กระทู้นี้มีจุดประสงค์เพื่อ รีวิววิธีการพาผู้สูงอายุไปเที่ยวญี่ปุ่น แบบไปเอง ไม่ง้อทัวร์
รวมถึงบอกข้อดี ข้อเสียของการพาผู้สูงอายุไปเที่ยวค่ะ
อาจมีภาพแทรกเข้ามาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อไม่ให้เบื่อตัวหนังสือมากเกินไปเพราะฉะนั้น
เราจะเล่าพร้อมกับแทรกรูปไปเรื่อยๆ เลยนะคะ
เริ่มเลยจ้า
ข้อมูลส่วนตัวผู้สูงอายุ เพศ หญิง อายุ 84 ปี สุขภาพร่างกาย แข็งแรงสมบูรณ์
มีอาการปวดเข่าเป็นโรคประจำตัว ไม่มีประจำตัวอื่น เช่น ความดัน เบาหวาน
เดินได้คล่องแคล่ว ขึ้นลงบันไดได้ (แต่ถ้าเลี่ยงจะดีกว่า) ตอนเที่ยวต้องหาเวลาให้นั่งพักขา
พูดภาษาไทยได้อย่างเดียว ภาษาจีนนิสหน่อย ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศและไม่เคยนั่งเครื่องบินเลย
กินอาหารได้ปกติ แต่รีเควสนิ่มๆ จะดีมาก เพราะฟันไม่ค่อยมี
ที่สำคัญ *** ตอนถ่ายรูปนางจะไม่ยิ้ม เพราะไม่ชอบถ่ายรูป ฮ่าๆๆ ***
ข้อมูลตัวเราเอง
อายุ 21 ปี เพศหญิง พูดภาษาอังกฤษได้ ใช้รถไฟเป็น ฮ่าๆๆ
ออกเงินทริปนี้เพื่อพาม่าไปเที่ยวจากการทำงานเสริมค่ะ
งบของทริปนี้ทั้งหมด 120,000 บาทค่ะ
เราไปกับอาม่าแค่สองคน จำนวน 10 วันนะคะ
(8 สิงหาคม- 17 สิงหาคม 2560 เป็นหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นค่ะ)
เมืองที่ไปคือ โตเกียว กับโอซาก้า
เริ่มต้นจากสายการบินที่เลือกใช้เลยค่ะ
เราเลือกใช้สายการบิน Hongkong Airline เพราะว่า อาม่าเรามีปัญหาเรื่องหัวเข่า
ถ้าหากนั่งมากๆ จะเกิดอาการปวด จึงไม่สามารถบินตรงได้ เพราะใช้เวลาถึง 6-7 ขั่วโมง
เราเลยเลือกสายการบิน Hongkong Airline เพราะสายการบินนี้จะต้องแวะต่อเครื่องที่ฮ่องกง
ทำให้อาม่าเรา ได้มีเวลายืดเส้นยืดสาย ไม่เมื่อยเกินไป และอีกอย่างเป็นสายการบิน Full Service
ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มด้วย เลยตัดสินใจเลือกสายการบินนี้ ได้มาในราคา 10,000 บาทนิดๆ ต่อคนค่ะ
ถึงสนามบินแล้ว เช็คอินเรียบร้อย ได้ Boarding Passes มาพร้อมเดินไปในเกทแล้วจ้า
เพื่อนๆ รู้มั้ย ว่าถ้าเพื่อนๆ เดินทางพร้อมผู้สูงอายุ เพื่อนๆ สามารถขอรถเข็นได้ ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลย
จะมีคนดูแลไปจนถึงเกทเลยค่ะ แต่อาม่าเราเดินไหว เลยไม่ได้ขอรถเข็นไป
พี่ที่ดูแลเช็คอินดีมาก เปลี่ยนที่นั่งให้เป็น The front low (ที่ปกติต้องเพิ่มเงิน) ให้ฟรีๆ เพราะเห็นว่าเดินทางกับผู้สูงอายุ
จาก กรุงเทพฯ ไป ฮ่องกง เลยสบายแฮ เดินเข้าออกง่าย ยืดขาได้ ใกล้ห้องน้ำ
อีกหนึ่งความสะดวกคือ ตอนไปเกท เราสามารถไปที่ Priority Lane ได้เลย ไม่ต้องไปต่อคิวยาวเหยียดนะจ๊ะ
สะดวกมากๆ (สามารถใช้ได้กับทุกสนามบินเลยไม่ใช่แค่ที่สุวรรณภูมินะ)
พร้อมกับตอนเดินไปที่เครื่องบิน คำถามแรกที่อาม่าตั้งขึ้นมาหลังจากฝากกระเป๋าตอนเช็คอินคือ
"เค้าจะเอากระเป๋าคืนเราตอนไหน?" พร้อมกับทำหน้าและน้ำเสียงกังวลสุดๆ เพราะกลัวจะไม่ได้กระเป๋าคืน
เลยอธิบายไปว่า เค้าจะเอากระเป๋าเราไปไว้ใต้เครื่องบินแล้วก็บินไปพร้อมเรา แล้วเดี๋ยวเค้าจะเอาไปให้ที่ ญี่ปุ่นนะ
แก เลยทำหน้าโล่งใจแล้ว แต่ก็ยังถามอยู่เรื่อยๆ เราก็ได้แต่ยิ้มๆ ในใจ และอธิบายซ้ำๆ ไปจนกว่าแกจะเลิกถาม ฮ่าๆ
เดินไปที่เกท ได้ซักพัก ด้วยความที่ไม่เคยนั่งเครื่องบินเลย
ก็มีคำถามน่ารักๆ ขึ้นมาอีกว่า แล้วเครื่องบินจะมารับเราที่ไหน? เค้าจะบินออกไปหรือยัง? เค้าจะรอเรามั้ย?
ฮ่าๆ ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวเครื่องบินจะมารับเราที่เกทที่เรากำลังจะเดินไปนี่แหละ แล้วอาม่าก็ถามขึ้นมาอีกว่า
แล้วเครื่องบินจะไปจอดตรงไหน สงสัยแกเห็นว่าสนามบินไม่มีที่จอดที่ใหญ่พอสำหรับเครื่องบินมั้ง
เราเลยบอกว่า เดี๋ยวพาไปดู เพราะอธิบายไปแกก็อาจไม่เห็นภาพ ป่ะ เดินไปดูเครื่องบินกันเล้ย
Edit เพิ่ม: 1. เรื่องประกันการเดินทางจะมาเพิ่มเติมพร้อมกับส่ง Contact พี่ที่รับทำให้นะคะ
จริงๆ ถ้าอายุไม่เยอะ มีประกันการเดินทางมีเยอะเลยค่ะในเน็ต แต่ผู้สูงอายุอาจต้องหาเป็นพิเศษนิดนึง
โชคดีที่ตอนนั้นเราฝึกงานแล้วมีพี่ที่ฝึกงานเค้ารับทำ เค้าเลยช่วยหาประกันที่รับเรจอายุแบบอาม่าเราได้
2. ใครมีคำถามเพิ่มเติมสามารถหลังไมค์มาก็ได้นะคะ เพราะคอมเม้นต์เราอาจไม่ได้เช็คตลอด
ยินดีตอบให้ได้เต็มที่ค่ะ และเดี๋ยวจะนำมาเพิ่ม เพื่อใครมาทีหลัง จะนำไปใช้ประโยชน์ด้วย
[CR] เมื่ออาม่าอยากไปซ่าที่ญี่ปุ่น
รวมถึงบอกข้อดี ข้อเสียของการพาผู้สูงอายุไปเที่ยวค่ะ
อาจมีภาพแทรกเข้ามาเล็กๆ น้อยๆ เพื่อไม่ให้เบื่อตัวหนังสือมากเกินไปเพราะฉะนั้น
เราจะเล่าพร้อมกับแทรกรูปไปเรื่อยๆ เลยนะคะ
เริ่มเลยจ้า
ข้อมูลส่วนตัวผู้สูงอายุ เพศ หญิง อายุ 84 ปี สุขภาพร่างกาย แข็งแรงสมบูรณ์
มีอาการปวดเข่าเป็นโรคประจำตัว ไม่มีประจำตัวอื่น เช่น ความดัน เบาหวาน
เดินได้คล่องแคล่ว ขึ้นลงบันไดได้ (แต่ถ้าเลี่ยงจะดีกว่า) ตอนเที่ยวต้องหาเวลาให้นั่งพักขา
พูดภาษาไทยได้อย่างเดียว ภาษาจีนนิสหน่อย ไม่เคยไปเที่ยวต่างประเทศและไม่เคยนั่งเครื่องบินเลย
กินอาหารได้ปกติ แต่รีเควสนิ่มๆ จะดีมาก เพราะฟันไม่ค่อยมี
ที่สำคัญ *** ตอนถ่ายรูปนางจะไม่ยิ้ม เพราะไม่ชอบถ่ายรูป ฮ่าๆๆ ***
ข้อมูลตัวเราเอง
อายุ 21 ปี เพศหญิง พูดภาษาอังกฤษได้ ใช้รถไฟเป็น ฮ่าๆๆ
ออกเงินทริปนี้เพื่อพาม่าไปเที่ยวจากการทำงานเสริมค่ะ
งบของทริปนี้ทั้งหมด 120,000 บาทค่ะ
เราไปกับอาม่าแค่สองคน จำนวน 10 วันนะคะ
(8 สิงหาคม- 17 สิงหาคม 2560 เป็นหน้าร้อนที่ญี่ปุ่นค่ะ)
เมืองที่ไปคือ โตเกียว กับโอซาก้า
เริ่มต้นจากสายการบินที่เลือกใช้เลยค่ะ
เราเลือกใช้สายการบิน Hongkong Airline เพราะว่า อาม่าเรามีปัญหาเรื่องหัวเข่า
ถ้าหากนั่งมากๆ จะเกิดอาการปวด จึงไม่สามารถบินตรงได้ เพราะใช้เวลาถึง 6-7 ขั่วโมง
เราเลยเลือกสายการบิน Hongkong Airline เพราะสายการบินนี้จะต้องแวะต่อเครื่องที่ฮ่องกง
ทำให้อาม่าเรา ได้มีเวลายืดเส้นยืดสาย ไม่เมื่อยเกินไป และอีกอย่างเป็นสายการบิน Full Service
ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มด้วย เลยตัดสินใจเลือกสายการบินนี้ ได้มาในราคา 10,000 บาทนิดๆ ต่อคนค่ะ
ถึงสนามบินแล้ว เช็คอินเรียบร้อย ได้ Boarding Passes มาพร้อมเดินไปในเกทแล้วจ้า
เพื่อนๆ รู้มั้ย ว่าถ้าเพื่อนๆ เดินทางพร้อมผู้สูงอายุ เพื่อนๆ สามารถขอรถเข็นได้ ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลย
จะมีคนดูแลไปจนถึงเกทเลยค่ะ แต่อาม่าเราเดินไหว เลยไม่ได้ขอรถเข็นไป
พี่ที่ดูแลเช็คอินดีมาก เปลี่ยนที่นั่งให้เป็น The front low (ที่ปกติต้องเพิ่มเงิน) ให้ฟรีๆ เพราะเห็นว่าเดินทางกับผู้สูงอายุ
จาก กรุงเทพฯ ไป ฮ่องกง เลยสบายแฮ เดินเข้าออกง่าย ยืดขาได้ ใกล้ห้องน้ำ
อีกหนึ่งความสะดวกคือ ตอนไปเกท เราสามารถไปที่ Priority Lane ได้เลย ไม่ต้องไปต่อคิวยาวเหยียดนะจ๊ะ
สะดวกมากๆ (สามารถใช้ได้กับทุกสนามบินเลยไม่ใช่แค่ที่สุวรรณภูมินะ)
พร้อมกับตอนเดินไปที่เครื่องบิน คำถามแรกที่อาม่าตั้งขึ้นมาหลังจากฝากกระเป๋าตอนเช็คอินคือ
"เค้าจะเอากระเป๋าคืนเราตอนไหน?" พร้อมกับทำหน้าและน้ำเสียงกังวลสุดๆ เพราะกลัวจะไม่ได้กระเป๋าคืน
เลยอธิบายไปว่า เค้าจะเอากระเป๋าเราไปไว้ใต้เครื่องบินแล้วก็บินไปพร้อมเรา แล้วเดี๋ยวเค้าจะเอาไปให้ที่ ญี่ปุ่นนะ
แก เลยทำหน้าโล่งใจแล้ว แต่ก็ยังถามอยู่เรื่อยๆ เราก็ได้แต่ยิ้มๆ ในใจ และอธิบายซ้ำๆ ไปจนกว่าแกจะเลิกถาม ฮ่าๆ
เดินไปที่เกท ได้ซักพัก ด้วยความที่ไม่เคยนั่งเครื่องบินเลย
ก็มีคำถามน่ารักๆ ขึ้นมาอีกว่า แล้วเครื่องบินจะมารับเราที่ไหน? เค้าจะบินออกไปหรือยัง? เค้าจะรอเรามั้ย?
ฮ่าๆ ก็เลยบอกว่า เดี๋ยวเครื่องบินจะมารับเราที่เกทที่เรากำลังจะเดินไปนี่แหละ แล้วอาม่าก็ถามขึ้นมาอีกว่า
แล้วเครื่องบินจะไปจอดตรงไหน สงสัยแกเห็นว่าสนามบินไม่มีที่จอดที่ใหญ่พอสำหรับเครื่องบินมั้ง
เราเลยบอกว่า เดี๋ยวพาไปดู เพราะอธิบายไปแกก็อาจไม่เห็นภาพ ป่ะ เดินไปดูเครื่องบินกันเล้ย
Edit เพิ่ม: 1. เรื่องประกันการเดินทางจะมาเพิ่มเติมพร้อมกับส่ง Contact พี่ที่รับทำให้นะคะ
จริงๆ ถ้าอายุไม่เยอะ มีประกันการเดินทางมีเยอะเลยค่ะในเน็ต แต่ผู้สูงอายุอาจต้องหาเป็นพิเศษนิดนึง
โชคดีที่ตอนนั้นเราฝึกงานแล้วมีพี่ที่ฝึกงานเค้ารับทำ เค้าเลยช่วยหาประกันที่รับเรจอายุแบบอาม่าเราได้
พี่เค้าใจดีมากค่ะ รอเค้าตอบเดี๋ยวจะมาลงรายละเอียดเพิ่มเติมให้
2. ใครมีคำถามเพิ่มเติมสามารถหลังไมค์มาก็ได้นะคะ เพราะคอมเม้นต์เราอาจไม่ได้เช็คตลอด
ยินดีตอบให้ได้เต็มที่ค่ะ และเดี๋ยวจะนำมาเพิ่ม เพื่อใครมาทีหลัง จะนำไปใช้ประโยชน์ด้วย
ติดต่อพี่คนนี้เลยค่ะ สำหรับประกันการเดินทางผู้สูงอายุ เท่าที่จำได้พี่เค้าบอก อายุสูงสุดน่าจะ 85 นะคะ