ทำใจอย่างไรเมื่อต้องอยู่ร่วมบ้านกับคน สกปรก ??

ขอเกริ่นก่อนเลยว่าซื้อบ้านอยู่กับแฟน แล้วเค้าก็มีแม่และน้องสาวเค้ามาอยู่ด้วย รู้อยู่แล้วว่าต้องมีปัญหาเกิดแน่ๆ เตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่ๆๆๆ
เจอพฤติกรรมความสกปรกของน้องสาวแฟน ฉันคนที่ปกติ คือ ไม่ได้เจ้าระเบียบ หรือ รักสะอาดอะไรมากมาย แต่สิ่งที่เจอมันก็เกินกว่าที่จะรับไหวจริงๆ 
สิ่งที่เจอแล้วอึ้งเลย คือ ....... 
1.น้องสาวแฟน เอาแมวมาเลี้ยงด้วย 3 ตัว แน่นอนสิ่งที่ตามมาคือ กะบะทราย กลิ่นอึ กลิ่นฉี่ ที่ไม่ค่อยจะเก็บอึ ฉี่น้องเลย ปล่อยไว้ให้เหม็น ไม่ค่อยเปลี่ยนทราย ไม่กวาดเก็บทรายที่มันร่วงตามพื้น ยังไม่รวมขนแมวที่ร่วงทุกบริเวณบ้าน (แต่นี่ก็กวาดให้ตลอด บ้าน 3 ชั้น ฉันทำคนเดียวไม่แบ่งใคร ฮืออออ ยกเว้นห้องนอนนางค่ะ ชั้นทำเต็มที่แล้วจริงๆ)

2.กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ กลิ่นที่โชยออกมาจากห้องนอนของนาง  ที่เอากะบะทรายไปไว้ในห้องนอน ที่เปิดแอร์ฉ่ำๆ นึกสภาพนะคะ เทอาหารแมวกลิ่นเค็มๆ(ไม่รู้จะเททำไมเยอะแยะ แมวกินไม่หมดหรอกวันเดียว) กลิ่นแบบว่าแรงสุด และที่สำคัญชอบเปิดห้องทิ้งไว้ ระบายกลิ่น บอกเลยว่า ตรงโซนบันไดได้กลิ่นลงมายันชั้น 1 เลย อึบเต็มหน้าเวลาเปิดประตูเข้าบ้าน ห้องนางมีระเบียงกว้างค่ะ แต่ก็ยังมิวายเปิดแบ่งปันกลิ่นให้เข้ามาในบ้านได้อีก 
 ปล.กะบะทราย มีหลายจุดค่ะ นี่ทำให้ทุกจุดยกเว้น ห้องนอนนางนี่แหละ 

3.ห้องน้ำที่ ใช้พัดลมระบายอากาศ เนื่องจากไม่มีหน้าต่างไม่มีช่องระบายค่ะ  ห้องน้ำห้องนี้นางใช้กับแม่แฟนค่ะ ส่วนของเราใช้ห้องน้ำที่มีในห้องส่วนตัว
ห้องน้ำก็นึกสภาพนะคะ เปิดเข้าไปก็เป็นไปตามที่ใจคิดค่ะ ไม่ขัดไม่ล้างไม่ถูก ชักโครกก็คือ คราบต่างๆมาเต็ม ไหนจะพื้น ผนังที่ไม่ค่อยทำความสะอาด กลิ่นไม่ต้องบรรยายนะคะ ก็เหม็นแบบอับชื้น กลิ่นตามซอกต่างๆ ท่อเอยอะไรเอย เฮ้ออ เคยคุยกับแม่แฟนแล้ว เค้าบอกว่า ชินค่ะ บางทีเราบ่นแม่ก็ต้องไปทำให้สงสารแม่ค่ะ ต้องมาคอยตามล้างตามเช็ดให้ลูกสาวอายุ 34 ปี ที่โคตรสกปรก (แม่บอกว่าสั่งสอนก็ไม่เคยทำค่ะ แม่เองก็คงจะขี้เกียจพูดแล้ว)

4.สิ่งที่ต้องใช้ร่วมกันเช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า อันนี้คือ แรกๆเราไม่ได้อะไรนะคะ แต่ๆ นางเลี้ยงแมว ขนแมวต่างๆ ติดมากับเสื้อผ้านาง ซึ่งเราไม่ติดอะไรตรงนี้ ก็ล้างเครื่องซักผ้าเอา แต่สิ่งที่อึ้งมาจนแบบปรี๊ดแตกไปบ่นกะแฟนเลยคือ นางใส่ถุงเท้าจนเต็มตะกร้าใบใหญ่อะค่ะ น่าจะใส่สะสมมาหลายเดือน แล้วนางเอามาปั่นเครื่องค่ะ ดิฉันผู้มาเห็นตอนนางซักเสร็จและตากไปแล้วคือ เครื่องซักมีแต่เศษดินค่ะ ต้องเข้าใจก่อนนะ บางคนใส่ถุงเท้าแบบไม่สกปรกเลย แต่นางคนนี้คือ สกปรกมากจริงๆ  ฉันโมโหมาก ถุงเท้าของนี่กับแฟนยังนั่งซักมือเลย 

5.ความสกปรกมักจะมากับความไม่มีมารยาทค่ะ ทำเสียงดัง ชอบพูดตะโกน โวยวาย บอกตรงๆนะคะ เกรงใจข้างๆบ้านค่ะ บ้านทาวเฮ้า มันก็ติดๆกัน 

วิธีแก้ของเรานะคะ 

1. เราก็ทะเลาะกะเค้าไปเลยค่ะ อย่างน้อยมันก็ต้องเกรงใจเราบ้าง เราผ่อนบ้านกะพี่ชายเค้านะ นางมาแค่อยู่อาศัย ตอนแรกเราก็เข้ากันได้ดี ยิ่งไม่เกรงใจค่ะ เราเลยทะเลาะกะนางไปเลย อันนี้ส่งผลให้บรรยากาศในบ้านเป็นพิษอยู่นะคะ คือ ไม่ร่วมโต๊ะกินข้าว ถ้าออกไปข้างนอก มีนางไม่มีเราค่ะ แค่นี้เลย 

2.คุยกับแม่แฟน และ แฟน ถึงพฤติกรรมนี้ค่ะว่าเรานั้นรับไม่ได้ มาอยู่กับเรา ไม่เคยคิดว่าหยิบไม้กวาดมาทำสะอาดเลย แมวตัวเองก็ทำสกปรกอยู่ตลอด ให้แม่และแฟนช่วยกันพูด และควบคุมพฤติกรรมนางตรงนี้ค่ะ โดยแฟนแก้ปัญหาโดยการ ให้สกปรกได้ในห้องนางเท่านั้น โซนส่วนกลางของบ้าน ห้ามเอาอะไรมาวางเด็ดขาด แต่สิ่งที่ขวางกั้นได้ยากก็คือ กลิ่นค่ะ เอาพวกปรับอากาศมาวางเอา แต่บางทีก็ตีกันวุ่นวาย555

3.แบ่งโซนค่ะ เราไม่ให้นางเข้ามาใช้โซนกลางรับแขกเลยค่ะ อาจจะรู้ใจร้ายตรงนี้ แต่ก่อนนจะทำแบบนี้คือ เราต้องมาตามเก็บให้ทุกเช้าค่ะ ทำอะไรก็วางทิ้งไว้เลย กินอะไรก็ไม่เก็บเลย อันนี้เลยต้องทำแบบนี้แหละ 

เราเคยคุยกะแฟนค่ะ ว่าเราต้องทนไปอีกนานมั้ย แฟนเราบอกว่า รอจนกว่ามันจะมีแฟนแล้วย้ายไปอยู่กะแฟนค่ะ แต่จะมีผู้ชายคนไหนรับนางได้ และเอานางไปอยู่ด้วยได้นะ ภาวนาให้นางเจอเนื้อคู่อยู่ทุกวันเลยค่ะ อยากให้นางมีแฟนมากๆค่ะ ตอนนี้  ก่อนย้ายมาอยู่กังวลเรื่องแม่ผัวลูกสะใภ้นะคะ ดีนะที่จุดนี้เราไม่มีปัญหา แต่ดันมาเจอน้องแฟนซะได้ 

เพื่อนๆคิดว่าเราควรรับมือกับคนแบบนี้อย่างไรคะ แล้วสิ่งที่เราแก้ไขไปทุกคนว่ามันเกินไปหรือเปล่า ??
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ขออนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัวนะคะ (ไม่โกรธ หรือ ดราม่านะคะ)
      ทำใจค่ะ เพราะ... ผิดตั้งแต่ให้มาอยู่แล้วค่ะ จากประสบการณ์ชีวิตคู่นะคะ บุคคลที่ 3 (พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อน ๆ ทั้ง 2 ฝ่าย)  นี่แหละค่ะที่สำคัญทำให้คนรักต้องเลิกกัน โดยส่วนตัวแล้วการมีครอบครัวแต่งงานกัน ควรอยู่กัน 2 คน (สามี-ภรรยา) ไม่เกี่ยวกับความกตัญญูนะคะเรื่องแบบนี้ต้องคุยกันให้รู้เรื่องตั้งแต่ก่อนแต่งงาน หรือ คิดจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะหากให้มาเข้ามาอยู่แล้ว ขอบอกเลยว่า... ให้ออกยากค่ะ บางอย่างมันไม่ใช่แค่นิสัยค่ะ แต่เป็น... สันดาน (ขออนุญาตไม่สุภาพนะคะ) เพราะปรับเปลี่ยนไม่ได้ บางครั้งการเกรงใจก็ควรใช้กับคนที่ควรเกรงใจ เอ็นดูเขา เอ็นเราขาดเป็นเรื่องจริงค่ะ และที่สำคัญคนที่ต้องลำบากใจก็คือ แฟน จขกท. นั่นก็ครอบครัว นี่ก็แฟน
       แมวแค่ตัวเดียว สำหรับดิฉันกลิ่นก็เหม็นมากแล้ว ถ้าทำความสะอาดไม่ดี ยิ่งหากอยู่ในห้องแอร์ กลิ่นจะยิ่งเหม็น ไม่มีลมระบายอากาศ เป็นแหล่งเชื้อโรคเลยค่ะ ที่สำคัญเสียสุขภาพกาย และสุขภาพจิตด้วยค่ะ
       ถ้าจะให้แนะนำก็ต้องนั่งคุยกันทั้งหมด เพราะถ้าบอกแฟนก็ลำบากใจ ลำบากคุณแม่ที่ต้องแก้ปัญหา หรือ ตามล้างตามเช็ด คุยกันต่อหน้าเลย และมีอะไรก็พูดออกมาให้หมดทีเดียว ไม่เช่นนั้นคุณก็เหมือนคนรับใช้ในบ้าน ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนก็คงต้องให้แยกออกไปอยู่เองค่ะ ขึ้นอยู่ที่ตัว จขกท. ว่าจะมีศักยภาพ ความสามารถในการพูด และเด็ดขาดพอไหม...? ในการแก้ปัญหาครั้งนี้
       ก็จะประมาณนี้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่