สวัสดีสายลมหนาว
ทริปนี่เป็นการวางแผนเที่ยวเหนือ เชียงใหม่ 3วัน 2 คืน พักแบบกางเต็นต์นอน ขับรถไปเองโดยที่ ออกเดินทาง 20.00 น.คืนวันที่ 23 มกราคมเพราะเคยไปมา 2 รอบขุนวางไม่เคยบานเลยยเสือขุนวาง รอบนี้วางแผนปลายเดือนมกราคมกำหนดการ คือ ขุนวางดอยอินทนนท์ไว้ที่แรก จากนั้นขับรถต่อไปจุดหมายปลายทางหมู่บ้านจ่าโบ่   คืนแรก วันที่ 2 ขับกลับมาเที่ยวเมืองปาย คืนที่2 กางเต็นต์ ห้วยน้ำดัง แพลนคร่าวๆประมาณนี้
 23 JANUARYล้อหมุนยันเช้า เราเริ่มออกเดินเวลา 20.00 น.ทางจากจังหวัดสมุทรปราการ  ผมชอบขับรถกลางคืน ถึงจุดหมายปลายทางเช้า
Day1 : 24JANUARY ณ ขุนวาง06.00 น.แวะพักรถพักคน ปตท ก่อนขึ้นดอยอินทนนท์ ฝากท้องมื้อเช้าที่นี่ตั้งใจทานข้าวต้มแต่ทางร้านมีบริการเฉพาะลูกค้าที่มาพักเราจึงสั่งกาแฟปังรองท้องไปก่อนบ้านพัก โปโป & ปิงปิง โฮมสเตย์ขุนวาง ที่นี่ก็จะมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆตามแบบฉบับชาวม้งมีต้นพญาเสือโคร่งให้เก็บภาพสวยๆก่อนเดินทางไปเจอของจริงที่ขุนวาง
  มีหลาย stage บานไปแล้วมั่ง  กำลังจะบานมั่ง  แตกใบเขียวแล้วก็มี  แต่ในส่วนของจุดไฮไลท์  คืออุโมงค์ซากุระ  บานแล้วประมาณ 30-40% ครับตรงจุดอุโมงค์นี้  ตอนนี้ก็ถือว่าสวยแล้วสถานที่บนดอยกับเส้นทางแคบๆผมชอบมาเที่ยววันธรรมดา นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะขับรถสะดวกชอบแบบนี้  
เราใช้เวลาจำกัดในการสร้างภาพที่นี่  17.00 น. ถึงจุดหมายปลายทาง ลานกางเต็นท์จ่าทอ&โฮมสเตย์บ้านจ่าโบ่โทรจองล่วงหน้า098-7900292ติดต่อที่พัก จัดการกางเต็นท์ เรียบร้อยหาอะไรมื้อเย็นแถวหมู่บ้านทานกัน จ่าโบ่เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ใน อำเภอปางมะผ้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะมีนักท่องเที่ยวมา ชมวิวและทานก๋วยเตี๋ยวกันเป็นจำนวนมากซึ่งจะเป็นที่รู้จักกันในนามว่า “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา”จัดการภารกิจส่วนตัวอาบน้ำ เตรียมนอน พร้อมตื่นเช้า ขึ้นภูผาหมอกชมหมอกเช้า ต้องนัดคนนำทางขึ้นเขาด้วย ผมขอกางเต็นท์แบบนี้ ได้บรรยากาศตอนเช้า
Day2 : 25 JANUARY ณ ชุมชนบ้านจ่าโบ่  เช้าแล้ววโว้ยย55555 รีบตื่นอย่างไว ขอบอกก่อนว่า ภูผาหมอกเป็นสถานที่เที่ยวอีกที่ของบ้านจ่าโบ่  เดินจากที่พักนิดเดียวก็ถึงแล้วการขึ้นไปที่ภูผาหมอกไม่ไกลครับ แต่ทางก็ชันนิดหน่อย ประมาณ 10 นาทีก็ไปถึง กล้องพร้อม นางแบบสวยมากๆ แสงเช้าสวยๆกะนางแบบที่สวยสุดแต่หมอกวันนี้ถือว่าน้อยกว่าปกติ หมอกไหลไปไม่ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวคือถ้ามาที่นี่ปลายปี จะเจอหมอกเต็มอิ่มกว่านี้ แต่ผมไม่คิดมากหรอก 5555 ธรรมชาติก็แบบนี้แหละไม่มีอะไรกำหนดได้ 555 กรรม ทำเป็นพูดหล่อ จริงๆอยากจะกลับไปตอนมีหมอกเยอะๆใจจะขาด 555555จากการที่ได้ถามกับคนนำทางเค้าบอกว่าที่นี่ถ้าวันหยุดคนจะเยอะมาก แบบว่ามากันจนบนภูนี่แทบไม่มีที่ยืนรู้สึกโชคดีที่มาวันปกติ คนขึ้นมาไม่เยอะ เลยถ่ายรูปได้แบบเต็มที่ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่า แต่ผมรู้สึกว่าไม่อยากลงไปเลยอยากอยู่อีกซัก 2 ชม. คือถ่ายยังไงมันก็สวยอ่ะ คือชอบ 5555 แต่ว่าหันไปมองนางแบบคนนำทางเรานี่สงสารเลย คนขึ้นมาหลังเราลงไปหมดแล้ว 555555 เรามาคนแรกๆและอยู่เกือบเป็นคนสุดท้าย5555 คนนำทางคงคิดในใจ จะอยู่ทั้งวันเลยไหมสัส 555555 ถึงจะมีความสุขกับที่นี่ขนาดไหนสุดท้ายก็ต้องกลับ กลับมาแวะทาน ร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาในตำนาน นางแวะสั่งก๋วยเตี๋ยวทานก่อนผมเลยไปที่พัก พีคสุดคือนางสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้ววแต่ไม่มีตังค์ 555 ยืมน้องชุดปีนเขากลุ่มเดี่ยวกับเราอิ่มล่ะกลับที่พัก อาบน้ำ เก็บของ พร้อมเดินทางต่อ แล้วก็บอกลาเจ้าของบ้าน  บอกแกว่าจะกลับมาใหม่ ถ้ามีโอกาสได้มาแม่ฮ่องสอนต้องกลับมาอีกแน่ๆครับ
        จุดชมวิวดอยกิ่วลม
เราขอพาคุณไปรู้จักกับ ม่อนหยุนไหล จุดชมวิวบนภูเขาสูงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดดเด่นด้วยชื่อสไตล์จีนและเป็นสถานที่สุดโรแมนติก มีป้ายสำหรับคู่รักได้ถ่ายรูปเพื่อเติมความหวานให้ชีวิตคู่  คู่เราเอามั้ง #Anu&Ya น่ารักดี
  เสร็จภารกิจ ถ่ายภาพ อากาศเริ่มร้อนปายกับปลายเดือน มกราคม กลางวันนี้ถือว่าร้อนเลยยเดินทางต่อเข้าเมืองปายแวะตลาดปาย เตรียมอาหารเย็น ปิ้งย่างคืนนี้ที่ห้วยน้ำดัง ตั้งใจว่าเย็นนี้จะมาเดินถนนคนเดินที่ปาย แต่นางแบบไม่ชอบแบบนี้  จับจ่ายอาหารมื้อเย็นเรียบร้อย มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ขับรถจาก ปาย – เชียงใหม่นางแบบเริ่มหนักใจเรื่องโค้งเยอะอีกล่ะ อาการเมารถเริ่มมา แต่ยังไหว
15.00 น.ถึงจุดหมาย จุดกางเต็นท์ ลาน B ณ ห้วยน้ำดังผมมาที่ 3 ครั้ง และกางเต็นท์ จุดนี้ทุกครั้ง เราเลือกจุด ใต้ต้นดอกพญาเสือโคร่งที่กำลังบานทั้งต้น  จากม่อนหยุนไหลใช้เส้นทางปาย- เชียงใหม่  และมานอนที่ห้วยน้ำดังแห่งนี้ผมผ่านตัวเมืองปาย และผมก็ไม่ได้แวะสัมผัสบรรยากาศของปายแม้แต่น้อย ด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง   จัดแจงเตรียมทุกอย่างสำหรับที่พักคืนนี้ กางเต็นท์ถ่ายภาพเก็บบรรยากาศ พระอาทิตย์ตกเขา อาบน้ำ เตรียมอาหารปิ้งย่างสำหรับเตาปิ้งย่าง เราเช่าของอุทยาน คืนนี้ เราช่วยกันกางเต็นท์เหมือนเดิมเรียบร้อยที่พักคืนนี้ ปะถ่ายรูปกันอาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน ตื่นเช้าเพื่อรอชมทะเลหมอก
Day3 : 26 JANUARYแสงแรกเช้าวันใหม่  เรื่องราวของผมและเธอเริ่มต้นในตอนเช้าก่อนตะวันขึ้น ตั้งแต่วันแรกจนถึง ณ ช่วงเวลานี้มีเรื่องราวให้ผมได้จดจำมากมายและผมคงต้องจำเรื่องราวบทสุดท้ายของดินแดนที่สวยงามแห่งนี้ไปอีกนาน นอกจากแสงสีทองที่อาบไปบนผืนทะเลหมอกยังอาบไปในความประทับใจของใครอีกหลายคน บางคนเลือกที่จะเก็บความประทับใจลงบนภาพถ่ายบางคนเลือกที่จะเก็บความประทับใจลงในความทรงจำ นอกจากแสงสีทองที่สาดส่องขับไล่ความมืดมิดและให้ความอบอุ่นของขุนเขาแล้ว ยังก่อให้เกิดความอบอุ่นในใจของใครบางคน   การได้มายืนในที่แบบนี้เวลาดูจะเดินช้าลง ไม่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา ทำให้เราได้มีโอกาสหยุดมองสิ่งต่าง ๆรอบตัวเรามากขึ้น บางครั้งความสุขก็หมุนเวียนอยู่รอบตัวเราแต่บางทีความสุขก็อยู่ไกลแสนไกล ระยะทางกว่า 1,000กว่า กิโลเมตร ที่ผมเดินทางมากับวิวที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายเป็นปลิดทิ้งได้เวลาที่ต้องกลับไปเก็บเต็นท์เพื่อออกเดินทางต่อการเดินทาง...ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเดินไปในทิศทางนั้นๆ แต่เราได้อะไรจากทางที่เราเดินต่างหาก...เราสามารถเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากทุกย่างก้าวได้เสมอ...ผมรักประเทศไทยทุกครั้งที่มาที่ห้วยน้ำดัง ผมมีความสุขมาก ๆทุกครั้ง  ห้วยน้ำดังมีสเน่ห์ในตัวไม่ว่าจะมากี่ครั้ง ก็สุขใจเหมือนเดิม ไม่แปลกใจ ที่ผมมาเที่ยวที่นี่บ่อยมาก ๆโดยไม่มีเบื่อเลยที่คิดถึง....เพราะรักเธอใช่ไหม...รักเธอห้วยน้ำดังมากี่ครั้ง สวยปัง เหมือนเดิม....^__^ คนมาด้วยสวยที่สุดเราจากลาจากที่นี้เดินทางต่อ ใช้เส้นทาง ปาย –เชียงใหม่ ตั้งใจแวะซื้อของฝาก ตลาดวโรรสนางแบบบอกเหมือนได้กลับมาถิ่นเก่า  ตอบไม่ได้ว่าคุ้มมั้ยกับการเข้าโค้งเป็นพันเพื่อพาเธอมา แต่ไปพิสูจน์ด้วยตัวเองเถอะแล้วคุณจะ(หลง)รักพันโค้งนี้เอง...เพราะพันโค้งทำให้ฉันรักเธอมากขึ้น “ขุนวางบ้านจ่าโบ่ ปาย ห้วยน้ำดัง”ขอบคุณนางแบบที่มาเป็นแบบที่สวยที่สุด ขอบคุณเพื่อนร่วมทางขอบคุณเจ้ากาแฟที่พาเราเดินทางปลอดภัยทั้งไปและกลับ ขอบคุณทุกๆที่เข้ามาอ่าน  รีวิว บ้านๆของคนบ้าเที่ยว