ผมไม่รู้ต้องทำยังไง ศุภาลัยบอกว่าจะยึดเงิน ผมว่าผมกำลังโดนเอาเปรียบทางกฎหมายอยู่ 

อยากทราบว่าผมต้องทำยังไง ใครก็ได้แนะนำผมด้วยครับ

ตอนนี้มืดแปดด้าน 

ผมจองคอนโดศุภาลัยไว้ในวันที่29พฤษภาคม58โดยจ่ายเงินจองและเงินทำสัญญาตามที่พนักงานขายบอก ณ สำนักงานใหญ่ของศุภาลัย โดยที่สัญญายังไม่มีเนื่องจากต้องใช้เวลาประมาณ10วันสัญญาจะพร้อมให้เซ็นตามคำกล่าวของพนักงานขาย พนักงานขายแจ้งว่า10วันหลังจากวันจองให้เข้ามาเซ็นสัญญาได้เลย ทางเราก็เข้าไปตามนั้น 
 
10วันหลังวันจอง เราได้เข้าไปที่สำนักงานใหญ่ เพื่อเซ็นสัญญาตามที่นัดกันไว้ พนักงานแจ้งว่าสัญญายังไม่เรียบร้อย เราก็แจ้งว่า เราเข้ามาแล้ว ขอเอามาเซ็นก่อนก็ได้ ไม่สะดวกเข้ามาอีกรอบ แต่พนักงานขายบอกว่าให้เข้าไปใหม่ดีกว่า เพราะสัญญาอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่ง ยากที่จะเอามาให้เซ็นในวันนั้น เมื่อไรที่สัญญามาถึงแผนกแล้ว จะโทรแจ้ง  เราจึงต้องกลับออกมา 
 
1-2เดือนหลังจากนั้น มีคนโทรมาเรียกให้เข้าไปเซ็นสัญญา สัญญาพร้อมให้เราเซ็นแล้ว หลังจากที่ได้รับแจ้งในครั้งนั้น2-3สัปดาห์ ผมก็ได้เข้าไปที่สำนักงานใหญ่ตากคำเรียกทางโทรศัพท์ เมื่อไปถึงบูธที่ตั้งสำหรับขายโครงการที่เคยซื้อได้หายไปจากตรงนั้น และไม่มีพนักงานขายซักโครงการอยู่ที่นั้น ผมจึงต้องให้ ประชาสัมพันธืที่อยู่ข้างล่างเรียกคนที่เกี่ยวข้องให้ผม รออยู่30นาทีได้ จึงได้รับสายผ่านทางประชาสัมพันธ์ข้างล่างนั้นว่า สัญญาได้ถูกส่งไปสำนักงานขายของโครงการใดซักโครงการ ซึ่งไม่ใช่โครงการที่ผมได้ซื้อไว้และต้องให้ผมเดินทางไปที่นั้นเพื่อจะเซ็นสัญญา  แต่ ณ ตอนนั้น เราไม่สะดวกที่จะเข้าไปเซ็นได้ เพราะสำนักงานใหญ่และที่ๆเจ้าหน้าที่แจ้งอยู่ห่างกัน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่า คงต้องเป็นคราวหน้า หากไม่สามารถเอามาให้เซ็นได้ที่สำนักานใหญ่ของศุภาลัยตอนนั้นได้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมสัญญาโครงการที่ผมซื้อจะต้องไปอยู่โครงการที่ไม่ได้ซื้อ และทำไมทางศุภาลัยจะต้องให้เราเดินทางไปโครงการที่เราไม่ได้ซื้อ และ ไม่ใช่ที่เดียวกับที่ทำการนัดหมายเอาไว้ คือที่สำนักงานใหญ่ตั้งแต่แรก 
 
จนปี59มีเจ้าหน้าทีโทรมาเรียกไปเซ็นสัญญา วันที่7กันยายน2559ผมจึงได้ ตั้งใจเข้าไปเพื่อเซ็นสัญญาและทำเรื่องชำระรายการผ่อนดาวน์ผ่านบัตรเครดิต ช่วงบ่ายๆ เป็นอีกครั้งที่เจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่าสัญญาอยู่ไหน เพราะไม่ใช่ผู้ดูแลโครงการนี้ ซึ่งไม่เข้าใจว่าศุภาลัยทำงานกันยังไง ทำไมการที่เราจะเซ็นสัญญาถึงยากเย็นขนาดนั้น เราก็เดือดร้อน เนืองจากได้ทำการชำระค่างวดมาตลอดและก็ไม่อยากที่จะผิดนัดชำระ จึงขอทำเรื่องชำระรายการผ่อนดาวน์ผ่านบัตรเครดิต ทุกอย่างเรียบร้อย ยกเว้นการเซ็นสัญญา
 
ทุกครั้งที่ไปเซ็น โครงการบอกว่าสัญญาไม่เสร็จบ้าง / สัญญาถูกย้ายไปอีกสำนักงงานนึง/ ไปถึงโครงการ บอกว่า ไม่ทราบเรื่อง เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของโครงการ อันนี้คือ หลังทำจอง ปี1กว่านะที่เราพยายามไปเซ็น แล้วไม่ได้เซ็น 
 
ระหว่างปี59,60,61โทรมาแค่ครั้งเดียวใน3ปีนี้ แต่มีจดหมายมาที่บ้านในปี60 2ครั้ง เราโทรไปคุย ก็ไม่มีคนรู้เรื่อง แต่ทุกครั้งที่โทร จะตอบกลับด้วยจดหมาย (แต่ไม่คุย) 
 
จนมาถึงปีนี้(2562)ที่เป็นปีโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งเราก็ไม่ได้รู้เลยว่าต้องโอน เพราะไม่เคยเห็นสัญญาจะซื้อจะขาย และไม่เคยมีเจ้าหน้าที่บอกเราเลย แต่ปีนี้ปี62มีการส่งจดหมายว่าจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ภายใน30เมษ62มีเจ้าหน้าที่แบงค์ส่งมาเยอะมากๆๆๆๆ แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ศุภาลัยโทรมาเลย จนเดือน2โทรมาเรียกให้ไปเซ็นสัญญา เพราะโครงการไม่สามารถออกจดหมายเรียกมาตรวจห้องได้ เพราะยังไม่มีสัญญา เราเลยบอกว่าเราไม่โอเคกันการทำงานแบบนี้เลย เพราะเจ้าหน้าที่ๆรับผิดชอบไม่เคยมีใครโทรหาเราเลย มีแต่จดหมาย เจ้าหน้าที่คนนี้เลยบอกว่าเดวจะให้คนที่เกี่ยวข้องโทรหา แต่ก็ไม่มี จนเดือน3มีคนโทรมาเรียกไปตรวจห้อง เราก็บอกไปเหมือนเดิมว่า เราไม่โอเค อยากยกเลิกหนังสือจอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าเดวให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโทรหา แต่ก็ไม่มีโทรมา ผมจึงส่งจดหมายเข้าไป และทางศุภาลัยก็ใช้จดหมายตอบกลับเท่านั้น ทั้งๆที่ผมก็โทรเข้าไปที่โครงการตลอด จนเดือนเมษายน62ผมส่งจดหมายครั้งที่2เข้าไป และ โทรเข้าไป เช่นเดิม ศุภาลัยมีแต่รับเรื่อง แต่ไม่มีคนที่เกี่ยวข้องโทรกลับเลยและก็เช่นเคย ส่งจดหมายปฏิเสธการยกเลิกสัญญามาเช่นเดิม จนวันที่25,26,27เมษายนผมได้โทรไปที่ศุภาลัย ก็ยังบอกว่าเดวโทรกลับแต่ก็ไม่มี จนช่วง11โมงของวันที่29ผมโทรไปที่ศุภาลัยถึง2ครั้ง ติดต่อฝ่ายโอนกรรมสิทธิ์ก็มีคนรับแต่ก็รับเรื่องเฉยๆและแจ้งว่าเดวจะโทรกลับเช่นเคย แล้ววันนี้คือวันที่เจ้าหน้าที่ๆเกี่ยวข้อง ที่ได้โทรกลับมาคุย ครั้งแรกและครั้งเดียว และบอกว่าไม่สามารถยกเลิกได้ โครงการไม่ได้ทำผิดสัญญาแต่อย่างใด 
 

เราก็เอิ่ม เราเป็นคนปกติ ที่ต้องการคุยด้วยเสียง แต่ศุภาลัย ชอบที่ใช้จดหมายทางกฏหมายมากกว่าการคุย เราจะไปสู้อะไรกับบ.ใหญ่โตที่ใช้กฏหมาย เหนื่อย ไม่อยากเชื่อว่าบ.ใหญ่โต ขายของราคา7ล้านบาท ดูแลลูกค้าด้วยวิธีนี้ และไม่มีการขออนุญาตที่จะเปิดเผยข้อมูลของเราเลย แต่มีแบงค์มากมายโทรมาหา บอกว่าศุภาลัยให้ติดต่อมาเกี่ยวกับการกู้สินเชื่อ แต่เจ้าหน้าที่ศุภาลัยไม่โทรมา