"ตอกทอย" ศาสตร์ชั้นสูงของพรานป่า ศาสตร์ลึกลับที่สืบทอดกันมาจากรู่นสู่รุ่นของพรานผึ้ง กว่าจะได้มซึ่งน้ำผึ้งป่าแท้ๆ แต่ละขวด มันยากเย็นขนาดไหน ขั้นตอนต่างๆ ของการตอกทอยตีผึ้งมีขั้นตอนอะไรบ้าง
1.ผึ้งส่วนมากจะทำรังบนต้นไม้ 3-4 ชนิด คือ ต้นผึ้ง หรือ ต้นยวน ต้นสะเหรี่ยง ต้นขมิ้นดำ (ซึ่งเป็นต้นที่เราจะไปตีกันในคืนนี้ ขมิ้นดำต้นนี้มีผึ้งมาเกาะ 75 รัง ก่อนวันที่จะไป หมีขึ้นไปกินผึ้งแล้ว 6 รัง) ส่วนต้นไม้ใหญ่ทั่วๆ ไป ส่วนมากจะเป็นผึ้งโทน พรานบอกว่าไม่คุ้มที่จะขึ้นไปตี แต่ผึ้งโทนเองกลับมีน้ำหวานมากกว่าผึ้งทั่วไป ต้นไม้ที่มีความเสียงมากที่สุดก็คือ ต้นสะเหรี่ยง เพราะลำต้นจะลื่นมากๆ
2.คบที่ใช้ในการล่อผึ้ง ทำจากเถาของต้นรางจืด พรานจะตัดแล้วทุบให้เป็นแผ่น หลังจากนั้นจะนำไปย่างไฟอ่อนๆ ให้แห้ง พอแห้งแล้วจะนำมามัดเป็นท่อนๆ (ข้อดีของเถารางจืดคือเมื่อจุดแล้วจะลุกแบบธูปคือค่อยไหม้ไฟ ไม่ลุกเป็นเปลวไฟ
3.ลูกทอยที่ใช้พรานที่ขึ้นไปตีผึ้งจะต้องทำการเหลาไม้เอง ต้นไม่ต้นนี้สูงราว 60-70 เมตร ใช้ทอยประมาณ 105 ลูก (แต่ก็มีติดเสริมไปอีก ลูกทอยอันไหนตอกไม่เข้า จะโยนทิ้งเลย)
4.ทอยลูกแรกจะเป็นการตีเพื่อสะกดนางไม้
5.การตีผึ้งจะทำในคืนเดือนมืด พรานจะทำการกล่าวคาถาเพื่อขอตีผึ้งก่อนทุกครั้ง
6.ห้ามเปิดไฟ ตอนที่พรานตีผึ้ง เพราะผึ้งจะตามแสงไฟมาต่อยเรา
7.ราวห้าโมงเย็นพรานจะเริ่มตอกทอย หากพรานคนแรกเหนื่อยพรานคนที่สองจะผลัดกันขึ้นไปตอกทอย ขั้นตอนนี้กินเวลาหลายชั่วโมง
8.ราวสองทุ่มจึงเริ่มตีผึ้ง พรานจะจุดคบที่ถือขึ้นไป แล้วเคาะให้เป็นสะเก็ดไฟ ผึ้งจะบินตามสะเก็ดไฟที่ล่วงลงมาเสียงดังหึ่งๆ ทั่วป่า พอผึ้งทิ้งรังหมดแล้ว พรานก็จะปาดน้ำผึ้งใส่กะละมัง (ขั้นตอนนี้อันตรายที่สุด เพราะน้ำผึ้งจะลื่นมาก) พอเต็มกะลังมังก็จะเรียกให้คนข้างล่าง ค่อยๆ สาวเชือกลงมา พรานจะทำแบบนี้วนไปวนมา จนถึงตีหนึ่งก็จะยุติการตีผึ้ง วันที่ 2 ก็จะทำแบบนี้อีก รวม 2 วัน ตีผึ้งได้ 21 รัง ได้น้ำผึ้ง มา 75 ขวด ระหว่างที่นั่งดูพรานตีผึ้งอากาศหนาวมากๆ แต่ทว่าแสงขอสะเก็ดไฟที่ล่วงลงมามันสวยมากจริงๆ
9.ต้นผึ้งจะเป็นมรดกที่สืบทอดกันมา
10.หลังจากตีผึ้งแล้วก็แบกออกมาจากป่าแล้วน้ำมาคั้นเอาแต่น้ำผึ้งอีกที่ ขั้นตอนยุ่งยากมากกว่าเราจะได้น้ำผึ้งเดือน 5 สักขวด
11.พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื่นที่จัดสรรทำกินของชาวบ้าน
รายละเอียดต่างๆ จะเล่าในรีวิวอีกที่เพื่อความละเอียด
น้ำผึ้งเดือน 5 "ตอกทอย" ศาสตร์ชั้นสูงของพรานป่า ศาสตร์ลึกลับที่สืบทอดกันมาจากรู่นสู่รุ่นของพรานผึ้ง
1.ผึ้งส่วนมากจะทำรังบนต้นไม้ 3-4 ชนิด คือ ต้นผึ้ง หรือ ต้นยวน ต้นสะเหรี่ยง ต้นขมิ้นดำ (ซึ่งเป็นต้นที่เราจะไปตีกันในคืนนี้ ขมิ้นดำต้นนี้มีผึ้งมาเกาะ 75 รัง ก่อนวันที่จะไป หมีขึ้นไปกินผึ้งแล้ว 6 รัง) ส่วนต้นไม้ใหญ่ทั่วๆ ไป ส่วนมากจะเป็นผึ้งโทน พรานบอกว่าไม่คุ้มที่จะขึ้นไปตี แต่ผึ้งโทนเองกลับมีน้ำหวานมากกว่าผึ้งทั่วไป ต้นไม้ที่มีความเสียงมากที่สุดก็คือ ต้นสะเหรี่ยง เพราะลำต้นจะลื่นมากๆ
2.คบที่ใช้ในการล่อผึ้ง ทำจากเถาของต้นรางจืด พรานจะตัดแล้วทุบให้เป็นแผ่น หลังจากนั้นจะนำไปย่างไฟอ่อนๆ ให้แห้ง พอแห้งแล้วจะนำมามัดเป็นท่อนๆ (ข้อดีของเถารางจืดคือเมื่อจุดแล้วจะลุกแบบธูปคือค่อยไหม้ไฟ ไม่ลุกเป็นเปลวไฟ
3.ลูกทอยที่ใช้พรานที่ขึ้นไปตีผึ้งจะต้องทำการเหลาไม้เอง ต้นไม่ต้นนี้สูงราว 60-70 เมตร ใช้ทอยประมาณ 105 ลูก (แต่ก็มีติดเสริมไปอีก ลูกทอยอันไหนตอกไม่เข้า จะโยนทิ้งเลย)
4.ทอยลูกแรกจะเป็นการตีเพื่อสะกดนางไม้
5.การตีผึ้งจะทำในคืนเดือนมืด พรานจะทำการกล่าวคาถาเพื่อขอตีผึ้งก่อนทุกครั้ง
6.ห้ามเปิดไฟ ตอนที่พรานตีผึ้ง เพราะผึ้งจะตามแสงไฟมาต่อยเรา
7.ราวห้าโมงเย็นพรานจะเริ่มตอกทอย หากพรานคนแรกเหนื่อยพรานคนที่สองจะผลัดกันขึ้นไปตอกทอย ขั้นตอนนี้กินเวลาหลายชั่วโมง
8.ราวสองทุ่มจึงเริ่มตีผึ้ง พรานจะจุดคบที่ถือขึ้นไป แล้วเคาะให้เป็นสะเก็ดไฟ ผึ้งจะบินตามสะเก็ดไฟที่ล่วงลงมาเสียงดังหึ่งๆ ทั่วป่า พอผึ้งทิ้งรังหมดแล้ว พรานก็จะปาดน้ำผึ้งใส่กะละมัง (ขั้นตอนนี้อันตรายที่สุด เพราะน้ำผึ้งจะลื่นมาก) พอเต็มกะลังมังก็จะเรียกให้คนข้างล่าง ค่อยๆ สาวเชือกลงมา พรานจะทำแบบนี้วนไปวนมา จนถึงตีหนึ่งก็จะยุติการตีผึ้ง วันที่ 2 ก็จะทำแบบนี้อีก รวม 2 วัน ตีผึ้งได้ 21 รัง ได้น้ำผึ้ง มา 75 ขวด ระหว่างที่นั่งดูพรานตีผึ้งอากาศหนาวมากๆ แต่ทว่าแสงขอสะเก็ดไฟที่ล่วงลงมามันสวยมากจริงๆ
9.ต้นผึ้งจะเป็นมรดกที่สืบทอดกันมา
10.หลังจากตีผึ้งแล้วก็แบกออกมาจากป่าแล้วน้ำมาคั้นเอาแต่น้ำผึ้งอีกที่ ขั้นตอนยุ่งยากมากกว่าเราจะได้น้ำผึ้งเดือน 5 สักขวด
11.พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตพื่นที่จัดสรรทำกินของชาวบ้าน
รายละเอียดต่างๆ จะเล่าในรีวิวอีกที่เพื่อความละเอียด