“สะพานไม้ ด่านเจดีย์
นทีสามประสบ มรดกทุ่งใหญ่
ไทย กะเหรี่ยง รามัญ สารพันธรรมชาติ
อภิวาทหลวงพ่ออุตตมะ เมืองสังขละชายแดน สุดแคว้นตะวันตก”
(คำขวัญอำเภอสังขละบุรี)
>>>>> สวัสดีครับเรา "คู่รัก คลั่งเที่ยว" กระทู้นี้เป็นการเขียนครั้งแรก และเป็นการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถจักรยานยนต์เป็นครั้งแรกของเราเช่นกันครับ โดยผมเป็น FC พี่บอล พาเที่ยว ตัวยงเลยก็ว่าได้ ติดตามแกมาตลอด ผมจะพูดกับแฟนบ่อยๆว่าอยากจะลองออกไปเที่ยวด้วยมอเตอร์ไซค์บ้าง ถึงกระนั้นกว่าจะเกิดเป็นทริปนี้ได้ต้องเกลี้ยงกล่อมคุณหนูพอสมควรเลยนะครับ ฮ่าๆๆๆๆ และสุดท้ายนางก็ตัดสินใจไปกับผม ด้วยเพราะอยากตามใจและอยากไปเที่ยวด้วย ซึ่งตอนนี้นางติดใจอยากไปทริปต่อไปแล้วครับ ฮ่าาาาา
>>>>> รถพาหนะที่เราใช้ในครั้งนี้คือเจ้าเขียว Yamaha Finn 115cc นั่นเองครับ เป็นรถที่ใช้งานใช้ทุกวันจริงๆ โดยจุดเริ่มต้นเราเริ่มจาก หลักสี่ กทม. เส้นแจ้งวัฒนะ ออกเดินทางตั้งแต่ 0500 น. ของเช้าวันที่ 9 พ.ย. 67 ก่อนออกเดินทางพวกเราก็แวะเติมน้ำมันเติมลมกันก่อน รอบนี้เติม E95 เต็มถึง 120 บาท (ค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายอื่นๆผมจะสรุปไว้ตอนท้ายนะครับ)
>>>>> จากที่เห็นครับ การรัดของยังไม่ค่อยเข้าที่ ด้วยเป็นการออกทริปครั้งแรกบวกกับพวกเราเร่งรีบที่จะออกเดินทางก่อนฟ้าสว่าง (คิดไว้ว่าจะออกตั้งแต่ 04.30 ครับแต่ตื่นสาย ฮ่าาาาาาาา) แต่เราก็ซัดกันไปแบบนี้ยันไปถึงตัวเมืองกาญจนบุรี และก็เป็นจุดแรกที่เราแวะทานอาหารเช้า (แวะเข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำให้สดชื่นกันที่ปั๊มเส้นบางเลนด้วยครับ มือใหม่ก้นไม่ค่อยไหว
) แล้วเราก็มีรูปอาหารเช้าอร่อยๆมาฝากกันด้วยนะครับ
ร้านโกกุ๊ก ปากหม้อปูฟู
ถ.แสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
>>>>> หิวจนท้องกิ่วเเละเเล้ว 08.30 น. เราก็มาถึงร้านที่ทานอาหารเช้าด้วยกัน ร้านโกกุ๊ก ปากหม้อปูฟู ถูกใจคุณหนูเขาล่ะครับงานนี้ เป็นอาหารเวียดนามไหม ผมก็ไม่รู้อาหารเวียดนามเป็นยังไงนะครับ
รสชาติอร่อย แล้วราคาก็ไม่แพงด้วย ช่วงสายๆลูกค้าจะเริ่มเยอะ เข้าไปนั่งที่โต๊ะเจอราคาที่เมนูหน้าแรกอย่าพึ่งตกใจนะครับ เป็นราคาจานใหญ่ น่าจะใหญ่แบบทานได้หลายคน เปิดหน้าต่อๆไปก็จะเป็นราคาปกติครับ ส่วนเมนูที่พึ่งเคยเห็น พึ่งเคยกิน พึ่งเคยลอง นี่เลยครับ ไข่ลวกดริฟดำ เป็นถ้วยกาแฟดำวางไว้บนแก้วไข่ลวก แล้วค่อยๆให้น้ำกาแฟหยดลงมาในถ้วยไข่ลวก หยดจนหมดก็ได้ที่ ลองกินดูรสชาติเหมือนกินกาแฟดำปกติครับ แต่จะมีความมันกับกลิ่นคาวเล็กน้อย แปลกดีเหมือนกันครับ
ส่วนเรื่องราคาอาหาร สั่งมา 4 อย่าง ขนมปังปิ้งเนยนม ปังญวณ ไข่กระทะ ไข่ลวกดริฟดำ น้ำเปล่า ชาร้อนของผม และช็อคโกแลตของคุณหนู ราคาเบ็ดเสร็จอยู่ที่ประมาณ 220 บาทเองครับ แนะนำๆๆ
>>>>> กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ในเมื่อท้องอิ่มแล้วเราก็พร้อมเดินทาง แต่ๆๆๆๆๆๆสัมภาระที่รัดมามันเริ่มจะไม่เข้าที่เข้าทาง เลยต้องจัดระเบียบใหม่สักหน่อย แฟนจัดกระเป๋า ของไม่เคยขาดมีแต่เกิน ฮ่าาาาาาาา
>>>>> เราเดินทางเรื่อยๆ ผ่านเขาและธรรมชาติป่าไม้ทั้งสองข้างทาง เราไม่ได้แวะที่ไหนอีกเลย ซัดกันยาวๆไปกับฟินปีศาจ ถ้าพูดได้มันคงจะกรี๊ดออกมาแล้วคุณหนูของผมก็คงคิดแบบเดียวกัน ตอนนี้รู้สึกได้ว่า ก้นได้จากผมไปแล้ว
สุดท้ายก็ต้องจอดแวะจนได้ กระจกมองข้างเจ้าเขียวดันหมุนแบบควงสวิงได้เลย น่าจะเพราะผมขันไม่แน่นและคงจะสะเทือนเยอะด้วย ยังดีเราขี่มาถึงหมวดทางหลวงสังขละบุรี (สามารถมาพักรถได้นะครับ มีห้องน้ำ ที่จอดรถร่มๆไว้ผ่อนคลายร่างกายระหว่างเดินทาง) เราได้ขอยืมประแจจากพี่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าเขียวกลับมาใช้งานกระจกข้างได้ตามปกติ
>>>>> 14.20 น. เราก็มาถึงสะพานมอญ เย้ๆๆๆๆ ไม่รีรออะไรทั้งนั้น เราพุ่งตรงไปยังลานกางเต้นท์ เพื่อจะได้เอาสัมภาระลงจากรถ และได้อาบน้ำให้ชื่นใจกันสักหน่อย
>>>>> 15.45 น. หลังจากพักก้นให้หายเมื่อย อาบน้ำให้หายเหนื่อย กางเต้นท์เก็บของแล้วเรียบร้อย ผมก็พาคุณหนูย้ายก้นขึ้นมานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์อีกครั้ง เราจะขึ้นไปยัง ด่านเจดีย์สามองค์!!! ด้วยความตั้งใจอยากข้ามไปไหว้พระฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้เนื้อเต้นจนอยากรีบไปถึงไวๆกลัวด่านจะปิด (เกือบจะแย่เพราะเนื้อเต้นนี่ล่ะครับ ฮ่าาาาาา)
ขึ้นมาถึงด่านเจดีย์สามองค์เราก็ถ่ายรูปกันก่อน
>>>>> จังหวะกำลังถ่ายรูปอยู่ที่ซุ้มไม้ เราหันไปเห็นประตูเล็กๆด้านหลัง (แบบเดียวกับประตูบ้าน ประตูห้อง) เห็นคนเดินเข้าออก
ด้วยความตื่นเต้นจนเนื้อเต้น เราทั้งสองคนก็พุ่งพรวดออกไปทันที พอพ้นประตูออกไปเราก็จะเจอซุ้มวินจักรยานยนต์รับจ้างอยู่ซ้ายมือ แต่ที่สังเกตุเห็นและรู้ได้ทันทีว่าที่นี่ไม่ใช่แผ่นดินของบ้านเราเเล้ว ด้วยป้ายทะเบียน ภาษา ผู้คน แตกต่างโดนสิ้นเชิง เราทั้งสองชะงักเล็กน้อย เดินกลับเข้ามาถามคนที่ยืนคุยกับแม่ค้าร้านข้างประตู คิดว่าน่าจะเป็นคนประเทศเพื่อนบ้านเรา ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง เขาอาสาจะพาเราไปเรียกวิน แล้วบอกกับวินให้ว่าเราอยากไปที่ไหน แล้วเขาก็เดินนำพาเราข้ามประตูไปอีกครั้ง โบกเรียกวิน โดยเขาจะพาเราไปวัดทั้งหมด 3 ที่ คิดราคาที่ละ 50 บาท รวม 150 บาท แต่ที่ทำให้ลังเล และฉุดคิดขึ้นมาเพราะเราคุยกับวินไม่รู้เรื่อง วินพูดภาษาไทยไม่ได้ ผมเลยหันไปถามว่ามันมีทางเข้าออกแดนจริงๆไหม มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้นะจุดผ่านแดน เขาก็ยืนยันว่าเข้าออกกันทางนี้ปกติ แต่ผมว่ามันไม่ปกติ ฮ่าาาาา
เจรจากันไปสักพักจุดนั้นก็กลายเป็นเมียนมามุง ผมปฏิเสธแล้วรีบพาคุณหนูผมกลับเข้ามาบ้านเรา ถึงได้สังเกต ประตูที่เราเข้า มันมีประตูแบบนี้แทบจะทุกร้าน เป็นเหมือนประตูขึ้นลงสินค้าของพ่อค้าแม่ค้าเพื่อนบ้านของเรา ใจยังค้างคา ผมเดินไปจนถึงด่านผ่านแดน ที่เป็นด่านจริงๆ ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ซึ่งได้ความว่า ไม่สามารถข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้ด้วยสถานการณ์ความไม่สงบ และยังไม่มีกำหนดการที่เปิดด่านผ่านแดนนี้ ซึ่งถ้าเรามองข้ามฝั่งไปทางเพื่อนบ้าน ซึ่งห่างกันไม่เกิน 200 เมตร จะเห็นทหารเมียนมายืนอยู่หลายนายเลยทีเดียว สุดท้ายเราก็ไปนั่งซดก๋วยเตี๋ยวดูวิวหลังร้านซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ดูชาวบ้านขับรถ ขี่มอไซค์ เดินผ่านไปมา เป็นอะไรที่ธรรมดามากๆแต่ทำให้เราทั้งสองหยุดสนใจไม่ได้เลย
>>>>> เสร็จจะด่านเจดีย์สามองค์ เราก็แวะเดินเล่นที่สะพานมอญ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก
ระหว่างเดินเล่นรับบรรยากาศหูก็ได้ยินเสียงดนตรีเพราะๆสบายหูแว่วมาตามลม เดินตามเสียงดนตรีไปก็พบกับคุณลุงท่านหนึ่งยืนเล่นดนตรีเปิดหมวกอยู่ ซึ่งมีอัลบัมของแกเอามาวางขายด้วยครับ
เดินจนเมื่อยฟ้าก็เริ่มมืด เราสองคนกลับไปอาบน้ำที่ลานกางเต้นท์เปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะมาเดินงานถนนคนเดิน (จะมีช่วง เสาร์ - อาทิตย์) พอดีกับช่วงที่ผมไปใกล้กับเทศกาลลอยกระทง มีงานวัดครื้นเครงกันเลยทีเดียวครับ ของกินเยอะแยะมากมาย มีการเเสดงของน้องๆกับชุดประจำตัว เพลินเพลิน อิ่มท้องมากครับ กับอากาศเย็นๆดื่มเครื่องดื่มแก้คอแห้งกระชุ่มกระชวยนอนหลับสบายยยยย
>>>>> หลังจากหิ้วของกิน เครื่องดื่มเต็มไม้เต็มมือมาแล้ว เราก็มานั่งกินกันที่หน้าเต้นท์ จนได้เวลาอันสมควรแก่การพักผ่อน แต่เนื่องด้วยไปช่วงมีงานเทศกาลพอดี ช่วงหัวค่ำถึงดึกอาจจะมีได้ยินเสียงท่อรถเครื่องนักซิ่งรองเท้ามากระทบแก้วหูเป็นระยะๆ ฮ่าาาาา พอบรรยากาศเงียบสงบ บวกกับอากาศที่เย็นสบาย และเครื่องดื่มในร่างกายก็หลับปุ๋ยตื่นทีเกือบไปใส่บาตรไม่ทันเลยครับบ เดี๋ยวจะมาต่อลงรูปเช้าวันใส่บาตรอีกครั้งนะครับ
[สังขละบุรี] เกือบพลาด!!เข้าพม่า ทริปพาคุณหนูติดแกลม ขี่ฟินเที่ยวสะพานมอญ ชมวิถีชีวิต และรับธรรมชาติแบบฟินๆ