[CR] >>> สังขละบุรี ตามวิถีฮิบสะเตอ ฮิบสะเตอ ชิคชิค คลูคลู ถถถถ......<<<

.....คืออยากทำรีวิวท่องเที่ยวของตัวเองหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยสำเร็จซักที เพราะติดขี้เกียจ ... แต่ครั้งนี้อารมณ์มา สถานการณ์เป็นใจ ทรัพยากรณ์พร้อม เริ่มเลยละกันนะ .....
.....กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ทำ ความตั้งใจคือจะอวดว่าได้ไปเที่ยวมาแค่นั้นนะคะ ไม่มีไรมาก

ทริปนี้มีสมาชิกร่วมเดินทาง 2 คน ผู้หญิงหนึ่งคนและผู้หญิงอีกหนึ่งคน... ตัดสินใจไปเที่ยวสังขละบุรีกัน เพราะ ได้แรงบันดาลใจจากกระทู้พันทิพย์กระทู้หนึ่งที่รีวิวการท่องเที่ยวอำเภอสังขละบุรีของสาวคนหนึ่งที่ชิคชิคคลูคลูมาก เลยอยากตามรอย ประจวบเหมาะกับวันหยุดสามวัน เราจะรออัลไลก็ไปกันเลยสิครัช!!!!
>>> step 1 นั่งรถเมล์จากบ้านมารอโกโบริที่สถานีรถไฟบางกอกน้อย (ธนบุรี) ... พอถึงสถานีเท่านั้นแหละ....ป๊าดดดดด อุ๊บซ์!! โอ้โห้!! ผู้ร่วมอุดมการณ์เต็มเลยจ้า



.....รถไฟฟรีสาย ธนบุรี-น้ำตก เอาบัตรปชชไปแลกตั๋วก่อนขึ้นให้เรียบร้อย รถออก7.50 ผู้ร่วมอุดมการณ์เยอะขนาดนี้ คนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะมีสิทธินั่ง@&฿(;:..เป็นการนั่งรถไฟที่ชิวมาก หลักฐานบนใบหน้า...



>>>> Step 2 ต่อรถแดงหวานเย็นจากสถานีรถไฟน้ำตกไปสังขละ .... สามชม.บนรถไฟสายชิคชิคคลูคลูก็ถึงสถานีกาญนะจ๊ะบุรี ทุกคนบนรถนั่งกันนิ่ง อ้าวไม่ลงกันหรอนั่งกันนิ่งเลอ เอิ่มมม อ่านรีวิวเดียวกันมาช๊ะ?? เอาแล้วไง พิจารณาแล้วเราคงไม่มีปัญญาไปต่อสู้แย่งชิงขึ้นรถแน่ ไหวตัวดีฟ่าโดดลงรถไฟที่สถานีสะพานแควใหญ่ โบกพี่วินไปนั่งรถแดงที่ท่ารถต้นสายในตัวเมือง ทันรอบเที่ยงพอดีเลยจ้า สองที่นั่งสุดท้ายโชคดีชะมัด ...รถนี่แน่นเลย หมายถึงเบาะมันแคบมากตัวเรานี่แน่นเลอ





>>> ได้ขึ้นรถเที่ยงนะ เลยถามน้องกระเป๋าว่าน่าจะถึงสังขละประมานกี่โมง คำตอบคือ. เออ 6 โมงคับ ห๊ะ? 6 โมง.... เหตุผลคือโดยปกติแล้วคนเข้าสังขละบุรีโดยรถแดงมีไม่มาก จึงมีรถที่ขึ้นถึงสังขละบุรีวันละไม่กี่เที่ยว และเที่ยวสุดท้ายที่ถึงสังขละบุรีก็คือคันที่เรานั่งมา ซึ่งจะมาจอดรอคันหลังที่จะเอาคนที่เหลือที่จะเข้าสังขละมาถ่ายให้ ที่อ.ทองผาภูมิ และทุกคนที่มาภาคบ่ายก็จะมาขึ้นรถคันเดียวกันไปสังขละบุรี.... ด้วยว่าวันนี้คือวันหยุดวันปิยะซึ่งติดกับเสาร์อาทิตย์ มนุษย์ผู้ออกเดินทางตามหาความฝันจึงมีมากเป็นพิเศษ รถแน่นเลยคราวนี้แน่นจริงไรจริงขนาดว่าต้องยืนกันขึ้นไปเลยทีเดียว.....จากทองผาภูมิ ถึงสังขละ 70 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม. เส้นทางจัดว่าเอาเรื่องพอสมควร ขึ้นเขา ลงเขา โค้งหัก โอ้ววมายด์ก๊อดดปอกแหก!!! แต่เอาจริงถนนว่าน่ากลัวแล้วสิ่งที่น่ากังวลไม่แพ้กันนั้นคือสังขารรถ ถถถ ต้องหยุดเป็นระยะเพื่อคนขับเข้าเกียร์ต่ำไต่ขึ้นไปองศาบางช่วงประหนึ่งขึ้นรถรางที่เดอะพีค แต่นี่มันไม่มีสริงนะมีแต่ผ้าเบลค!!! นั่งลุ้นอี้หดในที่สุดก็ถึงสังขละบุรีโดยสวัสดิภาพ 18.45 มืดตื้อ รวมเวลาเดินทางจากกรุงเทพ ถึง สังขละบุรี 12 ชม. โดยประมาณจ้า  ชิวพอมั๊ย? สมใจยัง....
>>>> step 3 ต่อพี่วินแว๊นซ์ไปสะพานมอญ ตามหาโฉมงามโฮมสเตย์ ที่พักเชิงสะพานฝั่งมอญ ด้านหน้าเป็นร้านขายของที่ระลึก ทำเลดีราคาสมเหตุสมผล เจ้าของใจดีบริการทุกระดับประทับใจ แถมคำแนะนำในการเที่ยวพม่าอีกเพียบ



เก็บของ ออกไปหาข้าวกิน กลับมาก่อนเข้าห้องก็ได้คุยและวางแผนเที่ยวกับพี่เจ้าของนี่แหละ สรุปคือ พรุ่งนี้ยังไม่ต้องใส่บาตร แนะนำว่าไปเปิดตลาดเช้าที่ฝั่งพม่าเลยจ้าน่าเดินมากทุกอย่างจะดูแปลกตา ...

>>>> step 4 ด่านเจดีย์สามองค์
เริ่มด้วยเดินออกจากที่พักข้ามสะพานกลับไปฝั่งไทยโบกพี่วินไปท่ารถสองแถวไปด่านเจดีย์สามองค์ ...ค่าสองแถวคนละ 30 บาท มีรถออกทุกสี่สิบนาที และสิ่งที่ต้องเตรียมให้ดีคือบัตรประจำตัวประชาชนนะก๊ะ ตรวจทุกเม็ดเด็ดทุกด่าน...





>>>> step 5 พม่า พม่า พม่า
ลงรถเขียวปุ๊บ เจอพี่วินปั๊บ พี่วินเสนอทัวร์พม่าในราคาคนละ 200 บาท เที่ยวทุกที่ที่อยากไป สะดวก ง่าย ไม่ต้องทำเรื่องผ่านแดน ซึ่งจากการอ่านรีวิวของสาวชิคชิคคลูคลูมาแล้วพบว่าสามารถขึ้นได้ แต่คนปอดไม่ค่อยดีอย่างพี่มีหรือจะมั่นใจ เดินไปด่านดีกว่าอ่านอีกรีวิวมาเค้าว่ามีทัวร์ขายอยู่หน้าด่าน แพคเก็จทัวร์มี 2 แบบ คือ 200/คน เที่ยว 4 ที่ คือ วัดสองที่ ตลาด และดิวตี้ฟรี และ 300/คน เพิ่มวัดอีก 2 ที่ สวยๆรวยๆอย่างเราจัดไปเลยสองร้อย ไปจอยกับกลุ่มใหญ่เลยได้นั่งรถตู้ไป ปกติถ้าประมาน 5-6 คน จะเป็นรถกะบะ มีไกด์เด็กให้หนึ่งคน ไปสองวัด คือวัดทอง มีเจดีย์ชเวดากองจำลอง กับวัดเสาร้อยต้น ถนนหนทางฝั่งพม่าจัดว่ากันดารพอสมควร คิดว่าถ้าไม่มีนักท่องเที่ยวจากฝั่งไทยไปนี่ก็คงยังไม่เจริญขนาดนี้
วัดทอง







ระหว่างทางพี่คนขับเค้าก็จะจอดให้ถ่ายรูปด้วย ... รูปปั้นพระของหลวงพ่ออุตตมะ ที่ท่านตั้งใจจะทำทั้งหมด 500 รูป แต่ปัจจุบัน มี 120 หรือ 180 นี่แหละ ลืม....



วัดเสาร้อยต้น ... แต่ไม่ได้นับ





บรรยายกาศตลาด











ไหนลองหมูจุ่มฝั่งพม่าซิ



หลบหน่อยดิ๊ เดี๋ยวเจอเบิ๊ดกะโหลก...ถถถถ #กับเด็กนี่ขอให้บอกนะ เก่ง!!



จบจากตลาดก็ไปดิวตี้ฟรี เขาว่าเหล้าบุหรี่ถูกมาก แต่สภาพดิวตี้ฟรีประหนึ่งร้านขายส่งของไทย ทั้งรถจึงไม่มีใครลง งั้นก็กลับไทยกันเลยจ้า

>>>> step 6 กลับไปวัดหลวงพ่ออุตตมะ และเจดีย์พุทธคยา
พอกลับถึงฝั่งไทยปุ๊บ (เหมือนไกล..ที่จริงเดินมาจากตลาดยังได้) ประมานเที่ยง ก็กลับไปรอรถเขียวเพื่อกลับเข้าสังขละ ต่อพี่วินไปสะพานมอญเดินข้ามกลับไปถึงมี่พักประมานบ่ายกว่าๆ  พักเหนื่อย ชาร์จแบตกล้อง หาข้าวกิน อาหารต้องชิมคือ ขนมจีนหยวกกล้อง กับขนมจีนแกงฮักเล หิวจัด ฟาดเรียบ ลืมถ่าย... กินเสร็จกลับไปเอาแบต เดินไปโบกพี่วินไปวัดหลวงพ่ออุตตมะ     ป้าเจ้าของห้องแนะนำว่า ให้บอกว่าไปตรงที่เค้าแจกลูกประคำ รับแจก ไหว้พระ แล้วค่อยเดินไปพุทธคยาไม่ไกลมาก  เราก็ตามนี้เลย นั่งพี่วินไปสุดทางจะเจอสามแยกวัดเลี้ยวขวา เจดีย์เลี้ยวซ้าย ไปวัดก่อนแล้วค่อยย้อนมาเจดีย์
โบสถ์ในวัด ... แต่ไม่ใช่ที่เค้าแจกประคำนะ ที่แจกเป็นตึกสีน้ำตาลอยู่ฝั่งซ้ายของภาพ



ไหว้พระเสร็จก็ไปเดินไปพุทธคยากันเลย



ทางเดินไปร่มรื่น วันนี้อากาศดีด้วย จากรูปเดินตรงไปฝั่งซ้ายจะมีสนามฟุตบอล วันนี้เค้ามีแข่งบอลออกพรรษาครึกคักน่าดูแต่ไม่ได้ถ่ายบรรยากาศมา
เจดีย์พุทธคยาที่อยากมาเห็น สมใจ





เก็บครบที่อยากเห็น ปล.ทริปนี้ไม่ได้ไปดูเจดีย์กลางน้ำเพราะ แพง และปอดแหก ถถถถถ

>>>> step 7 ถนนคนเดินเมืองสังขละ เค้ามีคืนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
จบจากพุทธคยา โบกพี่วินกลับไปสะพานมอญ เดินข้ามไปและเดินไปถนนคนเดิน (เดิน!!! ถนนคนเดินจะอยู่บริเวณตลาดแถวท่ารถสองแถว ที่ปกตินั่งวินแต่ดูแล้วไม่ไกลมาก เวลาเหลือเฟือเลยตัดสินใจเดินกันไป





กว่าจะเดินถึงก็หกโมงนิดๆ จากแม่เสือสาว ก็กลายเป็นยัยหมูหิวโซ จัดหมูจุ่มอีกรอบแถมด้วยยำหนังหมูมอญ จากนั้นก็เดินดูของจนทั่วตลาด หยุดถ่ายรูปกับน้องๆนักเรียนที่มาจัดการแสดง แต่ด้วยว่ามืดและเหนื่อยแล้วเพื่อนก็ถ่ายอยู่แล้วเลยไม่ได้ควักมือถือมาถ่าย เดินเสร็จได้ถั่วตัดเป็นของฝากมาสามถุง ไม่มีไรละกลับไปชิวที่สะพานดีกว่าาา วันนี้ทุ่มครึ่งคนซาละ นั่งเล่นกันชิวๆ คืนเดือนหงายด้วย แล้วอยู่ๆคนบนแพก็จุดพรุ เลยได้บรรยากาศไปด้วย

>>>> step 8 ตื่นเช้าแต่งชุดมอญฟรี ใส่บาตรแบบชาวมอญ และคัมแบล็คทูบางกอก
กลับจากสะพานอาบน้ำนอน ตื่นตีห้าครึ่งที่จริงจะลุกตั้งแต่ตี5 ละ แต่ไฟดับทำไรไม่ได้ (ที่สังขละไฟตกบ่อยๆ อาจเพราะคนไปเที่ยวเยอะ รีสอร์ต โรงแรมต่างๆก็ใช้ไฟเยอะไปด้วย) ล้างหน้าเปลี่ยนชุด ออกไปใส่บาตร 6 โมงครึ่ง คนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชุดอาหารใส่บาตรมีตั้งแต่เฉพาะดอกไม้ ชุดอาหาร 20 50 และ 99 บาท เราเลือก 99 จากนั้นด้วยว่าเราจะกลับกรุงเทพโดยรถทัวร์ บขส. ซึ่งช่วงเช้ามีสองเที่ยวคือ ป.1รอบ 7.45 กับ ป.2 รอบ 9.30 เราอยากให้ทันเที่ยวแรกดังนั้นจึงต้องทำเวลาโดยการเดินถือถาดขึ้นไปหาหัวแถวซึ่งไกลพอสมควร และ พระท่านก็จะบิณฑบาตเป็นเวลาเหมือนกันประมาน 6.30 มั้ง แต่คนเยอะมากกกกกกและพระแค่ประมาน 6 รูปเอง แบ่งเป็น สองสาย สายละ 3 ทำให้ค่อนข้างต้องใช้เวลาในการใส่ พอใส่เสร็จ ก็รีบกลับไปเก็บของ กะว่าจะเดินข้ามไปขึ้นพี่วินอีกฝั่ง แต่ดูเวลาละไม่น่าทันเลยโบกพี่วินจากฝั่งมอญไปเลยละกัน ซึ่งทางไปต้องอ้อมไปข้ามสะพานซองกาเลีย รวมระยะทาง 6 กม. ซึ่งตอนเช้ามีหมอก ข้างทางเป็นป่า ถนนคดเคี้ยว ตื่นเต้นดีจริงๆ แต่เราก็มาทันนะและเดินทางกลับถึงขนส่งหมอชิตกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ ในเวลาประมาณบ่าย 3 โมง คือใช้เวลาเดินทางกลับแค่ประมานหกชม.กว่าๆ เอง



>>>>เป็นรีวิวแรกที่เขียนจนจบของเราขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ <<<<<<
เก็บตก ปล.รูปที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสเป็นรูปที่เราแต่งลง ig ส่วนที่เป็นรูปใหญ่กว่าคือถ่ายแล้วขี้เกียจแต่งก็ลงตามมีตามเกิดเลอ



                                          

                                                                                                                                          ตตยผส.
ชื่อสินค้า:   สังขละบุรี ด่านเจดีย์สามองค์ พญาตองชู รถไฟ
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่