[CR] ปักหมุด ปักษ์ใต้ : สงขลา – นราธิวาส – เบตง – สตูล – ตรัง

โหยหาการเดินทางมาเป็นปี สบโอกาสดีๆ จึงเลือกปักหมุดที่ปักษ์ใต้ กับการท่องเที่ยว 5 จังหวัด สงขลา นราธิวาส ยะลา สตูล และปิดท้ายที่ ตรัง ทริปนี้ได้พี่เพอะ พี่ร่วมสถาบันการศึกษา ที่พาผมเที่ยวแบบไม่ปริปากบ่นเลยสักคำ ไอ้เราก็ได้ที พาพี่แกแวะโน่นนี่นั่นตลอดทาง ไปดูกันครับว่า ตลอด 8 วัน ผมไปพบเจออะไรมาบ้าง
ทริปนี้ผมเลือกเดินทางโดยสายการบินนกแอร์ ไฟล์ทประมาณ 9 โมงกว่า แต่เนื่องจากตื่นเต้นที่จะได้เดินทางอีกครั้ง เลยมาถึงสนามบินดอนเมืองตั้งแต่ไก่โห่ เพราะกลัวคนเยอะครับ
กัปตันพาบินผ่านทางภาคตะวันออก มองเห็นเกาะต่างๆ หลายเกาะเลยครับ
ใช้เวลาบินประมาณ 1.30 ชั่วโมง ก็มาถึงท่าอากาศยานานาชาติหาดใหญ่โดยปลอดภัยครับ
พี่เพอะมารับที่สนามบินและพาไปเติมพลัง ก่อนที่จะพาผมตะเวนเที่ยวในสงขลา จุดหมายแรกอยู่ที่บ้านสวนพรนับพัน

บ้านสวนพรนับพัน เป็นที่พักสไตล์โฮมสเตย์ ที่รายล้อมไปด้วยไม้น้อยใหญ่ ให้ความร่มรื่น แถมยังมีลำธาร เพิ่มความสดชื่นและช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีครับ
นอกจากจะเป็นที่พักแล้ว ยังมีร้านอาหารไว้คอยให้บริการด้วย ใครที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถเข้ามาใช้บริการร้านอาหารได้ครับ
เพื่อนคนไหนกำลังมองหาที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ผมว่าที่บ้านสวนพรนับพัน เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว

จากบ้านสวนพรนับพัน ไปต่อกันที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลาครับ

มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา หรือ มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดสงขลา เป็นมัสยิดที่ดูสวยงามมากครับ ด้านหน้ามีสระน้ำที่ทอดตัวยาวกว่า 200 เมตร โครงสร้างของอาคารมีขนาดใหญ่ตามสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม ภายในตกแต่งด้วยความพิถีพิถัน ทางเดินปูด้วยหินอ่อนทุกตารางนิ้ว ผมไปถึงตอนบ่ายแล้ว ด้านนอกอากาศร้อนมากๆ แต่เมื่อได้ก้าวเข้ามาด้านในมัสยิด ให้ความรู้สึกถึงความเย็น ความสงบ จนไม่อยากไปไหนต่อเลยครับ 
ช่วงเย็นๆ ที่นี่จะสวยงามเป็นพิเศษ ยิ่งในวันที่ฟ้าเปิด พระอาทิตย์จะตกด้านหลังมัสยิด แสงสีต่างๆ จะแข่งกันอวดโฉม ได้เห็นเงาสะท้อนน้ำของมัสยิด จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่จึงได้รับฉายาว่าทัชมาฮาลเมืองไทย เสียดายที่ผมยังมีโปรแกรมในสงขลาอีกหลายที่ เลยไม่ได้อยู่รอชมแสงสุดท้ายที่มัสยิดแห่งนี้ครับ

จากนั้นผมมุ่งหน้าสู่เกาะยอ ระหว่างทางมาสะดุดตากับพระนอนองค์ใหญ่สีทอง ซึ่งประดิษฐานอยู่ข้างทาง เลยต้องให้พี่เพอะช่วยจอดแวะกันสักเล็กน้อยครับ
พระนอนแหลมพ้อ เป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่วัดแหลมพ้อ อยู่ใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ฝั่งเกาะยอครับ องค์พระนอนองค์นี้เป็นสถาปัตยกรรมใหม่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2537 ในลักษณะบรรทม ตะแครงเบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย (หมอน) พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา ส่วนของพระบาทจะมีลวดลายภาพศิลปะของภาพมงคล 108 ประการที่สวยงามครับ เพื่อนคนไหนที่มาเที่ยวเกาะยอ ผมขอแนะนำให้มาไหว้พระขอพรองค์พระนอนแหลมพ้อเพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองครับ

จากวัดแหลมพ้อ พี่เพอะพาขับรถขึ้นเขา ไปยังสำนักสงฆ์เขากุฏิ สำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดสูงสุดของเกาะยอเลยครับ ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์โบราณ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “เขากุฏิ” นั่นเอง 
องค์เจดีย์เป็นเจดีย์ทรงระฆังสีขาว ทุกๆ ปีชาวเกาะยอจะจัดบุญประเพณีแห่ผ้าขึ้นเขากุฏิเพื่อห่มองค์เจดีย์ นับเป็นประเพณีดีๆ ที่ชาวเกาะยอร่วมกันสืบสานมาจากอดีตจนถึงปัจจุบันครับ 
ด้วยที่เจดีย์โบราณตั้งอยู่บนยอดสูงสุดของเกาะยอ เวลาที่เรามองออกไปจะมองเห็นตึกรามบ้านช่องในตัวเมืองสงขลา เรียงรายไปบนแหลมที่ยื่นออกปิดกั้นทะเลไว้ ทำให้สงขลาเป็นเมืองสองทะเล คือมีอ่าวไทยเป็นทะเลนอก และทะเลสาบสงขลาเป็นทะเลใน
ชื่อสินค้า:   สงขลา นราธิวาส เบตง สตูล ตรัง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่