มะเงยระอาว คำทักทายภาษามอญ ที่สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

สุดเขตไทยติดกับประเทศพม่า มีแม่น้ำซองกาเรีย ที่ให้ชาวบ้านทั้งไทยและมอญ ได้ใช้สอย 
สังขละบุรี อยู่ห่างจาก ตัวเมืองกาญ เกือบๆ 300 กิโลเมตร ไกลมาก ระยะทางช่วงๆ 10 กิโลสุดท้ายจะเป็นทางขึ้นเขาลงเขา
ใช้เดินทางเวลาจากตัวเมืองกาญ เกือบ 4 ชั่วโมง ถ้าขึ้นรถโดยสาร มีด่านตรวจคนตลอดทาง เป็นพี่ทหารตรวจ นับๆได้ เกือบ 4 ด่าน 

การเดินทาง : 1. ออกจาก กรุงเทพ ไป ตัวเมืองกาญ ขึ้นรถตู้ที่หมอชิต รถออก 6.20 น. เช้ามากกกก ตั๋ว คนละ 120 บ. ใช้เวลา สองโมงกว่าๆ
2. ถึงกาญก็เกือบๆ เก้าโมงเช้าละ หิวมาก แวะกิน ก๋วยเตี๋ยว ร้านข้างๆ บขส.ก่อน เพราะต้องทางอีกไกล เดี๋ยวหิวตาย
 ฮ่าๆๆๆ พออิ่มท้อง ก็เดินไปหารถตู้ ถามคนแถวนั้นได้ หาง่าย ขึ้นรถตู้อีกที กาญจนบุรี - สังขละบุรี คนละ 175 บ. ออกรถ 9.30น. ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ถึงสังขละตอนบ่ายโมงนิดๆ

สัมผัสแรกที่ลงจากรถตู้ อื้อหืออออ ใครบอกให้มากาญเดือน เมษา ร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ร้อนชิปหาย ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ มาแล้ว ยังไงก็ต้องไปต่อ เดินไปหาวินมอไซต์เพื่อไปรีสอร์ท คนละ 20 บ. 

รีสอร์ท ที่พักชื่อ P-Guesthouse and Country Resort คืนละ 950 บ. ห้องแอร์ วิวดี ติดแม่น้ำซองกาเลีย มองเห็นสะพานมอญได้ ที่พักดีมากกกกกกกกกกกกกก มีห้องพัดลมและลานให้กางเต้นด้วยนะ ราคาก็จะถูกลงไปอีก ปล. เจ้าของน่ารักมาก เป็นกันเอง ทั้งครอบครัวเลย ยิ่งประทับใจไปอี้กกกกกกก ^_____^
ติดแม่น้ำซองกาเลีย
มองเห็นสะพานได้จากหน้าห้องพัก

พอเช็คอิน เก็บของพักแปปนึง เราก็เช่ามอไซต์จากที่พักนี่แหละ 200 บ. 24ชั่วโมง
ถึงเวลาลุย ไปกันเลย ยยยย

ที่แรกที่ไปคือ ห้วยซองกาเลีย ขับมอไซต์ จากตัวเมืองสังขละ ประมาณ 8 กิโลเมตร ขับรถไปทางชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ ไปนั่งแพ เอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆใสๆ ดับร้อน สั่งส้มตำไก่ย่างมานั่งชิว นั่งนานๆไปเลยจ้า เล่นน้ำด้วย ราคาอาหารก็ปกติเลยไม่แพงมาก

ถึงเลาเย็นๆแดดร่มละ ออกจากสะพาญมอญกัน ช่วงเวลา ห้าโมงเย็นนี่ถ่ายรูปสวยมาก คนเยอะ เพราะออกมาตอนไม่มีแดด ขี่มอไซต์เข้าไปได้หลายทาง ไปไม่ถูกก็ถามชาวบ้านได้ google map ช่วยได้เยอะ

ภาพนี้มองเห็นสะพานได้จากที่พัก





เดินเล่น ถ่ายรูปที่สะพานจนค่ำ ไปหาอะไรกินดีกว่า ไฮไลต์เลย ต้องโดน หมูจุ่ม พม่า ไม้ละ 2 บาท กินวนไปเหอะ ถูกมากกกก อร่อยนะ แปลกๆดี คนกินเยอะเลย มาถึงต้องลองนะ เมนูนี้ ร้านนี้อร่อย ชื่อร้าน " มูมู หมูจุ่มพม่า" สูตรดั้งเดิมจากพม่า ถึงว่าล่ะคนเยอะเชียว


จิ้มน้ำจิ้มแล้วจะติดใจ ตัวของหมูและน้ำที่อยู่ในหม้อนั้น จะออกรสหวานๆ จิ้มกับซีฟู้ดและน้ำจิ้มอะไรไม่รู้อีกอย่าง เข้ากันดี้ดี


เจดีย์พุทธคยา ยามค่ำคืน มองจากที่รีสอร์ท

สะพานมอญ คืนนี้ ในหน้าร้อน พอมีลมเบาๆ พอให้เย็น ออกมานั่งมองจากหน้าห้องได้เลย

เช้าๆกับหมอกที่ปกคลุมแม่น้ำซองกาเลีย ไปตักบาตรมอญกันดีกว่า ซึ่งเราซื้อแพ็จเก็ตใส่บาตรพร้อมรับส่งจากรีสอร์ทเลย คนละ 99บ. ขึ้นเรือที่ท่าแม่น้ำลงรีสอร์ทเลย ดี้ดี วิวตอนเช้าสวยมากกกกกกกกกก




ยายยืน แห่งสังขละบุรี
ที่ยายไปออก รายการ SUPER 60+ 






ตักบาตรเสร็จ ก็ถึงเวลาอาหารเช้า โจ๊กก็ต้องมา นั่นคือ โจ๊กนั่งยอง ต้องลอง ราคาเบาๆ คนเยอะเลยร้านนี้อร่อย ตั้งอยู่หน้าสะพาญมอญเลย

อิ่มท้องละก็ไปเหมาเรือชมวัดกัน 3 วัดในราคา 400 บ. พี่คนขับเรือลดให้ ซึ่งจริงๆมันราคา 500 บ. ใจดีแท้ๆคนที่นี่ ซึ่ง 3 วัดที่ไป คือวัดที่เป็นวัดไทย วัดมอญ และวัดกระเหรี่ยง นั่งเรือลมเย็นๆ ชมวัด เรื่อยๆ  

เสร็จละพี่เขามาส่งที่รีสอร์ท เราก็ขับมอไซต์ไปกันเองต่อที่ เจดีย์พุทธคยา ทางเดียวกับที่ไปสะพานมอญ แต่ขับเลยตรงไปอีกหน่อย 
เจดีย์พุทธคยา ภายในองค์เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีผู้คนมาสักการะ เยอะ ทั้งคนไทยและคนมอญ

เจดีย์พุทธคยา สามารถมองเห็นได้จากแม่น้ำซองกาเรีย ภาพนี้มองเห็นได้จากหน้าห้องพัก


เดินชมไหว้พระสักพัก ถึงเวลาเช็คเอ้าท์ กลับ กรุงเทพละ
เอาล่ะ จุดพีคสุด ของทริปมาถึงเเล้ววววววววววว

.

.

.

ความที่ใจเย็นดั่งสายน้ำไหล ไม่มีการจองรถกลับใดๆทั้งสิ้น ฮ่าๆๆๆ   เลยทำให้ ไม่มีรถกลับตัวเมืองกาญจ้าาาา รถตู้เต็ม งานเข้าแล้วตรู ถามพี่คนขายตั๋วรถตู้ บอกว่าอาทิตย์นี้มันหลังสงกรานต์ ซึ่งคนมอญเขาก็กลับบ้านกันที่สังขละช่วงสงกรานต์ แล้วจะกลับเข้าไปทำงานคืนในเมืองกาญวันนี้ทั้งนั้น รถเต็มทุกคัน ทุกเที่ยว ซึ่งที่เต็มนั้นคนมอญทั้งนั้น นักท่องเที่ยว ไม่มีใครคิด ว่ารถจะเต็ม ไม่มีใครรู้ ทำไงล่ะทีนี้ พรุ่งนี้ต้องทำงานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ลาไม่ได้
เลยถามพี่คนขายตั๋วเขาบอกมีบัสแดงนะ มีรอบเร็วสุดตอนนี้คือ บ่ายโมง รีบไปถามเลย โล่งอก มีรถกลับแล้วว
แต่...........ที่รอรสบัสแดงคนมอญก็เต็มจ้า ไปถึงรีบถามลุงคนขายตั๋วว่าจะกลับเมืองกาญมีรอบไหนบ้าง ซึ่งลุงบอกว่า เร็วสุดคือ บ่ายสามโมงครึ่ง คนละ 150 บ. แต่ตอนนี้มันเพิ่งเที่ยงเว้ย ไม่มีทางเลือกเเล้ว ซื้อไว้ก่อน คนที่มาซื้อตั๋วตรงนี้นักท่องเที่ยวทั้งนั้นรวมถึงคนมอญด้วย ฮือๆๆๆๆๆ อีกเกือบ สี่ชั่วโมง จะได้ขึ้นรถ จะไปสิงสถิตที่ไหนตอนรอ อากาศก็ร้อน

ถึงเวลารถมา อื้อหือ พลังประชาชนคนรีบกรูเลยจ้า เดี๋ยวไม่มีทีนั่ง แต่โชคดี ที่คนขับเช็คใครมีตั๋วให้นั่ง ใครไม่มีตั๋วรอก่อน ต้องยืน ซึ่งคนที่ได้ยืน คือยืนจริงๆเว้ย ยืนสามร้อยกว่าโล เกือบสี่ชั่วโมงอ่ะ แต่โชคดีคนมอญ คนไทยน้ำใจเยอะแยะ แบ่งกันนั่งได้ มันไกลมาก ใครจะยืนไหววะเนอะ ออกจากสังขละ บ่ายสามครึ่ง รถบัสแดงนี่สุดๆ ทางกลับเป็นทางลงเขาซะส่วนใหญ่ บัสเก่าๆคนเต็มรถ โคตรเสียว กลัวเบรกไม่หยุด ได้แต่ภาวนาให้รอดปลอดภัย แต่อุ่นใจมีคนขับเก่ง กับหลวงตาและหลวงพี่อยู่บนรถด้วย แต่ยอมรับพี่คนขับแกสุดยอดจริง ระหว่างกลับเจอด่าน สี่ด่าน ด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งคนมอญที่เข้าทำงาน ทหารตรวจทุกด่านจ้า สุดจริงๆ

นี่แหละจ้า รถบัสแดง แอร์ธรรมชาติ พัดลมก็มี อากาศดี้ดี 43 องศา เอ้งงง

กว่าจะถึงตัวเมืองกาญ ปาไปเกือบสามทุ่ม
แต่ก็อุ่นใจที่ลุงขายตั๋วบัสแดงบอก ไม่ต้องห่วงอีหนู รถเข้ากรุงเทพ หมดสี่ทุ่มนู่น มาถึงสามทุ่มยังไงก็ได้กลับ กทม แน่ๆ

พีคอีกแล้ว ไม่มีรถเข้า กรุงเทพเลยจ้า ไหนลุงบอกมี โอ้ยยยยยยยยลุงงงงงงงงงงงง คนที่จะเข้า กรุงเทพ ที่มาด้วยกันบนบัสแดง เกือบ 8คน มองหน้ากันเลยจ้า งานเข้าละ ต้องนอนที่นี่คืนนี้ แล้วออกเช้าสุด เพื่อมาทำงานให้ทันหรอวะ

แต่........ ชีวิต ยังมีเรื่องดีๆให้ยิ้มได้เสมอ มีพี่คนนึงเดินมาถามใครจะเข้า กรุงเทพ เดี๋ยวพี่หารถให้ แต่พี่ขอค่ารถเพิ่มขึ้นนิดหน่อยนะ เพราะมันล่วงเวลาดึกมากแล้ว ไม่เอาก็ต้องเอาละวะ ยอมจ่าย เพราะมันไม่ได้มากเกินไป ยอมเพื่อให้ได้กลับกรุงเทพ แต่พี่เขาบอกว่า รอบัสแดงอีกคันที่ตามคันเรามาก่อน เพราะถ้าคนเข้ากรุงเทพเยอะ ก็จะเอารถดีๆให้ไป แต่ถ้าไปกันแค่ 8 คน อาจจะต้องจ่ายเพิ่มอีก รอวนไปจ้า จนสี่ทุ่มกว่า ระหว่างที่รอได้นั่งคุยกับหลวงตา หลวงที่มาด้วยบนบัสแดงนั่นแหละ คุยไปคุยมา หลวงตาให้พระมา บอกขอให้โชคดี เดินาทงปลอดภัย นั่งรอ นั่งคุย จนถึงเวลาบัสแดงอีกคันมาละ มีคนมอญเข้ากรุงเทพ ครบจำนวนพอดี เย้ๆๆ ได้กลับแล้ววว 

บัสแดงในตำนาน ขอบคุณนะ ที่มาส่งถึงที่ อย่างปลอดภัย รถเขาแรงดีจริงๆ
ออกจากกาญ สี่ทุ่มกว่าๆ ถึง กทม ก็เที่ยงคืนเกือบตีหนึ่งละ สบายใจ วันต่อมาทำงานต่อ ฮ่าๆ
ทริปนี้สุดจริง ทั้งร้อน แดดแรง เหนื่อย ไม่มีรถกลับ รอๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ในความโชคร้ายที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิด ยังมีความโชคดีเสมอ มันจะมีทางไปของมันทุกปัญหาแหละ แค่รอ ยิ้มๆไว้ แดดร้อน ใจก็อย่าร้อนตามอากาศ 

ครั้งหน้าจะกลับไปอีก ที่นี่ สังขละบุรี..