สวัดดีค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนตะลุยเบลเยียมโดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 วันนะคะ เป็นหนึ่งวันที่ปักหมุดได้หลายจุดมากๆเลย แต่ก่อนอื่นขอคลายข้อสงสัยก่อนว่าทำไมถึงเป็น 1 วันได้ เหตุผลเพราะเป็นทริปที่ต่อจากลอนดอนค่ะ
วันที่ 22-24 มีนาคม 62 ทริปลอนดอน (รีวิวเริ่มต้นการเดินทาง)
https://ppantip.com/topic/38835594
วันที่ 25 มีนาคม 62 วันเดียวเที่ยวเบลเยียม (รีวิวนี้)
วันที่ 26-27 มีนาคม 62 ทริปเนเธอแลนด์ (รีวิวต่อจากทริปนี้)
โอเคค่ะ พอหายข้องใจกันแล้ว เรามาเริ่มตะลุยกันเลยนะคะ โดยทริปนี้เราได้จองตั๋วรถบัสของ OUIBUS จากลอนดอนไปเบลเยียม ซึ่งจะต้องไปขึ้นรถที่ Victoria Coach Station เดินตามลูกศรชี้กันเลย>>> รถบัสออกตรงเวลา Departure 24.03.2019 22.00 และ Arrival 25.03.2019 06.30
เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่เราจะเข้าลอนดอนได้นั้นต้องมีการขอ UK VISA เพราะเขาไม่ได้อยู่ในเชงเก้นวีซ่าแล้ว และพอเราจะออกนอกประเทศเขาก็ต้องมีการสแตมป์ออกเพื่อเป็นหลักฐานว่าเราได้ผ่านเข้า-ออก จากประเทศเขาแล้วเป็นที่เรียบร้อย ยืนต่อคิวตามภาพค่ะ เนื่องจากเรานั่งรถบัสข้ามประเทศ อันนี้จึงเป็นด่าน ตม.ที่จะข้ามฝั่งจากอังกฤษไปฝรั่งเศส ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าที่นี่นี้มีชื่อเรียกว่าอะไร เพราะตื่นมากลางดึกแบบงัวเงียมากตอนมาถึงตรงนี้
พอเปิดดู Google Map แล้ว เลยทำให้รู้ว่าเราเดินทางออกมาจากลอนดอนได้สักพักใหญ่ๆกว่าจะมาถึงด่านนี้ แล้วตามแผนที่คือเราจะต้องข้ามแม่น้ำ ซึ่งตอนนั้นเห็นภาพก็เฉยๆไม่ได้คิดอะไร พอเริ่มเห็นรถบัสขับไปแบบช้าๆ ต่อคิว เรียงแถวกัน ก็เริ่มงงๆแล้ว ในที่สุดรถบัสก็จอดเข้าล๊อคสนิทเลย ไอ้เราก็ยังนั่งงงว่ารถจอดทำไม แล้วเราก็เหลือบหันไปมองข้างนอกรถเห็นตัวหนังสือวิ่ง ก็ยังไม่เข้าใจอีก เลยเปิดอากู๋ทันทีว่า Eurotunnel คืออะไร ด้วยความที่ไม่รู้จริงๆ
ในที่สุดเราก็เจอคำตอบ อุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ เลยร็ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังอยู่ใต้น้ำ บวกกับบางจังหวะเริ่มมีการโครงเครงเนื่องจากกระแสน้ำ แอบกลัวนิดๆเพราะบางช่วงจังหวะก็แรงพอสมควร ความร็สึกหลังจากนั้นคือดีใจมากที่ครั้งนึงได้ลอดช่องแคบนี้แบบไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน 555
เย่ๆๆ ในที่สุดเราก็ผ่านพ้น 2 ชม.ในนั้นมาได้ ตอนนี้เราอยู่ฝรั่งเศสแล้ว แต่จุดหมายปลายทางเรายังไม่ถึงนะคะ เพราะเราจะไปบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
มาถึงเบลเยียมแล้วเช้ามาก แค่หกโมงนิดๆเอง ลงจากรถบัสปุ๊บเจอฝนปรอยๆปั๊บ รีบหลบซิคะรออะไร เดินหาที่ล้างหน้า แปรงฟัน สักพักนึงก็เจอร้านกาแฟน่านั่ง มีอาหารเช้าแบบง่ายๆด้วย เลยเดินเข้าไปปักหมุดกัน เมนูเช้าของเราก็ตามภาพเลยค่ะ สะดวก ง่ายๆที่สำคัญคือประหยัดงบ อิอิ (สายแบคแพคเท่านั้นที่จะเข้าใจ)
พอได้จัดการตัวเอง เติมพลังให้ร่างกายแล้ว เราก็พร้อมที่จะเที่ยวด้วยเวลาจำกัดแค่ 1 วัน เพราะตอนเย็นเราจะต้องนั่งรถบัสไปอัมสเตอดัมต่อ งั้นเริ่มเลยนะค๊าาาา…
เทคนิคการเดินทางเที่ยวในยุโรปก็เหมือนๆกันทุกประเทศค่ะ คือซื้อบัตรรถไฟฟ้าเพื่อใช้ในการเดินทางสะดวกที่สุด การใช้แท็กซี่เก็บไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายนะคะเพราะแท็กซี่ที่ยุโรปแพงทุกประเทศ ซึ่งเราเองก็ไม่เคยใช้เลย หุหุ
ได้บัตรมาแล้ว แบบ 24 ชม.หน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ กระดาษธรรมดา ด้านหลังบัตรมีบาร์โค้ดสำหรับสแกนผ่านเข้า-ออก สถานี ราคาก็ไม่แพงถ้าเที่ยวทั้งวันเหมือนเราคุ้มแน่นอนค่ะ
ภายในรถไฟฟ้าใต้ดินของบรัสเซลส์เขาหน้าตาก็จะประมาณนี้ค่ะ
โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน ภาพแรกที่เห็นคือภาพนี้ค่ะ สวยจนติดตาติดใจ ความรู้สึกแรกที่เห็นคือทำไมอลังการจัง !!
เดินชมไปเรื่อยๆ ยิ่งดูก็ยิ่งสวย ความหรูหรา ทันสมัย หาไม่เจอเลย มีแต่ความสวยงามแบบโบราณ เป็ฯศิลปะที่ทรงคุณค่าจริงๆ
และในที่สุดเราก็มาถึงแลนด์มาร์คของกรุงบรัสเซลส์แล้วค่ะ The Grand-Place (
Grote Markt in Dutch or Flemish) สวยงามมากทั้ง 4 ทิศ นักท่องเที่ยวก็เยอะมากด้วย
ภาพบนนี้คือบรรยากาศก่อนฝนตก ส่วนภาพล่างคือหลังจากฝนตกเสร็จนะคะ แตกต่างกันราวฟ้ากับดินเชียว
มาเที่ยวที่นี่วันเดียวก็จริง แต่ได้สัมผัสทั้งแดด ฝน ลม หนาว สภาพอากาศคือแปรปรวนตามอำเภอใจตัวเองเอามากๆเลยพี่จ๋า ^^
พิพิธภัณฑ์เบียร์ แค่เดินผ่านแต่ไม่ได้เข้าไปชมเพราะกลัวจะไม่ทันไปที่อื่น
รอบๆ Royal Palace of Brussels มีร้านขายช็อคโกแลตเยอะมาก แล้วแต่ละร้านคือตกแต่งสวยงาม น่าเข้าทุกร้านเลย สมคำร่ำลือว่าเป็นเมืองแห่งช็อคโกแลตที่แท้ทรู
GODIVA จากต้นกำเนิด จัดร้านได้น่ารักมากมาย
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเบลเยียม วอลเฟิลลลล…
แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้วค่าา อันนี้เป็นวอลเฟิลของจริงนะคะ เขาทำแบบนี้ไว้หน้าร้าน เวลาคนจะมาซื้อก็เลือกและหยิบได้เลย
เปิด Google Map และเดินตามตรอก ซอกซอย ไปสักพักก็เจอ Manneken-Pis เป็นรูปปั้นเล็กๆที่อยู่มุมถนน มีผู้คนแวะเวียนมายืนถ่ายรูปด้วยอย่างไม่ขาดสาย รวมถึงเราด้วย ประวัติจะไม่ขอพูดถึงนะคะ เพราะเราไม่เน้น เน้นแค่ถ่ายรูปให้รู้ว่ามาถึงเป็นพอ อิอิ
บรรยากาศหลังฝนตก ดูเงียบแต่สวย
บ้านเมืองเขาสวย สะอาดตามากเลย บรรยากาศก็กำลังดีค่ะช่วงนี้ อาจจะมีลมแรงบ้างแต่ก็ไม่ได้หนาวจัด
St Michael and St Gudula Cathedral, Brussels โบสถ์นี้สวยงามมาก
บริเวณด้านนอก สวยงามสะดุดตาเลยทีเดียว
ด้านในก็สวย สงบ ไม่แพ้กัน
เดินตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้เริ่มหิวแล้ว ขอพักเติมพลังแป๊บ…วอลเฟิลในฝัน อร่อยถูกใจไม่มีผิดหวัง พูดเลย
กินเสร็จก็เที่ยวต่อ ไม่รอละนะ…โผล่จากใต้ดินมาเจอสำนักงานใหญ่ของสหภาพยุโรป ( EU ) ออฟฟิศสวย หรูหราเชียว (ขนาดมองจากข้างนอกนะเนี่ยะ 555)
Parc du Cinquantenaire เด่นสง่ามาแต่ไกล สุดลูกหูลูกตา ซึ่งอยู่ใกล้กับออฟฟิศ EU นี้เองค่ะ สวยยังกะภาพวาดแนะ ท้องฟ้ายิ่งเป็นใจ ยังงี้ต้องแชะรัวๆ
ภาพคู่ก็มา มีคนขอให้เราถ่ายรูปให้ แล้วเขาก็ได้ถ่ายคืนให้เราบ้าง อิอิ
อีกหนึ่งสถานที่ ที่ไปแล้วเจอฝนเท Botanical Garden of Brussels ออกจากใต้ดินปุ๊บ ฝนเทปั๊บวิ่งหลบฝนไม่ทันกันเลยทีเดียว สรุปคือเปียกค่ะ
เอาจริงๆคือที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษ เนื่องจากขาดการดูแล ทุกอย่างดูร้างๆ เดินวน 1 รอบแล้วไปที่อื่นต่อเลยทันที
ดอกไม้มีให้ชมบ้างประปราย สวยงามตามธรรมชาติของเขา
Royal Gallery of Saint Hubert สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านช็อคโกแลต ถ้าเทียบกับไทยเราคือเหมือนร้านทองแถวเยาวราชอะไรประมาณนั้น
ตุ๊กตา ของที่ระลึก น่ารักๆก็มีขาย จัดวางได้สวยงามมาก อยากจะกวาดกลับมาให้หมด ติดตรงที่ไม่มีตังค์ เอิ๊กๆ
กล่องสวยๆนี้ด้านในเป็นช๊อคโกแลตนะคะ
บ้านนี้เมืองนี้มีแต่สิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถาน ช็อคโกแลต วอลเฟิล ทุกอย่างสมฉายาที่ได้รับจริงๆ นี่แหละประเทศในฝันกับวันที่เป็นจริง
[CR] วันเดียวเที่ยวเบลเยียม ( One Day Trip 2019 )
วันที่ 22-24 มีนาคม 62 ทริปลอนดอน (รีวิวเริ่มต้นการเดินทาง) https://ppantip.com/topic/38835594
วันที่ 25 มีนาคม 62 วันเดียวเที่ยวเบลเยียม (รีวิวนี้)
วันที่ 26-27 มีนาคม 62 ทริปเนเธอแลนด์ (รีวิวต่อจากทริปนี้)
พอได้จัดการตัวเอง เติมพลังให้ร่างกายแล้ว เราก็พร้อมที่จะเที่ยวด้วยเวลาจำกัดแค่ 1 วัน เพราะตอนเย็นเราจะต้องนั่งรถบัสไปอัมสเตอดัมต่อ งั้นเริ่มเลยนะค๊าาาา…
เทคนิคการเดินทางเที่ยวในยุโรปก็เหมือนๆกันทุกประเทศค่ะ คือซื้อบัตรรถไฟฟ้าเพื่อใช้ในการเดินทางสะดวกที่สุด การใช้แท็กซี่เก็บไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายนะคะเพราะแท็กซี่ที่ยุโรปแพงทุกประเทศ ซึ่งเราเองก็ไม่เคยใช้เลย หุหุ
ภายในรถไฟฟ้าใต้ดินของบรัสเซลส์เขาหน้าตาก็จะประมาณนี้ค่ะ
โผล่ขึ้นมาจากใต้ดิน ภาพแรกที่เห็นคือภาพนี้ค่ะ สวยจนติดตาติดใจ ความรู้สึกแรกที่เห็นคือทำไมอลังการจัง !!
เดินชมไปเรื่อยๆ ยิ่งดูก็ยิ่งสวย ความหรูหรา ทันสมัย หาไม่เจอเลย มีแต่ความสวยงามแบบโบราณ เป็ฯศิลปะที่ทรงคุณค่าจริงๆ
และในที่สุดเราก็มาถึงแลนด์มาร์คของกรุงบรัสเซลส์แล้วค่ะ The Grand-Place (Grote Markt in Dutch or Flemish) สวยงามมากทั้ง 4 ทิศ นักท่องเที่ยวก็เยอะมากด้วย
ภาพบนนี้คือบรรยากาศก่อนฝนตก ส่วนภาพล่างคือหลังจากฝนตกเสร็จนะคะ แตกต่างกันราวฟ้ากับดินเชียว
มาเที่ยวที่นี่วันเดียวก็จริง แต่ได้สัมผัสทั้งแดด ฝน ลม หนาว สภาพอากาศคือแปรปรวนตามอำเภอใจตัวเองเอามากๆเลยพี่จ๋า ^^
พิพิธภัณฑ์เบียร์ แค่เดินผ่านแต่ไม่ได้เข้าไปชมเพราะกลัวจะไม่ทันไปที่อื่น
รอบๆ Royal Palace of Brussels มีร้านขายช็อคโกแลตเยอะมาก แล้วแต่ละร้านคือตกแต่งสวยงาม น่าเข้าทุกร้านเลย สมคำร่ำลือว่าเป็นเมืองแห่งช็อคโกแลตที่แท้ทรู
GODIVA จากต้นกำเนิด จัดร้านได้น่ารักมากมาย
อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเบลเยียม วอลเฟิลลลล…
แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้วค่าา อันนี้เป็นวอลเฟิลของจริงนะคะ เขาทำแบบนี้ไว้หน้าร้าน เวลาคนจะมาซื้อก็เลือกและหยิบได้เลย
เปิด Google Map และเดินตามตรอก ซอกซอย ไปสักพักก็เจอ Manneken-Pis เป็นรูปปั้นเล็กๆที่อยู่มุมถนน มีผู้คนแวะเวียนมายืนถ่ายรูปด้วยอย่างไม่ขาดสาย รวมถึงเราด้วย ประวัติจะไม่ขอพูดถึงนะคะ เพราะเราไม่เน้น เน้นแค่ถ่ายรูปให้รู้ว่ามาถึงเป็นพอ อิอิ
บรรยากาศหลังฝนตก ดูเงียบแต่สวย
บ้านเมืองเขาสวย สะอาดตามากเลย บรรยากาศก็กำลังดีค่ะช่วงนี้ อาจจะมีลมแรงบ้างแต่ก็ไม่ได้หนาวจัด
St Michael and St Gudula Cathedral, Brussels โบสถ์นี้สวยงามมาก
บริเวณด้านนอก สวยงามสะดุดตาเลยทีเดียว
ด้านในก็สวย สงบ ไม่แพ้กัน
เดินตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้เริ่มหิวแล้ว ขอพักเติมพลังแป๊บ…วอลเฟิลในฝัน อร่อยถูกใจไม่มีผิดหวัง พูดเลย
กินเสร็จก็เที่ยวต่อ ไม่รอละนะ…โผล่จากใต้ดินมาเจอสำนักงานใหญ่ของสหภาพยุโรป ( EU ) ออฟฟิศสวย หรูหราเชียว (ขนาดมองจากข้างนอกนะเนี่ยะ 555)
Parc du Cinquantenaire เด่นสง่ามาแต่ไกล สุดลูกหูลูกตา ซึ่งอยู่ใกล้กับออฟฟิศ EU นี้เองค่ะ สวยยังกะภาพวาดแนะ ท้องฟ้ายิ่งเป็นใจ ยังงี้ต้องแชะรัวๆ
ภาพคู่ก็มา มีคนขอให้เราถ่ายรูปให้ แล้วเขาก็ได้ถ่ายคืนให้เราบ้าง อิอิ
อีกหนึ่งสถานที่ ที่ไปแล้วเจอฝนเท Botanical Garden of Brussels ออกจากใต้ดินปุ๊บ ฝนเทปั๊บวิ่งหลบฝนไม่ทันกันเลยทีเดียว สรุปคือเปียกค่ะ
เอาจริงๆคือที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษ เนื่องจากขาดการดูแล ทุกอย่างดูร้างๆ เดินวน 1 รอบแล้วไปที่อื่นต่อเลยทันที
ดอกไม้มีให้ชมบ้างประปราย สวยงามตามธรรมชาติของเขา
Royal Gallery of Saint Hubert สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านช็อคโกแลต ถ้าเทียบกับไทยเราคือเหมือนร้านทองแถวเยาวราชอะไรประมาณนั้น
ตุ๊กตา ของที่ระลึก น่ารักๆก็มีขาย จัดวางได้สวยงามมาก อยากจะกวาดกลับมาให้หมด ติดตรงที่ไม่มีตังค์ เอิ๊กๆ
กล่องสวยๆนี้ด้านในเป็นช๊อคโกแลตนะคะ
บ้านนี้เมืองนี้มีแต่สิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถาน ช็อคโกแลต วอลเฟิล ทุกอย่างสมฉายาที่ได้รับจริงๆ นี่แหละประเทศในฝันกับวันที่เป็นจริง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้