หากเตรียมการเองควรเตรียมการล่วงหน้า 6 เดือนกำลังดี โดยสิ่งแรกที่ต้องทำ
นั่นคือ การคุยกันระหว่างคนสองคนว่าต้องการรูปงานแต่งงานแบบไหน
หรืออาจจะปรึกษากันทั้ง 2 ครอบครัวว่าต้องการ งานแต่งงานรูปแบบไหน
แล้วลงรายละเอียดถึงขอบเขตงาน งบในการจัดงาน แขกที่จะเชิญมาร่วมงานกี่คน และงานแต่งงานจะจัดวันเดียวหรือแยกวัน
เมื่อตกลงชัดเจนร่วมกันแล้ว ต่อมาคือการหา "หาฤกษ์แต่งงาน" รวมถึงการสำรวจสถานที่และจองสถานที่สำหรับงาน ซึ่งนี่คือมาของคำว่าควรมีการเตรียมการ 6 เดือนล่วงหน้า
นั่นเพราะสถานที่ต่าง ๆ อาจจะมีการจองเต็มล่วงหน้าแล้วถัดมาคือการตัดชุดแต่งงาน
โดยเฉพาะว่าที่เจ้าสาว ผู้หญิงทุกคนล้วนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ดังนั้นการเตรียมการตัดชุดก่อนประมาณ 3-5 เดือน
เป็นสิ่งที่เราวางใจได้ค่ะ เพราะเราสามารถลองชุดและแก้ไขทุกอย่างให้เป็นไปตามต้องการได้
จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนของการถ่าย pre-wedding เตรียม presentation ซึ่งแน่นอนว่านี่คือความสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่จะขาดไม่ได้เลย
เพราะจะสร้างความประทับใจให้ว่าที่เจ้าบ่าว ว่าที่เจ้าสาว รวมถึงแขกที่มาร่วมงานในคราวเดียวกันด้วย
โดยการถ่าย pre-wedding และทำ presentation ความเตรียมการล่วงหน้าก่อน 2-3 เดือน กำลังดีค่ะ
ต่อด้วยการเลือกช่างแต่งหน้า ทำผม ช่างภาพ วงดนตรี บอกเลยว่าต้องรีบจองนะคะ เพราะช่างแต่งหน้า ช่างทำผมดี ๆ ที่เราชอบ
บางครั้งอาจจะไม่ว่างในช่วงวันงานแต่งงานของเรา ดังนั้นจองล่วงหน้าสัก 2-3 เดือน
จะได้สบายใจว่า...ได้ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม คนนี้ชัวร์
เมื่อเสร็จขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ก็เข้าสู่การเลือกแบบการ์ดแต่งงานและสั่งพิมพ์ โดยควรเตรียมการ 3 เดือนล่วงหน้าจะอุ่นใจที่สุด
จากนั้นในระยะเวลา 2 เดือน ควรเริ่มทยอยแจกการ์ดแต่งงานให้กับผู้ที่เราจะเชิญมางานค่ะ
และที่สำคัญมาก ๆ อีกหนึ่งอย่างที่จะขาดไม่ได้เลย นั่คือ การเตรียมแหวนหมั้นกับสินสอด
ซึ่งควรมีการเตรียมการเป็นอย่างดี โดยใช้เวลาเตรียมล่วงหน้า 1 เดือน
ท้ายที่สุดคือการสรุปกับฝ่ายสถานที่ที่เราจัดงานแต่งงาน ทั้งเรื่องขั้นตอนของพิธีการต่าง ๆ รูปแบบงาน อาหาร จำนวนแขก แบบเค้ก และระบบแสงเสียง
ควรเตรียมการให้ชัดเจนและคุยรายละเอียดให้เคลียร์ก่อนประมาณ 1 เดือน เพื่อให้งานเข้าที่ตามที่เราต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.happywedding.life/planning/2863/แต่งงาน--ใช้เวลาเตรียมการยังไงดีนะ
เก็บมาฝากค่ะ การเตรียมตัวแต่งงานล่วงหน้า 6 เดือน
นั่นคือ การคุยกันระหว่างคนสองคนว่าต้องการรูปงานแต่งงานแบบไหน
หรืออาจจะปรึกษากันทั้ง 2 ครอบครัวว่าต้องการ งานแต่งงานรูปแบบไหน
แล้วลงรายละเอียดถึงขอบเขตงาน งบในการจัดงาน แขกที่จะเชิญมาร่วมงานกี่คน และงานแต่งงานจะจัดวันเดียวหรือแยกวัน
เมื่อตกลงชัดเจนร่วมกันแล้ว ต่อมาคือการหา "หาฤกษ์แต่งงาน" รวมถึงการสำรวจสถานที่และจองสถานที่สำหรับงาน ซึ่งนี่คือมาของคำว่าควรมีการเตรียมการ 6 เดือนล่วงหน้า
นั่นเพราะสถานที่ต่าง ๆ อาจจะมีการจองเต็มล่วงหน้าแล้วถัดมาคือการตัดชุดแต่งงาน
โดยเฉพาะว่าที่เจ้าสาว ผู้หญิงทุกคนล้วนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ดังนั้นการเตรียมการตัดชุดก่อนประมาณ 3-5 เดือน
เป็นสิ่งที่เราวางใจได้ค่ะ เพราะเราสามารถลองชุดและแก้ไขทุกอย่างให้เป็นไปตามต้องการได้
จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนของการถ่าย pre-wedding เตรียม presentation ซึ่งแน่นอนว่านี่คือความสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่จะขาดไม่ได้เลย
เพราะจะสร้างความประทับใจให้ว่าที่เจ้าบ่าว ว่าที่เจ้าสาว รวมถึงแขกที่มาร่วมงานในคราวเดียวกันด้วย
โดยการถ่าย pre-wedding และทำ presentation ความเตรียมการล่วงหน้าก่อน 2-3 เดือน กำลังดีค่ะ
ต่อด้วยการเลือกช่างแต่งหน้า ทำผม ช่างภาพ วงดนตรี บอกเลยว่าต้องรีบจองนะคะ เพราะช่างแต่งหน้า ช่างทำผมดี ๆ ที่เราชอบ
บางครั้งอาจจะไม่ว่างในช่วงวันงานแต่งงานของเรา ดังนั้นจองล่วงหน้าสัก 2-3 เดือน
จะได้สบายใจว่า...ได้ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม คนนี้ชัวร์
เมื่อเสร็จขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ก็เข้าสู่การเลือกแบบการ์ดแต่งงานและสั่งพิมพ์ โดยควรเตรียมการ 3 เดือนล่วงหน้าจะอุ่นใจที่สุด
จากนั้นในระยะเวลา 2 เดือน ควรเริ่มทยอยแจกการ์ดแต่งงานให้กับผู้ที่เราจะเชิญมางานค่ะ
และที่สำคัญมาก ๆ อีกหนึ่งอย่างที่จะขาดไม่ได้เลย นั่คือ การเตรียมแหวนหมั้นกับสินสอด
ซึ่งควรมีการเตรียมการเป็นอย่างดี โดยใช้เวลาเตรียมล่วงหน้า 1 เดือน
ท้ายที่สุดคือการสรุปกับฝ่ายสถานที่ที่เราจัดงานแต่งงาน ทั้งเรื่องขั้นตอนของพิธีการต่าง ๆ รูปแบบงาน อาหาร จำนวนแขก แบบเค้ก และระบบแสงเสียง
ควรเตรียมการให้ชัดเจนและคุยรายละเอียดให้เคลียร์ก่อนประมาณ 1 เดือน เพื่อให้งานเข้าที่ตามที่เราต้องการ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.happywedding.life/planning/2863/แต่งงาน--ใช้เวลาเตรียมการยังไงดีนะ