[CR] ย่าติง ทุ่งหญ้า ชัมบาลา และความฝันของนักเดินทาง

เมื่อครั้งที่ โจเซฟ ฟรานซิส ร็อค เดินทางเข้าไปสู่รอยต่อระหว่างดินแดนของชนฮั่นกับชาวทิเบตเมื่อเกือบร้อยปีก่อนนั้น เขาได้เจอสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแดนที่เชื่อมต่อระหว่างโลกกับชีวิตหลังความตาย เป็นแดนลี้ลับและมหัศจรรย์อันเป็นที่พำนักของจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ สถานที่นั้นงดงาม มีภูเขา สายน้ำ ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ แดนนั้นไม่ใช่โลก ไม่ใช่สวรรค์ แต่เป็นที่ซึ่งไร้ซึ่งกิเลส เป็นที่ซึ่งทุกคนจะดำรงชีวิตได้อย่างแท้จริง อย่างที่มนุษย์ควรจะเป็น ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์และจารีตอันไร้สาระแห่งโลก มีแต่แก่นสารอันแท้จริงของชีวิตเท่านั้น มีแต่ความรักอันงดงามที่ธรรมชาติอันบริสุทธิ์มอบให้แก่มนุษย์ และมนุษย์นั้นแลก็มอบการเฝ้ามองสังเกตุการณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ อันเป็นสัจจะและสารัตถะอันแท้จริงเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นในการเกิดมาเป็นมนุษย์ สิ่งนี้คือปรัชญาอันเป็นแก่นสาระสำคัญของทิเบต อันเรียกว่า "แชงกรีล่า" หรือ "ชัมบาลา" อันมี "ย่าติง" เป็นมโนทัศน์ที่แสดงให้ทุกคนเห็นเป็นภาพจริงอันงดงามแห่งชีวิต



สำหรับผมนั้นเป็นความฝันมาเนิ่นนานแล้วที่จะได้ไปเดินอุทยานย่าติงนี้ ได้เดินไปถึงทะเลสาบทั้ง 3 ได้ชมวิวยอดเขาเซียนหน่ายลื่อ (Mt. Chenrezig , Xiannairi)  ยอดเขาเซียโต๋วจื่อ (MT Chanadorje, Xiaruoduoji) และยอดเขาหยางเหมยหย่ง (Mt. Jambeyang, Yangmaiyong) ซึ่งเป็นยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบตในถิ่นคาม  ดังพระโพธิสัตว์ทั้งสามที่ได้เฝ้ามองดูโลก นอกจากนั้นยังได้เดินตัดเข้าไปในทุ่งหญ้า  ซึ่งเสมือนเป็นอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์เพื่อสักการะเทพแห่งฟ้า สิ่งเหล่านี้เป็นปณิธานของผมที่มีมาแสนนาน นับจากได้ยินชื่ออุทยานย่าติงมาเกือบ 20 ปี



ในทริปนี้ ผมเดิน trekking จากทุ่งหญ้าลู่หรงสู่ทะเลสาบห้าสีและทะเลสาบน้ำนม แห่งอุทยานแห่งชาติย่าติง ระยะทางประมาณ 10 km ใช้เวลาไปกลับ 3.23 ชม โดยไม่ใช้ Oxygen สักปี๊ด ต้องรีบทำเวลา เพราะออก start จากทุ่งหญ้าก็ 12.00 แล้ว เดินถึงทะเลสาบน้ำนมตอน 13.35 ถึงทะเลสาบห้าสีตอน 13.57 เป็นการ trekking ที่ประทับใจดีงามที่สุดในชีวิต ได้ผ่านทุ่งหญ้าที่สวยงามที่สุดเท่าที่ธรรมชาติจะมอบให้กับมนุษย์ได้ ได้เห็นฝูงสัตว์ใช้ชีวิตในทุ่งหญ้า เดินทางผ่านทะเลสาบ พบพืชพันธุ์แปลกตาที่จะขึ้นในเฉพาะภูมิประเทศแบบทิเบตเท่านั้น ผ่านทางขึ้นสูงชันเสียดฟ้า ผ่านทางเดินที่ขนาบไปกับภูเขาหิมะสูงและขอบฟ้า จนเจอทะเลสาบยิ่งใหญ่ที่มหัศจรรย์ว่าไปอยู่บนที่สูงเกือบ 5,000 เมตรได้อย่างไร เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่และล้ำค่า อย่างที่เงินทองมหาศาลก็มิอาจจะซื้อได้ และอย่างที่มนุษย์คนนึงควรจะพบเจอได้

และอยากบอกว่าไปถึงได้ยากลำบากเหลือเกิน ทั้งสภาพอากาศที่โหดร้ายในระดับความสูง  4,200-4,700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บันไดสูงชันเสียดฟ้าขึ้นอย่างเดียวต่อเนื่องยาวเป็นกิโล ตอนเดินเหมือนหัวจะระเบิด สติแทบจะหลุดออกจากร่าง แต่ก็ไปได้ด้วยศรัทธาที่คิดว่าจะต้องไปให้ถึง Heart of Shangri-la ให้ได้ อยากให้มาสักครั้ง แล้วย่าติงจะเป็นประสบการณ์ที่ตราตรึงที่สุดของผู้มาเยือน



แท้จริงแล้วมนุษย์เราเกิดมาเพื่อเป็นเพียงแค่ผู้เฝ้าดูสังเกตการณ์ธรรมชาติและสรรพสิ่ง ดังนั้นเมื่อเราเห็นธรรมชาติที่งดงาม จงแค่เปิดตา เปิดหัวใจ จ้องมองไปที่ความงดงามเหล่านั้น โดยมิต้องคิดถึงเรื่องอื่น ไม่คำนึงคิดถึงเรื่องราวใด ๆ ในช่วงเวลาที่ดีงามนั้นเราเพียงแต่มอง เพียงแต่รู้สึก เพียงแต่สดับฟังเสียง หัวใจของเรามิต้องโบยบินไปที่ไหน ให้อยู่ที่นี่ อยู่ตรงนี้ อยู่กับภาพที่เราอาจมิได้กลับมาเห็นอีกเลยในชั่วชีวิต ในเวลานั้นอาจมิมีคำพูดใดเลยที่จะกล่าว จะรู้สึกว่าตัวเองเล็กและด้อยค่า เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งแห่งจักรวาล เป็นเพียงแสงเล็ก ๆ ที่ลอดผ่านม่านไม้ในยามอรุณรุ่ง เป็นเพียงหยาดน้ำตาในมหาสมุทร เป็นเพียงดอกหญ้าในป่ากว้าง แม้กระนั้นเราก็ยังรู้สึกถึงความงดงาม และรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของการเป็นผู้เฝ้าดู แม้เราอาจไม่มีภาพถ่ายที่สวยงามเก็บกลับไป แต่ภาพแห่งครรลองความทรงจำจะตามติดเราไปทุกที่ ในยามที่หดหู่ ในยามที่ท้อแท้ มันจะตามไปปลอบประโลม เป็นยิ่งกว่าเพื่อนแท้ เป็นแสงเล็ก ๆ แห่งความหวังในโพรงถ้ำอันมืดมิด เป็นฟ้างามหลังพายุกรรโชกกระหน่ำ และเป็นแสงดาวสว่าง แม้ในคืนเดือนอับแสง



ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อจะสื่อความหมายว่า จุดมุ่งหมายในการเดินทางท่องเที่ยวคือ เรียนรู้วัฒนธรรม เข้าใจการเปลี่ยนผ่านของประวัติศาสตร์จากอดีตถึงปัจจุบัน สัมผัสพื้นถิ่นที่ได้เดินทางเข้าไปอย่างแท้จริง คือรู้ถึงความหมายของพื้นที่ในแง่บริบทที่เกิดจากการหมุนผ่านของกงล้อแห่งกาลและเวลา เข้าใจพลวัตรของวัฒนธรรมและผู้คนในอาณาบริเวณแห่งนั้น เรียนรู้ความหมายของสัญลักษณ์ที่แสดงออกมาในรูปลักษณ์ของโบราณสถาน โบราณวัตถุ ที่คนโบราณทำไว้สื่อความหมายกับคนเป็นที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้ประจักษ์แจ้งความหมายแห่งชีวิตและการมาเกิด การสืบทอดจิตวิญญาณจากรุ่นสู่รุ่น 

มนุษย์นั้นถ้าอยู่ในสถานที่เดิม ๆ  หรือไปแต่สถานที่เดิม ๆ ก็จะไม่เกิดพัฒนาการทางด้านจิตใจ ทั้งนี้เพราะธรรมชาติสร้างโลกกว้างใหญ่ให้มนุษย์เดินทาง กวีเดินทางเพื่อรจนาถ้อยคำงดงาม นักบวชนักบุญธุดงค์เดินทางเพื่อเข้าใจธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลง นักรบเดินทางเพื่อค้นหาดินแดนอันกว้างใหญ่ มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ ลำธาร ทะเลทรายอันกว้างใหญ่ก็เพื่อให้มนุษย์ไปประจักษ์ค้นพบ โดยธรรมชาติซ่อนความหมายและสัญลักษณ์ที่สำคัญอยู่ในสิ่งต่างๆ  เหล่านั้น เมื่อมนุษย์มองเห็นก็จะเข้าใจรหัสนัยนั้นได้ด้วยตนเอง เช่นโจเซฟ ฟรานซิส ร็อคเดินทางไปดินแดนคามและอัมโดร์ซึ่งเป็นทิเบตตะวันออก อันมีภูเขาสูงและทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าจักรวาลต้องการจะสื่อความหมายอันใดกับมนุษย์ เขาได้มองเห็นโลกอันสงบและดินแดนอันเป็นนิรันดร์ที่เหมือนเป็นสถานที่ระหว่างกลางระหว่างโลกมนุษย์กับสวรรค์อันเรียกว่า "ชัมปาลา" หรือ "แชงกรีล่า" 

ชื่อสินค้า:   ย่าติง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่