มาแต่งเรื่องผีเล่นๆกันเถอะครับ

ใครอยากแต่งเรื่องผี หรือเรื่องสยองขวัญ มาแต่งกันได้นะครับ

เรื่องผีของผมคือ เด็กหญิงในตึกเรียน
ในช่วงปี 2541 ต้อม และจ๊อบ เด็กม.ปลายผู้ใสซื่อและร่าเริงได้ไปร้านเช่าหนังสือการ์ตูนที่เคยไปประจำ หนังสือการ์ตูนส่วนมากถูกลิขสิทธิ์ และมีเรื่องดังๆ เต็มไปหมด ต้อมหยิบหนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ส่วนจ๊อบเลือกนิตยาสารการ์ตูนแทน ขณะที่ทั้สองกำลังจะจ่ายเงินค่าเช่า ก็มีเด็กม.ปลายที่เป็นเพื่อนร่วมห้องของทั้งสอง หน้าตาไม่ได้หล่อเหลาอะไรมาก สีผิวเป็นสีแทนเข้มกว่าคนในละแวกนั้น ใส่เสื้อนักเรียนสกปรก ไม่ติดกระดุม แถมชายเสื้อยังออกนอกกางเกงอีก นิสัยของเด็กคนนั้นชอบแขวะคนอื่นไปทั่ว แถมยังหาเรื่องตลอดเวลาอีก จนคนในละแวกเริ่มเอือมระอากับเด็กคนนี้ และเมื่อเขาเดินผ่านมา ก็ได้ค่อนแขวะเด็กทั้งสองคนที่กำลังจ่ายค่าเช่าอยู่

"เฮ้ย โตแล้วยังทำตัวเป็นเด็กอีกหรอวะ เช่าหนังสือการ์ตูนทุกวันไม่เบื่อเลยรึไง"

"ไอ้สมหมาย เราไม่ได้ทำอะไรให้แกเลยนะ ทำไมต้องแขวะกันขนาดนี้"

"ใจเย็นจ๊อบ เดี๋ยวก็โดนมันอัดร่วงหรอก"

ต้อมห้ามจ๊อบที่กำลังฉุนเฉียว ส่วนสมหมาย(เด็กนักเลงที่ว่า)​กลับหัวเราะชอบใจที่ได้แขวะคนอื่น แล้วเดินกลับบ้านไปด้วยใจที่เย้ยหยัน

วันต่อมา ต้อมและจ๊อบทำกิจกรรมกีฬาสี จนเวลาล่วงเลยไปถึง 1 ทุ่มแล้ว ทั้งสองรู้สึกปวดฉี่ เลยเดินไปยังห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำกลับอยู่ห่างจากเวทีที่ซ้อมกีฬาสีมาก ทางเดินจึงมีแต่ความมืดและแสงไฟที่เวทีคอยส่องสลัวๆมาพอทำให้มองเห็นทางบ้าง และแล้ว ขณะที่ทั้งสองกำลังเดิน ก็มีเสียงฝีเท้าปริศนามา เสียงฝีเท้านั้นเดินอย่างรวดเร็ว และเริ่มเข้าใกล้พวกเขาเรื่อยๆ

"เฮ้ย พวกเอ็ง"

"ว้ากกก!!"

"จะตกใจอะไรนักหนา นี่จำข้าไม่ได้แล้วหรอ"

"อ้าว ไอ้สมหมายนี่เอง มาทำไมวะเนี่ย"

"ข้าปวดฉี่ เลยเดินตามพวกเอ็งมา ข้ากลัวผี ขอไปด้วยคนได้มะ"

"โถ่ ไอ้ไก่อ่อน กลัวผีหรอวะ ทีเมื่อวานเอ็งยังด่าข้าว่าเป็นเด็กอยู่เลย"

"ไอจ๊อบนี่ก็หาเรื่องตลอด พอเถอะ รู้สึกว่าช่วงนี้แกจะหาเรื่องคนอื่นมากกว่าไอ้สมหมายแล้วนะ"

"อ้าวหรอ โทษทีๆ"

ทั้งสามเดินมายังห้องน้ำ โชคดีที่ห้องน้ำเปิดไฟ ไม่งั้นได้ฉี่ราดกันก่อนจะที่ได้ฉี่ในโถแน่ ทั้งสามต่างทำธุระเสร็จ เลยรีบออกมาและจะกลับไปในเวที

"แล้วแกจะทำไมวะไอ้สมหมาย กิจกรรมแกก็ไม่ได้ทำที่โรงเรียนนี่"

"ข้ามาเอาของที่ห้องเรียน ดันลืมการบ้านไว้ในใต้โต๊ะซะได้"

ทั้งจ๊อบและสมหมายต่างคุยกันโขมงโฉงเฉง ต้อมได้แต่เงียบเพราะไม่มีอะไรจะพูด ในเมื่อจ๊อบพูดแทนไปแล้ว เขาจะพูดอะไรอีก

เมื่อเดินถึงตรงบันไดอาคารเรียน ซึ่งอยู่ไกลจากห้องน้ำ แถมยังไกลจากเวทีอีก เมื่อต้อมมองไปรอบๆก็สะดุดกับสิ่งที่เห็น เป็นเด็กผู้หญิงม.ปลายนั่งอยู่ตรงตีนบันได ตัดผมสั้นถึงติ่งหู ผิวสีขาวซีด สายตาเหลือกขึ้นไปด้านบน แต่สิ่งที่น่ากลัวก็คือ เธอมีรอยแผลของมีคมฟันบนหัวยาวจนมาถึงคาง ราวกับว่ามีใครเอามีดมากรีดเธอ คราวนั้นเองต้อมเริ่มร้องเสียงหลงแล้วเตรียมวิ่งหนี สมหมายหันมามอง คราวนี้เขาถึงกับร้องไห้เลยทีเดียว ส่วนจ๊อบหันตามสมหมายบ้าง ก็วิ่งจ้ำอ้าวไปก่อนเพื่อนปล้ว ส่วนสมหมายกับต้อมวิ่งหนีตามจ๊อบไปอย่างรวดเร็ว จนวิ่งไปถึงเวที ทั้งสามคนจึงหยุดหอบ และสมหมายก็ได้บอกกับคนบนเวทีให้ฟัง

"ฮือ... ทำไม ทำไมต้องมีผีตรงนั้นด้วยวะ ข้ากลัวโว้ย"

"อะไร ค่อยๆเล่าให้ฟังหน่อยซิ มันทำไม"

คนบนเวทีเริ่มคุยกับสมหมาย สมหมายเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง คราวนี้คนบนเวทีเริ่มมองไปที่บันไดแล้วรีบเก็บข้าวเก็บของกลับบ้านทันที ส่วนทั้งสามคนก็นั่งติดรถสมหมายไป จนวันรุ่งขึ้น ทั้งสามคนได้มาดูที่บันได ก็ไม่พบอะไรอีก แต่ความรู้สึกขนลุกก็ยังอยู่ จนพักเที่ยง ทั้งสองได้ไปหาคุณครูประจำชั้น และเริ่มเล่าเรื่องราวให้ฟัง โดยทั้งสามคอยช่วยกันเล่าให้ฟัง

"เมื่อวานพวกผมทำกิจกรรมกีฬาสี พอปวดฉี่ก็เลยไปที่ห้องน้ำตรงชั้นล่างตึกเรียน พอออกจากห้องน้ำจ๊อบกับสมหมายก็คุยกัน แล้วผมไปเห็นผู้หญิงตัดผมสั้นถึงติ่งหู ตาเหลือกไปข้างบนแล้วหัวไปโดนฟันมาอ่ะครับครู"

"ใช่แล้ว ผมเห็น เด็กผู้หญิงคนนั้นจ้องมาทางพวกผมด้วย ฮึกๆ"

"ใจเย็นๆ สมหมาย เอ่อครูครับ เรื่องที่พวกผมเจอเป็นเรื่องจริงครับ ครูช่วยบอกผมได้ไหมว่าตรงบันไดมีอะไร"

ครูมองสีหน้าท่าทางเด็ก ทั้งสามคนกลัวจนตัวสั่น และครูก็นึกเรื่องราวในสมองซึ่งผ่านมานานมากแล้ว และได้เล่าให้นักเรียนฟัง

"ตอนครูมาสอนใหม่ๆ ที่โรงเรียนนี้สัก 10 ปีที่แล้วได้มั้ง ตอนนั้นมีเด็กม.ปลายผู้ชายสองคนตีกัน อีกคนหนึ่งพกมีดยาวมา แล้วกำลังจะฟันเด็กอีกคนหนึ่ง แต่ผู้หญิงที่เป็นแฟนของเด็กที่จะถูกฟันกลับมาขวางเข้าแล้วโดนฟันที่หัว จนโรงเรียนเกือบปิดไปเลยล่ะ แถมตอนนั้นคุณครูโดนฟันไปหลายคนด้วยนะ เพราะเด็กนักเรียนที่ถือมีดนั่นอาละวาดไปทั่วเลย เด็กผู้หญิงที่โดนฟันก็ทรงผมเดียวกับที่เธอเจอนะ แถมตรงนั้นยังเป็นที่ที่เกิดเรื่องอีก เธอคงมาขอส่วนบุญมั้ง"

ทั้งสามคนหน้าซีดเผือก แต่ก็โล่งใจ และได้ทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เธอในวันต่อมา และทั้งสามคนก็ไม่เจอเรื่องน่ากลัวเลยจนถึงทุกวันนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่