สูงวัย 90++ กับการบินครั้งแรกในชีวิต รีวิวละเอียด เผื่อใครต้องการข้อมูลจ้า

สวัสดีทุกท่านที่แวะมาอ่านกระทู้นี้ค่ะ
ปกติเราไม่ค่อยเล่นพันทิปเท่าไหร่
แต่ช่วงที่ผ่านมาต้องการหาข้อมูลเรื่องการพาผู้สูงอายุมากๆ วัย 90++ ไม่เคยเดินทางโดยเครื่องบินมาก่อน ก็เลยมีโอกาสได้เข้าพันทิป ซึ่งทำให้เรารู้ว่าข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้มีน้อยและส่วนมากไม่ค่อยอัพเดทแล้ว


เราเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์ของเราไว้เผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่นๆที่จะพาผู้สูงอายุเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบแน่ๆ (จริงๆไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุนะ ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือคล้ายๆกัน เช่นเด็กอ่อนที่ต้องใช้รถเข็น คนท้อง คนที่บาดเจ็บ หรือผู้ที่ร่างกายไม่เอื้ออำนวยด้านอื่นๆ)

เคสของเราเป็นผู้สูงอายุ 90++ มีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง (ไม่มาก) โรคต้อ และแขนขาสั่นไม่มีแรงเดินเพราะว่าแก่มาก สำหรับผู้สูงอายุท่านอื่นที่มีโรคประจำตัว แนะนำให้ไปตรวจสุขภาพและปรึกษาคุณหมอก่อนเดินทางดีกว่าว่าสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินได้ไหม

ทริปนี้เป็นการเดินทางในประเทศ ระยะเวลาประมาณ 1 ชม
เราใช้บริการสายการบิน Air Asia ในการจองตั๋วบนเว็บไซต์จะมีแบบฟอร์มให้เลือกว่าต้องการความช่วยเหลือเรื่องรถวีลแชร์ เพราะผู้โดยสารไม่สามารถเดินระยะไกล และก้าวขึ้นลงบันไดได้ ซึ่งมันดีมากๆตรงที่ “ไม่มีค่าใช้จ่าย” นี่แหละ สุดยอด!!

ในส่วนประกันการเดินทางนั้น หากอายุเกิน 75 ปีจะไม่สามารถซื้อประกันได้ แต่ของเราไม่รู้ระบบขัดข้องหรืออย่างไร ซื้อได้เฉยเลย แต่ไม่ได้รับ Certificate of Insurance กลับมา เลยต้องทำเรื่องแจ้งที่ศูนย์ Tune Protect เพื่อขอเงินคืน (-“-)

เมื่อจองตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก่อนวันเดินทาง 2 วัน (48 ชม) ก็โทรไป call center เพื่อยืนยันการขอรับบริการวีลแชร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ภาคพื้นที่สนามบินจัดเตรียมรถ และพนักงานไว้ตอนเช็คอิน ส่วนเรื่องการเช็คอิน ต้องไปเช็คอินที่ counter เน้อ เพราะว่าจองแบบมีเงื่อนไขพิเศษคือขอบริการวีลแชร์ ไม่สามารถเช็คอินช่องทางอื่นได้ เช็คอินออนไลน์อย่าหวัง เช็คอินที่ตู้ Kiosk ก็ทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเผื่อเวลาล่วงหน้าให้ดีนะ สัก 2 ชม ก่อนเวลา Boarding Time จะดีมากๆ

เอาล่ะ ได้เวลาหิ้วกระเป๋า เข้าสนามบินดอนเมือง ความตื่นเต้นรอเราอยู่แต่คนที่ตื่นเต้นกว่าเราก็ผู้ใหญ่ของเรานี่แหละ
วันเช็คอินความบันเทิงบังเกิดคือเพิ่งรู้ว่าบัตรประชาชนอยู่ที่บ้านอีกหลังจ้า ซึ่งเจ้าของบ้านไปต่างจังหวัด เข้าไปเอาไม่ได้จ้า
เลยลองหาในกูเกิ้ลดูว่าใช้อย่างอื่นแทนได้ไหม ก็เจอว่าใช้พวกบัตรที่ทางราชการออกให้และต้องมีรูปภาพด้วย ซึ่งก็...ไม่มีสักกะใบเดียวเด้อ!!

สุดท้ายหาเจอว่า ให้เอาสำเนาบัตรประชาชนไป ก็เลยตามนั้นเลย
ตอนเช็คอินก็ใช้ได้ ได้ Boarding Pass มาเรียบร้อย จากนั้นก็เข็นวีลแชร์ไปที่จุดตรวจสัมภาระ ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องใช้บัตรตัวจริง สำเนาใช้ไม่ได้!! แล้วก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ลงไปชั้น G จะมี สน. ดนอนเมือง (ส่วนแยก) ที่รับลงบันทึกประจำวันและออกเอกสารให้ว่าเราไม่ได้เอาบัตรประชาชนมา ให้ไปเอาใบนี้มาแนบสำเนาบัตร ก็ลงลิฟท์ไป ลงทะเบียนในสมุดรับเรื่องของ สน. ส่วนแยก แล้วก็ได้เอกสารมาแนบสำเนาบัตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ทีนี้ก็ผ่านจุดตรวจสัมภาระมาได้แล้วจ้า โล่งอกไปที

……….

เจ้าหน้าที่ก็จะเข็นรถวีลแชร์มารอที่หน้าเกทขึ้นเครื่องเลย ของเราโชคดีที่เที่ยวบินนี้เครื่องเทียบงวงช้างพอดี แต่รถวีลแชร์ดันเป็นคันใหญ่เข้าในตัวเครื่องไม่ได้ เกรงใจผู้โดยสารที่ยืนต่อคิวรอมากๆ เพราะเค้าจะให้วีลแชร์ขึ้นเป็นคิวแรกเลย ลองให้ท่านยืนก็ใช้เวลาแล้ว พอจะเดินก้าวขาไม่ออก ขาไม่มีแรง ทุลักทุเลมาก ดีที่ได้หัวหน้าลูกเรือใจดี ช่วยอุ้มท่านจากวีลแชร์ไปยังที่นั่งเลย (เราได้ที่นั่ง Hot Seat แถว 2) ต้องขอบคุณลูกเรือมากๆ ที่ใจเย็น และช่วยเหลือเต็มที่ ไม่ทำให้เราและผู้ใหญ่ที่มาด้วยรู้สึกเป็นภาระของการเดินทาง และขอบคุณผู้โดยสารเที่ยวบินนั้นที่อดทนรอ

พอเข้าที่นั่งได้ ก็คาดเข็มขัดให้ท่าน แนะนำว่าก่อนขึ้นเครื่อง ให้พาท่านเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เพราะบนเครื่องทางเดินแคบ คนหนุ่มๆสาวๆยังเดินสวนกันลำบาก ห้องน้ำก็แคบ ถ้าเข้าบนเครื่องจะทุลักทุเลมากๆ แล้วก็คาดเข็มขัดให้ท่านตลอดเวลาจนเครื่องลงจอดสนิท เผื่อกรณีการตกหลุมอากาศ จะได้ไม่เกิดการบาดเจ็บนะคะ ส่วนใครที่มีอาการปวดหู หูอื้อระหว่างการเดินทาง แนะนำให้เคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออมลูกอม แล้วกลืนน้ำลายบ่อยๆ จะช่วยได้ค่ะ

……….

ถึงที่หมายปลายทางด้วยความสบายใจ และโดยสวัสดิภาพ ผู้สูงอายุตื่นตาตื่นใจกับการทะยานขึ้นของเครื่องบินและวิวสวยๆของท้องฟ้ากว้างสีสดใส และก้อนเมฆสีขาวแน่นๆ ท่านมากระซิบบอกหลังจบทริปว่าหลับตาก็ยังเห็นเครื่องบิน นอนก็ฝันเห็นเครื่องบิน 55555555


และโชคดีอีกครั้งที่เครื่องเทียบงวงช้างจ้า คุณหัวหน้าทีมลูกเรือก็ใจดีช่วยอุ้มท่านไปขึ้นรถเข็นอีกรอบ แถมยังพูดขำๆว่าไม่เป็นไรผมกล้ามใหญ่ครับ 555 ลูกเรือสาวๆสวยๆก็แซวพี่เค้าว่า ใช่ค่ะพี่เค้าเล่นกล้าม

กล้ามนี่แน่นเลยค่ะ ... โอ๊ย อดอมยิ้มไม่ได้เลยเด้อ

เจ้าหน้าที่เข็นพาออกจากงวงช้างไปรอขึ้นรถ ระหว่างทางมีถามด้วยว่าจะแวะเข้าห้องน้ำไหมครับ ชอบความน่ารักและใส่ใจแบบนี้จังเลย

จบทริปสำหรับการเดินทางขาไป แต่อย่าคิดว่าความสนุกจะมีแค่นี้ ขากลับก็ยังมีความบันเทิงรูปแบบใหม่รออยู่

……….

ขากลับ

คราวนี้มีรถวีลแชร์มารอล่วงหน้าที่ counter เลยจ้า ขั้นตอนทุกอย่างก็เหมือนเดิม เช็คอิน ตรวจสัมภาระ แล้วก็เข็นไปรอหน้าเกท พอขึ้นเครื่องลูกเรือก็มาช่วยกันพยุงท่านไปที่นั่ง เที่ยวนี้ผู้โดยสารที่รอต่อคิวน่ารักมากๆ เข้ามาช่วยลูกเรือพยุงท่านด้วย ต้องขอบคุณทั้งลูกเรือที่น่ารัก บริการด้วยน้ำใจ และผู้โดยสารเที่ยวบินนั้นที่รออย่างใจเย็น และมีน้ำใจช่วยเหลือท่านมากๆเลยนะคะ

พอเครื่องลงดอนเมือง คราวนี้สนุกจ้า เครื่องไม่เทียบงวงช้าง!!!!!!!!!

ใช่

ไม่เทียบ ไม่เทียบเลยจริงๆ มีแต่บันไดสูงลิบลิ่ว เราก็ใจแป้วแล้วเอาไงดีเนี่ย

แต่น้องๆแอร์สาวสวยบอกพี่ไม่ต้องกังวลนะคะ เดี๋ยวเรามีพระเอกของงานมาช่วยคือ Ambulance Lift นั่นเอง เราก็โอเค พอผู้โดยสารท่านอื่นลงหมดแล้ว (คือเราจะรอให้ผู้โดยสารลงให้หมดก่อนเสมอเวลา Landing เพราะว่าถ้าเราออกก่อนจะเสียเวลาไปอีก ขามาก็กินเวลาท่านอื่นๆไปแล้ว) เจ้าหน้าที่ขับรถ Ambulance Lift มา เป็นรถที่มีแท่นยกขึ้นลงเพื่อรับวีลแชร์เข้าไปในรถได้ จากนั้นก็ขับรถประมาณ 15 นาที (ไกลเหมือนกันนะ) เพื่อไปส่งที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าในประเทศ ดอนเมือง แล้วก็เข็นไปขึ้นรถจ้า


สำหรับใครที่ไม่ได้มีรถส่วนตัวมารับ แล้วไม่อยากขึ้นแท็กซี่สนามบิน (คือแท็กซี่สนามบินดีๆก็มีนะ มีจริงๆ แต่เราเคยเจอแท็กซี่แย่ๆทั้งในและนอกสนามบิน  เช่น ไปปริมณฑลแล้วไม่กดมิเตอร์ หรือขอบวกเพิ่ม 200 พอไม่ยอมก็งอแงด้วยการขับแบบกระชากพูดจาไม่สุภาพใส่ ไม่ยอมทอนเงิน ฯลฯ หนักสุดก็จะให้เราลงกลางทาง เราไม่อยากเสี่ยงไง ทิ้งเรากับผู้สูงอายุลงกลางทางก็เจอมาแล้ว!! ถ้าโดนแบบนั้นเรากลัวว่าท่านจะลำบากยืนรอรถคันใหม่นานๆไม่ไหวแน่ๆ) ก็เลยตัดสินใจพาท่านขึ้นไปชั้น 3 แล้วแท็กซี่คันไหนมาส่งผู้โดยสารขาออก พอส่งเสร็จปุ๊บ เราก็เดินไปเรียกถามเค้าว่าไปไหม โอเคไหม เอาคันที่เต็มใจไปจริงๆอะ แบบนี้สบายใจกว่า

ได้แท็กซี่แล้ว ก็เดินทางกลับบ้านอย่างสบายใจไปตลอดทางจนถึงบ้านจ้า
เป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ แต่ก็คุ้มและมีความสุขเมื่อเห็นท่านยิ้มที่ได้ไปเที่ยว ได้ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในวัย 90++ ได้ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ทำให้หัวใจผู้สูงวัยกลับมาเป็นเด็กกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง นี่ยังแซวกันเล่นๆว่าคราวหน้าไปต่างประเทศไหม เอาใกล้ๆก็ได้ 555

จบกระทู้แล้วจ้า หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนที่หาข้อมูลเรื่องนี้อยู่นะ

 
 

 

 
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่