O กลั่นเม็ดน้ำวางรูป .. เห็นวูบวับ-
ขึ้นตอบรับแสงสรวงที่ช่วงฉาย
รูปปีกบางโบกพลิ้ว .. อวดริ้วลาย
ล่องตามสายลมอ้อน .. อย่างอ่อนโยน
O กลางม่านหมอกขาวขุ่น .. แดดอุ่นเช้า
ความเงียบเหงาล้อมกัก เริ่มหักโค่น
เมื่ออีกหนึ่งความหมายเริ่มถ่ายโอน-
อบอุ่นโชนแรงช่วงเกินหน่วงแล้ว
O ปีกลวดลายโบกบินผ่านตฤณชาติ
เมื่อลมลาดเลื่อนริ้วยังพลิ้วแผ่ว
คล้ายในตาลอบเร้น .. ตอบเต้น, แวว-
วามผ่องแผ้ว .. พรับพลิ้วฝากริ้วลม
O ดวงวันค่อยลบลาญเลื่อนม่านหมอก
เพื่อดวงดอกไม้ชูช่อสู่สม
คันธรสรอพร้อม, การจ่อมจม-
ลงเชยชมแห่งภู่ ฤๅรู้พอ ?
O ปีกพร่างพรายรายล้อมรสหอมหวาน
ที่กลีบมาลย์, เรณู-ช้อยชูล่อ
ผานิตรูปหยดน้ำ .. ราวร่ำรอ-
การจดจ่อรูปเงาแห่งเช้าวัน
O ชั่วรังสีดอกแดด .. ทอดแวดล้อม
ก็อาบย้อมธรณีด้วยสีสัน
ชั่วปีกนกเหยียดกระหยับ, ก็ฉับพลัน-
ความเงียบงันในอกก็ยกตัว
O ปีกผีเสื้อลวดลายบินบ่ายโบก
ผ่านแรงโศกแรงเศร้าเคยเย้ายั่ว
มองฟ้าแล้วยิ้มหยัน .. กับสั่นรัว-
ครั้งที่หัวใจเยาว์ .. ยังเขลานัก
O ปีกผีเสื้อลวดลายยังบ่ายโบก
ยั่วเย้ยโลกหวานหอมให้ล้อมกัก
ฝ่าพ้นฤๅ .. รูปนามแห่งความรัก-
ที่ค่อยถักทองามลงล่ามใจ ?
O กลางปีก-ลายหรุบคลี่, เท่าที่เห็น-
เพียงแววตาลอบเร้น-ที่เต้น .. ไหว
งามโลกที่เบื้องหน้า หรือตาใคร-
เผลอวับวามเลศนัย .. ออกให้รู้ ?
O แม้นไม่งามพร้อมพรั่งไปทั้งหมด
ยังปรากฏแต่งามเกินห้ามอยู่
ภุมรินดื่มด่ำรสดำรู
เมื่องามตรูกักล้อม .. ให้จ่อมจม
O หรือ-เร้นแฝงลงทรวงให้ห่วงหา
เพื่อเคี่ยวเข็ญ .. ทรมาให้สาสม
หรือ-ลอบเร้นแฝงรอย .. เพื่อคอยชม-
แรงปรารมภ์ถวิลเห็น .. ไม่เว้นยาม ?
O หรือ-อำพรางรูปอยู่ด้วยรู้ว่า-
แรงห่วงหาล้อมกักเกินหักข้าม
หรือ-รู้ทันเลศนัยว่าไหลลาม-
เข้าคุกคามอาวรณ์ให้ร้อนรน ?
O หมอกขาวที่เคยลอยอย่างอ้อยอิ่ง
บัดนี้ทิ้งรอยล่วงจากห้วงหน
ขณะแววตาสะทกกลับวกวน-
แทรกรูปบนจินตนาไม่ล้าเลือน
O ปีกนกคลี่ร่อนคว้างที่กลางหาว
แววตาวาววามอยู่ก็ดูเหมือน-
คอยแฝงฝากรูปนามเฝ้าตามเตือน-
ทุกขยับทุกเขยื้อน .. คอยเลื่อนล้อม
O กลาง-แดดสาย, มาลย์สี, ปีกคลี่โบก
งามทั้งโลกคล้ายกับเฝ้าขับกล่อม
ให้คำนึง ให้ถวิล ให้ยินยอม-
ลงแนบน้อมผ่องแผ้วแห่งแววตา
O ผีเสื้อปีกลวดลายลับหายแล้ว
เมื่อภาพแววตาปรอยชม้อยหา-
คล้ายเพรียกแรงผูกพันพร้อมฉันทา
พันธนาล้อมล่ามด้วยงามนั้น !
O สายแล้ว .. หยาดน้ำค้างย่อมจางหาย
หากความหมายในตา .. ยังพร่าสั่น-
โลมลูบอารมณ์ชายจนคล้ายกัน-
ที่ความหวั่นไหว .. ห่วง .. ท่วมดวงใจ !
.
.
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2014&date=17&group=11&gblog=602&fbclid=IwAR0HjQ_FVsMYw80tMlVRcS_U5WgHzybf_mtpN0pdiyhs2tDz0mmnWWgZYao
O รูปนามแห่งความรัก .. O
O กลั่นเม็ดน้ำวางรูป .. เห็นวูบวับ-
ขึ้นตอบรับแสงสรวงที่ช่วงฉาย
รูปปีกบางโบกพลิ้ว .. อวดริ้วลาย
ล่องตามสายลมอ้อน .. อย่างอ่อนโยน
O กลางม่านหมอกขาวขุ่น .. แดดอุ่นเช้า
ความเงียบเหงาล้อมกัก เริ่มหักโค่น
เมื่ออีกหนึ่งความหมายเริ่มถ่ายโอน-
อบอุ่นโชนแรงช่วงเกินหน่วงแล้ว
O ปีกลวดลายโบกบินผ่านตฤณชาติ
เมื่อลมลาดเลื่อนริ้วยังพลิ้วแผ่ว
คล้ายในตาลอบเร้น .. ตอบเต้น, แวว-
วามผ่องแผ้ว .. พรับพลิ้วฝากริ้วลม
O ดวงวันค่อยลบลาญเลื่อนม่านหมอก
เพื่อดวงดอกไม้ชูช่อสู่สม
คันธรสรอพร้อม, การจ่อมจม-
ลงเชยชมแห่งภู่ ฤๅรู้พอ ?
O ปีกพร่างพรายรายล้อมรสหอมหวาน
ที่กลีบมาลย์, เรณู-ช้อยชูล่อ
ผานิตรูปหยดน้ำ .. ราวร่ำรอ-
การจดจ่อรูปเงาแห่งเช้าวัน
O ชั่วรังสีดอกแดด .. ทอดแวดล้อม
ก็อาบย้อมธรณีด้วยสีสัน
ชั่วปีกนกเหยียดกระหยับ, ก็ฉับพลัน-
ความเงียบงันในอกก็ยกตัว
O ปีกผีเสื้อลวดลายบินบ่ายโบก
ผ่านแรงโศกแรงเศร้าเคยเย้ายั่ว
มองฟ้าแล้วยิ้มหยัน .. กับสั่นรัว-
ครั้งที่หัวใจเยาว์ .. ยังเขลานัก
O ปีกผีเสื้อลวดลายยังบ่ายโบก
ยั่วเย้ยโลกหวานหอมให้ล้อมกัก
ฝ่าพ้นฤๅ .. รูปนามแห่งความรัก-
ที่ค่อยถักทองามลงล่ามใจ ?
O กลางปีก-ลายหรุบคลี่, เท่าที่เห็น-
เพียงแววตาลอบเร้น-ที่เต้น .. ไหว
งามโลกที่เบื้องหน้า หรือตาใคร-
เผลอวับวามเลศนัย .. ออกให้รู้ ?
O แม้นไม่งามพร้อมพรั่งไปทั้งหมด
ยังปรากฏแต่งามเกินห้ามอยู่
ภุมรินดื่มด่ำรสดำรู
เมื่องามตรูกักล้อม .. ให้จ่อมจม
O หรือ-เร้นแฝงลงทรวงให้ห่วงหา
เพื่อเคี่ยวเข็ญ .. ทรมาให้สาสม
หรือ-ลอบเร้นแฝงรอย .. เพื่อคอยชม-
แรงปรารมภ์ถวิลเห็น .. ไม่เว้นยาม ?
O หรือ-อำพรางรูปอยู่ด้วยรู้ว่า-
แรงห่วงหาล้อมกักเกินหักข้าม
หรือ-รู้ทันเลศนัยว่าไหลลาม-
เข้าคุกคามอาวรณ์ให้ร้อนรน ?
O หมอกขาวที่เคยลอยอย่างอ้อยอิ่ง
บัดนี้ทิ้งรอยล่วงจากห้วงหน
ขณะแววตาสะทกกลับวกวน-
แทรกรูปบนจินตนาไม่ล้าเลือน
O ปีกนกคลี่ร่อนคว้างที่กลางหาว
แววตาวาววามอยู่ก็ดูเหมือน-
คอยแฝงฝากรูปนามเฝ้าตามเตือน-
ทุกขยับทุกเขยื้อน .. คอยเลื่อนล้อม
O กลาง-แดดสาย, มาลย์สี, ปีกคลี่โบก
งามทั้งโลกคล้ายกับเฝ้าขับกล่อม
ให้คำนึง ให้ถวิล ให้ยินยอม-
ลงแนบน้อมผ่องแผ้วแห่งแววตา
O ผีเสื้อปีกลวดลายลับหายแล้ว
เมื่อภาพแววตาปรอยชม้อยหา-
คล้ายเพรียกแรงผูกพันพร้อมฉันทา
พันธนาล้อมล่ามด้วยงามนั้น !
O สายแล้ว .. หยาดน้ำค้างย่อมจางหาย
หากความหมายในตา .. ยังพร่าสั่น-
โลมลูบอารมณ์ชายจนคล้ายกัน-
ที่ความหวั่นไหว .. ห่วง .. ท่วมดวงใจ !
.
.
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2014&date=17&group=11&gblog=602&fbclid=IwAR0HjQ_FVsMYw80tMlVRcS_U5WgHzybf_mtpN0pdiyhs2tDz0mmnWWgZYao