หลังจากที่ผมได้โพสต์ถาม เรื่องเกี่ยวกับระเบียบทรงผมไปแล้ว
https://ppantip.com/topic/38754357
แต่ทีนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะมาถามเรื่องอะไรแบบบนี้ทำไม
คือ จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากจะยุ้ง เรื่องพวกนี้มากหรอกครับ แต่เพราะว่า ผมเห็นเด็กหลายๆคนที่ทำตัวไม่ถูกระเบียบและโดนลงโทษแบบ ผิดๆ
อย่างเช่น การที่เด็กไว้ผมยาวเกินจน ไม่ถูกระเบียบ ของโรงเรียน ทำให้คุณครู หลายๆ คน จะต้องลงโทษเด็ก
ด้วยการตี การกริบผม หรือการกร่อนผม แล้วประจานหน้าเสาธงเพื่อให้เด็กอาย เรื่องพวกนี้พวกเราทุกคนคงจะเห็นกันจน ชินตา แล้วใช่ไหมละครับ แต่จริงๆถ้าจะให้ผมอ้างกฎของกระทรวง
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=20459&Key=news_research
ระ
เบียบการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา
ระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 ได้กำหนดวิธีการลงโทษไว้ซึ่งจะนำมากล่าวถึงในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญดังนี้
ข้อ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด มี4 สถาน ดังนี้
1.ว่ากล่าวตักเตือน
2.ทำทัณฑ์บน
3.ตัดคะแนนความประพฤติ
4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ก็เห็นได้ชัดนะครับนะครับว่าในข้อที่ 5 เข้า ให้ลงโทษนักเรียน นักศึกษา ได้แค่ 4 แบบ เท่านั้น
ซึ่ง ใน 4 ข้อนี้ไม่ได้มีบอกเลยว่า ให้มีการลงโทษนักเรียนด้วยการตี หรือการกร่อนผม
และในข้อที่ 6 ได้กล่าวไว้ว่า
ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยให้คำนึงถึงอายุของนักเรียนหรือนักศึกษา และความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วย การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความ ประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลับมาประพฤติตนใตนทางที่ดีต่อไปให้ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือผู้ที่ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกามอบหมายเป็นผู้มีอำนาจในการลงโทษ นักเรียน นักศึกษา
ใช้แล้วครับ ห้ามลงโทษนักเรียน ด้วยวิธีที่รุนแรง การกร่อนผม นอกจากจะ เป็นการ ทำร้ายร่างกายแล้ว ยังเป็นการ ลงโทษแบบกลั่นแกล้งด้วยนะครับ
นี้ยังไม่ได้พูดถึงการ
ตี เลยนะครับ เพราะอันนี้เราไม่ต้องไปคิดให้ยาก มันเป็นการทำร้ายร่างกายแน่นอน
(ครูที่ลงโทษเด็กเกินกว่าเหตุด้วยวิธีรุนแรง ผิดต่อมาตรา 26 ในพรบ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำคุกทั้งปรับ)
และใช่แล้วครับหลายคนที่กำลังอ่ามาถึงตอนนี้ก็คงมีคำตอบและคำถามในใจอยู่แล้วใช่ไหมละครับ ซึ่งถ้าหลายๆ คน จะมาบอกว่า ถ้ารับกฎของโรงเรียนไม่ได้ ก็ไปเรียนที่อื่น (ผมขอออกตัวไว้ก่อน เลยนะครับว่า ผมไม่เคยทำผิดกฎของโรงเรียนเลย และเกรดเฉลี่ยแต่ละเทอม ก็ 3.5 ขึ้นตลอด อันนี้บอกไว้เฉยๆ นะครับ เผื่อใครที่คิดว่าผมชอบทำผิดกฎ) ซึ่งจริงๆผมคิดว่า คนที่ลงโทษเด็กต่างหาก ละครับ ที่ รับกฎของกระทรวง ศึกษาธิการไม่ได้ หลายคนอาจจะบอกว่าเด็กสมัยนี้โดนอะไรนิดอะไรหน่อย ก็อ้างกฎกระทรวงบ้าง โพสต์ลง โซเชียวบ้าง อย่างที่ผมบอกไปนะครับ ผมไม่เคยโดนลงโทษ ด้วยการตีเลย แต่ผมทนไม่ได้ครับ ที่จะต้องมาเห็น
ครูที่อยากให้นักเรียนทำตามกฎ แต่ครูเองต่างหากละครับที่ไม่ทำคามกฎของกระทรวงฯ
แล้วทีนี่ มันก็ เกิดคำถามขึ้นมาครับ ว่า แล้วจะต้องทำยังไงละเด็กมันถึงจะเชื่อฟัง
ขอออกนอกเรื่องนิดนึงนะครับ
(ผมเรื่องประสบการณชีวิตจะเล่าให้ฟังครับ คือ...ตอน ม.2 ผมได้เรียน วิชา วิทยาศาสชตร์ กับอาจารย์ ท่านหนึ่ง มาครับ แกเป็นคนที่ตลก แน่นอนครับว่า วิทย์ เป็นวิชา ที่ยากพอสมควร แต่เวลาครูคนนี้สอน แกก็จะชอบเล่าเรื่อง ตลกๆ ให้ฟังครับ ซึ่งถ้าจะให้นับจริงๆ แกจะสอนในสิ่งที่ครูคนนั้นคิดว่าจะสอนในวันนั้นได้ ประมาร70%ครับ ส่วนอีก 30% คือการทำให้นักเรียน สนุก และมีความสุขในการเรียน ใช่แล้วครับมัน มีเวลาไม่พอในการสอนให้ได้ 100% แล้วจะมาเล่นมุกสนุกไปด้วย แต่ครูก็ทำให้เด็ก มีความสุข และอยากเรียนต่อครับ แต่เราลองมาเทียบ กับวิชาที่ครู ตั้งใจจะสอนอย่างเดียว ให้ได้ 100% เลย มันทำให้เด็กไม่มีความสุขในการเรียนครับ )
ซึ่งจากที่ผมเล่ามานั้น มันทำให้เห็นว่าการที่เด็กมีความสุขนั้นก็จะทำให้เด็กอยากเรียนและไม่ทำผิดกฎ หรือว่าโดดเรียนนั้นแหละครับ
กลับมาเข้าเรื่องกันต่อนะครับ
ถ้าจะถามว่าจะต้องทำยังไงละเด็กมันถึงจะเชื่อฟัง
ก็ทำตามกฎ ที่กระทรวงเขาออกมานั้นแหละครับ หักคะแนนคนที่ทำผิด พอทำผิอเยอะก็ทำทัณฑ์บน สุดท้ายคะแนนไม่มีก็โดนไล่ออกไม่ง่ายกว่า หรอครับ
เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟังอีกเรื่องครับ คือมีวันหนึ่ง ผมลืมเอาหนังสือ สังคม มา ครูแกก็บอกว่า ให้ที่ไม่ได้เอาหนังสือมา ครูจะหักคะแนน ตอนนั้น ในความคิดผม เกิดบอกขึ้นมาว่า อย่างนี้ โดนตียังดีกว่า เพราะโดนตีไปเจ็บแปป เดียว เดี่ยวก็หาย แต่คะแนน หาย แล้ว หาย เลยนะครับ
ที่นี้ ก็มีอีกวันนึง ที่มีคนลืมทำการบ้านมา ครูก็ลงโทษนักเรียน แต่ก่อนจะลงโทษแกก็ถามนักเรียนก่อนครับว่า จะให้ตี หรือให้หักคะแนน ใช่ครับซึ่ง ทุกคนที่โดนลงโทษ เลือก ที่จะโดนตี เพราะอะไรครับ เพราะมันง่ายไงครับ แค่โดนตี ทนเจ็บ แปป เดียว คะแนน ก็ยังอยู่
ผมเข้าใจครับว่า ครูรักเด็ก ที่ตีก็เพราะรัก แต่ผมก็อยากให้ทำความเข้าใจนะครับ ว่าการตีไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย มันเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะ หน้ามากกว่าครับ
ครู ลองเปลี่ยนวิธีการลงโทษ สิครับ ลองสักอาทิตย์ นึง คือการ หักคะแนน ใครทำผิดก็หัก ใครไม่ส่งการบ้านก็หัก หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ก็ลองบอก
คะแนนที่เหลื่อ กับพวกเขาดูครับ ว่าเหลือ เท่าไหร่ แล้วลองดูปติกริยา พวกเขาดูครับ แล้วครูจะรู้ ว่าการตีไม่ได้ช่วยอะไรเลย
หลายคนบอกไม้เรียว สร้างชาติ ใช้ครับ ไมเรียวสร้าง ชาติไทย ให้เป็นแบบทุกวันนี้ไงละครับ
ปล.ผมเข้าใจนะครับว่าปัญหาของครูเองก็มี ครูสอน 40% ที่เหลือจะต้องเอาเวลาไปประเมิน อะไรก็ไม่รุ้หมด ทำให้ครูอาจจะเครียด อาจจะเหนี่อย
ครูหลายๆคนอาจจะ เอาความเครียดนี้ มาลงที่เด็ก แต่ไม่ว่ายังไงก็เถอะครับ
ครูมีหน้าที่สอนเด็กให้เป็นคนดีในกรอบของกระทรวงศึกษาธิการครับ ไม่ใช่มีอะไรไม่พอใจก็มาลงที่เด็ก (ผมไม่ได้หมายถึงครูทุกคนนะครับ)
สุดท้ายนี้.ใครจะคิดยังไงก็สามารถ แสดง ความคิดเห็นได้นะครับ......
ครู ลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผมเด็ก และตีเด็ก ได้ ด้วย หรือ?
แต่ทีนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะมาถามเรื่องอะไรแบบบนี้ทำไม
คือ จริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากจะยุ้ง เรื่องพวกนี้มากหรอกครับ แต่เพราะว่า ผมเห็นเด็กหลายๆคนที่ทำตัวไม่ถูกระเบียบและโดนลงโทษแบบ ผิดๆ
อย่างเช่น การที่เด็กไว้ผมยาวเกินจน ไม่ถูกระเบียบ ของโรงเรียน ทำให้คุณครู หลายๆ คน จะต้องลงโทษเด็ก ด้วยการตี การกริบผม หรือการกร่อนผม แล้วประจานหน้าเสาธงเพื่อให้เด็กอาย เรื่องพวกนี้พวกเราทุกคนคงจะเห็นกันจน ชินตา แล้วใช่ไหมละครับ แต่จริงๆถ้าจะให้ผมอ้างกฎของกระทรวง
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=20459&Key=news_research
ระเบียบการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา
ระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 ได้กำหนดวิธีการลงโทษไว้ซึ่งจะนำมากล่าวถึงในประเด็นที่เป็นสาระสำคัญดังนี้
ข้อ 5 โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิด มี4 สถาน ดังนี้
1.ว่ากล่าวตักเตือน
2.ทำทัณฑ์บน
3.ตัดคะแนนความประพฤติ
4.ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ก็เห็นได้ชัดนะครับนะครับว่าในข้อที่ 5 เข้า ให้ลงโทษนักเรียน นักศึกษา ได้แค่ 4 แบบ เท่านั้น
ซึ่ง ใน 4 ข้อนี้ไม่ได้มีบอกเลยว่า ให้มีการลงโทษนักเรียนด้วยการตี หรือการกร่อนผม
และในข้อที่ 6 ได้กล่าวไว้ว่า
ข้อ 6 ห้ามลงโทษนักเรียนและนักศึกษาด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท โดยให้คำนึงถึงอายุของนักเรียนหรือนักศึกษา และความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษด้วย การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาให้เป็นไปเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความ ประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลับมาประพฤติตนใตนทางที่ดีต่อไปให้ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือผู้ที่ผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกามอบหมายเป็นผู้มีอำนาจในการลงโทษ นักเรียน นักศึกษา
ใช้แล้วครับ ห้ามลงโทษนักเรียน ด้วยวิธีที่รุนแรง การกร่อนผม นอกจากจะ เป็นการ ทำร้ายร่างกายแล้ว ยังเป็นการ ลงโทษแบบกลั่นแกล้งด้วยนะครับ
นี้ยังไม่ได้พูดถึงการ ตี เลยนะครับ เพราะอันนี้เราไม่ต้องไปคิดให้ยาก มันเป็นการทำร้ายร่างกายแน่นอน
(ครูที่ลงโทษเด็กเกินกว่าเหตุด้วยวิธีรุนแรง ผิดต่อมาตรา 26 ในพรบ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำคุกทั้งปรับ)
และใช่แล้วครับหลายคนที่กำลังอ่ามาถึงตอนนี้ก็คงมีคำตอบและคำถามในใจอยู่แล้วใช่ไหมละครับ ซึ่งถ้าหลายๆ คน จะมาบอกว่า ถ้ารับกฎของโรงเรียนไม่ได้ ก็ไปเรียนที่อื่น (ผมขอออกตัวไว้ก่อน เลยนะครับว่า ผมไม่เคยทำผิดกฎของโรงเรียนเลย และเกรดเฉลี่ยแต่ละเทอม ก็ 3.5 ขึ้นตลอด อันนี้บอกไว้เฉยๆ นะครับ เผื่อใครที่คิดว่าผมชอบทำผิดกฎ) ซึ่งจริงๆผมคิดว่า คนที่ลงโทษเด็กต่างหาก ละครับ ที่ รับกฎของกระทรวง ศึกษาธิการไม่ได้ หลายคนอาจจะบอกว่าเด็กสมัยนี้โดนอะไรนิดอะไรหน่อย ก็อ้างกฎกระทรวงบ้าง โพสต์ลง โซเชียวบ้าง อย่างที่ผมบอกไปนะครับ ผมไม่เคยโดนลงโทษ ด้วยการตีเลย แต่ผมทนไม่ได้ครับ ที่จะต้องมาเห็น ครูที่อยากให้นักเรียนทำตามกฎ แต่ครูเองต่างหากละครับที่ไม่ทำคามกฎของกระทรวงฯ
แล้วทีนี่ มันก็ เกิดคำถามขึ้นมาครับ ว่า แล้วจะต้องทำยังไงละเด็กมันถึงจะเชื่อฟัง
ขอออกนอกเรื่องนิดนึงนะครับ
(ผมเรื่องประสบการณชีวิตจะเล่าให้ฟังครับ คือ...ตอน ม.2 ผมได้เรียน วิชา วิทยาศาสชตร์ กับอาจารย์ ท่านหนึ่ง มาครับ แกเป็นคนที่ตลก แน่นอนครับว่า วิทย์ เป็นวิชา ที่ยากพอสมควร แต่เวลาครูคนนี้สอน แกก็จะชอบเล่าเรื่อง ตลกๆ ให้ฟังครับ ซึ่งถ้าจะให้นับจริงๆ แกจะสอนในสิ่งที่ครูคนนั้นคิดว่าจะสอนในวันนั้นได้ ประมาร70%ครับ ส่วนอีก 30% คือการทำให้นักเรียน สนุก และมีความสุขในการเรียน ใช่แล้วครับมัน มีเวลาไม่พอในการสอนให้ได้ 100% แล้วจะมาเล่นมุกสนุกไปด้วย แต่ครูก็ทำให้เด็ก มีความสุข และอยากเรียนต่อครับ แต่เราลองมาเทียบ กับวิชาที่ครู ตั้งใจจะสอนอย่างเดียว ให้ได้ 100% เลย มันทำให้เด็กไม่มีความสุขในการเรียนครับ )
ซึ่งจากที่ผมเล่ามานั้น มันทำให้เห็นว่าการที่เด็กมีความสุขนั้นก็จะทำให้เด็กอยากเรียนและไม่ทำผิดกฎ หรือว่าโดดเรียนนั้นแหละครับ
กลับมาเข้าเรื่องกันต่อนะครับ
ถ้าจะถามว่าจะต้องทำยังไงละเด็กมันถึงจะเชื่อฟัง
ก็ทำตามกฎ ที่กระทรวงเขาออกมานั้นแหละครับ หักคะแนนคนที่ทำผิด พอทำผิอเยอะก็ทำทัณฑ์บน สุดท้ายคะแนนไม่มีก็โดนไล่ออกไม่ง่ายกว่า หรอครับ
เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟังอีกเรื่องครับ คือมีวันหนึ่ง ผมลืมเอาหนังสือ สังคม มา ครูแกก็บอกว่า ให้ที่ไม่ได้เอาหนังสือมา ครูจะหักคะแนน ตอนนั้น ในความคิดผม เกิดบอกขึ้นมาว่า อย่างนี้ โดนตียังดีกว่า เพราะโดนตีไปเจ็บแปป เดียว เดี่ยวก็หาย แต่คะแนน หาย แล้ว หาย เลยนะครับ
ที่นี้ ก็มีอีกวันนึง ที่มีคนลืมทำการบ้านมา ครูก็ลงโทษนักเรียน แต่ก่อนจะลงโทษแกก็ถามนักเรียนก่อนครับว่า จะให้ตี หรือให้หักคะแนน ใช่ครับซึ่ง ทุกคนที่โดนลงโทษ เลือก ที่จะโดนตี เพราะอะไรครับ เพราะมันง่ายไงครับ แค่โดนตี ทนเจ็บ แปป เดียว คะแนน ก็ยังอยู่
ผมเข้าใจครับว่า ครูรักเด็ก ที่ตีก็เพราะรัก แต่ผมก็อยากให้ทำความเข้าใจนะครับ ว่าการตีไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย มันเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะ หน้ามากกว่าครับ
ครู ลองเปลี่ยนวิธีการลงโทษ สิครับ ลองสักอาทิตย์ นึง คือการ หักคะแนน ใครทำผิดก็หัก ใครไม่ส่งการบ้านก็หัก หลังจากผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ ก็ลองบอก
คะแนนที่เหลื่อ กับพวกเขาดูครับ ว่าเหลือ เท่าไหร่ แล้วลองดูปติกริยา พวกเขาดูครับ แล้วครูจะรู้ ว่าการตีไม่ได้ช่วยอะไรเลย
หลายคนบอกไม้เรียว สร้างชาติ ใช้ครับ ไมเรียวสร้าง ชาติไทย ให้เป็นแบบทุกวันนี้ไงละครับ
ปล.ผมเข้าใจนะครับว่าปัญหาของครูเองก็มี ครูสอน 40% ที่เหลือจะต้องเอาเวลาไปประเมิน อะไรก็ไม่รุ้หมด ทำให้ครูอาจจะเครียด อาจจะเหนี่อย
ครูหลายๆคนอาจจะ เอาความเครียดนี้ มาลงที่เด็ก แต่ไม่ว่ายังไงก็เถอะครับ ครูมีหน้าที่สอนเด็กให้เป็นคนดีในกรอบของกระทรวงศึกษาธิการครับ ไม่ใช่มีอะไรไม่พอใจก็มาลงที่เด็ก (ผมไม่ได้หมายถึงครูทุกคนนะครับ)
สุดท้ายนี้.ใครจะคิดยังไงก็สามารถ แสดง ความคิดเห็นได้นะครับ......