเราหาเสียงไว้กับประชาชนทั่วประเทศ จึงอยากฝากไปยังนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ผู้ได้รับมอบหมายให้ประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล สมควรต้องได้ดูแลกระทรวงสำคัญต่างๆ เพื่อสานงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งขับเคลื่อนงานนโยบายที่หาเสียงไว้
พรรคพลังประชารัฐควรได้กระทรวงสำคัญที่ดูแลเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ริเริ่มไว้หลายโครงการ รวมทั้งการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตรที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วน หากพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ดูแลกระทรวงที่สามารถทำงานเข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง จะเกิดปัญหาในระยะยาว เพราะจะไม่สามารถทำงานตามที่รับปากกับประชาชนได้ ผู้ใหญ่ในพรรคต้องให้ความสำคัญว่าเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หากจะทำการเมืองต่อไปต้องดูแลภาคเกษตร ไม่ว่าชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ พืชผลทางการเกษตร ส.ป.ก.4-01 ซึ่งสส.ส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะเราเคยหาเสียงไว้ หากไม่ได้ดูแลกระทรวงสำคัญ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ไม่สามารถผลักดันโครงการต่างๆ ได้เต็มที่
ดังนั้น อยากให้ผู้บริหารพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เราเคยรับปากกับประชาชนในการหาเสียงไว้ด้วย เพราะนโยบายเหล่านี้ทำให้เราได้สส.ถึง 116 ที่นั่ง อีกทั้งเป็นเพียงพรรคเดียวที่มีสส.จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เราไม่ควรโกหกประชาชน และควรปกป้องสิทธิในฐานะพรรคแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล
ความคืบหน้าในการการจัดตั้งรัฐบาล หลังจากการโหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพลังประชารัฐจะเร่งหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติในเรื่องของการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมถึงพิจารณารายชื่อผู้มีความเหมาะสมเป็นรัฐมนตรีทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลและภายในพรรคพลังประชารัฐเอง เพื่อเตรียมนำรายชื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ดุลพินิจพิจารณาความเหมาะสม และอาจต้องมีการเกลี่ยกระทรวงใหม่อีกครั้งเพื่อขอคืนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงคมนาคม
ก่อนหน้านี้ผู้ประสานการพูดคุยขั้นต้นกับพรรคร่วม ได้เสนอทั้ง 2 กระทรวงให้กับให้กับพรรคร่วมแล้ว แต่แกนนำกลุ่มต่างๆในพรรคไม่พอใจ โดยเฉพาะกลุ่มสามมิตร เพราะอยากได้กระทรวงใหญ่มาดูแลเองและเปลี่ยนผู้เจรจาเป็นแกนนำที่มาจากสายการเมืองในพรรคโดยตรง เพื่อป้องกันข้อครหาคนนอกเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของพรรค
https://news.ch7.com/detail/345506?fbclid=IwAR1Gj-awfTqSkEYYxHuBPGo0m_eEehIwKCnvaaJGFZ-rsD5XfHoQW6YqvPU