https://www.facebook.com/9Entertain/videos/333051290747877/
คือเรารู้ว่าส่วนใหญ่น่าจะฟังคลิปกันไม่จบ เลยสรุปมาให้ ไหนๆก็เผือกกันมาไกลแล้ว
จริงๆฟังไปเรื่อยเรื่อยแล้วได้ความรู้ดีนะ สรุปประเด็น
1. ปูเป็นเจ้าของหรือพรีเซนเตอร์
2. ปัญหาอะไรถึงเลิกทำ
3. ใครบอกเลิกใครก่อน
ใช้คำว่าบอส แต่ในทางปฏิบัติคือปูไม่สามารถมีอำนาจในการบริหารใดๆ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการ ทางทนายเลยร่างสัญญาให้เป็นสัญญาอนุญาติใช้สิทธิเอาชื่อปูไปใช้ได้แต่ทุกอย่างคือต้องเป็นผลประโยชน์ที่ปูได้ทั้งหมด (ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา) และทนาย ขอให้มีการอัพเดทข้อมูลยอดขายให้ทางปูได้รับรู้ด้วย (เพราะมีการแบ่งเปอร์เซนต์) แต่ยอดขายไม่เคยได้รับการส่งมาให้ดู อันนี้ละเมิดสัญญาเรื่องที่ 1 และละเมิดสัญญาเรื่องที่ 2 โดยเอาชื่อปูไปจดแบรนด์เอง (อันนี้ซีเรียสมาก เป็นจุดแตกหัก) ซึ่งตลอดเวลา ทางทนายได้มีการขอข้อมูลทางบัญชี (ซึ่งไม่เคยได้รับตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำ) ขอให้ชี้แจงเรื่องสิทธิบัตรแบรนด์ ขอเคลียร์หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ แต่ต่อมาหลายเดือน แทนที่จะได้รับตอบคำถามต่างๆที่ทนายได้ถามไป กลับบอกให้ปูโพสโฆษณาขายของทาง IG เพิ่ม ปูจึงเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญา
แต่ในอีก 1 เดือนต่อมา มีจดหมายจากทางบริษัท ยกเลิกสัญญาปู และเรียกค่าเสียหาย เพราะปูไม่ทำตามสัญญาโดยโฆษณาทาง IG เพิ่ม ทนายว่าอาจเป็นการแก้เกี้ยว (เพราะ ตห. ออกมาสัมว่าบริษัทเป็นคนบอกเลิกสัญญาปูก่อน)
4. ออกมาพูดทำไมถ้าสงสารตัวแทน
มันมีการฟ้องร้องจากทางบริษัท แล้วมันมีเอกสารเป็นสาธารณะแล้ว เมื่อนักข่าวถามจึงต้องพูด
5. แล้วมีทางออก ทางแก้ปัญหาอย่างไร
เจรจากัน ถ้าเจรจาไม่ได้ ก็ต้องไปให้สุด คือฟ้องจบ แล้วเอาเงินที่ได้ทั้งหมดไปคืนตัวแทน
สรุป ทนายว่าทางปูไม่ได้เป็นคนผิดสัญญา จุดที่ทำให้ทนายต้องแถลงข่าวเพราะ ต้นหอม ไปให้สัมภาษณ์ หลายประเด็นที่ไม่เป็นความจริง และทำให้ปูเสียหาย เช่น การส่งโนติสไป 3-4 ฉบับ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะบริษัท ส่งมาแค่ฉบับเดียวให้ลง IG โปรโมท ที่บอกปูเป็นเจ้าของแบรนด์ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะบริษัทเอาชื่อปูไปจดแบรนด์ หรือเรื่องการที่บริษัทบอกเลิกสัญญาปูก่อน ซึ่งก็ไม่เป็นความจริงอีก แต่กลับกัน ก่อนหน้านั้นทางฝั่งปูได้ส่งจดหมายไปขอข้อมูต่างๆจากบริษัทหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ทางฝั่งปูมีการขอให้มาเคลียร์กัน ก็ไม่ได้รับคำตอบ สิ่งที่ ตห.สัม ทำให้กระทบชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของแบรนด์อื่นที่ปูเป็นพรีเซนเตอร์ (ฟังแล้ว ตห.มีโอกาสโดนฟ้องกลับ) ที่ปูส่ง แมสเสจไปขอโทษ มต. เพราะเค้าสนิทกันมาก่อน แต่ตอนนี้คงไม่ได้คุยกันแล้ว
คิดจะเผือกต้องเผือกให้สุด สรุปประเด็นที่ทนาย ปู ไปรยา แถลงเรื่องบริษัทอาหารเสริม
คือเรารู้ว่าส่วนใหญ่น่าจะฟังคลิปกันไม่จบ เลยสรุปมาให้ ไหนๆก็เผือกกันมาไกลแล้ว
จริงๆฟังไปเรื่อยเรื่อยแล้วได้ความรู้ดีนะ สรุปประเด็น
1. ปูเป็นเจ้าของหรือพรีเซนเตอร์
2. ปัญหาอะไรถึงเลิกทำ
3. ใครบอกเลิกใครก่อน
ใช้คำว่าบอส แต่ในทางปฏิบัติคือปูไม่สามารถมีอำนาจในการบริหารใดๆ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการ ทางทนายเลยร่างสัญญาให้เป็นสัญญาอนุญาติใช้สิทธิเอาชื่อปูไปใช้ได้แต่ทุกอย่างคือต้องเป็นผลประโยชน์ที่ปูได้ทั้งหมด (ประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา) และทนาย ขอให้มีการอัพเดทข้อมูลยอดขายให้ทางปูได้รับรู้ด้วย (เพราะมีการแบ่งเปอร์เซนต์) แต่ยอดขายไม่เคยได้รับการส่งมาให้ดู อันนี้ละเมิดสัญญาเรื่องที่ 1 และละเมิดสัญญาเรื่องที่ 2 โดยเอาชื่อปูไปจดแบรนด์เอง (อันนี้ซีเรียสมาก เป็นจุดแตกหัก) ซึ่งตลอดเวลา ทางทนายได้มีการขอข้อมูลทางบัญชี (ซึ่งไม่เคยได้รับตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำ) ขอให้ชี้แจงเรื่องสิทธิบัตรแบรนด์ ขอเคลียร์หลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ แต่ต่อมาหลายเดือน แทนที่จะได้รับตอบคำถามต่างๆที่ทนายได้ถามไป กลับบอกให้ปูโพสโฆษณาขายของทาง IG เพิ่ม ปูจึงเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญา
แต่ในอีก 1 เดือนต่อมา มีจดหมายจากทางบริษัท ยกเลิกสัญญาปู และเรียกค่าเสียหาย เพราะปูไม่ทำตามสัญญาโดยโฆษณาทาง IG เพิ่ม ทนายว่าอาจเป็นการแก้เกี้ยว (เพราะ ตห. ออกมาสัมว่าบริษัทเป็นคนบอกเลิกสัญญาปูก่อน)
4. ออกมาพูดทำไมถ้าสงสารตัวแทน
มันมีการฟ้องร้องจากทางบริษัท แล้วมันมีเอกสารเป็นสาธารณะแล้ว เมื่อนักข่าวถามจึงต้องพูด
5. แล้วมีทางออก ทางแก้ปัญหาอย่างไร
เจรจากัน ถ้าเจรจาไม่ได้ ก็ต้องไปให้สุด คือฟ้องจบ แล้วเอาเงินที่ได้ทั้งหมดไปคืนตัวแทน
สรุป ทนายว่าทางปูไม่ได้เป็นคนผิดสัญญา จุดที่ทำให้ทนายต้องแถลงข่าวเพราะ ต้นหอม ไปให้สัมภาษณ์ หลายประเด็นที่ไม่เป็นความจริง และทำให้ปูเสียหาย เช่น การส่งโนติสไป 3-4 ฉบับ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะบริษัท ส่งมาแค่ฉบับเดียวให้ลง IG โปรโมท ที่บอกปูเป็นเจ้าของแบรนด์ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะบริษัทเอาชื่อปูไปจดแบรนด์ หรือเรื่องการที่บริษัทบอกเลิกสัญญาปูก่อน ซึ่งก็ไม่เป็นความจริงอีก แต่กลับกัน ก่อนหน้านั้นทางฝั่งปูได้ส่งจดหมายไปขอข้อมูต่างๆจากบริษัทหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับคำตอบ ทางฝั่งปูมีการขอให้มาเคลียร์กัน ก็ไม่ได้รับคำตอบ สิ่งที่ ตห.สัม ทำให้กระทบชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นของแบรนด์อื่นที่ปูเป็นพรีเซนเตอร์ (ฟังแล้ว ตห.มีโอกาสโดนฟ้องกลับ) ที่ปูส่ง แมสเสจไปขอโทษ มต. เพราะเค้าสนิทกันมาก่อน แต่ตอนนี้คงไม่ได้คุยกันแล้ว