John Wick: Chapter 3 - Parabellum (Chad Stahelski, 2019) คะแนน C+ (7.5/10)
"ดูเอางานแอคชั่นสนุกเพลิน ๆ แต่ไม่ได้สนุกทั้งหมด" จริง ๆ แล้วการรับชมภาพยนตร์ John Wick คงไม่ต้องตั้งความหวังกับเนื้อหาสาระอะไรมากเกินความจำเป็น เพราะหนังไม่ได้สนองส่วนเนื้อหาหรือความสำคัญของตัวละครแต่ละตัวที่ไม่มีมิติอะไรอยู่แล้ว แม้กระทั่งตัว จอห์น วิค ก็ไม่มีมิติอะไรในเชิงลึกถึงพฤติกรรมต่าง ๆ นอกจากความสามารถเหนือมนุษย์ ความเก่งกาจในการใช้ปืน ต่อสู้ตัวต่อตัว ความเท่ และสามารถหยิบจับอะไรก็ได้มาเป็นอาวุธฆ่าคน ความโหดดิบเถื่อน และไม่ประนีประนอม ก็ต้องบอกว่าเรารู้สึกเบื่อกับฉากแอคชั่นช่วงกลางเรื่องจนไปถึงท้ายเรื่อง เพราะถ้าคาดหวังแต่ฉากแอคชั่นอย่างเดียว สำหรับเรานั้นช่วงเริ่มต้นเรื่องมีประมาณ 2 ถึง 3 ฉากใหญ่ ๆ ที่ทำได้สนุก สวยงาม ไหลลื่น แต่พอช่วงกลาง ๆ เรื่องจนไปถึงท้ายเรื่องความพีคของฉากแอคชั่นกลับถดถอยลงไป ทำให้น้ำหนักของอารมณ์ความพีคต่าง ๆ ใน John Wick 3 ค่อนข้างรักษาสมดุลได้ไม่ดี ฉากแอคชั่นมีเยอะและเริ่มซ้ำเกินไปจนเริ่มไม่สนุกและรู้สึกเบื่อ นอกจากนี้ในส่วนเนื้อหาที่ไม่มีอะไรจับต้องและมีเรื่องราวที่น้อยนิดก็ทำให้เรายิ่งรู้สึกเฉย ๆ
เพราะฉะนั้น ถ้าตัดส่วนเนื้อหาสาระของหนังออกไป ดูแค่เฉพาะงานแอคชั่นอย่างเดียวก็ต้องบอกว่าเราไม่รู้สึกสนุกไปทั้งหมดตลอดเรื่อง แต่ส่วนหนึ่งที่ทำได้ดีตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องคืองานภาพและองค์ประกอบแวดล้อมต่าง ๆ ทำได้สวยงามและยกระดับหนัง จอห์น วิค ให้ดูแตกต่างจากภาคก่อน ๆ ความยิ่งใหญ่ของฉากแต่ละฉากทำได้ค่อนข้างดี ดนตรีประกอบที่เร่งเร้าอารมณ์ร่วมก็ทำได้ถูกที่ถูกเวลา ดังนั้น John Wick 3 จึงเป็นงานที่ขายมุมมองต่อสู้เฉพาะฉากแอคชั่นที่สนองความบันเทิงสำหรับคนชอบงานสไตล์นี้ แม้ว่าเนื้อหาหรือบทภาพยนตร์ วิธีดำเนินเรื่อง ตัวละครสมทบจะไม่ชวนน่าจดจำ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าคงจะไม่มีหนังขายแอคชั่นคิวบู๊ดิบ ๆ ในปีนี้ที่จะพอดูดี พอได้ดูเพลิน และดูเท่เหลือเกิน ได้เท่ากับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกแล้ว...มั้ง?
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
Review: John Wick: Chapter 3 - Parabellum (Chad Stahelski, 2019) รีวิวโดย Form Corleone
"ดูเอางานแอคชั่นสนุกเพลิน ๆ แต่ไม่ได้สนุกทั้งหมด" จริง ๆ แล้วการรับชมภาพยนตร์ John Wick คงไม่ต้องตั้งความหวังกับเนื้อหาสาระอะไรมากเกินความจำเป็น เพราะหนังไม่ได้สนองส่วนเนื้อหาหรือความสำคัญของตัวละครแต่ละตัวที่ไม่มีมิติอะไรอยู่แล้ว แม้กระทั่งตัว จอห์น วิค ก็ไม่มีมิติอะไรในเชิงลึกถึงพฤติกรรมต่าง ๆ นอกจากความสามารถเหนือมนุษย์ ความเก่งกาจในการใช้ปืน ต่อสู้ตัวต่อตัว ความเท่ และสามารถหยิบจับอะไรก็ได้มาเป็นอาวุธฆ่าคน ความโหดดิบเถื่อน และไม่ประนีประนอม ก็ต้องบอกว่าเรารู้สึกเบื่อกับฉากแอคชั่นช่วงกลางเรื่องจนไปถึงท้ายเรื่อง เพราะถ้าคาดหวังแต่ฉากแอคชั่นอย่างเดียว สำหรับเรานั้นช่วงเริ่มต้นเรื่องมีประมาณ 2 ถึง 3 ฉากใหญ่ ๆ ที่ทำได้สนุก สวยงาม ไหลลื่น แต่พอช่วงกลาง ๆ เรื่องจนไปถึงท้ายเรื่องความพีคของฉากแอคชั่นกลับถดถอยลงไป ทำให้น้ำหนักของอารมณ์ความพีคต่าง ๆ ใน John Wick 3 ค่อนข้างรักษาสมดุลได้ไม่ดี ฉากแอคชั่นมีเยอะและเริ่มซ้ำเกินไปจนเริ่มไม่สนุกและรู้สึกเบื่อ นอกจากนี้ในส่วนเนื้อหาที่ไม่มีอะไรจับต้องและมีเรื่องราวที่น้อยนิดก็ทำให้เรายิ่งรู้สึกเฉย ๆ
เพราะฉะนั้น ถ้าตัดส่วนเนื้อหาสาระของหนังออกไป ดูแค่เฉพาะงานแอคชั่นอย่างเดียวก็ต้องบอกว่าเราไม่รู้สึกสนุกไปทั้งหมดตลอดเรื่อง แต่ส่วนหนึ่งที่ทำได้ดีตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่องคืองานภาพและองค์ประกอบแวดล้อมต่าง ๆ ทำได้สวยงามและยกระดับหนัง จอห์น วิค ให้ดูแตกต่างจากภาคก่อน ๆ ความยิ่งใหญ่ของฉากแต่ละฉากทำได้ค่อนข้างดี ดนตรีประกอบที่เร่งเร้าอารมณ์ร่วมก็ทำได้ถูกที่ถูกเวลา ดังนั้น John Wick 3 จึงเป็นงานที่ขายมุมมองต่อสู้เฉพาะฉากแอคชั่นที่สนองความบันเทิงสำหรับคนชอบงานสไตล์นี้ แม้ว่าเนื้อหาหรือบทภาพยนตร์ วิธีดำเนินเรื่อง ตัวละครสมทบจะไม่ชวนน่าจดจำ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าคงจะไม่มีหนังขายแอคชั่นคิวบู๊ดิบ ๆ ในปีนี้ที่จะพอดูดี พอได้ดูเพลิน และดูเท่เหลือเกิน ได้เท่ากับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกแล้ว...มั้ง?
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/