สวัสดีค่ะทุกคนน นี่เป็นครั้งแรกที่โบว์เคยเข้ามารีวิวเลย รู้สึกอยากแบ่งปัน How to เรื่องจัดการงานแต่งงาน ของโบว์ใช้เวลาเตรียมนานค่ะ ประมาณ 1 ปี เพราะ คิดไว้ว่าอยากเตรียมออกมาให้สมบูรณ์แบบที่สุด แบบที่เราพอใจ น่าจะเป็นประโยชน์ สำหรับหลายๆ คนที่กำลังจะแต่งงาน หรือเตรียมความพร้อมไว้ก่อน ดูเป็นแนวทาง แล้วมาผสมๆ กับที่ตัวเอง ตามที่สะดวกก็ได้ค่ะ เพราะ โบว์และแฟนก็ดูจากเว็บต่างๆ รวมกับเพื่อนสนิท คนรู้จัก มาผสมๆ เหมือนกัน พร้อมแล้ว ไปกันเลยคร้า….
ขั้นแรก หาฤกษ์แต่งงานค่ะ
สำหรับเรื่องหาฤกษ์แต่งงาน อันนี้โบว์คิดว่าแล้วแต่ แต่ละคู่นะคะ บางคู่ ให้พระดูให้ บางคู่ให้ซินแส ดูให้ แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละฝ่าย ต้องไปตกลงกับพ่อแม่ของทั้งฝ่ายเจ้าสาว และเจ้าบ่าวก่อนนะคะ
คู่ของโบว์ เป็นคนจีนด้วยกันทั้งคู่ ทั้งป๊าและแม่ ต่างมีความเห็นตกลงกันว่าจะไปดูซินแส
สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือ วันเดือนปี,เวลา, ปีนักษัตร ที่เกิด อายุปัจจุบัน ของทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าว รวมทั้ง ของพ่อแม่ ทั้งฝ่ายเจ้าสาวและเจ้าบ่าวนะคะ เพื่อหาฤกษ์ที่ดีที่สุด ของทั้ง 6คน (เจ้าสาว, เจ้าบ่าว, พ่อ+แม่เจ้าสาว, พ่อ+แม่เจ้าบ่าว) สำหรับวันนั้น
สิ่งที่เราต้องคิดไว้ก่อนไปดูคือ เราอยากได้ช่วงวันประมาณไหนนะคะ แต่ละคนกำหนดระยะเวลาเตรียมงานไม่เท่ากัน หรืออยากจะแต่งเร็วๆ คู่ของโบว์ตกลงกันว่าจะเตรียมงานประมาณ 1 ปี เมื่อซินแสดูฤกษ์เสร็จแล้ว ก็จะให้วันเรามาเลือก อันนี้ก็แล้วแต่อีกค่ะ 5555 บางคู่อาจจะมีวันให้เลือกเยอะ บางคู่น้อย ของโบว์ได้มา 4 วัน อิอิ ดีใจจัง มีให้คิดเยอะ เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะตามมาด้วยความรวดเร็ว
ขั้นที่ 2 หาช่างแต่งหน้า
อาจจะดูแปลกๆ นะคะ ที่โบว์หาช่างแต่งหน้าก่อน แต่จริงๆ มันมีประโยชน์เยอะมากเลยค่ะ ช่างแต่งหน้าเก่งๆ เนี่ยะ หลายๆ คนคิดว่าเรื่องแค่นี้ แต่งจริงๆ เรื่องใหญ่พอสมควรเลยนะคะ เพราะว่า ช่างแต่งหน้าจะเป็นคนเนรมิตเราให้เป็นคนที่สวยที่สุดในวันสำคัญของชีวิต แล้วคิวช่างแต่งหน้าเก่งๆ ขอบอกเลยว่า อาจจะเต็มข้ามปี เพราะ วันหาฤกษ์ที่ดี ส่วนใหญ่ก็จะวันเดียวกัน ถ้าเราจองก่อน เราก็จะมีสิทธิก่อนค่ะ รวมทั้งเรื่องราคา ซึ่งเป็นข้อดีอีกอย่างสำหรับคนที่วางแผนแต่งข้ามปีแบบโบว์ เพราะจะได้ราคาปีนี้ แต่แต่งปีหน้า มันฟินนน ตรงนี้แหละคร้า 55555 มีความประหยัดไปได้นิดหน่อยยย
สำหรับโบว์ โบว์เลือก ครูไก่ (minimaru Make Up By Kai Kosolsatit) ครูไก่เป็นช่างแต่งหน้าที่แต่งแนวสวยหวาน ลดอายุ งานผิว งานคิ้วละเอียดมากก ติดนาน แน่น ดูน้อยแต่สวยมาก แต่งตาสวยย สรุปคือดีหมด 5555 ที่สำคัญ เราสามารถพูดคุยกับครูได้ตั้งแต่ตอนจองคิวแล้ว ว่าเราอยากได้แบบไหน ครูไก่ก็จะให้คำแนะนำเราว่า ที่เราอยากได้แต่งหน้าจริงๆ ขึ้นมาเหมาะกับเรามั๊ย หรือแต่งแบบนี้จะสวยกว่า รวมทั้งคำแนะนำต่างๆเรื่องการปฏิบัติตัว การเตรียมผิว ให้คำแนะนำเยอะมากกกก
วันงานแต่งมีแต่คนชมว่า เจ้าสาวสวยจนเจ้าบ่าวอิจฉาเลยคร้า เพราะ คนชมเจ้าบ่าวน้อย เพราะ เจ้าสาวสวยมากไง 5555 แต่เจ้าบ่าวก็หล่อนะคะ อิอิ ให้เครดิตนิดนึงเดี๋ยวจะงอนน
ขั้นที่ 3 สถานที่
ก่อนอื่นเลยเราต้องคิดว่า เราอยากได้ช่วงเวลาไหน แต่งเช้าเที่ยง เช้าเย็น หรือบางคู่อาจจะคนละวัน ต้องคิดกันไว้ก่อนนะคะ คุยกับเราและแฟนก่อน แล้วปรึกษาผู้ใหญ่อีกที เพราะ เรื่องนี้บางคู่อาจจะมีปัญหาได้นะคะ
เรื่องของการเลือกสถานที่ โบว์แนะนำว่า ดูรายละเอียดจากในเว็ปไซต์เลยค่ะ อย่างของโบว์แต่งกรุงเทพ คิดว่าคงแต่งโรมแรม เพราะมีสถานที่ ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบเลย ก็ search ชื่อโรงแรมทั้งหมดในกรุงเทพเลยค่ะ 5555 แล้วก็เข้าไปดูราคาแต่ละที่ (ดูงบที่เราตั้งไว้ด้วยนะคะ) ดูรูปสถานที่ แนวอาหารที่จัดเลี้ยง ห้องรองรับได้กี่คน เพดานสูงกี่เมตร (ถ้าเพดานสูงจากพื้น ประมาณ 9 เมตรขึ้นไป ไม่มีเสาภายในห้อง ถ่ายรูปออกมาจะสวยค่ะ) แพ็คเกจต่างๆ รวมถึงการเดินทาง ว่าโรงแรมไหนเหมาะกับเรามากที่สุด จากนั้นก็โทรไปสอบถามเลยค่ะ นัดดูสถานที่จริง confirm จองวัน
ข้อดีของการจองข้ามปี ก็คล้ายๆกับที่จองคิวช่างแต่งหน้าค่ะ เดี๋ยวคิวจะเต็มก่อนและราคาเป็นของปีนี้ค่ะ
หรืออาจจะไปดูตาม Wedding Fair ก็ได้ค่ะ แต่อยากให้ดูในเวปมาก่อนนะคะ ถ้าไม่ได้คิดไปล่วงหน้าเลย ตอนไปคุยหน้างาน อาจจะคิดไม่ทัน
ขั้นที่ 4 เตรียม Wedding plan ค่ะ
อันนี้ได้จากในเวปมาค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณนัท จาก wedding-campus มากๆ ค่ะ ข้อดีที่เตรียม wedding plan คือ จะทำให้เรารู้ว่า เราจะต้องเตรียมอะไรต่อ หลงลืมอะไรรึป่าว เป็น checklist ให้เราอีกทีค่ะ ใส่วันที่ ที่เราคิดว่าต้องจัดการทำเรื่องนี้ให้เสร็จภายในประมาณวันไหน จะได้ไม่รีบร้อนจนเกินไปค่ะ
http://wedding-campus.com/wp/index.php/2016/02/09/wedding-checklist-excel-file/
ปล. ฤกษ์ที่ได้จะมีวันต่างๆ ระบุไว้ว่าต้องทำอะไร รวมทั้งถ้าคิดว่าจะทำอะไร เช่น พรีเซนเทชั่น หรือถ่ายพรีเวดดิ้ง ก้อใส่เพิ่มรายละเอียดเหล่านี้ลงไปก่อน เพื่อกันลืมค่ะ
ขั้นที่ 5 เตรียม Script งานแต่งวันจริงแบบคร่าวๆ
ที่โบว์เตรียม Script งานแต่งไว้ก่อน เพื่อจะได้รู้ว่า วันนั้นต้องมีรายละเอียดอะไรมากแค่ไหน เหมือนเห็นภาพใหญ่ก่อนอ่ะค่ะ แล้วเราจะได้เตรียมรายละเอียดย่อยๆอีกที เหมือนมันจะ control ได้ง่ายกว่า อันนี้คิดเองนะคะ 555 แต่โบว์ลองแล้ว มันดีค่ะ อาจจะยากหน่อย แต่คุ้มค่าค่ะ
ขั้นที่ 6 หาข้อมูลต่างๆ ที่เราต้องการค่ะ
ตอนนี้สะดวกขึ้นมากค่ะ สำหรับการหาข้อมูลต่างๆ ส่วนใหญ่ก็หาจาก google นี่แหละค่ะ หรือไม่ก็ facebook สำหรับโบว์และแฟน เราช่วยกันหาข้อมูลแล้วมาคุยกัน อันนี้ต้องคุยกันเยอะๆนะคะ ว่าใครจะหาอะไร หรือจะแบ่งกันไปหา หรือช่วยกันดูแล้วมาปรึกษากัน เพราะ อาจจะมีปัญหากันได้
อย่างโบว์และแฟน เวลาเราหาเราจะเข้าไปกด like และกด save เก็บไว้ก่อนค่ะ หาไปพร้อมๆ กัน หลายๆ อย่าง ตามใน plan ที่เตรียมไว้ ทั้งชุดแต่งงาน ช่างถ่ายภาพ ถ่ายพรีเซนเทชั่น ถ่ายพรีเวดดิ้ง ของชำร่วย การ์ด หาแล้วมาตัดสินใจเลือกอีกทีค่ะ ว่าอยากได้จากที่ไหน ราคาแพ็คเกจต่างๆ ที่เราต้องการ
ขั้นที่ 7 ทำตามแผนที่กำหนดไว้
เมื่อเลือกได้แล้วว่าอยากได้อะไรจากที่ไหน ก็ติดต่อไปเลยค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แต่อยากจะแชร์ดังนี้ค่ะ (ทุกอย่างยกเว้น ของในพิธีที่เป็นของสด ควรเสร็จก่อนวันแต่งประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนนะคะ ก่อนแต่งหนึ่งเดือน ควรเป็นเวลาทบทวนว่าขาดตกบกพร่องตรงไหน แล้วแก้ไขปัญหาให้ได้ก่อนแต่ง 1 สัปดาห์ค่ะ)
- การ์ดแต่งงาน ควรเสร็จก่อนงานแต่งประมาณ 3 เดือนนะคะ เพราะ เราควรแจกการ์ดแต่งงานให้หมดก่อนประมาณ 1 เดือน เพื่อให้แขกดูวันว่าง เคลียร์วัน ไม่ควรแจกกระชั้นชิด รายละเอียดเวลาต่างๆ ที่ระบุในการ์ดต้องตรงกับเวลาในพิธีการจริง
- ของชำร่วย ควรเสร็จก่อนแต่งงานประมาณ 1-2 เดือนนะคะ เพื่อความสบายใจค่ะ เพราะอาจจะคำนวณแล้วน้อยไปอาจจะต้องซื้อเพิ่ม และข้อแนะนำ ควรซื้อของชำร่วยเผื่อประมาณ 20% ของจำนวนแขกค่ะ
- การถ่ายพรีเวดดิ้ง และพรีเซนเทชั่น ควรถ่ายไว้ก่อนแต่งประมาณ 3-4 เดือน เพื่อให้เวลาช่างภาพแต่งภาพ แก้งาน เพราะถ้าไปถ่ายใกล้มากๆ อาจจะแก้งานตามที่ต้องการไม่ทันค่ะ รวมถึงต้องให้เวลา เผื่อนำรูปไปอัดภาพใส่อัลบั้มทำกรอบ เพิ่มเติมด้วยนะคะ
- ชุดแต่งงาน ควรดูจากหลายๆที่ค่ะ ดูจากในเวปก่อนดีมากเลยค่ะ ว่าแต่ละร้านชุดสไตล์ไหน เราชอบมั้ย ราคารับได้มั้ย เป็นชุดเช่า เช่าตัด หรือซื้อ ถ้าดูในเวปแล้ว เราชอบชุดร้านไหน ค่อยไปดูที่ร้านจริงค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาค่ะ
โบว์เลือกร้าน Atlovemarry WeddingDress ค่ะ ชุดสวยมาก เจ้าของร้านใจดี ราคาไม่แรงมากค่ะ แนะนำๆ ค่ะ
- เตรียมความพร้อมด้านร่างกายค่ะ ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว อาจจะต้องลดน้ำหนัก เพื่อให้ฟิตแอนเฟิร์ม เพราะต้องใช้เวลาพอสมควร รวมทั้งออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง เพราะวันงานจริง เหนื่อยนะคะ ยืนตลอดงานเลยค่ะ 5555
- List รายชื่อแขกที่จะเชิญ อันนี้สำคัญมากค่ะ เพราะ บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลสำคัญในชีวิตเรา ที่เราอยากจะให้เค้าอยู่ในความทรงจำของเรา แต่เรื่องนี้ต้องเป็นการช่วยกันคิดทั้งเจ้าสาว เจ้าบ่าว และพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่าย และต้องไม่เกินขนาดห้องที่เราจองไว้ และงบประมาณ สำหรับโบว์ คิดว่าเรื่องนี้ sensitive ที่สุดเลยค่ะ อาจจะมีปัญหากันได้ เพราะรายละเอียดเยอะ
- เตรียม Script final ต่างๆ ในงาน ให้เรียบร้อย และบรีฟทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในงานให้เรียบร้อยก่อนวันงาน 3 วัน หากเป็นไปได้ถ้าให้เพื่อนๆมาช่วยงานควรบรีฟก่อนสัก 1 อาทิตย์ รวมถึงลำดับพิธีการ คุยกับญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อท่านจะได้เตรียมตัว ในช่วงเวลาที่เวลานั้นๆ เพื่อท่านจะได้ทราบว่า เวลานี้ควรอยู่ตรงไหน ทำอะไร ส่วนที่ต้องบรีฟใกล้ๆ อีกที คือ กัปตันโรงแรม เพื่อให้งานออกมาครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด
ปล. ในตาราง Script ควรมีรายชื่อผู้รับผิดชอบหลัก และเบอร์โทรที่สามารถติดต่อได้
กรณีที่ไม่ได้จ้าง organize มาช่วยจัดการงาน ควรหาคนที่มาทำหน้าที่หลัก ดูแลในงานทั้งหมด และรู้งานทั้งหมด 1 คน (header) หรือ อาจจะแยกกันระหว่างช่วงเช้า และช่วงเย็น เป็นคนละคน เพื่อประสานงานต่างๆ กับกัปตันโรงแรมและช่างภาพ และอาจจะมีผู้จัดการเรื่องหลักๆในแต่ละเรื่องแยกจาก header เพื่อแบ่งเบารายละเอียดในส่วนเฉพาะนั้นๆ ผู้จัดการเรื่องหลักๆ ต้องประสานงานร่วมกับ header มาก่อน เพื่อความราบรื่นของงาน และทำแผนผังหน้าที่ความรับผิดชอบ ว่า ถ้ามีปัญหาเรื่องนี้ ควรติดต่อใครวันงาน เพราะ วันงานจริง เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะยุ่งมาก ไม่มีเวลาทำอะไรเลย นอกจากต้อนรับแขก ขาแข็งและยิ้มเหงือกแห้งเลยค่ะ ^__^
- Script พิธีกร ควรมีการซักซ้อมก่อน อยากได้ตอบคำถามแบบไหน คำถามแนวไหน ควรระบุคำถามที่จะถามลงไปตั้งแต่ตอนซ้อมเลย เพื่อให้เจ้าบ่าว เจ้าสาว เตรียมคำตอบก่อน หากไม่มีการเตรียมเลย เมื่ออยู่บนเวที อาจจะคิดไม่ออก เคสโบว์และแฟน มีการเตรียมกันไปอย่างดี พอขึ้นเวที ลืมไปเยอะเหมือนกันค่ะ 5555 ด้นสดค่ะ
- การเตรียมของไปโรงแรม ควรแยกเป็นกล่องๆ ระหว่างงานพิธีการ และงานเลี้ยง หน้ากล่องระบุ ว่ามีอะไรบ้าง และมี checklist ของใช้ทั้งหมด เช็คก่อนนำไปโรงแรม เพื่อป้องกันการหลงลืม และนำวางไว้ที่บริเวณงานอย่างเป็นระเบียบ
ขั้นที่ 8 ทำหน้าที่ในวันงานให้ดีที่สุด
วันงาน เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะต้องไม่ทำสีหน้ากังวล ต้องยิ้มแย้ม และมีความมั่นใจ โบว์เชื่อว่า หากเรามีการเตรียมงานที่ดี จะทำให้งานราบรื่น ไม่มีติดขัดเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และจะเป็นวันหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป
ที่สำคัญคือจะต้องคุยกันเยอะๆค่ะ ต้องใจเย็นๆ เพราะจากประสบการณ์ต้องมีขัดใจกันในบางเรื่อง ต้องค่อยๆคิด มีสติ ขอให้ทุกคู่ที่กำลังจะแต่งงานมีความสุขมากๆ นะคะ ครั้งนี้เป็นการแบ่งปันประสบการณ์การ ความคิด ในการเตรียมงาน ถ้าบกพร่องต้องขออภัย ไว้ณ ที่นี้ด้วยคร้า
How to การจัดการงานแต่งงาน สำหรับสาวๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง
ขั้นแรก หาฤกษ์แต่งงานค่ะ
สำหรับเรื่องหาฤกษ์แต่งงาน อันนี้โบว์คิดว่าแล้วแต่ แต่ละคู่นะคะ บางคู่ ให้พระดูให้ บางคู่ให้ซินแส ดูให้ แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละฝ่าย ต้องไปตกลงกับพ่อแม่ของทั้งฝ่ายเจ้าสาว และเจ้าบ่าวก่อนนะคะ
คู่ของโบว์ เป็นคนจีนด้วยกันทั้งคู่ ทั้งป๊าและแม่ ต่างมีความเห็นตกลงกันว่าจะไปดูซินแส
สิ่งที่ต้องเตรียมไปคือ วันเดือนปี,เวลา, ปีนักษัตร ที่เกิด อายุปัจจุบัน ของทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าว รวมทั้ง ของพ่อแม่ ทั้งฝ่ายเจ้าสาวและเจ้าบ่าวนะคะ เพื่อหาฤกษ์ที่ดีที่สุด ของทั้ง 6คน (เจ้าสาว, เจ้าบ่าว, พ่อ+แม่เจ้าสาว, พ่อ+แม่เจ้าบ่าว) สำหรับวันนั้น
สิ่งที่เราต้องคิดไว้ก่อนไปดูคือ เราอยากได้ช่วงวันประมาณไหนนะคะ แต่ละคนกำหนดระยะเวลาเตรียมงานไม่เท่ากัน หรืออยากจะแต่งเร็วๆ คู่ของโบว์ตกลงกันว่าจะเตรียมงานประมาณ 1 ปี เมื่อซินแสดูฤกษ์เสร็จแล้ว ก็จะให้วันเรามาเลือก อันนี้ก็แล้วแต่อีกค่ะ 5555 บางคู่อาจจะมีวันให้เลือกเยอะ บางคู่น้อย ของโบว์ได้มา 4 วัน อิอิ ดีใจจัง มีให้คิดเยอะ เมื่อเลือกเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะตามมาด้วยความรวดเร็ว
ขั้นที่ 2 หาช่างแต่งหน้า
อาจจะดูแปลกๆ นะคะ ที่โบว์หาช่างแต่งหน้าก่อน แต่จริงๆ มันมีประโยชน์เยอะมากเลยค่ะ ช่างแต่งหน้าเก่งๆ เนี่ยะ หลายๆ คนคิดว่าเรื่องแค่นี้ แต่งจริงๆ เรื่องใหญ่พอสมควรเลยนะคะ เพราะว่า ช่างแต่งหน้าจะเป็นคนเนรมิตเราให้เป็นคนที่สวยที่สุดในวันสำคัญของชีวิต แล้วคิวช่างแต่งหน้าเก่งๆ ขอบอกเลยว่า อาจจะเต็มข้ามปี เพราะ วันหาฤกษ์ที่ดี ส่วนใหญ่ก็จะวันเดียวกัน ถ้าเราจองก่อน เราก็จะมีสิทธิก่อนค่ะ รวมทั้งเรื่องราคา ซึ่งเป็นข้อดีอีกอย่างสำหรับคนที่วางแผนแต่งข้ามปีแบบโบว์ เพราะจะได้ราคาปีนี้ แต่แต่งปีหน้า มันฟินนน ตรงนี้แหละคร้า 55555 มีความประหยัดไปได้นิดหน่อยยย
สำหรับโบว์ โบว์เลือก ครูไก่ (minimaru Make Up By Kai Kosolsatit) ครูไก่เป็นช่างแต่งหน้าที่แต่งแนวสวยหวาน ลดอายุ งานผิว งานคิ้วละเอียดมากก ติดนาน แน่น ดูน้อยแต่สวยมาก แต่งตาสวยย สรุปคือดีหมด 5555 ที่สำคัญ เราสามารถพูดคุยกับครูได้ตั้งแต่ตอนจองคิวแล้ว ว่าเราอยากได้แบบไหน ครูไก่ก็จะให้คำแนะนำเราว่า ที่เราอยากได้แต่งหน้าจริงๆ ขึ้นมาเหมาะกับเรามั๊ย หรือแต่งแบบนี้จะสวยกว่า รวมทั้งคำแนะนำต่างๆเรื่องการปฏิบัติตัว การเตรียมผิว ให้คำแนะนำเยอะมากกกก
วันงานแต่งมีแต่คนชมว่า เจ้าสาวสวยจนเจ้าบ่าวอิจฉาเลยคร้า เพราะ คนชมเจ้าบ่าวน้อย เพราะ เจ้าสาวสวยมากไง 5555 แต่เจ้าบ่าวก็หล่อนะคะ อิอิ ให้เครดิตนิดนึงเดี๋ยวจะงอนน
ขั้นที่ 3 สถานที่
ก่อนอื่นเลยเราต้องคิดว่า เราอยากได้ช่วงเวลาไหน แต่งเช้าเที่ยง เช้าเย็น หรือบางคู่อาจจะคนละวัน ต้องคิดกันไว้ก่อนนะคะ คุยกับเราและแฟนก่อน แล้วปรึกษาผู้ใหญ่อีกที เพราะ เรื่องนี้บางคู่อาจจะมีปัญหาได้นะคะ
เรื่องของการเลือกสถานที่ โบว์แนะนำว่า ดูรายละเอียดจากในเว็ปไซต์เลยค่ะ อย่างของโบว์แต่งกรุงเทพ คิดว่าคงแต่งโรมแรม เพราะมีสถานที่ ที่จอดรถ สิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบเลย ก็ search ชื่อโรงแรมทั้งหมดในกรุงเทพเลยค่ะ 5555 แล้วก็เข้าไปดูราคาแต่ละที่ (ดูงบที่เราตั้งไว้ด้วยนะคะ) ดูรูปสถานที่ แนวอาหารที่จัดเลี้ยง ห้องรองรับได้กี่คน เพดานสูงกี่เมตร (ถ้าเพดานสูงจากพื้น ประมาณ 9 เมตรขึ้นไป ไม่มีเสาภายในห้อง ถ่ายรูปออกมาจะสวยค่ะ) แพ็คเกจต่างๆ รวมถึงการเดินทาง ว่าโรงแรมไหนเหมาะกับเรามากที่สุด จากนั้นก็โทรไปสอบถามเลยค่ะ นัดดูสถานที่จริง confirm จองวัน
ข้อดีของการจองข้ามปี ก็คล้ายๆกับที่จองคิวช่างแต่งหน้าค่ะ เดี๋ยวคิวจะเต็มก่อนและราคาเป็นของปีนี้ค่ะ
หรืออาจจะไปดูตาม Wedding Fair ก็ได้ค่ะ แต่อยากให้ดูในเวปมาก่อนนะคะ ถ้าไม่ได้คิดไปล่วงหน้าเลย ตอนไปคุยหน้างาน อาจจะคิดไม่ทัน
ขั้นที่ 4 เตรียม Wedding plan ค่ะ
อันนี้ได้จากในเวปมาค่ะ ต้องขอขอบคุณคุณนัท จาก wedding-campus มากๆ ค่ะ ข้อดีที่เตรียม wedding plan คือ จะทำให้เรารู้ว่า เราจะต้องเตรียมอะไรต่อ หลงลืมอะไรรึป่าว เป็น checklist ให้เราอีกทีค่ะ ใส่วันที่ ที่เราคิดว่าต้องจัดการทำเรื่องนี้ให้เสร็จภายในประมาณวันไหน จะได้ไม่รีบร้อนจนเกินไปค่ะ
http://wedding-campus.com/wp/index.php/2016/02/09/wedding-checklist-excel-file/
ปล. ฤกษ์ที่ได้จะมีวันต่างๆ ระบุไว้ว่าต้องทำอะไร รวมทั้งถ้าคิดว่าจะทำอะไร เช่น พรีเซนเทชั่น หรือถ่ายพรีเวดดิ้ง ก้อใส่เพิ่มรายละเอียดเหล่านี้ลงไปก่อน เพื่อกันลืมค่ะ
ขั้นที่ 5 เตรียม Script งานแต่งวันจริงแบบคร่าวๆ
ที่โบว์เตรียม Script งานแต่งไว้ก่อน เพื่อจะได้รู้ว่า วันนั้นต้องมีรายละเอียดอะไรมากแค่ไหน เหมือนเห็นภาพใหญ่ก่อนอ่ะค่ะ แล้วเราจะได้เตรียมรายละเอียดย่อยๆอีกที เหมือนมันจะ control ได้ง่ายกว่า อันนี้คิดเองนะคะ 555 แต่โบว์ลองแล้ว มันดีค่ะ อาจจะยากหน่อย แต่คุ้มค่าค่ะ
ขั้นที่ 6 หาข้อมูลต่างๆ ที่เราต้องการค่ะ
ตอนนี้สะดวกขึ้นมากค่ะ สำหรับการหาข้อมูลต่างๆ ส่วนใหญ่ก็หาจาก google นี่แหละค่ะ หรือไม่ก็ facebook สำหรับโบว์และแฟน เราช่วยกันหาข้อมูลแล้วมาคุยกัน อันนี้ต้องคุยกันเยอะๆนะคะ ว่าใครจะหาอะไร หรือจะแบ่งกันไปหา หรือช่วยกันดูแล้วมาปรึกษากัน เพราะ อาจจะมีปัญหากันได้
อย่างโบว์และแฟน เวลาเราหาเราจะเข้าไปกด like และกด save เก็บไว้ก่อนค่ะ หาไปพร้อมๆ กัน หลายๆ อย่าง ตามใน plan ที่เตรียมไว้ ทั้งชุดแต่งงาน ช่างถ่ายภาพ ถ่ายพรีเซนเทชั่น ถ่ายพรีเวดดิ้ง ของชำร่วย การ์ด หาแล้วมาตัดสินใจเลือกอีกทีค่ะ ว่าอยากได้จากที่ไหน ราคาแพ็คเกจต่างๆ ที่เราต้องการ
ขั้นที่ 7 ทำตามแผนที่กำหนดไว้
เมื่อเลือกได้แล้วว่าอยากได้อะไรจากที่ไหน ก็ติดต่อไปเลยค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา แต่อยากจะแชร์ดังนี้ค่ะ (ทุกอย่างยกเว้น ของในพิธีที่เป็นของสด ควรเสร็จก่อนวันแต่งประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 1 เดือนนะคะ ก่อนแต่งหนึ่งเดือน ควรเป็นเวลาทบทวนว่าขาดตกบกพร่องตรงไหน แล้วแก้ไขปัญหาให้ได้ก่อนแต่ง 1 สัปดาห์ค่ะ)
- การ์ดแต่งงาน ควรเสร็จก่อนงานแต่งประมาณ 3 เดือนนะคะ เพราะ เราควรแจกการ์ดแต่งงานให้หมดก่อนประมาณ 1 เดือน เพื่อให้แขกดูวันว่าง เคลียร์วัน ไม่ควรแจกกระชั้นชิด รายละเอียดเวลาต่างๆ ที่ระบุในการ์ดต้องตรงกับเวลาในพิธีการจริง
- ของชำร่วย ควรเสร็จก่อนแต่งงานประมาณ 1-2 เดือนนะคะ เพื่อความสบายใจค่ะ เพราะอาจจะคำนวณแล้วน้อยไปอาจจะต้องซื้อเพิ่ม และข้อแนะนำ ควรซื้อของชำร่วยเผื่อประมาณ 20% ของจำนวนแขกค่ะ
- การถ่ายพรีเวดดิ้ง และพรีเซนเทชั่น ควรถ่ายไว้ก่อนแต่งประมาณ 3-4 เดือน เพื่อให้เวลาช่างภาพแต่งภาพ แก้งาน เพราะถ้าไปถ่ายใกล้มากๆ อาจจะแก้งานตามที่ต้องการไม่ทันค่ะ รวมถึงต้องให้เวลา เผื่อนำรูปไปอัดภาพใส่อัลบั้มทำกรอบ เพิ่มเติมด้วยนะคะ
- ชุดแต่งงาน ควรดูจากหลายๆที่ค่ะ ดูจากในเวปก่อนดีมากเลยค่ะ ว่าแต่ละร้านชุดสไตล์ไหน เราชอบมั้ย ราคารับได้มั้ย เป็นชุดเช่า เช่าตัด หรือซื้อ ถ้าดูในเวปแล้ว เราชอบชุดร้านไหน ค่อยไปดูที่ร้านจริงค่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลาค่ะ
โบว์เลือกร้าน Atlovemarry WeddingDress ค่ะ ชุดสวยมาก เจ้าของร้านใจดี ราคาไม่แรงมากค่ะ แนะนำๆ ค่ะ
- เตรียมความพร้อมด้านร่างกายค่ะ ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว อาจจะต้องลดน้ำหนัก เพื่อให้ฟิตแอนเฟิร์ม เพราะต้องใช้เวลาพอสมควร รวมทั้งออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง เพราะวันงานจริง เหนื่อยนะคะ ยืนตลอดงานเลยค่ะ 5555
- List รายชื่อแขกที่จะเชิญ อันนี้สำคัญมากค่ะ เพราะ บุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลสำคัญในชีวิตเรา ที่เราอยากจะให้เค้าอยู่ในความทรงจำของเรา แต่เรื่องนี้ต้องเป็นการช่วยกันคิดทั้งเจ้าสาว เจ้าบ่าว และพ่อแม่ทั้ง 2 ฝ่าย และต้องไม่เกินขนาดห้องที่เราจองไว้ และงบประมาณ สำหรับโบว์ คิดว่าเรื่องนี้ sensitive ที่สุดเลยค่ะ อาจจะมีปัญหากันได้ เพราะรายละเอียดเยอะ
- เตรียม Script final ต่างๆ ในงาน ให้เรียบร้อย และบรีฟทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในงานให้เรียบร้อยก่อนวันงาน 3 วัน หากเป็นไปได้ถ้าให้เพื่อนๆมาช่วยงานควรบรีฟก่อนสัก 1 อาทิตย์ รวมถึงลำดับพิธีการ คุยกับญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อท่านจะได้เตรียมตัว ในช่วงเวลาที่เวลานั้นๆ เพื่อท่านจะได้ทราบว่า เวลานี้ควรอยู่ตรงไหน ทำอะไร ส่วนที่ต้องบรีฟใกล้ๆ อีกที คือ กัปตันโรงแรม เพื่อให้งานออกมาครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด
ปล. ในตาราง Script ควรมีรายชื่อผู้รับผิดชอบหลัก และเบอร์โทรที่สามารถติดต่อได้
กรณีที่ไม่ได้จ้าง organize มาช่วยจัดการงาน ควรหาคนที่มาทำหน้าที่หลัก ดูแลในงานทั้งหมด และรู้งานทั้งหมด 1 คน (header) หรือ อาจจะแยกกันระหว่างช่วงเช้า และช่วงเย็น เป็นคนละคน เพื่อประสานงานต่างๆ กับกัปตันโรงแรมและช่างภาพ และอาจจะมีผู้จัดการเรื่องหลักๆในแต่ละเรื่องแยกจาก header เพื่อแบ่งเบารายละเอียดในส่วนเฉพาะนั้นๆ ผู้จัดการเรื่องหลักๆ ต้องประสานงานร่วมกับ header มาก่อน เพื่อความราบรื่นของงาน และทำแผนผังหน้าที่ความรับผิดชอบ ว่า ถ้ามีปัญหาเรื่องนี้ ควรติดต่อใครวันงาน เพราะ วันงานจริง เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะยุ่งมาก ไม่มีเวลาทำอะไรเลย นอกจากต้อนรับแขก ขาแข็งและยิ้มเหงือกแห้งเลยค่ะ ^__^
- Script พิธีกร ควรมีการซักซ้อมก่อน อยากได้ตอบคำถามแบบไหน คำถามแนวไหน ควรระบุคำถามที่จะถามลงไปตั้งแต่ตอนซ้อมเลย เพื่อให้เจ้าบ่าว เจ้าสาว เตรียมคำตอบก่อน หากไม่มีการเตรียมเลย เมื่ออยู่บนเวที อาจจะคิดไม่ออก เคสโบว์และแฟน มีการเตรียมกันไปอย่างดี พอขึ้นเวที ลืมไปเยอะเหมือนกันค่ะ 5555 ด้นสดค่ะ
- การเตรียมของไปโรงแรม ควรแยกเป็นกล่องๆ ระหว่างงานพิธีการ และงานเลี้ยง หน้ากล่องระบุ ว่ามีอะไรบ้าง และมี checklist ของใช้ทั้งหมด เช็คก่อนนำไปโรงแรม เพื่อป้องกันการหลงลืม และนำวางไว้ที่บริเวณงานอย่างเป็นระเบียบ
ขั้นที่ 8 ทำหน้าที่ในวันงานให้ดีที่สุด
วันงาน เจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะต้องไม่ทำสีหน้ากังวล ต้องยิ้มแย้ม และมีความมั่นใจ โบว์เชื่อว่า หากเรามีการเตรียมงานที่ดี จะทำให้งานราบรื่น ไม่มีติดขัดเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และจะเป็นวันหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป
ที่สำคัญคือจะต้องคุยกันเยอะๆค่ะ ต้องใจเย็นๆ เพราะจากประสบการณ์ต้องมีขัดใจกันในบางเรื่อง ต้องค่อยๆคิด มีสติ ขอให้ทุกคู่ที่กำลังจะแต่งงานมีความสุขมากๆ นะคะ ครั้งนี้เป็นการแบ่งปันประสบการณ์การ ความคิด ในการเตรียมงาน ถ้าบกพร่องต้องขออภัย ไว้ณ ที่นี้ด้วยคร้า