เมื่อหลายปีก่อนนู้นนนน  เราบังเอิญเจอหนังสือเล่มนึง (ผู้เขียนเป็นคนไทย) ในร้านหนังสือ
ชื่อหนังสือประมาณนี้ค่ะ ...สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว  สิ่งนั้นดีเสมอ

เรารู้สึกเอะใจกับชื่อหนังสือนี้ แล้วก็ลองเปิดอ่าน  แล้วก็ซื้อกลับมาอ่าน
มันเกี่ยวกับประเด็นหลากหลายทางด้านจิตวิทยาค่ะ

เราไม่รู้ว่า ต้นตอของประโยคประมาณนี้ (สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว  สิ่งนั้นดีเสมอ)  
มาจากไหนกันแน่ อาจจะมาจากหลักคิด แนวคิดของใครสักคน  ต้นตอเป็นภาษาอังกฤษหรือไม่ หรืออื่นๆ ก็ตามแต่
แต่หลังจากนั้นหลายปี เราก็เจอคนรู้จักพูดถึงประโยคนี้อยู่บ้าง  
เราก็ถามว่า ไปเอามาจากไหน  เค้าก็ตอบว่า เค้าก็ได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง 55

--------------------------------------------------------------------------------------

คือไม่ได้จะตั้งใจมาหาที่มา original ต้นทางของประโยคนี้หรอกค่ะ  
(แต่ถ้าใครทราบ ก็รบกวนแบ่งปันข้อมูลได้นะคะ^^)
แต่จะบอกว่า มีคนเคยตั้งคำถามกับประโยคนี้  ว่า "เค้าไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้"

คือ เราก็มามองดูว่า จริงค่ะ ประโยคนี้ไม่ได้ถูกใช้เพื่อสะท้อน "ความจริง" ของชีวิตในมุมมองของปุถุชนทั่วไป
เพราะว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตคนทั่วไป  มันก็จะถูกตีค่าว่า "ดีหรือไม่ดี"  
"ชอบหรือไม่ชอบ"  "ถูกใจหรือไม่ถูกใจ"  "ทุกข์หรือสุข"  ... ฯลฯ
จะมาเหมารวมว่า "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ ... มันไม่ใช่  มันไม่ถูก มันไร้เหตุผล"
ใช่ค่ะ ในแง่นี้ เราก็เข้าใจค่ะ

แต่เราว่าการตีความอะไรสักอย่าง ก็ต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบ ปัจจัยต่างๆ วาระ สถานการณ์
เจตนาต่างๆ ที่รายรอบด้วย หรือจะเรียกว่า บริบท  

ประโยค "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว  สิ่งนั้นดีเสมอ"  (ถึงแม้มันจะไม่ได้สะท้อนความจริงของชีวิต ตามที่หลายท่านรู้สึกคัดค้าน)
ก็มันถูกใช้ในแง่ของการให้กำลังใจ  การมองโลกในแง่ดี  เพื่อให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้ ผ่านพ้นปัญหาต่างๆ ไปได้
(ซึ่งการให้กำลังใจ การมองโลกในแง่ดี เพื่อสร้างเสริมจิตใจให้ลุกขึ้นสู้ รับมือกับอุปสรรค ตั้งสติคิดและทำเพื่อแก้ปัญหานะคะ
ไม่ใช่การหลอกตัวเองไปวันๆ แล้วไม่คิดไม่ทำอะไรเพื่อแก้ปัญหา ปล่อยไปตามยถากรรม ไม่ใช่แบบนั้นเนอะ)

หลายคนทุกข์ใจและกาย เพราะเจ็บป่วยหนัก หรือกิจการประสบปัญหา
หรือมีปัญหาความรัก  หรือเจออุปสรรคสารพัดด้าน หรือ อื่นๆ 
ในยามทุกข์หนัก จึงได้ตระหนักถึงเวลาในชีวิตที่เสียไปกับการไม่ดูแลตัวเอง หรือการทำงานหนัก 
ไม่มีเวลาให้ครอบครัว หรือการกระทำอื่นๆ ฯลฯ  

การเจ็บป่วยได้เกิดขึ้นแล้ว เหตุการณ์แย่ๆ ได้เกิดขึ้นแล้ว  เราไม่สามารถไปย้อนเวลาให้มันไม่เกิดขึ้น
แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว  เราอย่าให้มันทำร้ายเราอย่างเดียว  เราก็เอามันมาใช้ประโยชน์ซะเลยค่ะ
โดยการฝึกที่จะมองเรื่องร้ายๆ ในแง่ดี  (แรกๆ ก็ต้องฝึก ต้องฝืนค่ะ ทำบ่อยๆ มันก็จะทำได้ง่ายขึ้น)

เรื่องร้ายๆ มันทำให้เราได้ตระหนักถึงความจริง และความสำคัญของหลายสิ่ง
ที่เราละเลยไป  อะไรประมาณนี้ค่ะ

เพราะฉะนั้น ประโยค "สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว  สิ่งนั้นดีเสมอ" 
เป็นการสอนใจทางอ้อมค่ะ ให้มองสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วในแง่ดี ในแง่ที่จะไม่บั่นทอนตัวเอง
เอาเรื่องร้ายๆ พลิกกลับมาสอนใจเรา เตือนเรา ฝึกเรา ให้เราไม่ประมาท ให้เราตั้งสติ
ให้เรามีกำลังใจ ที่จะรับมือและสู้กับชีวิตต่อไปค่ะ ประมาณนั้น