สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวเมือง Tagong เมืองทิเบตน้อยๆ ระหว่างทางจากย่าติงกลับเข้าเมืองเฉิงตูกันค่ะ

เมื่อประมาณ ตุลาคมปีที่แล้ว เราได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ย่าติงมาค่ะ ตามรีวิวของเพื่อนๆ ในนี้ไปเหมือนกัน สวยมากค่ะ

แต่วันนี้ เราจะมารีวิวเมืองเล็กๆ ระหว่างทางกลับจากย่าติงค่ะ จากย่าติงเราต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วันในการนั่งรถบัสกลับเข้าเมืองเฉิงตู โดยแวะพักที่เมืองคังติ้งหนึ่งคืน ที่เมืองคังติ้งนี้เองที่เรารู้สึกว่า ไหนมาเหนื่อยๆ แล้ว มีอะไรให้แวะพักซักวัน เดินเล่นในเมือง ชมธรรมชาติความเป็นทิเบตอีกหรือไม่

หลังจากเสิชไปมา เราก็เจอว่า มีเมืองเล็กๆ ห่างจากคังติ้งประมาณ 3 ชม. โดยรถบัส เป็นเมืองทิเบตเล็กๆ ที่แยกตัวอยู่อย่างโดดเดี่ยว ทำให้ธรรมชาติยังสวยงามมาก และสภาพบ้านเมืองยังคงความเป็นทิเบตแท้ๆ อยู่ เราจึงตัดสินใจที่จะแวะพักเพื่อเที่ยวเมืองนี้ซักหน่อย

ไหนๆ ก็ยังไม่ค่อยมีใครรีวิวเกี่ยวกับเมืองนี้ ก็เลยอยากจะมาแบ่งปันกันให้ได้รู้จักเมืองนี้กันมากขึ้นค่ะ

เราเดินทางจากเมืองเต้าเฉิง (ต้นทางจากย่าติง) มาถึงเมืองคังติ้งตอนประมาณบ่าย 3 โมง ที่ท่ารถบัสนี่เราจะสามารถซื้อตั๋วรถบัสขาถัดไปเข้าเฉิงตู และตั๋วรถบัสสำหรับไปเมืองคังติ้งในวันรุ่งขึ้นได้เลย เที่ยวรถบัสจากเมืองคังติ้ง ไปยัง เมืองถ่ากงนี้ มีวันละ 2เที่ยวเท่านั้นค่ะ คือรอบ 7.30 และรอบ 8.00 เท่านั้นค่ะ เราจึงเลือกรอบ 7.30 เพราะเผื่อมีเหตุฉุกเฉินก็ยังเหลือรอบ 8 โมงไว้กันเหนียว ราคาตั๋ว 38 หยวน

หน้าตาตั๋วเป็นตามด้านล่างเลยค่ะ วิธีซื้อคือ เราก็บอกชื่อจุดหมายปลายทางของเรา (คังติ้ง) กับเค้าไป บอกว่า 7.30 แล้วบอกวันที่ที่จะเดินทางค่ะ เจ้าหน้าที่จะขอพาสปอตเราและบอกราคาของตั๋วค่ะ เสร็จแล้วก็จะปริ๊นกระดาษตั๋วนี้มาให้ เก็บใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยนะคะ กระดาษตั๋วนี่บางมาก และพร้อมจะขาดได้ง่ายๆ เลย

วันรุ่งขึ้น เราก็ตื่นแต่เช้า ทานอาหารเช้าที่โรงแรม และเดินมาขึ้นรถ แนะนำให้ว่าให้มาก่อนเวลารถออกประมาณ 30 นาทีค่ะ เพราะรถบัสที่นี่ค่อนข้างตรงเวลาค่ะ ที่หน้าตั๋วบอกกี่โมง ก็จะออกตามเวลานั้นเลยค่ะ มาถึงสถานีรถบัสที่ซื้อตั๋วเมื่อวานแล้ว เราก็เอาตั๋ว วางตรงบาร์โค้ดคว่ำที่ประตูกั้นคล้ายบีทีเอส แล้วประตูก็จะเปิดอัตโนมัติให้เราเข้าไปได้เลยค่ะ

อันนี้ถ่ายจากด้านในที่เข้ามาแล้วนะคะ เข้ามาถึงก็จะเห็นรถบัสจอดเรียงกันแบบนี้ พร้อมชื่อสถานที่หน้ารถ ซึ่งแน่นอน เราอ่านได้นิดหน่อย แค่ชื่อเมืองที่เราจะไป แค่ รถบัสไปคังติ้งไม่ได้สุดสายที่คังติ้ง ดังนั้น วิธีง่ายที่สุดคือ เอาตั๋วให้คนท้องถิ่นดู ให้เค้าชี้รถคันที่จะไปให้เราค่ะ

ก่อนขึ้นรถ ก็เอาตั๋วถามคนขับอีกทีเพื่อความชัวร์ แล้วก็ไปนั่งตามเลขที่นั่งที่ระบุในตั๋วได้เลยค่ะ ตรงนี้คนจีนส่วนใหญ่ก็จะนั่งตามเลขที่ในตั๋วกัน แต่ก็อาจจะมีบ้างที่ไม่ได้นั่งตามเลขที่บนตั๋ว ดังนั้น ถ้าไม่อยากทะเลาะกับคนจีน เราควรไปให้เร็ว เพื่อที่จะไปนั่งตามเลขที่ที่เราซื้อมาก่อนค่ะ (ตอนซื้อไม่ได้เลือกเลขที่นั่งนะคะ แต่เข้าใจว่าเรียงตามลำดับการซื้อตั๋วก่อนหลังเลยค่ะ)

ขึ้นมาแล้ว ที่นี่รถบัสระหว่างเมืองคนขับและผู้โดยสารอย่างเราจะถูกแจ้งให้คาดเข็มขัดก่อนค่ะ โดยทุกที่นั่งจะมีที่คาดเข็มขัดแบบรถยนต์บ้านเราให้เลย ให้คาดให้เรียบร้อย เพราะบางสถานี ก่อนรถจะออกจากท่ารถ จะมีเจ้าหน้าที่ที่หน้าประตูขึ้นมาเดินตรวจบนรถเลยว่า คาดเข็มขัดเรียบร้อยทุกคนหรือยัง เพื่อความปลอดภัยของเราค่ะ เส้นทางนี้อยู่กลางหุบเขา บางช่วงขึ้นเขาสูง คาดไว้ปลอดภัยไว้ก่อนค่ะ

นั่งรถมาเรื่อยๆ ออกจากตัวเมืองมาแล้ว วิวก็จะเริ่มเปลี่ยนไป


นั่งรถออกมาซักพัก จะมีช่วงที่รถจะข้ามเขาสูง ประมาณเกือบ 5,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล รถจะค่อยๆ ไต่เขาขึ้นไป เราอาจจะเกิดอาการ Altitude sickness ได้นิดหน่อยค่ะ จะเริ่มรู้สึกว่าหายใจปกติลำบากขึ้นนิดหน่อย จะเริ่มอึดอัดแน่นหน้าอก อย่าตกใจไปนะคะ ให้นั่งนิ่งๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ ยาวๆ เข้าาาาา ออกกกกก เข้าาาาาาา ออกกกกกก อย่างช้าๆ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่ไม่ได้จะหายไปทั้งหมด เพราะว่าเราขึ้นที่สูงเร็วจากการนั่งรถ ทำให้ร่างกายต้องการปรับตัว

รถจะวิ่งอยู่บนเขาสูงนี้ประมาณ 30 นาที แล้วก็จะลงมาสู่พื้นราบที่เราจะหายใจได้สะดวก ระหว่างอยู่บนเขา ก็ค่อยๆ หายใจเข้า หายใจออก ชมวิวภูเขาหิมะใกล้ๆ ข้างหน้าต่างนี้ไป ไม่ต้องกังวลค่ะ เราไม่ได้จะเป็นอะไร พอลงมาถึงที่ราบแล้ว อาหารจะหายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ


หลังจากนั้น เราจะนั่งรถผ่านเมืองซินตูเฉียว แล้วเลี้ยวเข้าถนนเส้นเล็กลง บนถนนเส้นนี้ จะมุ่งตรงสู่เมืองถ่ากงนี้เอง ธรรมชาติสองข้างทางจะเริ่มเปลี่ยนไปมากขึ้น คือ จะมีลักษณะบ้านเรือนที่เป็นทิเบต ทุ่งหญ้ากว้างๆ ธงมนต์ และตัวอักษรต่างๆ บนเขามากขึ้น นั่งชมวิวกันไปเพลินๆ เลยค่ะ


นั่งรถมาเรื่อยๆ จนสังเกตเห็นเขตเมือง มีตึกแถวสไตล์ทิเบตเรียงรายติดๆ กันอยู่สองข้างถนน มีแยก มีซอย ก็เตรียมตัวลงจากรถได้เลยค่ะ รถจะขับผ่านลานจอดรถกว้างๆ ด้านซ้ายมือ แล้วโค้งขวา ก็ให้ลุกไปเตรียมตัวลงได้เลยค่ะ คนขับจะจอดตรงไหนก็ได้ที่มีคนจะลง ดังนั้น แนะนำว่าให้โค้งขวาเสร็จ เห็นวิวนี้ แล้วขอลงเลยค่ะ


เจดีย์สีทองข้างหน้าคือ วัด Tagong ส่วนภูเขาหิมะด้านหลังคือ Yala Mountain จากจุดนี้ ให้เดินไปทางที่จอดรถด้านหน้าวัด จะมีทางเข้าไปชมทุ่งหญ้าด้านข้างวัด เห็นม้ายืนเรียงกันเป็นถวแบบนี้ก็มาถูกทางละค่ะ


เสียค่าเข้าชมคนละ 10 หยวน ให้คนท้องถิ่นแถวนั้น และเดินเข้าไปเลยค่ะ จะเดินตามทางปูไม้ หรือลงไปเดินในทุ่งหญ้าเลยก็ได้ค่ะ วิวก็จะประมาณนี้

ชมวิวที่นี่กันอิ่มตา อิ่มใจแล้ว ก็ได้เวลาเดินกลับเข้าไปชมในเมือง หาอาหารอร่อยๆ ใส่ท้องให้อิ่มกันบ้าง

เดินออกจากทางหน้าวัด Tagong ให้เดินตามถนนย้อนกลับมาทางที่รถวิ่งมา จะเห็นวิวตามด้านล่าง ให้เดินกลับมาเรื่อย ๆจะมาถึงจตุรัสกลางเมือง ที่มีรถจอดเยอะๆ

ได้เวลามองหาอาหารดีๆ ให้ตัวเองละ จากมุมนี้ ให้มองไปทางซ้ายมือ เดินเลาะริมตึกแถวทางซ้ายมือไปจนเกือบสุดตึด จะมีร้านเล็กๆ ชื่อ Khampa Cafe ป้ายชื่อร้านสีฟ้าสดใส ให้เดินเลี้ยวไปข้างๆ ตึก ขึ้นบันไดเล็กๆ ข้างตึกไปชั้นที่ 2 เข้าไปจะเป็นห้องพัก ให้ขึ้นบันไดไปอีกที่ชั้น 3 จะเจอกับร้านอาหารเล็กๆ แต่ดูอบอุ่น มีระเบียงให้นั่งรับลม หรือจะอยากนั่งหลบลมหนาวในห้องแบบทิเบตด้านในก็ได้ วิวด้านนอกก็จะประมาณนี้


ที่นี่ เมนูอาหารเป็นภาษาอังกฤษ มีตั้งแต่อาหาารตะวันตกไปจนถึงอาหารท้องถิ่น เจ้าของร้านพูดภาษาอังกฤษได้ดี เมนูมีรูปภาพ สั่งอาหารกันได้สบายใจเลยค่ะ

ส่วนเรา เราตั้งใจมาทางอาหารเนื้อจามรี หรือเนื้อ Yak ในภาษาอังกฤษ มาถึงที่ของเค้าแล้ว ก็ต้องลองทานกันซักหน่อยว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร เราเลือกสั่งทั้งเมนูตะวันตกแบบสเต็ก ไปจนถึง เมนูท้องถิ่นแบบเกี๊ยวต้ม รสชาติที่เข้าปาก เรียกได้ว่าอร่อยเลยทีเดียว ถ้าไม่บอกว่านี่คือเนื้อจามรี ก็คงจะคิดว่าเป็นเนื้อไก่ เนื้อหมูธรรมดานี่เอง


ทานอิ่มแล้ว ถ้าอยากทานขนมร้านนี้ก็มี เลือกทานได้ตามสบาย หรือจะไปเดินเล่นในเมือง ชมบ้านเมืองลักษณะทิเบต ชมของที่ระลึกก็ได้ แต่รถบัสเที่ยวสุดท้ายกลับเข้าเมืองคังติ้งคือ รอบ่าย 2 โมงเท่านั้น ดังนั้นเผื่อเวลากันให้ดีๆ นะคะ

สถานที่ขึ้นรถ ก็คือลานจตุรัสกลางเมืองนี่แหละค่ะ ถ้ายืนจากด้านหน้ากำแพงสีแดง จะเห็นรถบัสคันเล้กสีเขียวสดใสในรูป คือคันนั้นแหละค่ะ ที่จะพาเรากลับเข้าเมือง ค่ารถ 20 หยวนค่ะ
เราแวะมาเดินเล่นชมเมืองก่อนที่จะขึ้นรถกลับค่ะ


ชมเมืองพอประมาณ เก็บบรรยากาศ เดินเล่นชิวๆ ชมของที่ระลึก ดูผู้คนเดินไปมา ก็กลับมาขึ้นรถกลับเข้าเมืองพอดี ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ประมาณ 5 โมงเย็นก็กลับมาถึงเมืองคังติ้งพอดี จบ 1 day trip สั้นๆ ชิวๆ พักผ่อนเก็บบรรยากาศ พร้อมนั่งรถยาวๆ กลับเข้าเฉิงตู

ใครติดใจ อยากตามไปดูรายละเอียดย่าติง รวมถึงการเดินทางในทริปนี้ สามารถเข้าไปติดตามได้ที่นี่นะคะ
Facebook Page : ไหนๆ ก็มาแล้ว - Go For It http://tiny.cc/15t76y

วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีค่ะ