น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ชมสีสันถนนสายวัฒนธรรม ราชดำเนิน

น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลร่วมกับภาครัฐ เอกชน กำหนดจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 ในระหว่างวันที่ 1-5 ธ.ค. ที่บริเวณท้องสนามหลวง

และในช่วงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ครั้งนี้ จะมีการจัดงานแสดงวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และส่งเสริมวิถีวัฒนธรรมไทยภายใต้กิจกรรมสำคัญชื่อ "ถนนสายวัฒนธรรมใต้ร่มพระบารมี"

งานนี้แสดงถึงความสุขของคนไทยทั้งประเทศที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุขร่มเย็น มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งอาหารการกิน การรักษางานศิลปวัฒนธรรม งานหัตถกรรมและวิถีชีวิต กลายเป็นผลผลิตของดีที่มีคุณค่าตามวิถีวัฒนธรรมไทยในแต่ละภาค สอดคล้องกับพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาว สยาม"


ถนนสายวัฒนธรรมตลอด 5 วัน คึกคักตั้งแต่ถนนราชดำเนินต่อเนื่องไปท้องสนามหลวง จนถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร งานนี้เชิญชวนชาวไทยแต่งกายผ้าไทยโทนสีเหลืองหรือสวมเสื้อเหลือง สีประจำวันพระบรมราชสมภพมาร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ พร้อมเพลิดเพลินกับสาระความรู้เรื่องคุณค่าของวิถีไทย มรดกวัฒนธรรมสำคัญของชาติ


วิมลลักษณ์ ชูชาติ รองปลัดกระทรวงวัฒน ธรรม คณะอนุกรรมการฝ่ายจัดแสดงวัฒนธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยถึงรูปแบบกิจกรรมว่า การจัดงานได้ประสานบูรณาการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน โดยวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานคณะอนุกรรมการฯ ได้กำหนดแนวทางจัดงานเน้นอนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมไทย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้ ภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์และความเป็นไทย ตลอดจนเพิ่มมูลค่าและมูลค่าของมรดกทางวัฒนธรรมตามนโยบายรัฐบาล



รองปลัด วธ.กล่าวต่อว่า การแสดงทางวัฒนธรรมมีทั้งหมด 5 เวที ได้แก่ เวทีสังคีตศาลาที่กรมศิลปากรคัดสรรรายการแสดงนาฏศิลป์ไม่น้อยกว่า 17 รายการ มาโชว์บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ส่วนเวทีโรงแรมรัตนโกสินทร์ ได้สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์นำการแสดงวิถีวัฒนธรรมแต่ละภูมิภาคมาให้ชม เวทีที่สาม สี่แยกคอกวัว รับผิดชอบโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ฟากเวทีหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนินเน้นแสดงศิลปะร่วมสมัย ดนตรีสากล และเวทีลานเจษฎาบดินทร์ก็มีอีก 15 รายการขนมาให้ชื่นชม นอกจากการแสดงศิลปวัฒนธรรมแล้ว ยังนำมรดกศิลปะการป้องกันตัวอย่างมวยไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกมาโชว์ ยกเวทีมวยมาตั้งที่อนุสาวรีย์ทหารอาสา



"อีกไฮไลต์คือ กิจกรรมยลวังหน้ายามเย็น เยือนพิพิธภัณฑ์ยามค่ำ หรือไนต์ มิวเซียม ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตลอด 5 วันจะเปิดพื้นที่พิพิธภัณฑ์ให้ชมในเวลากลางคืนถึง 21.00 น. ภายในพิพิธภัณฑ์จะได้ชมนิทรรศการพิเศษ "ประวัติศาสตร์ชาติไทย" ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน และนิทรรศการพิเศษ "วิจิตรภูษาพัสตราภรณ์" ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย เป็นนิทรรศการสำคัญที่แสดงงานประณีตศิลป์บนผืนผ้า ผ้าในราชสำนัก ผ้าปักโบราณ รวมถึงฉลองพระองค์ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินี" วิมลลักษณ์กล่าว

ส่วนนิทรรศการพิเศษเรื่อง ประวัติศาสตร์ชาติไทย ร่วมถวายราชสดุดีในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา.นี้ น่าชมไม่แพ้กัน เป็นการนำโบราณวัตถุศิลปวัตถุชิ้นเยี่ยมทุกสมัยที่พบในประเทศไทยที่เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก มาจัดแสดง รวมทั้งสิ้น 111 รายการ โดยเรียงลำดับเวลาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ทวารวดี ศรีวิชัย ลพบุรี สุโขทัย อยุธยา ถึงสมัยรัตนโกสินทร์ บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และอารยธรรมอันรุ่งเรืองของประเทศ ผ่านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ โดยมุ่งเน้นถึงความงามของโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ให้ความสำคัญกับการออกแบบตู้จัดแสดง แท่น ฐาน และการจัดวางโบราณวัตถุ โดยเฉพาะการจัดแสงที่ถูกออกแบบเพื่อการจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้โดยเฉพาะ และมี Audio Guide อธิบายโบราณวัตถุชิ้นสำคัญให้บริการนักท่องเที่ยวด้วย ขอเชิญชวนประชาชนเข้าชมในช่วงเทศกาลวันพ่อ


งานถนนสายวัฒนธรรมใต้ร่มพระบารมี นอกจากกิจกรรมชมพิพิธภัณฑ์ทั้งกลางวันและกลางคืน ยังชวนชมงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน พร้อมเยี่ยมเยือนศูนย์วัฒนธรรมอาเซียน และพิเศษสุดกับการชมหอนิทรรศการรัตนโกสินทร์ ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ร่วมเปิดบริการเพื่อให้ประชาชนเข้าชมฟรี นอกจากนี้ จะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของดีบ้านฉัน จะได้ช็อป ชิมกันอย่างสนุกสนาน งานนี้ยังเน้นประชาชนร่วมแสดงความรักและความกตัญญูต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านกิจกรรมลงนามถวายพระพรและจุดเทียนชัยถวายพระพรค่ำคืนวันพ่อแห่งชาติอีกด้วย


การประดับประดาไฟ บนถนนสายวัฒนธรรมนั้น จะยังมีการเปิดให้ประชาชนได้ชมความงดงาม ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคมปีหน้า ระหว่างเวลาประมาณ 18.00 น. จนถึงเที่ยงคืน ส่วนในคืนวันที่ 5 ธันวาคม คืนวันที่ 11 ธันวาคมซึ่งมี กิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad” และคืนวันส่งท้ายปีวันที่ 31 ธันวาคม จะเปิดไฟไปจนถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่