ทริปขับรถตะลุยเที่ยวเหนือ เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน จขกท ฝากกระทู้รีวิวตอนก่อนหน้าด้วยนะคะ ..
[วันที่ 1] หนาวนี้ ขับรถตะลุยเที่ยวเหนือ เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอนกันเถอะ ..ทริป 4วัน 3คืน ค่ำไหนกางเต้นท์นอนนั่น!
https://ppantip.com/topic/37230369
ซึ่งทริปเที่ยวเหนือ เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอนของเราทริปนี้ เราจะพาไปเที่ยวกันทั้งหมด ตามนี้เลยจ้า ^^
(ดอยอินทนนท์ – กิ่วแม่ปาน - น้ำตกวชิรธาร – ห้วยน้ำดัง - โป่งน้ำร้อนท่าปาย – สะพานประวัติศาสตร์ปาย – Coffee in Love ปาย - กองแลน (ปาย แคนยอน) – โขกู้โส (สะพานบุญ) – น้ำตกแพมบก – แผนดินแยก ปาย – วัดพระธาตุแม่เย็น – กางเต้นท์ริมน้ำปาย – ถนนคนเดินปาย – บ้านสันติชล – วัดน้ำฮู – จุดชมวิวดอยกิ่วลม – ถ้ำลอด – ก๊วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่ – ถ้ำปลา– บ้านรวมไทย - ปางอุ๋ง – บ้านรักไทย – น้ำตกผาเสื่อ – แม่ฮ่องสอน วันดจองคำ วัดจองกลาง – พระธาตุดอยกองมู – หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ห้วยเสือเฒ่า)
จากกระทู้รีวิวของวันที่ 1 จขกท ได้พาไปเที่ยวดอยอินทนนท์ดูบรรยากาศของจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย และหลังจากนั้นก็พาไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่กิ่วแม่ปาน ออกจากกิ่วแม่ปานก็พาไปชมความงามของน้ำตกวชิรธาร และตกเย็นก็ขับรถเพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกและไปกางเต็นท์นอนกันที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ><
และสำหรับวันที่2 นี้ จขกท จะพาไปชมพระอาทิตย์ขึ้น และ ดูทะเลหมอกยามเช้ากันที่ห้วยน้ำดังค่ะ .. เต็มอิ่มกับทะเลหมอกยามเช้ากันแล้ว จากนั้นก็ขับรถกันต่อไปที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ^^
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับห้วยน้ำดังกันก่อนน๊า . .
"ห้วยน้ำดัง" หรือ "อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง" ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร
ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน เราสามารถมาชมวิวทิวทัศน์บรรยากาศของเทือกเขาได้ที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม และในฤดูหนาวอากาศเย็นมาก ช่วงที่ จขกท ไป เป็นช่วงเกือบปลายเดือนธันวาคม อุณหภูมิต่ำสุดที่เจอคือ 4 องศาค่ะ อยากจะว่า ทั้งหนาวทั้งเย็นสุดๆ ส่วนถ้าไปฤดูร้อนอากาศก็เย็นสบายลงมาหน่อย . .
และสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของ "ห้วยน้ำดัง" ก็คือ จุดชมวิวดอยกิ่วลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติส่วนกลาง (เอื้องเงิน) เพราะถือว่าเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ ^^ .. เพราะว่าในช่วงเช้าตรู่เราสามารถมานั่งมองดูพระอาทิตย์ขึ้น และที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวก็จะมีทะเลหมอกสีขาวเหมือนปุยนุ่นออกมาอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้ชมความงามด้วยเช่นกัน .. และถ้าวันไหนโชคดีมากๆ ยามที่ท้องฟ้าเปิด อากาศแจ่มใสจะมีทัศนียภาพที่สวยงาม ของทิวเขาที่สลับซับซ้อนของยอดดอยเชียงดาว (ดอยหลวงเชียงดาว) ที่มีความสูงประมาณ 2,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งตะหง่านให้ได้ชม สมกับเป็นดอยหลวงเลยค่ะ ^^ (เพราะดอยใหญ่มาก)
และถ้าได้ขับรถเลย จุดชมวิวดอยกิ่วลมขึ้นไป ก็สามารถไปเที่ยวชมที่ตั้งของพระตำหนักเอื้องเงิน ซึ่งเป็นอาคารทรงชาเลย์ที่กรมป่าไม้สร้างถวายสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ ได้อีกด้วย ^^
และอย่างที่บอกไปในกระทู้ของวันที่ 1 เราเดินทางมาถึงห้วยน้ำดัง นั่งชมพระอาทิตย์ตกสุดแสนจะฟินและมีความสุขกันไปแล้ว และเราก็ได้กางเต็นท์นอนกันเมื่อคืนที่ลานกางเต็นท์ห้วยน้ำดังแห่งนี้ด้วยค่ะ ..
แวะไปดูกระทู้รีวิว ของวันที่ 1 ได้จากลิ้งค์นี้นะคะ ^^
https://ppantip.com/topic/37230369
จขกท กางเต็นท์นอนกันที่ลานกางเต็นท์โซน D ค่ะ .. เราแอบแนะนำนะคะ ว่าถ้าต้องการจุดชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด แนะนำให้กางเต็นท์นอนที่โซน D ค่ะ .. อยู่ใกล้ทั้งห้องน้ำและร้านค้าขายของ แต่ข้อเสียคือ โซนD จะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะมากางเต็นท์กันที่โซนนี้ ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัว ความสงบ จขกท ก็ไม่แนะนำ ค่ะ
เมื่อขึ้นไปยืนด้านบนของลานกางเต็นท์ จะเห็นวิว ของทะเลหมอกประมาณนี้ค่ะ ^^
เมื่อถึงตอนเช้าตรู่ เวลาตี5 กว่าๆ เกือบจะ 6 โมง เราก็ออกจากเต็นท์มายืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าเต็นท์ . .
ซึ่งเมื่อเปิดเต็นท์ออกมา.. ตู้วหูวววว oOO ..อยากจะบอกว่าอากาศหนาวสุดๆ อากาศ 5-6 องศาได้ อยากกลับเข้าไปนอนต่อในเต็นท์สุดๆ 55
.. แต่ก็นะ ไหนๆ ก็มากางเต๊นท์นอนกันแล้ว ก็ต้องขอฝ่าลมหนาว ออกมาให้ได้เห็นบรรยากาศยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ขอให้ได้เห็นความสวยของธรรมชาติ ความงามของท้องฟ้าในยามเช้ากันซักหน่อยเหอะ ..
พอได้ออกมาเห็นและสัมผัส แค่นั้นแหล่ะค่ะ ลืมความหนาวไปทันได .. ยอมอดทนยืนเฝ้ารอดูคุณพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้ค่ะ เช้านี้ ^^
เราชอบแสงสีส้มๆ ของตอนเช้าแบบนี้มากเลย ... อู้ยยย มันงามจับตามากเลย จริงๆ นะเนี่ย (เวอร์ไปปะ 55)
เช้าวันนี้เห็นดอยหลวงเชียงดาว ชัดมากกก มองไปแว๊บเดียวก็รู้ว่านี่แหล่ะ ดอยหลวง .. แหมะ ก็ใหญ่ซะขนาดนี้ ^^
ฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ .. ดอยหลวงเชียงดาว โดยมีเส้นขอบสีส้มของแสงพระอาทิตย์เป็นฉากหลัง
บรรยากาศโรแมนติคสุดๆ ^^
ในที่สุด ก็ยืนรอจนคุณพระอาทิตย์ขึ้น เริ่มมองเห็นทะเลหมอกชัดขึ้นแล้วค่ะ ^^
นี่เห็นมั้ย ไม่ต้องไปทะเล มาแอ่วดอยก็เห็นทะเล (หมอก) ได้เหมือนกัน ^^
เสียอย่างเดียว ไม่มีบานาน่าโบ๊ทให้เล่นแค่นั้นแหล่ะ อิอิ . .
เราอยู่ดูพระอาทิตย์ขึ้น และ ทะเลหมอกันที่จุดลานกางเต็นท์โซน D กันเบื่อแล้ว ..
ก็ขอแอบเปลี่ยนบรรยากาศการชมวิวบ้าง ... ก่อนเก็บเต็นท์เช้านี้ ขอแว๊บไปจุดชมวิวดอยกิ่วลมกันก่อนน๊า
อยากเห็นทะเลหมอกที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม ที่เค้าว่ากันว่า สวยนักสวยหนา .. ขอไปเห็นกับตากันซักหน่อยเหอะ
ไปกานนนนนนน . . . .
และในที่สุด ก็ถึงแล้วค่ะ จุดชมวิวดอยกิ่วลม.. ด้วยอุณหภูมิของเช้าวันนี้ที่ 7 องศา
หนาวใช้ได้เลยค่ะ .. ไม่สิ ไม่ใช้ได้ดิ มันหนาววว มากกก ๆๆๆ เลยตะหากเล่า หุหุ ><
เมื่อมาถึงดอยกิ่วลมแล้ว ก็ไปชมทะเลหมอก ที่เค้าว่าสวยราวกับปุยนุ่นกันเลยมั้ย . .
คุณดอยหลวงเชียงดาว ก็ตั้งตะหง่าน เด่นชัด อยู่ที่เดิม ^^
นั่งมอง นั่งจ้อง ปล่อยอารมณ์ไปกับธรรมชาติ ขอบท้องฟ้าสีส้มๆ ปุยเมฆ และทะเลหมอกสีขาวๆ . .
คือว่า แบบว่า บรรยากาศตอนนี้ มันก็จะฟินๆ หน่อยนะ ^^
คุณดอยหลวงเชียงดาว ท่ามหลางทะหมอก สีขาวๆ อีกครั้ง ^^
ที่นี่ ก็ไม่ได้มีแต่ทะเลหมอกและดอยหลวงเชียงดาวให้ชมกันอย่างเดียวนะคะ ...
นอกจากนั้น ก็จะมีแปลงดอกไม้สวยๆ ที่เบ่งบานรับอรุณยามเช้าให้เราได้ชื่นชมความงามด้วยค่ะ ^^
เต็มอิ่มกับทะเลหมอกกันแล้ว .. ก็ถึงเวลา กลับลานกางเต็นท์เพื่อขึ้นไปเก็บเต๊นท์ อาบน้ำ อาบท่า แล้วเดินทางกันต่อได้แล้วค่ะ ^^
แต่ว่า .. ระหว่างขับรถขึ้นไปลานกางเต็นท์ บังเอิ๊ญ ไปเจอ จุดชมทะเลหมอกดีๆเข้าระหว่างทาง ขอแว๊บ ลงไปถ่ายรูปมาให้ชมก่อนนะคะ ^^
ช่องว่างระหว่างโพรงหญ้า ข้างๆทาง ตรงนี้เลยค่ะ ทะเลหมอกสวยมากกกก ... อดจอดรถถ่ายรูป ไม่ได้จริงๆ ^^
บรรยากาศที่เก็บมาได้ ก็จะประมาณนี้อะนะ >< .. เหมือนได้ใกล้ทะเลหมอก เข้าไปอีกนิด . .
คุณดอยหลวง นี่ ตามเราไปทุกที่จริงๆนะคะ . . อิอิ
อ้อ หรือว่าใครอยากขึ้นไปชมความงามพระตำหนักเอื้องเงิน ซึ่งเป็นอาคารทรงชาเลย์ที่กรมป่าไม้สร้างถวายสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ ก็สามารถขับรถขึ้นไปชมพระตำหนักได้นะคะ ^^
.. โดยภูมิทัศน์รอบพระตำหนักจะมีพันธุ์พืชประจำถิ่นกล้วยไม้ "เอื้องเงินหลวง" ที่ออกดอกสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคม และยังมีไม้ดอกไม้ประดับที่เป็นพืชเมืองหนาวที่หลากหลายพันธุ์และหลากสีสันให้ได้ชมกันอีกด้วย
[CR] ขับรถตะลุยเที่ยวเชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอน ทริป4วัน3คืน ค่ำไหนกางเต้นท์นอนนั่น [วันที่2 : ดูทะเลหมอกห้วยน้ำดัง – ปาย]
[วันที่ 1] หนาวนี้ ขับรถตะลุยเที่ยวเหนือ เชียงใหม่-ปาย-แม่ฮ่องสอนกันเถอะ ..ทริป 4วัน 3คืน ค่ำไหนกางเต้นท์นอนนั่น!
https://ppantip.com/topic/37230369
ซึ่งทริปเที่ยวเหนือ เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอนของเราทริปนี้ เราจะพาไปเที่ยวกันทั้งหมด ตามนี้เลยจ้า ^^
(ดอยอินทนนท์ – กิ่วแม่ปาน - น้ำตกวชิรธาร – ห้วยน้ำดัง - โป่งน้ำร้อนท่าปาย – สะพานประวัติศาสตร์ปาย – Coffee in Love ปาย - กองแลน (ปาย แคนยอน) – โขกู้โส (สะพานบุญ) – น้ำตกแพมบก – แผนดินแยก ปาย – วัดพระธาตุแม่เย็น – กางเต้นท์ริมน้ำปาย – ถนนคนเดินปาย – บ้านสันติชล – วัดน้ำฮู – จุดชมวิวดอยกิ่วลม – ถ้ำลอด – ก๊วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่ – ถ้ำปลา– บ้านรวมไทย - ปางอุ๋ง – บ้านรักไทย – น้ำตกผาเสื่อ – แม่ฮ่องสอน วันดจองคำ วัดจองกลาง – พระธาตุดอยกองมู – หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ห้วยเสือเฒ่า)
จากกระทู้รีวิวของวันที่ 1 จขกท ได้พาไปเที่ยวดอยอินทนนท์ดูบรรยากาศของจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย และหลังจากนั้นก็พาไปเดินศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่กิ่วแม่ปาน ออกจากกิ่วแม่ปานก็พาไปชมความงามของน้ำตกวชิรธาร และตกเย็นก็ขับรถเพื่อไปดูพระอาทิตย์ตกและไปกางเต็นท์นอนกันที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ><
และสำหรับวันที่2 นี้ จขกท จะพาไปชมพระอาทิตย์ขึ้น และ ดูทะเลหมอกยามเช้ากันที่ห้วยน้ำดังค่ะ .. เต็มอิ่มกับทะเลหมอกยามเช้ากันแล้ว จากนั้นก็ขับรถกันต่อไปที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ^^
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับห้วยน้ำดังกันก่อนน๊า . .
"ห้วยน้ำดัง" หรือ "อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง" ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 179.5 ตารางกิโลเมตร
ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาและภูเขาสูงสลับซับซ้อน เราสามารถมาชมวิวทิวทัศน์บรรยากาศของเทือกเขาได้ที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม และในฤดูหนาวอากาศเย็นมาก ช่วงที่ จขกท ไป เป็นช่วงเกือบปลายเดือนธันวาคม อุณหภูมิต่ำสุดที่เจอคือ 4 องศาค่ะ อยากจะว่า ทั้งหนาวทั้งเย็นสุดๆ ส่วนถ้าไปฤดูร้อนอากาศก็เย็นสบายลงมาหน่อย . .
และสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นไฮไลท์ของ "ห้วยน้ำดัง" ก็คือ จุดชมวิวดอยกิ่วลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติส่วนกลาง (เอื้องเงิน) เพราะถือว่าเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ค่ะ ^^ .. เพราะว่าในช่วงเช้าตรู่เราสามารถมานั่งมองดูพระอาทิตย์ขึ้น และที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวก็จะมีทะเลหมอกสีขาวเหมือนปุยนุ่นออกมาอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้ชมความงามด้วยเช่นกัน .. และถ้าวันไหนโชคดีมากๆ ยามที่ท้องฟ้าเปิด อากาศแจ่มใสจะมีทัศนียภาพที่สวยงาม ของทิวเขาที่สลับซับซ้อนของยอดดอยเชียงดาว (ดอยหลวงเชียงดาว) ที่มีความสูงประมาณ 2,175 เมตรจากระดับน้ำทะเล ตั้งตะหง่านให้ได้ชม สมกับเป็นดอยหลวงเลยค่ะ ^^ (เพราะดอยใหญ่มาก)
และถ้าได้ขับรถเลย จุดชมวิวดอยกิ่วลมขึ้นไป ก็สามารถไปเที่ยวชมที่ตั้งของพระตำหนักเอื้องเงิน ซึ่งเป็นอาคารทรงชาเลย์ที่กรมป่าไม้สร้างถวายสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ ได้อีกด้วย ^^
และอย่างที่บอกไปในกระทู้ของวันที่ 1 เราเดินทางมาถึงห้วยน้ำดัง นั่งชมพระอาทิตย์ตกสุดแสนจะฟินและมีความสุขกันไปแล้ว และเราก็ได้กางเต็นท์นอนกันเมื่อคืนที่ลานกางเต็นท์ห้วยน้ำดังแห่งนี้ด้วยค่ะ ..
แวะไปดูกระทู้รีวิว ของวันที่ 1 ได้จากลิ้งค์นี้นะคะ ^^
https://ppantip.com/topic/37230369
จขกท กางเต็นท์นอนกันที่ลานกางเต็นท์โซน D ค่ะ .. เราแอบแนะนำนะคะ ว่าถ้าต้องการจุดชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยที่สุด แนะนำให้กางเต็นท์นอนที่โซน D ค่ะ .. อยู่ใกล้ทั้งห้องน้ำและร้านค้าขายของ แต่ข้อเสียคือ โซนD จะมีนักท่องเที่ยวเยอะมากๆ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะมากางเต็นท์กันที่โซนนี้ ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัว ความสงบ จขกท ก็ไม่แนะนำ ค่ะ
เมื่อขึ้นไปยืนด้านบนของลานกางเต็นท์ จะเห็นวิว ของทะเลหมอกประมาณนี้ค่ะ ^^
เมื่อถึงตอนเช้าตรู่ เวลาตี5 กว่าๆ เกือบจะ 6 โมง เราก็ออกจากเต็นท์มายืนรอพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าเต็นท์ . .
ซึ่งเมื่อเปิดเต็นท์ออกมา.. ตู้วหูวววว oOO ..อยากจะบอกว่าอากาศหนาวสุดๆ อากาศ 5-6 องศาได้ อยากกลับเข้าไปนอนต่อในเต็นท์สุดๆ 55
.. แต่ก็นะ ไหนๆ ก็มากางเต๊นท์นอนกันแล้ว ก็ต้องขอฝ่าลมหนาว ออกมาให้ได้เห็นบรรยากาศยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ขอให้ได้เห็นความสวยของธรรมชาติ ความงามของท้องฟ้าในยามเช้ากันซักหน่อยเหอะ ..
พอได้ออกมาเห็นและสัมผัส แค่นั้นแหล่ะค่ะ ลืมความหนาวไปทันได .. ยอมอดทนยืนเฝ้ารอดูคุณพระอาทิตย์ขึ้นให้ได้ค่ะ เช้านี้ ^^
เราชอบแสงสีส้มๆ ของตอนเช้าแบบนี้มากเลย ... อู้ยยย มันงามจับตามากเลย จริงๆ นะเนี่ย (เวอร์ไปปะ 55)
เช้าวันนี้เห็นดอยหลวงเชียงดาว ชัดมากกก มองไปแว๊บเดียวก็รู้ว่านี่แหล่ะ ดอยหลวง .. แหมะ ก็ใหญ่ซะขนาดนี้ ^^
ฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ .. ดอยหลวงเชียงดาว โดยมีเส้นขอบสีส้มของแสงพระอาทิตย์เป็นฉากหลัง
บรรยากาศโรแมนติคสุดๆ ^^
ในที่สุด ก็ยืนรอจนคุณพระอาทิตย์ขึ้น เริ่มมองเห็นทะเลหมอกชัดขึ้นแล้วค่ะ ^^
นี่เห็นมั้ย ไม่ต้องไปทะเล มาแอ่วดอยก็เห็นทะเล (หมอก) ได้เหมือนกัน ^^
เสียอย่างเดียว ไม่มีบานาน่าโบ๊ทให้เล่นแค่นั้นแหล่ะ อิอิ . .
เราอยู่ดูพระอาทิตย์ขึ้น และ ทะเลหมอกันที่จุดลานกางเต็นท์โซน D กันเบื่อแล้ว ..
ก็ขอแอบเปลี่ยนบรรยากาศการชมวิวบ้าง ... ก่อนเก็บเต็นท์เช้านี้ ขอแว๊บไปจุดชมวิวดอยกิ่วลมกันก่อนน๊า
อยากเห็นทะเลหมอกที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม ที่เค้าว่ากันว่า สวยนักสวยหนา .. ขอไปเห็นกับตากันซักหน่อยเหอะ
ไปกานนนนนนน . . . .
และในที่สุด ก็ถึงแล้วค่ะ จุดชมวิวดอยกิ่วลม.. ด้วยอุณหภูมิของเช้าวันนี้ที่ 7 องศา
หนาวใช้ได้เลยค่ะ .. ไม่สิ ไม่ใช้ได้ดิ มันหนาววว มากกก ๆๆๆ เลยตะหากเล่า หุหุ ><
เมื่อมาถึงดอยกิ่วลมแล้ว ก็ไปชมทะเลหมอก ที่เค้าว่าสวยราวกับปุยนุ่นกันเลยมั้ย . .
คุณดอยหลวงเชียงดาว ก็ตั้งตะหง่าน เด่นชัด อยู่ที่เดิม ^^
นั่งมอง นั่งจ้อง ปล่อยอารมณ์ไปกับธรรมชาติ ขอบท้องฟ้าสีส้มๆ ปุยเมฆ และทะเลหมอกสีขาวๆ . .
คือว่า แบบว่า บรรยากาศตอนนี้ มันก็จะฟินๆ หน่อยนะ ^^
คุณดอยหลวงเชียงดาว ท่ามหลางทะหมอก สีขาวๆ อีกครั้ง ^^
ที่นี่ ก็ไม่ได้มีแต่ทะเลหมอกและดอยหลวงเชียงดาวให้ชมกันอย่างเดียวนะคะ ...
นอกจากนั้น ก็จะมีแปลงดอกไม้สวยๆ ที่เบ่งบานรับอรุณยามเช้าให้เราได้ชื่นชมความงามด้วยค่ะ ^^
เต็มอิ่มกับทะเลหมอกกันแล้ว .. ก็ถึงเวลา กลับลานกางเต็นท์เพื่อขึ้นไปเก็บเต๊นท์ อาบน้ำ อาบท่า แล้วเดินทางกันต่อได้แล้วค่ะ ^^
แต่ว่า .. ระหว่างขับรถขึ้นไปลานกางเต็นท์ บังเอิ๊ญ ไปเจอ จุดชมทะเลหมอกดีๆเข้าระหว่างทาง ขอแว๊บ ลงไปถ่ายรูปมาให้ชมก่อนนะคะ ^^
ช่องว่างระหว่างโพรงหญ้า ข้างๆทาง ตรงนี้เลยค่ะ ทะเลหมอกสวยมากกกก ... อดจอดรถถ่ายรูป ไม่ได้จริงๆ ^^
บรรยากาศที่เก็บมาได้ ก็จะประมาณนี้อะนะ >< .. เหมือนได้ใกล้ทะเลหมอก เข้าไปอีกนิด . .
คุณดอยหลวง นี่ ตามเราไปทุกที่จริงๆนะคะ . . อิอิ
อ้อ หรือว่าใครอยากขึ้นไปชมความงามพระตำหนักเอื้องเงิน ซึ่งเป็นอาคารทรงชาเลย์ที่กรมป่าไม้สร้างถวายสมเด็จพระพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ ก็สามารถขับรถขึ้นไปชมพระตำหนักได้นะคะ ^^
.. โดยภูมิทัศน์รอบพระตำหนักจะมีพันธุ์พืชประจำถิ่นกล้วยไม้ "เอื้องเงินหลวง" ที่ออกดอกสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคม และยังมีไม้ดอกไม้ประดับที่เป็นพืชเมืองหนาวที่หลากหลายพันธุ์และหลากสีสันให้ได้ชมกันอีกด้วย