ขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะคะ จขกท. ชื่อ โบว์ และเจ้าบ่าวของโบว์ ชื่อ โฟ๊ต ค่ะ อายุ 30 ปีเท่ากัน

โดยเราสองคนเพิ่งจัดงานแต่งงานไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2561 ค่ะ

ก็อย่างที่โบว์บอกนะคะว่าสิ่งแรกที่คู่รักที่มีแพลนแต่งงานจะต้องมองหาก็คือ สถานที่แต่งงาน สำหรับคู่ของโบว์ เราสองคนไม่อยากจัดงานที่โรงแรม เพราะมองว่าสถานที่ถูกจำกัดอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม จึงตกลงกันว่าอาจจะหาสถานที่ที่เป็นเรือนไทยหรือเป็นสวนไปเลย ซึ่งเราก็ค้นหาอยู่หลายที่เหมือนกัน และพี่สาวโฟ๊ตก็แนะนำ เรือนประกายเพชร เนื่องจากเคยไปงานแต่งที่จัดที่นี่และยังเป็นสถานที่ที่ถือว่าใหม่มาก เราสองคนจึงค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตทันทีค่ะ บอกเลยว่าพอเห็นแล้วรู้สึกชอบมาก เนื่องจากสถานที่จะเป็นเรือนไทยประยุกต์สไตล์โคโลเนียลสีขาวติดทะเลสาบ เลยตัดสินใจจะลองเข้าไปดูสถานที่จริงเลย ซึ่งวันที่เข้าไปเราก็พาคุณพ่อคุณแม่โฟ๊ตไปด้วยเพื่อช่วยตัดสินใจค่ะ

สำหรับวันที่เดินทางไปดูสถานที่นั้น เราเลือกไปวันเสาร์ค่ะ ระหว่างทางที่ไปก็มีการคุยกับโฟ๊ตนะคะว่ามาดูสถานที่ก่อนนะ จะยังไม่จองในวันนี้ เพราะสถานที่อยู่นอกเมืองดูแล้วค่อนข้างไกลไป กลัวแขกเดินทางมาไม่ถูก แต่พอมาถึงแล้วบอกเลยว่าความคิดเปลี่ยนค่ะ 555 เพราะสถานที่เค้าสวยมากกกกกก ตรงตามสเปคที่ต้องการเลย แถมยังติดทะเลสาบ บรรยากาศดี มีลมธรรมชาติพัดเบาๆมาตลอด และที่เรือนประกายเพชร โบว์ก็ได้เจอกับ พี่วิ ที่เข้ามาแนะนำพร้อมพาเดินดูสถานที่ ซึ่งพี่วิบอกว่าโชคดีมากที่วันนี้ไม่มีจัดงาน เพราะช่วงนี้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์จะมีจัดงานตลอด (โบว์เข้าไปดูสถานที่เดือนกันยายน 2560) สำหรับแพ็คเกจของที่นี่ก็จะมีทั้งงานเช้าถึงบ่าย, งานบ่ายถึงเย็น, หรือจะจัดทั้งงานเช้าและงานเย็นเลยก็ได้ ทางสถานที่สามารถจัดให้ได้ตามที่เราต้องการค่ะ โดยแพ็คเกจของที่นี่จะค่อนข้างครอบคลุมทุกอย่างเลยนะคะ ตั้งแต่พิธีสงฆ์ แห่ขันหมาก พิธีสู่ขอ พิธีรับไหว้ พิธีรดน้ำสังข์ และงานเลี้ยงช่วงกลางวัน ทางสถานที่จะจัดเตรียมของที่จะใช้ในพิธีให้ นิมนต์พระสงฆ์ให้ รวมไปถึงการถ่าย Pre-Wedding และชุดแต่งงานทั้งวันจริงและวันถ่าย Pre-Wedding ทางสถานที่ก็เตรียมให้หมด เรียกได้ว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวมาแต่ตัวเตรียมเข้าพิธีอย่างเดียวเลยค่ะ

และนอกจากเรือนประกายเพชรแล้ว พี่วิยังบอกอีกว่ามีสถานที่จัดงานแต่งงานที่อยู่ในเครืออีก 3 ที่ให้เลือก คือเรือนไทยเบญจรงค์, The Crystal Studio และ The Emerald Studio ค่ะ

จากภาพจะเป็นบรรยากาศของเรือนประกายเพชร ทั้งทางเข้าด้านหน้า บริเวณสนามหญ้า และด้านข้างที่เป็นวิวทะเลสาบ

ซึ่งถ่ายโดยช่างภาพในวันแต่งงานของโบว์ค่ะ

พอเดินดูสถานที่และได้คุยรายละเอียดเรื่องแพ็คเกจแล้ว โบว์และโฟ๊ตก็ตัดสินใจจองทันทีเลยค่ะ ด้วยเหตุผลหลักๆ 3 ข้อคือ

1. สถานที่และบรรยากาศตรงตามที่เราสองคนต้องการ
2. แพ็คเกจของทางสถานที่ค่อนข้างจะครอบคลุมทุกอย่าง ซึ่งเหมาะมากสำหรับคู่ที่ไม่ค่อยมีเวลาเตรียมงาน เพราะทุกอย่างทางสถานที่จะเซ็ทให้เราหมด มีออแกไนซ์คอยรันงาน มีนายพิธี มีอุปกรณ์ทุกอย่างให้ แทบจะไม่ต้องเหนื่อยหรือกังวลอะไรเลยค่ะ
3. ราคาแพ็คเกจอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ โดยแพ็คเกจที่โบว์เลือกจะเป็นแพ็คเกจราคา 299,999 บาท(ราคานี้โบว์จองในเดือนกันยายน 2560 ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือยังนะคะ) ซึ่งแพ็คเกจนี้จะครอบคลุมเกือบทุกอย่างเลยค่ะ

หลังจากทำการมัดจำและเลือกวันที่จะจัดงานแล้ว พี่วิก็ให้เอกสารรายละเอียดแพ็คเกจและสิ่งที่เราต้องเตรียมมาให้ทางสถานที่ค่ะ โดยก่อนงานจริงพี่วิจะมี Timeline นัดหมายเป็นช่วงๆ เช่น ช่วงกลางปีนัดวันถ่าย Pre-Wedding, ช่วงก่อนวันงาน 1 เดือน นัดคุยรายละเอียดงาน และก่อนวันงาน 1 อาทิตย์นัดบรีฟงานและนำของที่เราต้องเตรียมเองมาเก็บที่สถานที่ คือประทับใจจุดนี้มากเพราะทุกอย่างจะถูกดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน พี่วิและทีมงานทุกท่านเป็นมืออาชีพมาก ตอบคำถาม ตอบข้อกังวลของเราเราแบบเคลียร์ทุกจุดค่ะ

...และแล้วก็ถึงวันที่โบว์เชื่อว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคู่จะต้องตื่นเต้นแน่ๆ ก็คือวันแต่งงาน แต่กรณีของโบว์และโฟ๊ตเราสองคนแทบจะไม่กังวลใดๆเลยค่ะ เพราะพี่วิให้เราสองคนมานอนที่เรือนประกายเพชรก่อนงานจริง 1 วัน คือพอเราเข้าไปถึงก็จะเห็นการเตรียมงาน การจัดสถานที่ ทำให้เราสามารถเห็นหน้างานจริงได้ หากต้องการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมตรงไหนก็สามารถแจ้งทางพี่วิได้เลย ทำให้มั่นใจว่าทุกสิ่งจะเป็นไปตามที่เราต้องการและวางแผนไว้แน่นอนค่ะ

ถึงแม้จะเลือกจัดงานเช้าแค่ไหน ทางพี่วิและทีมงานเรือนประกายเพชรก็เตรียมพร้อมในส่วนของสถานที่และพิธีการมากค่ะ สำหรับนายพิธี ต้องขอชื่นชมว่ามีความรู้และความเชี่ยวชาญเรื่องพิธีแต่งงานโบราณมาก ก่อนเริ่มงานนายพิธีจะแจ้งรายละเอียดของพิธีคร่าวๆ และมีคำแนะนำให้คู่บ่าวสาวผ่อนคลาย ซึ่งสิ่งที่นายพิธีย้ำกับโบว์คือหน้าต้องยิ้ม เหนื่อยก็ให้ยิ้มเข้าไว้ จะทำให้ภาพออกมาสวย สำหรับเรื่องพิธีการไม่ต้องกังวลว่าจะจำไม่ได้เนื่องจากมีลำดับขั้นตอนค่อนข้างเยอะ ทางนายพิธีจะคอยบอกตลอดค่ะ ทำให้โบว์สบายใจไปเยอะเลย ที่บ่าวสาวต้องโฟกัสก็คือยิ้มและไม่ต้องเกร็งค่ะ

ตลอดการจัดงาน ทั้งพิธีไทยและพิธีมงคลสมรส พี่วิจะคอยดูแลตลอดเป็นอย่างดีค่ะ ทั้งเอาน้ำมาให้ดื่ม ทั้งคอยดูแลความเรียบร้อยของงาน ทั้งควบคุมพิธีการแต่ละขั้นตอนให้เสร็จสิ้นตรงตามเวลาที่กำหนด อันนี้ขอชื่นชมมากๆค่ะ เพราะทำให้งานแต่งงานของโบว์กับโฟ๊ต ซึ่งถือว่าเป็นงานที่สำคัญในชีวิตของเราสองคนดำเนินไปอย่างราบรื่น ที่สำคัญ แขกที่มาร่วมงานทุกคนชมว่าสถานที่สวยมากกก อาจจะไกลและหายากหน่อย แต่พอมาเห็นแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่จัดงานแต่งงานที่สวยแบบนี้ แถมมีมุมให้ถ่ายรูปเยอะด้วย ดังนั้น โบว์เลยถือโอกาสนี้มารีวิวสถานที่ซะหน่อย หากบ่าวสาวคู่ไหนกำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานที่ค่อนข้างจะมีทุกอย่างครบ แบบว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวแทบจะมาแต่ตัว ก็อยากแนะนำเรือนประกายเพชรไปพิจารณาดูนะคะ

เครดิตเพิ่มเติม
- ช่างกล้องในวันแต่งจริง โบว์เลือกใช้บริการทีมงานเป็นเอก หากท่านไหนสนใจ สามารถเข้าไปดูผลงานได้นะคะ >> www.akei789.com
- ชุดเพื่อนเจ้าสาว จากร้านช่อนาง >> goo.gl/bdVyxm