นกพรานผึ้งแอฟริกา

.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
.
How honeyguide birds talk to people
.
.

.
.


ทางตอนใต้ของทะเลทราย
Sahara Desert
ในเขต North Africa
ยังมีนกพรานผึ้งขนาดใหญ่
Indicator indicator
ที่ได้พัฒนาการความสัมพันธ์
กับพรานผึ้งในท้องถิ่น

นกพรานผึ้งชอบกินขี้ผึ้งกับตัวอ่อนผึ้ง
มีความชำนาญเป็นพิเศษในการล่ารังผึ้ง
แต่มันไม่สามารถสู้รบตบมือ
กับฝูงผึ้งตามลำพังได้
นกพรานผึ้งจะบินเข้าหาคน/พรานผึ้ง
พร้อมส่งเสียงร้องอันดัง
เพื่อเรียกร้องความสนใจ
จากนั้นก็จะบินนำทาง
คนไปยังรังผึ้งที่มันค้นพบ

เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว
ที่พรานผึ้งท้องถิ่นเรียนรู้ว่า
ต้องตามนกพรานผึ้งไป
จากนั้นพรานผึ้งก็จะก่อกองไฟรมควันรังผึ้ง
เพื่อทำให้ฝูงผึ้งบินหนี/ทิ้งรังไป
พรานผึ้งก็จะแบ่งตัวอ่อนผึ้ง/ขี้ผึ้ง
ให้กับนกพรานผึ้งเป็นรางวัลนำทาง

ในขณะที่คนเราใช้สัตว์เลี้ยง
เพื่อล่าสัตว์มานานนับพันปี
แต่ความร่วมมือแบบนี้หายากมาก
เพราะนกพรานผึ้งไม่ได้
ผ่านการฝึกฝน/เลี้ยงดู
แต่ในทางตรงกันข้าม
นกพรานผึ้งกลับเป็นครูฝึกคน
ให้ติดตามการนำทาง
ของพวกมันและล่าผึ้งให้กับพวกมัน
เรื่องนี้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ
ที่สำคัญที่สุดระหว่างคนกับนก

ความร่วมมือที่ไม่ธรรมดานี้
ได้รับการรายงานครั้งแรกในปี 1588
โดยบาทหลวงโปรตุเกส
João dos Santos
ซึ่งสอนศาสนาอยู่ใน Mozambique
ท่านมักจะสังเกตเห็นนกตัวเล็ก ๆ
บินเข้ามาภายในผนังโบสถ์คริสตจักร Sofala
แล้วจิกกินเทียนไขที่ใช้ในโบสถ์เป็นประจำ

ท่านยังอธิบายว่า
นกจะพาคนไปยังรังผึ้งได้อย่างไร
ด้วยการร้องเรียกแล้วโผบิน
จากต้นไม้หนึ่งไปอีกต้นไม้หนึ่ง

เรื่องราวพฤติกรรมแปลกประหลาดของนกนี้
มีการเล่าขานมานานหลายศตวรรษที่ผ่านมา
แต่ยังไม่มีรายงานที่ยืนยันได้อย่างเป็นทางการ
หลายคนจึงมักจะคิดว่านกพรานผึ้ง
เป็นตำนานเล่าสู่กันฟัง

ในปี 1989
จนกระทั่ง Dr. Hussein Isack
นักนิเวศวิทยาชาว Kenya
และ Heinz Ulrich Reyer
นักสัตววิทยาชาว German
ได้ร่วมกันตีพิมพ์ผลงานวิจัยเรื่องนี้
ทำให้ตำนานเรื่องนกพรานผึ้ง
ได้รับการยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
.
.

Dr. Hussein Isack ได้อธิบายถึง
วิธีการนกพรานผึ้งนำทางคน

นกพรานผึ้งจะดึงดูดความสนใจของคน
ด้วยการบินเข้ามาใกล้คน
และบินไปมารอบ ๆ คน
พร้อมกับส่งเสียงร้องเรียกซ้ำ ๆ
ด้วยเสียงยาวสองครั้ง
ซึ่งฟังแล้วเหมือนกับ
มันร้องว่า tirr-tirr-tirr-tirr
หลังจากนั้นมันจะบินขึ้นเหนือยอดไม้
แล้วหายไปราวหนึ่งนาทีหรือนานกว่านั้น
แล้วจะบินกลับมาเกาะอยู่บนต้นไม้
หรือพุ่มไม้ที่เห็นได้เด่นชัดอีกครั้ง
หากพรานผึ้งเดินเข้ามาใกล้
ภายในระยะ 5 ถึง 15 เมตร
นกจะบินต่อไปอีก
และส่งเสียงร้องเรียกพรานผึ้ง
ให้เดินตามมันไปเรื่อย ๆ

ในช่วงที่มันบินไปในช่วงสั้น ๆ
จะเห็นขนหางสีขาวด้านนอกโผล่ออกมาให้เห็น
มันจะบินไปเกาะต้นไม้อีกครั้ง
แล้วร้องเรียกพรานผึ้งซ้ำ ๆ
ในขณะที่พวกพรานผึ้ง
ชนเผ่า Boran
ต่างเดินติดตามนกพรานผึ้งไปนั้น
พวกพรานผึ้งจะผิวปาก เคาะไม้ ส่งเสียงดัง
เพื่อให้นกพรานผึ้งรับทราบว่า
ตอนนี้พวกตนกำลังติดตามไป
และสนใจการนำทางนกพรานผึ้งอยู่
เมื่อพรานผึ้งเดินเข้าไปใกล้นกพรานผึ้ง
นกพรานผึ้งจะบินไปเกาะต้นไม้อื่นอีก
ด้วยการบินนำหน้าไปเรื่อย ๆ จนถึงที่หมายคือ
รังผึ้งที่นกพรานผึ้งเล็งไว้ว่าจะได้รับส่วนแบ่ง

เมื่อทั้งคนทั้งนกมาถึงรังผึ้งแล้ว
นกพรานผึ้งจะเกาะอยู่ใกล้ ๆ กับรังผึ้ง
แล้วส่งเสียงเรียกร้อง tirr-tirr-tirr-tirr
โดยจะมีโทนเสียงที่นุ่มกว่าเดิมมาก
การส่งเสียงร้องดังจะลดลงและเริ่มเงียบเสียง
หากมีเสียงผิวปาก เคาะไม้ เสียงตะโกนของคน
และเมื่อนกบินไปเกาะคอนใกล้ ๆ กับรังผึ้งแล้ว
หรือบางครั้งก็บินวนรอบ ๆ รังผึ้ง
เพื่อเผยให้พรานผึ้งเห็นรังผึ้ง
ที่นกพรานผึ้งนำทางมา

แต่หากพรานผึ้งไม่ยอมล่าผึ้ง
(หรือแสร้งทำว่าไม่ทำ)
นกพรานผึ้งก็จะยอมถอดใจในอีกไม่นานนัก
แล้วนกพรานผึ้งจะบินจากไปอย่างเงียบ ๆ
หรือเริ่มต้นนำทางพรานผึ้งไปยังรังผึ้งอื่นอีก
แต่ในกรณีหลังนี้
นกพรานผึ้งจะบินตรงไปยังรังผึ้งเลย
.
.

รายงาน Claire Spottiswoode
นักสัตววิทยา University of Cambridge

พรานผึ้งหลายคนได้พัฒนา
วิธีการสื่อสารกับนกพรานผึ้ง
จากการลงพื้นที่วิจัย
ชนเผ่า Yao ใน Mozambique
จะมีคนบางคนที่ส่งเสียงในลำคอ
เป็นเสียง brrrr-hm
นกพรานผึ้งจะจดจำเสียงเรียกแบบนี้ได้
พร้อมกับจะบินนำทางพรานผึ้งไปหารังผึ้งเลย
แต่เสียงเรียกแบบนี้มีเฉพาะชนเผ่า Yao
ในพื้นที่ห่างไกลออกไปหลายพันกิโลเมตร
อาจจะมีวัฒนธรรม/วิธีการเรียกนกพรานผึ้ง
ที่แตกต่างออกไป/ได้ผลแบบเดียวกันก็ได้
.
.

อาหารส่วนใหญ่ของนกพรานผึ้ง
มักจะเป็นพวกขี้ผึ้ง สารคัดหลั่งเหนียว ๆ
จากแมลง/ตัวหนอน แมงมุม
และผลไม้ในบางครั้ง

นกพรานผึ้งเป็นนกเพียงไม่กี่สายพันธุ์ในโลก
ที่สามารถย่อยขึ้ผึ้งเป็นอาหารได้
เพราะขี้ผึ้งจะมีจำนวนมาก
และเป็นส่วนสำคัญในการเก็บกักน้ำผึ้ง

นกพรานผึ้งต้องอาศัยพรานผึ้งในการล่าผึ้ง
เพราะรังผึ้งในพื้นที่ทะเลทรายมากกว่า 96%
นกพรานผึ้งไม่สามารถเข้าไปกัดกินได้เลย
เพราะส่วนมากอยู่ในโพรงไม้ลึกเข้าไปด้านใน
เว้นเสียแต่พรานผึ้งจะตีรังผึ้งแล้วดึงออกมา

ในทุกวันนี้
บทบาทของนกพรานผึ้งกำลังจะหายไป
เพราะชาวบ้านส่วนมากมักจะเลี้ยงผึ้งเอง
แทนการที่ออกไปตีผึ้งในป่าแบบสมัยก่อน
เลยไม่อยากแบ่งขี้ผึ้งที่ขายได้ราคาดีให้
ทำให้นกพรานผึ้งต้องดิ้นรนหาอาหารกินเอง

การรมควันผึ้งทำให้ฝูงผึ้งมึนงง
ง่ายต่อการตัดรวงผึ้ง/ขุดเจาะรวงผึ้งออกมา
วิธีการดังกล่าวทางซีกโลกตะวันตก
ก็ทำแบบเดียวกันกับรังผึ้ง

แต่ในพื้นที่ชนเผ่า Yao
รังผึ้งมักจะอยู่สูงจากพื้นดินราว 30 ฟุตขึ้นไป
มีแต่นกพรานผึ้งจะสังเกตเห็นรังผึ้งก่อนคน
เพราะต้นไม้สูง คนเตี้ยกว่าต้นไม้
แต่นกพรานผึ้งบินได้สูงกว่าต้นไม้

มีการศึกษาในเขตตอนเหนือของ Tanzania
พบว่า ชนเผ่า Hadza มากกว่า 10%
ก็ใช้บริการของนกพรานผึ้ง
แต่พรานผึ้งบางคนขี้เหนียว/ใจเล็กกว่ามด
มักจะทิ้งขี้ผึ้งให้นกพรานผึ้งเพียงเล็กน้อย

แต่สำหรับพรานผึ้งชนเผ่า Boran ใน Kenya
จะสามารถสื่อสารกับนกพรานผึ้ง
และรับรู้รูปแบบการบินของนกพรานผึ้ง
กับทิศทางการบอกเส้นทางนกพรานผึ้งได้

แม้ว่าเอกสารเกี่ยวกับนกพรานผึ้ง
จะมีการเผยแพร่ในช่วงปี 1588
แต่ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
เชื่อว่า น่าจะย้อนยุคไปถึงยุค 
Homo erectus ราว 1.9 ล้านปีก่อน
ทุกวันนี้ชนเผ่า Yao ยังรักษา
วัฒนธรรมการหาผึ้งร่วมกับนกพรานผึ้ง
และการส่งเสียง brrr-hm
เพื่อบอกนกพรานผึ้ง
.

เรียบเรียง/ที่มา


https://bit.ly/2Kdo568
https://bit.ly/2Jum9pA
https://bit.ly/2wQZQSx
https://bit.ly/20odhS2
.
.
.

.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
@ https://bit.ly/31nKanT
.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


.
.


@ นกพรานผึ้งในไทย

นกพรานผึ้ง : Malaysian honeyguide
ชื่อวิทยาศาสตร์ Indicator archipelagicus
เป็นนกขนาดเล็กชนิดหนึ่ง
ในวงศ์นกพรานผึ้ง Indicatoridae
จะงอยปากถึงปลายหาง 17 เซนติเมตร
ลักษณะคล้ายนกปรอดมาก
แต่จะงอยปากหนาและอวบกว่า
จะงอยปากจะมีสีคล้ำ
แต่ปากล่างสีจางกว่า
ลำตัวด้านบนสีเทาแกมเขียว
ลำตัวด้านล่างขาว
อกสีเทาแกมขาว
ข้างลำตัวมีลายขีดดำ
ตาสีน้ำตาลแดง/สีน้ำตาลในนกวัยอ่อน
ตัวผู้ที่หัวไหล่มีแถบเหลืองเล็ก ๆ
ตัวเมียลักษณะคล้ายตัวผู้
แต่ไม่มีแถบเหลือง
มีเสียงร้องคล้ายแมว คือ เมี้ยว

นกพรานผึ้งเป็นนกที่กินผึ้ง ตัวอ่อนของผึ้ง
และขี้ผึ้งเป็นอาหาร รวมถึงตัวต่อ
ถึงขนาดบุกเข้าไปกินถึงในรวงผึ้ง
โดยที่ไม่ได้รับอันตรายจากเหล็กไนของผึ้ง
ทั้งนี้เป็นเพราะมีปีกที่หนา
ทำให้เหล็กไนผึ้งทำอันตรายไม่ได้
และมีผู้เชื่อว่ามีกลิ่นตัวแรง
จนผึ้งไม่กล้าเข้าใกล้นกพรานผึ้ง
แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการพิสูจน์

นกพรานผึ้งมีพฤติกรรมอยู่ตามลำพัง
นาน ๆ ครั้งจึงเห็นอยู่เป็นคู่
เป็นนกที่บินได้เก่งและเร็ว
และเป็นนกประจำถิ่น
จะอยู่ในถิ่นใดถิ่นหนึ่งไปตลอด

ต่อเมื่อนกตัวเก่าตายไป
นกตัวใหม่ถึงเข้ามาอยู่แทน
ในประเทศไทยมีรายงาน
พบเห็นเพียงไม่กี่ครั้ง
ในป่าในเขตชายแดนภาคใต้
ที่ติดกับนายู (มลายู/มาเลเซีย)

ทั้งนี้ ยังมีรายงานว่าพบใน
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก
ในป่าดิบชื้นและป่าดิบแล้ง
ทั้งในพื้นที่ราบและที่สูงจาก
ระดับน้ำทะเล 900 เมตร
เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในประเทศไทย
.
.

.
.


เรื่องเล่าไร้สาระ


ในอดีตมีเรื่องเล่ากันว่า
นกพรานผึ้งจะจำคนได้เก่งมาก
ถ้าคนไหนขี้เหนียวไม่ยอมแบ่งปัน
นกมักจะไม่ยอมนำทางให้ในวันหลัง
แต่จะไปหาคนอื่นไปตีผึ้งแทน

ภาคใต้ในอดีตจะมีรังผึ้ง
ห้อยเป็นรวงตามกิ่งไม้มาก
นาน ๆ จะเจอนกพรานผึ้ง
มาเรียกคนไปช่วยตีผึ้ง
ซี่งมักจะเป็น ผึ้งโพรง ในป่า

เล่ากันว่านกชอบไทยมุสลิมมากกว่าไทยพุทธ
เพราะได้ตัวอ่อนผึ้งกับขี้ผึ้งมากกว่า
ซึ่งตามหลักศาสนาอิสลาม
ผึ้งเป็นฮารอม
ห้ามฆ่า ห้ามกิน
บางคนอ้างว่านำมาเป็นส่วนผสมยา
แต่ครูสอนศาสนาอิสลามบางท่านระบุว่า
ทุกอย่างที่พระเจ้าสร้างไว้กินไดัทั้งนั้น
เว้นแต่ที่ห้ามไว้ชัดเจนแล้วว่าเป็นฮะรอม

ทุกวันนี้ นกพรานผึ้งหายากมาแล้ว
เพราะการบุกรุกทำลายพื้นที่ป่าไม้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่