สวัสดีพี่น้องชาว pantip นี่เป็นรีวิวแรกในเว็บ pantip เลย พอดีอยากจะแชร์ประสบการณ์จัดงานแต่งงานให้คนที่อยากจัดเองแบบไม่จ้างออแกไนซ์เซอร์ จะทุลักทุเลขนาดไหน จะรอดหรือไม่เพื่อเป็นแนวทางให้คู่อื่นๆ นำไปประยุกต์ใช้ได้ครับ

ออกตัวว่าเขียนไม่ค่อยเก่ง จะพยายามเขียนในรายละเอียดให้ได้มากที่สุด ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

งานเราจัดเมื่อเดือน พฤศจิกายน ปีที่แล้ว อ่านแต่รีวิวของคนอื่นเลยอยากแบ่งปันประสบการณ์ของเราเองครับ ^^

ชมรูปเปิดหัวไปพลางๆก่อนครับ เพราะหลังจากนี้จะพิมพ์ยาวหน่อยครับ
หมายเหตุ : ทุกอย่างที่รีวิว เป็นความชอบ และเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ โปรดใช้วิจารณญาณ และดุลยพินิจของแต่ละบุคคลในการตัดสินใจด้วยครับ

เนื่องจากเกรงว่ากระทู้จะยาวไป ขอแยกเป็น 3 ตอน จะได้หาอ่านง่ายๆ แล้วกันนะครับ

ตอนที่ 1 ขั้นหาฤกษ์และสถานที่
ตอนที่ 2 ขั้นเตรียมงานต่างๆ  >> https://ppantip.com/topic/36791643/comment2
ตอนที่ 3 พิธีวันงานและงานเลี้ยง  >> https://ppantip.com/topic/36791643/comment5

ตอนที่ 1 ขั้นหาฤกษ์และสถานที่
-ขั้นตอนนี้ อาจจะเขียนยาวหน่อยไม่ค่อยมีรูปสักเท่าไหร่ เพราะอยากเขียนให้คนที่กำลังจะแต่งงานได้เป็นแนวทางในการเลือกสถานที่นะครับ
โจทย์แรกของงานแต่งงาน ของ จขกท. และ แฟน คือ

1. ไม่ไปจัดงานที่บ้านเจ้าสาว
เหตุผล คือ บ้านเจ้าบ่าว อยู่สุรินทร์ บ้านเจ้าสาว อยู่นราธิวาส
แต่ทั้งคู่ทำงานที่กรุงเทพ ไม่สะดวกไปเตรียมงานที่บ้านเจ้าสาว ไหนจะสถานที่ต่างๆนาๆ เชิญแขกอีก
คุณพ่อและคุณแม่เจ้าสาวเกษียณแล้ว แค่เลี้ยงหลานยังเหนื่อย ให้มาเตรียมงานด้วยคงไม่ไหว
เลยปรึกษากับทางผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายแล้ว ตกลงตัดสินใจจะจัดงานพิธีหมั้นและงานเลี้ยงที่กรุงเทพทั้งหมด
ครึ่งทางของทั้งสองบ้าน แล้วหลังจากนั้นค่อยลงไปไหวญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองบ้านทีหลัง

โจทย์แรกผ่านไปเหมือนจะราบรื่น แต่ยังมีอุปสรรคอีกหลายอย่าง โปรดติดตาม....

2.โจทย์สองคือ ต้องเลือกวันก่อนพอได้วันจะได้ไปหาสถานที่จัดงาน
เราทั้งคู่ไม่ซีเรียสเรื่องวันจัดงานมาก ไม่จำเป็นต้องตรงฤกษ์ดีฤกษ์งามอะไรมาก ฤกษ์สะดวกดีสุด อยากได้วันธรรมดาด้วยซ้ำ เพราะวันธรรมดา จะหาสถานที่จัดงานได้ง่ายมาก ราคายังลดได้อีก
แต่ทว่า โดนผู้ใหญ่เบรก 555 ต้องแต่เดือนคู่นะ เดือนคี่ห้ามแต่งนะ ห้ามแต่งวันอาทิตย์นะ ห้ามเลยเดือนนี้มั่ง
วันนี้ไม่ดี วันนั้นไม่โอ สรุปคุยไปคุยมาได้ ข้อสรุป มา 2 วัน
คือ 12 พฤศจิกายน 2559 หรือ 19 พฤศจิกายน 2559 เป็นวันเสาร์ทั้งคู่ ตรงช่วงเดือนพีคของงานแต่งงานอีก !!

ได้รู้วันช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 59 เท่ากับเราทั้งคู่มีเวลาเตรียมงาน 8-9 เดือน บางคู่อาจชะล่าใจว่าเวลาเหลือเฟือ
แต่อยากบอกว่าเฉียดฉิวเหมือนกัน

3.โจทย์สาม ได้วันแต่งงานแล้ว ก็หาสถานที่จัดงานแต่งงานกันดีกว่า
โจทย์ของเราทั้งคู่ มีอยู่ว่า
หลักๆ ไม่เอางานโรงแรม ไม่เอาโต๊ะจีน เอาเป็นบุฟเฟต์
แขกตอนแรกตีไว้ไม่เกิน 200 คนงานเล็กๆมีแต่ญาติๆและเพื่อนสนิท เพราะไม่ได้จัดที่บ้าน ไม่ค่อยมีแขกพ่อแขกแม่มาเยอะ งานเช้าพิธีไทย เลี้ยงบุฟเฟต์ในสวนสนามหญ้าไรงี้ มีโฟล์คซองเล่นสบายๆ ได้พูดคุยกับเพื่อนสนิท ง่ายๆชิวๆ
แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด ลองคุยกับทางผู้ใหญ่แรกๆ ท่านยังมองภาพไม่ออกว่าถ้าไม่เอางานโรงแรม ไม่โต๊ะจีนแบบที่เขาเคยไปมันจะเป็นยังไง กังวลต่างๆนาๆ เราต้องเตรียมข้อมูลแบบพรีเซนต์งานกันเลยทีเดียว 555

ได้โจทย์มาแล้ว เริ่มตีโจทย์ก่อน
ไม่เอางานโรงแรม โชคดีที่ก่อนหน้านั้นได้เราทั้งคู่ได้มีโอกาสไปร่วมงานแต่งงานของรุ่นน้องคนนึงที่บ้านมหาสวัสดิ์
แถวราชพฤกษ์ เป็นงานแต่งเช้าเลี้ยงเที่ยง บรรยากาศเป็นบ้านเรือนไทยมีสนามหญ้าสีเขียวติดคลองมหาสวัสดิ์
เห็นแล้วชอบเลย สถานที่สวย บรรยากาศพิธีต่างๆ ต่างกับงานโรงแรมโดยสิ้นเชิง
งานน่ารักแขกมาร่วมงานประมาณ 300 คน แต่งเช้าเลี้ยงเที่ยง แบบบุฟเฟ่ต์ ไม่เหนื่อยด้วย
ตอบโจทย์ได้ดีมากๆ เราทั้งคู่เลยตัดสินใจได้ว่า
จะจัดที่เรือนไทยและแต่งเช้าเลี้ยงเที่ยง แบบบุฟเฟต์ ด้วย
มาตามกันดูสิว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่

**เรื่องหาสถานที่จัดงาน จะเขียนรายละเอียดไว้เยอะหน่อยนะครับ เพราะเขียนจากประสบการณ์จริงที่ได้สอบถามและรวมรวมมาครับ

3.1 ขั้นตอนหาสถานที่
ได้แนวทางงานของตัวเองมาแล้ว ก็เริ่มหาสถานที่กันเลยโจทย์คือบ้านเรือนไทย
บางคนอาจจะบอกว่า อ้าวชอบที่บ้านมหาสวัสดิ์ เคยไปร่วมงานแล้ว ก็จองเลยสิ ช้าก่อน มันมีโจทย์ย่อยๆออกมาอีก

   - บ้านของเราอยู่ที่ รามอินทรา 109 ครั้นจะจองที่นี่คนละฝั่งกรุงเทพเลย ไม่สะดวกหลายๆอย่าง จึงต้องเริ่มหาเรือนไทยใกล้บ้านหรือไม่ไกลมาก

เริ่มต้นค้นหา ใช้  Google ให้เป็นประโยชน์ search หาเรือนไทยใกล้บ้านมา list ไว้ได้ดังนี้
(ตามที่ชอบมากที่สุดโดยยังไม่เห็นสถานที่จริงและได้คุยรายละเอียด)

1.เรือนไทยรามอินทรา สถานที่อยู่ รามอินทรา40
http://www.rueanthai-raminthra.co.th/?hl=th
(ใกล้บ้าน มีรีวิวอยู่บ้าง เรือนสวย รองรับจำนวนแขกได้ตามต้องการ)

2.เรือนไทยแจ้งวัฒนะ สถานที่อยู่เยื้องๆกับศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
https://www.thaihousevenue.com/
(ไกลบ้านมาหน่อย แต่เริ่มถามข้อมูลก็ส่งแพ็คเกจมาให้อย่างรวดเร็ว ตอบเร็ว)

3.เรือนเจ้าสาวรัชวิภา อยู่ถนนวิภาวดีรังสิต
http://www.ruenjoawsao.com/ruenjoawsao2.htm
(ดูแพ็คเกจในเว็บ ราคาไม่แพง คนไปจัดที่นี่เยอะ)

4.เรือนไทยมหานคร สถานที่อยู่ที่ถนนเกษตร-นวมินทร์  เครือเดียวกันกับ เรือนไทย by ลลิตา มี 4 ที่
https://www.ruenthaibylalita.com/เรือนไทยมหานคร-40524.page    
(ใจกลางเมือง มาง่ายเดินทางสะดวก เก็บไว้ในลิสต์)

5.เทวา บูติค โฮเทล เป็นโรงแรมที่พักมีเรือนไทยสวยงาม สถานที่อยู่ในซอยแจ้งวัฒนะ 13
http://tewahotel.com/wedding/
(สถานที่สวยมากๆ ต้องไปดูสักหน่อย)

6.เรือนไทยสุขุมวิท50 สถานที่อยู่ที่ซอยสุขุมวิท 50
https://www.ruenthaisukhumvit50.com/
(พอมีรีวิวอยู่บ้าง เก็บไว้ในลิสต์)

7.เรือนไทยเบญจรงค์ สถานที่อยู่ที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
http://www.benjarongwedding.com/
(แอบไกลบ้าน แต่เก็บๆไว้ก่อน เผื่อสำรอง)

8.บ้านมหาสวัสดิ์ สถานที่อยู่ที่ แถวราชพฤกษ์
https://www.baanmahasawat.com
(แอบไกลบ้าน แต่ชอบ เก็บไว้เผื่อเลือก)

9.เรือนไทยแน่งน้อย สถานที่อยู่ที่ ถนนศรีนครินทร์ เทพารักษ์
**อันนี้หาเว็บของเรือนไทยไม่ได้เลย มีแต่ของออแกไนซ์
(เรือนใหญ่อลังการ น่าจะแพง ใช้ถ่ายละครด้วย)

10.บ้านเรือนไทยอ่อนนุช สถานที่อยู่ที่ถนนอ่อนนุช ซอยอ่อนนุช66
http://rueanthaionnut.com/index.php/homepage
(เรือนไทยหลังเล็กๆ ในซอย ไม่ค่อยมีรีวิว แรกๆไม่ได้สนใจ ไปดูสถานที่หลังสุดเลย แต่เลือกที่นี่เพราะอะไร โปรดติดตามนะครับ)

*** ในส่วนของรูปสถานที่ ไม่ได้แนบไว้ สามารถชมรูปจากทางเว็บไซต์และเฟสบุ๊คของแต่ละสถานที่ได้เลยครับ ***
- ส่วนพวกเรือนไทยศาลายา เรือนไทยฝั่งธนฯ หรือปิ่นเกล้า นั้น ไม่ได้อยู่ในลิสต์ ตัดออกเพราะไม่สะดวกไกลบ้านครับ

นอกจากเรือนไทยแท้ๆแล้ว ก็ยังมองพวกสถานที่ที่เขารับจัดงานไว้เป็นทางเลือกอีกด้วย เช่น สยามสมาคม , บ้านหม่อมราชวงค์ คึกฤทธิ์ ปราโมช , ร้าน Mellow Garden , Subdio Garden , The Pud Garden, โพธาลัย , บ้านก้ามปู โดยยังคง concept มีสวนสนามหญ้า. บรรยากาศสบายๆ ชิวๆ

ได้สถานที่คร่าวๆมาเท่านี้เยอะมากๆ (ความจริงเยอะกว่านี้ แต่ใช้การโทรถาม ส่งอีเมล์ขอรายละเอียดและดูรีวิว อันไหนดูแล้วไม่ผ่านหรือไม่ชอบตัดออกก่อนเลย)

หมายเหตุ : รูปในเว็บไซต์ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยอัพเดต สภาพแวดล้อมต่างๆเปลี่ยนไปจากรูปหน่เว็บหรือเพจมาก บางที่ต้นไม้โต มากกว่ารูปในเว็บซะอีก ฉะนั้นหากมีเวลา ควรไปดูสถานที่จริงครับ

ได้มาแล้วรออะไร ตระเวนดูสถานที่จริงกันเลยครับ โดยได้ใช้วิธีโทรนัดหรือส่งอีเมล์นัดวันกับสถานที่นั้นๆ
เพื่อเข้าไปดูสถานที่และคุยรายละเอียดครับ
เราทั้งคู่สะดวกวันหยุดเสาร์อาทิตย์ครับ เนื่องจากทำงาน เมื่อได้คิวชมสถานที่และรายละเอียดมาแล้วก็จัดวันเข้าชมกันเลย โดยได้ตระเวนดูเกือบเดือน มีทั้งชอบและไม่ชอบ หรือชอบแล้ววันแต่งดันไม่ว่างแล้ว (ฤกษ์ดีต้องทำใจครับ บางที่จองกันข้ามปีเลยทีเดียว)

บางที่ชอบมากสวย บรรยากาศดีแต่แพ็คเกจแพงเอามากๆก็ไม่ไหวครับ

บางที่มีแต่สถานที่อย่างเดียว ทุกอย่างเราต้องนำเข้ามาเองหมด แบบนี้ก็จะหนักไปครับ

บางที่มีให้ แต่ถ้าเอาอย่างอื่นมาเพิ่มคิดตังค์เพิ่มนู้นนี่นั่น ก็ไม่โอเค

รวบรวมข้อมูลแต่ละสถานที่ได้แล้วก็ถึงเวลาสรุปและเลือกแล้วครับ
โดยเราทั้งคู่จะสรุปข้อดีข้อเสียแต่ละสถานที่คร่าวๆ ให้นะครับ ว่าแตกต่างกันอย่างไร
(ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะครับ โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วยครับ)

***เนื่องด้วยข้อความยาวตัวอักษรเกิน เดี๋ยวมาต่อ 3.2 ขั้นตอนไปชมสถานที่ ที่ช่อง ความคิดเห็นนะครับ >>>