วันนี้เรามาแชร์ประสบการณ์การพาลูกน้อยเที่ยวต่างประเทศ ครั้งที่2 ซึ่งครั้งแรกคือไปญี่ปุ่นตอนประมาณ6เดือน(ยังไม่ได้รีวิว) ครั้งนี้ไปช่วงสงกรานต์11-17 เมษายน ซึ่งในขณะที่ประเทศไทยร้อนตับแตกแต่เกาหลีใต้หนาว อากาศประมาณ8-15 องศา ซึ่งเราไปกับหลานวัย1ขวบ (กินนมชง) และลูกวัย9 เดือน(นมแม่ล้วน)
การเตรียมตัว : นอกจากเสื้อผ้า ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ของลูกแล้ว ก็ยังต้องมี
1.เป้อุ้ม สำคัญมาก เพราะถ้าเดินทางโดยรถไฟใต้ดินที่โซล ลิฟจะมีน้อยมาก ไม่ค่อยเอื้ออำนวยแก่เด็กเล็กเลย
2.รถเข็น เราตัดสินใจเอารถเข็นไปเพราะ บางวันที่ไปชอปปิ้ง เลือกที่จะใช้รถเข็นในการขนของด้วย
3.ผ้าคลุมกันลม อากาศที่หนาวเย็นนั้นจะไม่เท่ากับลม เพราะยิ่งลมแรงจะยิ่งหนาวมาก เราใช้ที่คลุมแบบนี้
4.ผ้ากันเปื้อน แบบกระดาษใช้แล้วทิ้งก็ดีนะคะ หรือจะbibพลาสติกก็ได้ เพราะถ้ากินอะไรที่เป็นน้ำเลอะเทอะก็จะเย็นและหนาวได้
5.snack ขนมเด็กนี่แหละจะช่วยแก้เบื่อได้นอกจากของเล่นชิ้นโปรดก็อย่าลืมเอาขนมเด็กไปด้วยนะคะ
อันนี้คร่าวๆนะคะเพราะรู้ว่าพ่อแม่เรื่องจัดกระเป๋าลูกนี่จัดหนักจัดเต็มอยู่แล้ว
ต่อมาแพลนเที่ยวคร่าวได้
ถ้าเป็นสมัยสาวๆ คงไม่พลาดตาม มหาลัยฮงอิก ฮงแด อิแทวอน แต่ถ้าพาลูกหลานมาคงต้องเที่ยวได้แค่วันละที่หรือสองที่เท่านั้นล่ะค่ะ
สำคัญเลยว่าเมื่อมีเด็กเล็ก เราต้องยอมเสียเงินเพื่อความสบาย เช่นยานพาหนะที่จะพาเราไป เรามีผู้ใหญ่4 เด็ก2 รถเข็น2 กระเป๋าเดินทาง 4 ใบใหญ่ เลยเลือก grab van มารับที่บ้านเพื่อไปสุวรรณภูมิ ราคา910 บาท และขอเบอร์เค้าไว้เผื่อติดต่อเรียกขา
กลับ
พอถึงสนามบิน กรณีเช็คอินเสรจเรียบร้อย สามารถเข้าไปfasttrack เพื่อผ่าน immigration หรือต.ม. ได้เลย
เราสามารถเข็นรถเข็นลูกไปถึงgate เพื่อให้พนักงานโหลดขึ้นใต้เครื่องได้เลยค่ะ
เรามาสายการบินไทย เครื่อง330 เมื่อเราอยู่บนเครื่องบินแน่นอนว่า เด็กนมแม่ก็เข้าเต้าตอนเครื่อง takeoff เด็กนมชงก็ดูดขวดไป เราเลือกที่นั่ง ให้ห่างกัน เพราะเด็ก2คนไม่ควรนั่งด้วยกันค่ะ ชาวบ้านจะด่าตระกูลเราได้555 โชคดีที่เราได้ที่นั่งหน้าสุด สามรถเหยียดขาได้ แต่เนื่องจากที่นั่งชั้นประหยัดนั้นลูกนอนบนตักเราลำบากมากเลยค่อนข้างงอแง วิธีที่ดีที่สุดคืออุ้มหลับไปก่อนค่ะ ในกรณีที่งอแงมากเราสามารถไปหลบที่ตรงหลังม่านหน้าห้องน้ำบนเครื่องได้ และค่อยอุ้มกลับมานั่งตอนที่สงบแล้ว ยังโชคดีที่การไปโซลใช้เวลา5 ชั่วโมง ถ้าเป็นไฟล์ทกลางคืนก็ถือว่าแป๊บเดียวถึง เราถึงโซล6.30 am แบบทุลักทุเล
เดี่ยวมาเล่าต่อนะคะ
เที่ยวseoulกับลูกวัย9เดือนไม่ยากเลย
การเตรียมตัว : นอกจากเสื้อผ้า ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ของลูกแล้ว ก็ยังต้องมี
1.เป้อุ้ม สำคัญมาก เพราะถ้าเดินทางโดยรถไฟใต้ดินที่โซล ลิฟจะมีน้อยมาก ไม่ค่อยเอื้ออำนวยแก่เด็กเล็กเลย
2.รถเข็น เราตัดสินใจเอารถเข็นไปเพราะ บางวันที่ไปชอปปิ้ง เลือกที่จะใช้รถเข็นในการขนของด้วย
3.ผ้าคลุมกันลม อากาศที่หนาวเย็นนั้นจะไม่เท่ากับลม เพราะยิ่งลมแรงจะยิ่งหนาวมาก เราใช้ที่คลุมแบบนี้
4.ผ้ากันเปื้อน แบบกระดาษใช้แล้วทิ้งก็ดีนะคะ หรือจะbibพลาสติกก็ได้ เพราะถ้ากินอะไรที่เป็นน้ำเลอะเทอะก็จะเย็นและหนาวได้
5.snack ขนมเด็กนี่แหละจะช่วยแก้เบื่อได้นอกจากของเล่นชิ้นโปรดก็อย่าลืมเอาขนมเด็กไปด้วยนะคะ
อันนี้คร่าวๆนะคะเพราะรู้ว่าพ่อแม่เรื่องจัดกระเป๋าลูกนี่จัดหนักจัดเต็มอยู่แล้ว
ต่อมาแพลนเที่ยวคร่าวได้
ถ้าเป็นสมัยสาวๆ คงไม่พลาดตาม มหาลัยฮงอิก ฮงแด อิแทวอน แต่ถ้าพาลูกหลานมาคงต้องเที่ยวได้แค่วันละที่หรือสองที่เท่านั้นล่ะค่ะ
สำคัญเลยว่าเมื่อมีเด็กเล็ก เราต้องยอมเสียเงินเพื่อความสบาย เช่นยานพาหนะที่จะพาเราไป เรามีผู้ใหญ่4 เด็ก2 รถเข็น2 กระเป๋าเดินทาง 4 ใบใหญ่ เลยเลือก grab van มารับที่บ้านเพื่อไปสุวรรณภูมิ ราคา910 บาท และขอเบอร์เค้าไว้เผื่อติดต่อเรียกขา
กลับ
พอถึงสนามบิน กรณีเช็คอินเสรจเรียบร้อย สามารถเข้าไปfasttrack เพื่อผ่าน immigration หรือต.ม. ได้เลย
เราสามารถเข็นรถเข็นลูกไปถึงgate เพื่อให้พนักงานโหลดขึ้นใต้เครื่องได้เลยค่ะ
เรามาสายการบินไทย เครื่อง330 เมื่อเราอยู่บนเครื่องบินแน่นอนว่า เด็กนมแม่ก็เข้าเต้าตอนเครื่อง takeoff เด็กนมชงก็ดูดขวดไป เราเลือกที่นั่ง ให้ห่างกัน เพราะเด็ก2คนไม่ควรนั่งด้วยกันค่ะ ชาวบ้านจะด่าตระกูลเราได้555 โชคดีที่เราได้ที่นั่งหน้าสุด สามรถเหยียดขาได้ แต่เนื่องจากที่นั่งชั้นประหยัดนั้นลูกนอนบนตักเราลำบากมากเลยค่อนข้างงอแง วิธีที่ดีที่สุดคืออุ้มหลับไปก่อนค่ะ ในกรณีที่งอแงมากเราสามารถไปหลบที่ตรงหลังม่านหน้าห้องน้ำบนเครื่องได้ และค่อยอุ้มกลับมานั่งตอนที่สงบแล้ว ยังโชคดีที่การไปโซลใช้เวลา5 ชั่วโมง ถ้าเป็นไฟล์ทกลางคืนก็ถือว่าแป๊บเดียวถึง เราถึงโซล6.30 am แบบทุลักทุเล
เดี่ยวมาเล่าต่อนะคะ