อยากระบายความรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก (เตือน!!!! ใครไม่อยากอ่านอะไรที่ติดลบอย่าอ่านเบยย แค่แนะนำ)

เราอึดอัดตั้งแต่ตอนเด็กละ ขอเล่าเท้าความตั้งแต่เด็กเลยละกัน (ขอแยกเป็นหัวข้อนะ)
เราเป็นเด็กต่างจังหวัด บ้านมีฐานะปานกลาง พ่อแม่มีหนี้สิน(ถึงจะมีไม่มากเท่าคนอื่นที่เขาต้องหมดบ้านไปก็เถอะ)
(ตอนเรียน)
ตอนอนุบาลได้เรียนรร.เอกชนแห่งหนึ่ง ศาสนาคริสต์
ตั้งแต่จำความได้ก็โดนแกล้งมาตลอด เช่น โดนเพื่อนผช.ขังไว้ในห้อง (ที่จำได้ไม่ใช่หรอกแม่บอกhahahaha)ตั้งแต่อนุบาลจนถึงประมาณป.4รึ5นี่แหละ แต่จากการโดนแกล้งกลายเป็นว่าเราโดดเดี่ยว เพื่อนก็มีนะแต่เรารู้สึกว่าเราเข้าหาเขาอาจจะผิดหวังก็ได้ที่เป็นเพื่อนกับเรา เพราะเรามีความลับอันดำมืดที่อยากปิดไว้ตลอดกาลที่เราไม่อยากไปรื้อฟื้นให้เรามาคิดมากตั้งแต่ป.1(แต่ก็เริ่มจะผ่อนคลายเพราะเราได้เล่าให้กับเพือนนะตอนนี้ให้ฟังแล้ว ณ ตอนนี้ไม่สนละว่าถ้าเรื่องนั้นเผยแพร่ไปจะเป็นยังไง เพราะมีคนอยู่ข้างๆเราแล้วsmilesmile)ต่พอใช้ชีวิตไปตอนป.6นั้นอยู่ดีๆก็ตั้งคำถามขึ้นว่าทำไมเราต้องมีพื่อน ทำไม เพราะเห็นในรร.ผญ.บางคนก็น่ารำคาญ ประมาณนั้น แต่เวลาเราเห็นรุ่นพี่แค่2คนนั่งด้วยกัน มันก็รู้สึกว่าทำไมเราไม่มีแบบเขาบ้างนะ เวลาเราอยู่คนเดียวเราชอบอ่านหนังสือ(การ์ตูน)ไม่ก็โทรคุยระบายกับแม่
ตอน ม. ต้น เราก็ย้ายมา รร.เอกชน ที่เป็นศาสนาคริสต์
เราย้ายมานี่เพราะเราสอบรร.ดังในจังหวัดเราไม่ติด+กับว่าใกล้ที่ทำงานแม่ เราเบื่อมากเพราะเวลาเรียนเก็บโทรศัพท์ละก้อเอาหนังสือมาอ่านไม่ได้ยกเว้นหนังสือเรียน แต่เราก็ทำตามกฎระเบียบทุกอย่างนะ ไม่เคยอะไรกะรร.เพราะเข้าใจว่าทำทำไม พอเราได้มาอยูที่นี่เรารู้สึกได้ว่าเรามีระเบียบขึ้น(ตอนอยู่รร.อะนะ)เราเจอเพื่อนที่ดี ดีมากๆ เรารู้สึกว่าการฝากทศ.ทำให้เราไม่ต้องแชทผ่านมือถือ(บอกว่าไงดี เรียนภาษามากไปจนจำคำไทยไม่ได้T T)ที่พวกเราจับกลุ่มกันได้เพราะเราชอบสิ่งเดียวกัน ตอนอยู่ม.2 เทอม2 เกรดเราดีจนเขาให้ไปเรียนEP.ซึ่งตอนแรกเราแบบจะเรียนได้ไหมนะ(ที่จริงตอนป.5-6 เรียน EPมาแล้ว)แต่ตั้งแต่ขึ้นม.1มาเราเรียนธรรมดามาเรารู้สึกว่าทำไมที่นี่เรียนนน้อยกว่าที่เราเรียน(อาจเป็นเพราะEP.เขาสอนเนื้อหาเด็กม.ต้นให้)แตถึงอย่างงั้นเรามาเรียนที่นี่เกรดเราตกเฉยแต่มันก็เริ่มสูงขึ้นนะ แต่เวลาเราเรียนEPเรารู้สึกว่าเราสนุกอ่ะ ถึงจะฟังรู้เรื่องบ้าง แต่เรารู้ละว่าชอบอะไรที่เป็นภาษา แต่เรารู้สึกว่าเรามีความผูกพันธ์กับเพื่อนม.3มากกว่าตอนไหนๆเลย เราชอบเวลาอยู่กับเพื่อนในห้อง ทำให้เราหัวเราะได้ ทำให้ลืมทุกข์ไป 
ตอนม.ปลาย ย้ายมารร.รัฐ
เราย้ายมาเพราะแม่เป็นศิษย์เก่าละบอกว่าถ้าอยากเรียนภาษาต้องที่นี่ ที่ย้ายมาเพราะที่รร.นั้นมีทางเลือกน้อย เอาจิงๆตอนเข้าอยากเข้าEP.แต่พ่อกับแม่บอกว่ามันแพงเราก็เรียนทำดาไปก็ไม่ได้อะไร ม.5 เป็นช่วงเวลาที่มีแต่ปัญหาไม่ว่าจะกับเพื่อน คนในครอบครัว หรืออื่นๆ แต่เราก็ผ่านมาได้ด้วยดี
ตอนนี้เราขจะขึ้นมอหกละรู้สึกว่าทำไมเวลาผ่านไปเร็วจังนะ เราเจอเพื่อนที่หลากหลายลักษณะนิสัย ซึ่งมันก็ดีเพราะอนาคตเราก็ต้องรับมือกับคนหลากหลายมันก็เหมือนเป็นขั้นแรกของชีวิต เรากะว่าจะต่อ มธ. แต่ต้องรอดูคะแนนสอบก่อนเราก็คิดนะว่าอยากเรียนอินเตอร์แต่แม่ชอบพูดตีกรอบว่ามันแพงไป เรียนไม่ได้หรอก ประมาณนั้น
(ครอบครัว) พ่อ แม่
ด้วยความที่เป็นเด็กคนเดียวในบ้าน ที่บ้านมียาย(ตอนนี้ไปดูแลพี่สาวยายที่ตจว.ยังไม่กลับ) แม่ น้า2คน ละก้อมีป้าที่รู้จักกับน้า มาอยู่ด้วยกัน ทั้งบ้านไม่มีใครมีลูกหลานเลย มีแม่เราคนเดียวที่มีเราที่เหลือโสด ตั้งแต่จำความได้ พ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันทุกเรื่อง ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ทะเลาะกันเลย พ่อเคยมีกิ้กละเลิกไปละจนเราอยู่ป.4 พ่อก็มีเมียน้อย แต่คนๆนี้ชอบทำนิสัยประหลาด ถ้าคนก่อนเขาแทบจะไม่ได้ยุ่งกับครอบครัวเราเลย คนนี้บางวันตอนประมาณตี2-3 มากดกริ่งหน้าบ้านละกริ่งเราดังมาดกจนแม่ตื่นแต่เราหลับสนิทแต่แม่เล่าให้ฟังตอนเช้า (ละมีอีกหลายเรื่องแต่ขก.เดี๋ยวค่อยเล่าแยกละกัน long story ) จนวันนึงแม่เรียกพ่อมาคุยบอกแค่ว่าถ้าเลือกทางนั้นก็ไป ถ้าเลือกเราก็อยู่แต่พ่อเลือกจะไป ตอนนั้นเรานั่งใส่หูฟังอยู่ข้างห้องตรงนั้นเป็นบันไดพ่อก็เดินออกมาละลูบหัวเราก่อนลงบันไดไป เรารู้สึกเสียใจมากกก ละหลังจากนั้นแม่ก็นั่งร้องไหเ้เลยถามแม่เกี่ยวกับอดีต แม่บอกว่าเมื่อก่อนตั้งแต่พ่อเป็นตร.พ่อก็เริ่มติดผญ.ละที่แม่รับไม่ได้คือเห็นพ่อนอนกะผญ.คนอื่นที่เตียง นั้นทำให้แม่กลับมาจากที่อยู่กับพ่อกับมาอยู่กับยาย แต่พ่อก็ตามมาง้อละตอนไหนก็ไม่รุ้(เราจำไม่ได้555)อยู่ดีๆพ่อก็มาบอกกับแม่ว่าทำผญท้อง แม่ด้วยความที่อยากให้พ่อกลับมาสนใจเลยมีเราแต่ตอนที่แม่มีเราแม่ก็เปลี่ยนความคิดที่จะให้เขาสนใจ แต่วันก่อน เรารู้สึกfell about everything ประมาณว่าโลกนี้มันคืออะไร ไม่เห็นน่าอยู่เลย เลยถามแม่ " แม่คิดว่าหนูเป็นซึมเศร้ามะ " แต่คำตอบทีได้ยิน เป็นคำตอบที่ไม่อยากได้ยินเท่าไหร่ เพราะแม่บอก"เป็นบ้าอะไรอีกอ่ะ อุปทานหมู่แง้ะ"
(ที่พูดเพราะคนรอบข้างก้อเป็นไม่ว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องหรือเพื่อนรึรุ่นน้อง)แต่เราก้อคิดว่าแม่ไม่ได้รู้ทุกเรื่องสะหน่อย ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย
(ครอบครัว) น้าๆ
เอาจิงๆเราว่าตอนเด็กเราสนิทกะน้าคนสุดท้ายที่สุดละ เราเคยไปเจอประโยคนึงที่ว่า เราจะสนิทกับน้าคนสุดท้องที่สุด เพราะเขานิสัยเหมือนแม่แต่ประมาณตอนขึ้นป.4 จากที่น้ากับป้าเคยไปรับที่รร. หลังจากนั้นก้อแทบไม่ได้ไปรับเราอีกเลย ให้คนอื่นไปรับแทน(คือน้าผช.แตต่ตอนนี้ไปทำงานอยู่ต่างอำเภอ) เราคิดว่าน้าคงไม่ว่างก้อไม่เป็นไร จนวันนึงแม่เราจะซื้อรถเพื่อนจะขายราคาโอเครแต่ต้องผ่อนต่ออีกเกือบปีละป้าก้อหาว่าเราเป็นคนยุให้แม่ซื้อ ทั้งๆที่เราพึ่งรู้ไม่กี่วันก่อนแม่จะบอกกลับคนในครอบครัวด้วยซ้ำ เราเลยตอกกลับว่า ชีวิตใครชีวิตมันมะ จะทำอะไรก้อเรื่องของเขาเถอะ  ตั้งแต่ตอนนั้นกลายเป็นป้ากะน้าไม่พูดกับเราเลยสักคำ ไม่ใช่แค่ป้าที่ไม่พูดกลายเป็นน้าเราแท้ไม่พูดด้วยย ทั้งที่เราทะเลาะกับป้า แต่ตอนนี้ก้อโอขึ้นละ  แต่เมื่อเช้าานี้เราเผลอไปได้ยินน้าเราพูดเกี่ยวกับเราที่จะไป มธ. ประมาณว่า  เรียนได้เท่านี้อย่างนี่อ่ะหรอ ไปมธ
หลังจากนั้นเราอยากร้องไห้มากก แต่เราต้องเก็บไว้ ไว้เราออกจากตรงนี้ได้เราจะไม่กลับมาอีกกก......
ปล.เดะมาเล่าต่อนะะขอพักก่อนไม่ไหวละอยากกนอนT T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่