ลองรักปักษ์ใต้ เที่ยวสบาย วันธรรมดา

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาว Panitp ทุกคน วันนี้ไม่มีอะไรมากแค่อยากจะมาบอกเล่าสิ่งที่ได้พบได้เจอ กับการไปเที่ยว สงขลา - ปัตตานี

ในกิจกรรม ลองรักปักษ์ใต้ เที่ยวสบาย วันธรรมดา ที่ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ Pantip ได้จัดขึ้น 

บัดนี้ได้เวลาที่เราจะมาบอกเล่าประสบการณ์ จากการได้ไปสัมผัสถึงสถานที่ ที่ใคร ๆ ก็ต่างบอกเล่ากันว่า น่ากลัว อันตราย อย่าไปเลย มันจริงแค่ใหน เราจะเจออะไรกันมาบ้าง เราผ่านอะไรกันมาบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ 

          เมื่อรู้ตัวว่าได้เป็นผู้โชคดีที่ได้ไปทริป ลองรักปักษ์ใต้ เที่ยวสบาย วันธรรมดา ก็น้ำตาจะไหล เพราะเราไม่ได้กลับบ้านทางใต้มานานหลายปี ขอบอกว่าเราเป็นคนใต้ แต่สะไภ้เมืองกาญจน์ค่ะ ไม่ค่อยได้กลับบ้าน พอเจอกระทู้นี้ รีบพุ่งเข้าไปอย่างใว จนโชคดีได้ไปกับเค้าด้วย

มาเริ่มกันที่ เราออกเดินทางจากาญจนบุรีไปนอนที่ กทม 1 คืน เพื่อนที่จะเตรียมตัวขึ้นเครื่องในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 

          มาถึงสนามบินไม่รอช้า จัดการลงทะเบียนรับของที่ระลึกจาก Pantip ได้รับเสื้อสวย ๆ ก็รีบใส่ในทันที เตรียพร้อมขึ้นเครื่องจ้า

ทริปนี้ขอบอกว่า ฟรีตลอดการเดินทาง โอ้ยยยยย มันใช่เลยจ้า ทริปในฝัน กินฟรี อยู่ดี ไปกับ ททท และ pantip 

หน้าตาสดชื่อเมื่อเราได้ไปเที่ยว 

เราโดยสารโดย สารการบิน แอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3116 เวลา 07.25  และจะถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เวลา 08.55 น.

อาหารบนเครื่องค่ะคุณ ข้าวหน้าไก่เทอริยากิ อร่อย ใช้ได้เลยทีเดียว 

          มาถึงหาดใหญ่กันแล้ว สถานที่แรกที่เราจะไปคือ  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา จ้า ตามมาเลย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

Fine Arts Depatrment Songkhla National Museum

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  ถูกสร้างปี 2541 สถาปัตยกรรมจีนผสม ยุโรป เดิมเป็นบ้านของพระยาสุนทรา-นุรักษ์ ผู้ช่วยเจ้าเมืองสงขลา 

ภายในจัดแสดงศิลปวัตถุที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ตอนล่าง

อาคารพิพิธภัณฑ์โบราณสถานของชาติ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีนผสมตะวันตก อายุกว่า 100 ปี 
จัดแสดงโบราณวัตถุในศิลปะทวารวดี ศรีวิชัย และรัตนโกสินทร์ ซึ่งแสดงถึงบทบาทการเป็นเมืองท่าค้าขายที่สำคัญมาแต่โบราณของเมืองสงขลา

          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เพื่อให้เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปวัตถุภาคใต้ตอนล่าง และเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ทางด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ ชาติพันธุ์วิทยา ศิลปะจีน ศิลปะพื้นบ้านพื้นเมือง นอกจากนี้ ยังจัดแสดงศิลปโบราณวัตถุที่เกี่ยวกับตระกูล ณ สงขลา ซึ่งเป็นตระกูลเจ้าเมืองสงขลาในอดีตด้วย 

น้อง ๆ มาศึกษาเยี่ยมชมพอดี ขอถ่ายเก็บใว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะคะ น่ารักทุกคนเลย

          อยากให้มาลองชมกันเยอะ ๆ นะคะ น่าสนใจจริง ๆ ค่ะ เอาข้อมูลรายละเอียดมาฝาก เพื่อน ๆ ค่ะ 

ที่อยู่และเบอร์ติดต่อ พิพิธภัณฑ์โบราณสถานของชาติ 
13 ถนนวิเชียรชม ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา 90000
โทรศัพท์ : 074-311 728
โทรสาร : 074-311 881
เว็บไซต์ : http://www.finearts.go.th/songkhlamuseum/
อีเมล : songkhlamuseum@gmail.com

วันและเวลาทำการ
เปิดบริการวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.

ค่าเข้าชม
ชาวไทย 30 บาท
ชาวต่างประเทศ 150 บาท
นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ ภิกษุ สามเณร และนักบวชในศาสนาต่างๆ ไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม

          มาต่อกันเลยค่ะ สถานที่ต่อไปเราจะไป พิพิธภัณฑ์พธำมะรงค์ เป็นบ้านเกิดของ พณ ฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ หรือป๋าเปรม ของเรานั้นเองค่ะ ที่นี่อยู่ไม่ไกลจาก พิพิธภัณฑ์โบราณสถานของชาติ นะคะ เราเดินไปได้เลยจ้า  

          พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นเรือนไม้ยกพื้นชั้นเดียว หลังคาทรงปั้นหยา 2 หลังคู่ มีชานเปิด โล่งเชื่อมถึงกัน ภายในมีการจัดแสดงข้างของเครื่องใช้ของครอบครัวติณสูลานนท์ในอดีต และประวติสกุลวงศ์ ปัจจุบันเทศบาล นครสงขลาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลและพัฒนาให้เป็นศูนย์ข้อมูลการ ท่องเที่ยวอนึ่งที่มาของตระกูล "ติณสูลานนท์" นี้ได้รับ พระราชทานมาจาก "พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว"

ห้องนอนของท่าน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เรียบง่ายมาก ๆ ค่ะ 

ก่อนจะไปที่อื่นต่อขอถ่ายรูปเก็บใว้เป็นที่ระลึกหน่อยนะคะ

ข้อมูลการติดต่อ
ที่อยู่ : เลขที่ 1 ถนนจะนะ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองฯ จังหวัดสงขลา
เบอร์โทร : +66 7423 1055 , +66 7423 8518 , +66 7424 3747
วันเปิดทำการ : วันอังคาร - วันอาทิตย์
เวลาเปิดทำการ : 08.30 - 16.00

          เดินทางชมความงามสถานที่ต่าง ๆ กันแล้วก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยงกันแล้วค่ะ เราทานข้าวเที่ยงกันที่ ร้าน แต้งอิ๊ว เป็นร้านอาหารเก่าแก่ของจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บนถนน นางงาม เรามาดูกันว่าวันนี้ ททท. และ pantip จะจัดอะไรให้เราทานกันบ้างค่ะ

กุ้งผัดพริกขี้หนู ถูกใจอย่างแรงนิ รสชาติหอมพริกขี้หนูจัดจ้าน อร่อยมากค่ะ 

ต้มยำแห้งเนื้อท้องปลากะพง จานนี้ก็ชอบมากค่ะ ไม่เคยได้กินมาก่อน

ไข่เจียวก็อร่อย กินคู่กับแกงส้มเข้ากันจริง ๆ 

แกงส้มเนื้อท้องปลากะพง ชอบมากที่สุด เข้มข้นถึงใจเครื่องแกงใต้มาก  ๆ 

ยำหมู จานนี้เราว่าใช้ได้เลยทีเดียว

คะน้าน้ำมันหอยเป็นเมนูที่ชอบมากเช่นกัน

ยำมะม่วงเบาจานนี้เด็ด ตอนแรกจะคิดว่าเปรี้ยวมาก ๆ แน่เลย แต่ไม่จ้า เปรี้ยวกำลังดี ถูกใจริง ๆ 

จานสุดท้าย ลูกชิ้นปลาลวกราดกระเทียมเจียว ก็อร่อย ไม่แพ้กัน

ร้านนี้จะมีเวลาเปิด 2 ช่วง นะคะ ช่วงเช้า ตั้งแต่ 11.30 - 14.00 น  ช่วงเย็น 17.00 - 20.00 น. 

อิ่มท้องแล้วเราก็ไปกันต่อที่ ย่านเมืองเก่าสงขลา กันจ้า ไปดูว่าที่นี่มีอะไรกันบ้าง ตามมาเลย

          ย่านเมืองเก่า จังหวัดสงขลา มีประวัติความเป็นมาและมีอายุยืนยาวกว่า 200 ปี โดยดูได้จากความเก่าแก่ของตึก อาคาร และบ้านเรือน  ย่านเมืองเก่าแห่งนี้ มีถนนที่สำคัญด้วยกัน 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม

ถนนทั้งสามสายนี้มีเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย ซึ่งก็ได้เกิดจากการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีน สถาปัตยกรรมชิโนยูโรเปียน สถาปัตยกรรมผสม และสถาปัตยกรรมร่วมสมัย สถาปัตยกรรมเหล่านี้ต่างก็มีความงดงามที่แตกต่างกันออกไป ทำให้ย่านเมืองเก่าสงขลาแห่งนี้ เป็นแหล่งเรียนรู้ สถาปัตยกรรม วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็น