วันที่ 27 เมษายน 2562 - 16:58 น.


องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ(นาซา)เปิดเผยข้อมูลชวนตกตะลึงว่า ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่อาจจะพุ่งชนโลกในปี 2565 ซึ่งแรงปะทะดังกล่าวจะปล่อยพลังมากถึง 1,500 เท่าของระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิรวมกัน

หนังสือพิมพ์เอ็กซ์เพรสของอังกฤษรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากองค์การนาซาว่า ดาวเคราะห์น้อยดังกล่าวซึ่งมีชื่อเรียกว่า 2018 แอลเอฟ16 ซึ่งมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 700 ฟุต มีทิศทางโคจรซึ่งอาจจะชนพุ่งชนเข้ากับโลกได้ถึง 62 ครั้งในช่วง 100 ปีข้างหน้า โดย ณ ตำแหน่งล่าสุดของดาวเคราะห์ดวงนี้ที่พบเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนปีก่อน ดาวเคราะห์ดวงนี้จะพุ่งชนโลกก่อนปี 2660 แต่ก็มีความหวั่นเกรงว่า โอกาสแรกที่ดาวเคราะห์ดวงนี้จะพุ่งชนโลกคือในวันที่ 8 สิงหาคม 2565 หรืออีกเพียง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่โอกาสต่อไปคือ 3 สิงหาคม 2557 และ 1 สิงหาคม 2568

สิ่งที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีกคือการที่ขณะนี้ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ซึ่งมีขนาดสูงเป็นสองเท่าของเทพีเสรีภาพของสหรัฐ กำลังเคลื่อนที่ในห้วงอวกาศด้วยความเร็วมากกว่า 33,844 ไมล์ต่อชั่วโมง อย่างไรก็ดีการคาดการณ์ดังกล่าวไม่อาจสรุปได้แน่ชัด 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ดาวเคราะห์น้อย 2018 แอลเอฟ16 จะพุ่งชนโลก

นักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซาประเมินว่า โอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งชนโลกคิดเป็น 1 ใน 30 ล้าน และโอกาสที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุงผ่านโลกไปมีมากถึง 99.9999967 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดีหากดาวเคราะห์น้อยที่มีขนาดใหญ่เท่านี้พุ่งชนโลก แรงปะทะจะส่งผลเท่ากับแรงระเบิดจากพลังนิวเคลียร์ถึง 57 เมกะตัน หรือมากกว่าแรงระเบิดจากนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิมาและนางาซากิรวมกัน 1,500 เท่า

อย่างไรก็ดีนับเป็นโชคดีของมนุษยชาติ เนื่องจากดาวเคราะห์น้อยมักจะไม่โคจรมาใกล้โลก โดยองค์การอวกาศของยุโรประบุว่า ดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่า 330 ฟุต มักจะโคจรเข้ามาใกล้โลกเพียงแค่ 1 ครั้งในทุกๆ 1,000 ปีเท่านั้น
 

มติชนออนไลน์