บ้านผมเป็นบ้านชั้นเดียวขนาดไม่ใหญ่มาก
แต่ปัญหาคือ พ่อกับแม่ครับ
เริ่มจากเป็นคนที่ไม่มีศิลปะในการแต่งบ้านเลย
อยากได้อะไรก็ซื้อ ไม่เคยวางแผน
ยกตัวอย่าง
-ที่บ้านมีชุดโซฟาไม้รับแขกครบเซต แบบที่ชอบเห็น
ในศาลาวัด พ่อชอบมากเลยซื้อมาตั้งนานแล้ว แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่มาก หากวางครบเซตจะต้องมีห้องโถงกว้าง ซึ่งบ้านผมไม่มี มันจึงวางกระจายกันทั้งบ้านทำหน้าที่เป็นที่วางของ ซึ่งผมว่าอันนี้เป็นปัญหาใหญ่เพราะมันใหญ่เทอะทะมาก วางตรงไหนก็ไม่เรียบร้อย
-โต๊ะไม้ประมาณ 2-3 โต๊ะ วางไว้เฉยๆไม่มีใครใช้ ใช้วางของเป็นส่วนใหญ่
-บ้านฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นส่วนใหญ่แต่ทาผนังสีฟ้า อันนี้ไม่ทราบจริงๆพ่อคิดอะไรอยู่
และอีกเหตุผลที่ทำให้บ้านรก
ก็เหมือนกับที่หลายๆบ้านเป็นกันคือ “สะสมของ”
ขนเข้าอย่างเดียวแทบไม่มีขนออก เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องเล่นซีดี กาน้ำไฟฟ้าเก่าเก็บไว้หมดทั้งๆที่พังแล้ว แล้วไม่คิดจะซ่อม แต่ยังเก็บไว้
สารพัดกล่อง ซอง กระป๋องที่ล้างได้ เก็บไว้หมด
ยางรถเก่าๆ ผ้าต่างๆสารพัด เก็บไว้ทำผ้าขี้ริ้ว
และผมว่าอีกเหตุผลคือนิสัยไม่เป็นระเบียบของทั้งพ่อ และแม่ โดยเฉพาะพ่อ คือหยิบอะไร ใช้เสร็จวางตรงนั้น
กวาดบ้านเสร็จปล่อยไม้กวาดทิ้งไว้กับพื้น
เคาท์เตอร์ในครัว พวกเครื่องครัว เครื่องปรุงก็วางเต็ม
เคาท์เตอร์ไปหมด จะใช้ทีก็แหวกหาพื้นที่
ผมหงุดหงิดมากครับ ทุกครั้งเวลากลับบ้าน(ผมเรียนต่างจังหวัด)เคยบอกไปหลายที เคยเก็บให้ ผมเคยเก็บทุกอย่างประมาณ 1 สัปดาห์ สายต่างๆม้วนให้หมด เก็บทุกอย่าง กลับไปเรียน กลับบ้านมาอีกทีเป็นเหมือนเดิม
ส่วนตัวผมเป็นคนค่อนข้างรักความสะอาด กวาดห้องทุกวัน วางของเป็นที่ไม่ให้รก แต่ที่บ้านเนี่ยพ่อแม่ไม่เคยทำเลย แต่ยังดีที่ไม่สกปรกแค่ของรก
อีกสองปีจะเรียนจบต้องมาอยู่บ้าน ผมกลัวทนไท่ไหว เสียสุขภาพจิตมาก มองไปตรงไหนก็รก ว่าจะอยู่ห้องแทน ต่อให้ห้างจากบ้านไม่กี่โลก็ตาม ผมทนไม่ไหวที่กลับบ้านแล้วเสียสุขภาพจิต หวุดหงิดทุกวัน
มีใครเป็นแบบผมมั่งครับ ไม่อยากอยู่บ้านเพราะบ้าน “รก”
แต่ปัญหาคือ พ่อกับแม่ครับ
เริ่มจากเป็นคนที่ไม่มีศิลปะในการแต่งบ้านเลย
อยากได้อะไรก็ซื้อ ไม่เคยวางแผน
ยกตัวอย่าง
-ที่บ้านมีชุดโซฟาไม้รับแขกครบเซต แบบที่ชอบเห็น
ในศาลาวัด พ่อชอบมากเลยซื้อมาตั้งนานแล้ว แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่มาก หากวางครบเซตจะต้องมีห้องโถงกว้าง ซึ่งบ้านผมไม่มี มันจึงวางกระจายกันทั้งบ้านทำหน้าที่เป็นที่วางของ ซึ่งผมว่าอันนี้เป็นปัญหาใหญ่เพราะมันใหญ่เทอะทะมาก วางตรงไหนก็ไม่เรียบร้อย
-โต๊ะไม้ประมาณ 2-3 โต๊ะ วางไว้เฉยๆไม่มีใครใช้ ใช้วางของเป็นส่วนใหญ่
-บ้านฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นส่วนใหญ่แต่ทาผนังสีฟ้า อันนี้ไม่ทราบจริงๆพ่อคิดอะไรอยู่
และอีกเหตุผลที่ทำให้บ้านรก
ก็เหมือนกับที่หลายๆบ้านเป็นกันคือ “สะสมของ”
ขนเข้าอย่างเดียวแทบไม่มีขนออก เครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องเล่นซีดี กาน้ำไฟฟ้าเก่าเก็บไว้หมดทั้งๆที่พังแล้ว แล้วไม่คิดจะซ่อม แต่ยังเก็บไว้
สารพัดกล่อง ซอง กระป๋องที่ล้างได้ เก็บไว้หมด
ยางรถเก่าๆ ผ้าต่างๆสารพัด เก็บไว้ทำผ้าขี้ริ้ว
และผมว่าอีกเหตุผลคือนิสัยไม่เป็นระเบียบของทั้งพ่อ และแม่ โดยเฉพาะพ่อ คือหยิบอะไร ใช้เสร็จวางตรงนั้น
กวาดบ้านเสร็จปล่อยไม้กวาดทิ้งไว้กับพื้น
เคาท์เตอร์ในครัว พวกเครื่องครัว เครื่องปรุงก็วางเต็ม
เคาท์เตอร์ไปหมด จะใช้ทีก็แหวกหาพื้นที่
ผมหงุดหงิดมากครับ ทุกครั้งเวลากลับบ้าน(ผมเรียนต่างจังหวัด)เคยบอกไปหลายที เคยเก็บให้ ผมเคยเก็บทุกอย่างประมาณ 1 สัปดาห์ สายต่างๆม้วนให้หมด เก็บทุกอย่าง กลับไปเรียน กลับบ้านมาอีกทีเป็นเหมือนเดิม
ส่วนตัวผมเป็นคนค่อนข้างรักความสะอาด กวาดห้องทุกวัน วางของเป็นที่ไม่ให้รก แต่ที่บ้านเนี่ยพ่อแม่ไม่เคยทำเลย แต่ยังดีที่ไม่สกปรกแค่ของรก
อีกสองปีจะเรียนจบต้องมาอยู่บ้าน ผมกลัวทนไท่ไหว เสียสุขภาพจิตมาก มองไปตรงไหนก็รก ว่าจะอยู่ห้องแทน ต่อให้ห้างจากบ้านไม่กี่โลก็ตาม ผมทนไม่ไหวที่กลับบ้านแล้วเสียสุขภาพจิต หวุดหงิดทุกวัน