
"Kawah Gunung Kelud"
ชื่อของภูเขาไฟจริง ๆ คือ Kelud (อ่านว่า คลุท)
ส่วนคำว่า Kawah แปลว่า เลค Gunung คือ ภูเขา
ภูเขาไฟลูกนี้เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่เคยสร้างความเสียหายจากการปะทุได้รุนแรงที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีคนเสียชีวิตจากการปะทุอย่างน้อย 5160 คน ในปี 1919
ปัจจุบันภูเขาไฟคลุท ยังเป็นภูเขาไฟที่ปะทุอยู่และมีความสูงไม่มาก (1,731m) แถมอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง สามารถขึ้นมาได้ง่าย ภูเขาไฟลูกนี้จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นแถวนี้ (Kediri)
เมื่อก่อนที่ปากปล่องของภูเขาไฟลูกนี้สามารถลงไปเล่นน้ำได้ด้วย ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คนท้องถิ่นจึงนิยมขึ้นมาพักผ่อน เที่ยวกัน ส่วนปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นที่นิยมอยู่ในหมู่คนท้องถิ่น แต่ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้เหมือนเดิมแล้วหลังจากมีการปะทุใหญ่ปี 2014

เมื่อก่อนภูเขาไฟลูกนี้ สามารถขับรถยนต์ขึ้นไปถึงปากปล่องได้เลย จนกระทั่งปี 2014 ที่พึ่งปะทุไปล่าสุด
ทำให้ถนนเสียหายไปค่อนข้างเยอะ การขับรถจึงขึ้นไปได้ถึงแค่ช่วงนึงและต้องเดินต่อเป็นระยะทางอีก 5 กิโล ทางเดินจะค่อนข้างชัน แต่เดินบนถนนที่ทรุด ๆ ไม่ลำบากมาก
ส่วนถ้าอยากสบายกว่านั้น ก็ใช้เงินแก้ปัญหาได้ครับ นั่งมอไซค์รับจ้างเอา
ไปกลับ 150,000 IDR (ประมาณ 330 บาท) แถมใช้เวลาแค่ 20 นาที ประหยัดเวลาไปเยอะ

20 นาทีถึง… . ปากปล่อง
ระหว่างทางจะสวย ๆ หน่อย สองข้างทางจะเป็นธรรมชาติสีเขียว ๆ แต่ถ้านั่งวินจะถ่ายรูปยากนิดนึง เพราะพี่วินแกซิ่งมาก
ระหว่างทางจะมีคนเดินกับปั่นจักรยาน เยอะแยะเต็มไปหมด และก่อนถึงก็จะมีอุโมงค์ให้เรารอดเข้าไปด้วย
ปล.พี่วินจะใช้มอไซค์วิบากและขับแบบโคตรเร้าใจ แนะนำว่าให้จับแน่น ๆ แต่อย่าเกร็งเดี๋ยวตะคริวขึ้น โฟลวตามพี่แกจะสบายกว่า

ปากปล่องงงงงงงง
เมื่อก่อนตรงปากปล่องจะมีน้ำอยู่ค่อนข้างเยอะ สามารถลงไปเล่นได้ (คนท้องถิ่นบอกนะ ผมไม่ได้พูดเอง) แต่เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมาภูเขาไฟลูกนี้ปะทุหนักมาก เศษขี้เถ้าลอยไปไกลถึงกรุงจาร์กาต้าเลย แถมทำให้น้ำในปากปล่องหายไปค่อนข้างเยอะ ความเข้มข้นของซัลเฟอร์ที่ละลายอยู่ในน้ำจึงมีความเข้มข้นมากขึ้น ค่าความเข้มข้นของกรดเลยสูง ผู้คนจึงไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

มีกิมมิคเล็ก ๆ ของสถานที่มาฝากด้วย
เค้าเล่ากันว่า
เมื่อก่อนเคยมีเจ้าหญิงอาศัยอยู่ที่นี่ และเจ้าหญิงก็ถูกบิดามารดาของนางบังคับให้แต่งงานกับเจ้าชายจากอีกที่นึง เจ้าหญิงก็เลยขอให้เจ้าชายพิสูจน์ความรัก ด้วยการทำตามที่เจ้าหญิงขอให้ได้
เจ้าหญิงก็บอกให้ทำนั่นทำนี่ แล้วเจ้าชายก็ทำได้หมด จนเจ้าหญิงไม่รู้จะทำยังไง เลยสั่งให้เจ้าชายไปโดดน้ำในปล่องนี้และให้ทหารเอาหินไปปา ไม่ให้เจ้าชายกลับขึ้นมาอีก
เจ้าชายก็เลยตายอยู่ในน้ำแห่งนี้
(ไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอ็ทดิ้งแต่อย่างใด)
แต่เค้าน่าจะแต่งขึ้นมาเพื่อ อยากให้คนเคารพสถานที่หละ ใครที่ลงไปเล่นน้ำจะได้ให้เกียรติสถานที่หน่อย

น่าเสียดาย หมอกลงหนักมาก
ไม่ค่อยมีรูปดี ๆ มาชมกันสักเท่าไหร่เลย
พอดีผมมีเวลว่างแค่วันอาทิตย์วันเดียว และช่วงที่ผมมาก็ยังเป็นฤดูฝนอยู่ (ไม่แนะนำให้เที่ยวอินโดช่วงต้นปีนะครับ)
ไว้ผมมีโอกาสจะมาแก้ตัวใหม่นะ
ขอปิดท้ายด้วยสาระเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกนิดนึงละกัน

Edelweiss
ต้นนี่ ถ้าเห็นก็อย่าลืมไปถ่ายรูปด้วย เห็นคนท้องถิ่นเค้าตื่นเต้นกัน ต้นนี่เป็นต้นที่ขึ้นตามภูเขาสูง (Bromo ก็มี) เป็นพืชกระกูลเดียวกับ เดซี่ และ ทานตะวัน
คนท้องถิ่นเค้าบอกว่า ความหมายของดอกนี่คือ “Immortal Flower”
เป็นหนึ่งในพืชสงวนของประเทศอินโดนิเซีย

ก่อนขึ้นไปบนภูเขา ตรงจุดจอดรถจะมีห้องน้ำให้แวะ
เป็นห้องน้ำที่ค่อนข้างพีค บอกได้เลยว่าพีคกว่าจีนอีก ห้องน้ำจะเป็นห้องรวมไม่แบ่งเพศ ชาย-หญิง ทุกห้องจะมีลักษณะเหมือน ๆ กัน คือ มีพื้นโล่ง ๆ ถังน้ำ และรางปูนที่แชร์กันทุกห้อง
ที่น่าสงสัยก็คือ ถ้าจะถ่ายหนักเนี่ยจะต้องทำยังไงนะ ?
ยังไงก็ตาม ถ้าอยากจะลงเข้าก็เตรียมเงินไปด้วยนะ เพราะเค้าไม่ได้ให้เข้าฟรี มีค่าบริการด้วย 2000 IDR หรือประมาณ 5บาท

อาหารท้องถิ่นบน Kelud
เต้าหูทอด รสชาติจะเค็ม ๆ นิดนึง แต่ถ้าจะกินให้เข้ากันแบบคนท้องถิ่น คือต้องกินคู่กับพริก ถืออย่างละมือและกัดทีละข้าง สลับกันไป

อาหารท้องถิ่น (อินโดนีเซีย)
Lontong Sayor (เหลาตง ซาย่อ) เป็นอาหารท้องถิ่นที่มีขายเฉพาะตอนเช้า รสชาติเหมือนข้าวไข่ดาวกับน้ำแกง (คล้าย ๆ แกงเขียวหวาน)
ก้อนขาว ๆ นั่นคือข้าวนะ คนที่นี่เค้านิยมเอาข้าวมาอัดเป็นก้อน ๆ แล้วกินกัน แปลก ๆ ดี แต่ส่วนตัว ผมชินกับการกินข้าวเป็นเม็ด ๆ มากกว่า

ของฝาก
จริง ๆ ของฝากจากอินโดเป็นเรื่องที่หาค่อนข้างยากนะ
ผมมาก็หลายรอบยังไม่รู้เลยว่าจะซื้ออะไร
นอกจากกาแฟขี้ชะมดแล้ว ผมก็นึกได้แค่ผลไม้ประจำถิ่นอย่าง สละ เนี่ยหละที่รู้สึกว่ามันอร่อย
สละบ้านเค้าจะไม่เหมือนของบ้านเรา สีผิวจะเข้มกว่า ไม่มีหนาม แถมกรอบอร่อยด้วย ถ้าใครขนไหว ผมว่ามันก็เป็นของฝากที่ดีนะ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ถ้าใครสนอยากชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ของเราเพิ่มเติม ติดตามได้ที่เพจ Travel Again
https://www.facebook.com/pg/travelagainn/
กระทู้พันทิปอื่นๆ
ตารางดูดาวประจำปี 2019 :
https://ppantip.com/topic/38528864/
สามพันโบกยามค่ำคืน (Milkyway) :
https://ppantip.com/topic/38581734
ปฏิทินดาราศาสตร์ประจำปี 2019 (ตามเวลาไทย) :
https://ppantip.com/topic/38694940
เกาะแห่งยุทธศาสตร์ไต้หวัน "Kinmen" :
https://ppantip.com/topic/38694807/
ทะเลเรืองแสง ไทยแลนด์ :
https://ppantip.com/topic/38607376
เที่ยวเซี่ยงไฮ้ทำไรดี ?? กิน เที่ยว เดินทาง ครบจบในกระทู้เดียว :
https://ppantip.com/topic/38641240
เดินเก็บ Landscape ที่ สิงคโปร์ :
https://ppantip.com/topic/37855150
ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย :
https://ppantip.com/topic/37907394
ภูเขาไฟที่เคยเป็นสระน้ำของคนท้องถิ่น "Kawah Gunung Kelud"
ชื่อของภูเขาไฟจริง ๆ คือ Kelud (อ่านว่า คลุท)
ส่วนคำว่า Kawah แปลว่า เลค Gunung คือ ภูเขา
ภูเขาไฟลูกนี้เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่เคยสร้างความเสียหายจากการปะทุได้รุนแรงที่สุดในประเทศอินโดนีเซีย โดยมีคนเสียชีวิตจากการปะทุอย่างน้อย 5160 คน ในปี 1919
ปัจจุบันภูเขาไฟคลุท ยังเป็นภูเขาไฟที่ปะทุอยู่และมีความสูงไม่มาก (1,731m) แถมอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง สามารถขึ้นมาได้ง่าย ภูเขาไฟลูกนี้จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่คนท้องถิ่นแถวนี้ (Kediri)
เมื่อก่อนที่ปากปล่องของภูเขาไฟลูกนี้สามารถลงไปเล่นน้ำได้ด้วย ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์คนท้องถิ่นจึงนิยมขึ้นมาพักผ่อน เที่ยวกัน ส่วนปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นที่นิยมอยู่ในหมู่คนท้องถิ่น แต่ไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้เหมือนเดิมแล้วหลังจากมีการปะทุใหญ่ปี 2014
ทำให้ถนนเสียหายไปค่อนข้างเยอะ การขับรถจึงขึ้นไปได้ถึงแค่ช่วงนึงและต้องเดินต่อเป็นระยะทางอีก 5 กิโล ทางเดินจะค่อนข้างชัน แต่เดินบนถนนที่ทรุด ๆ ไม่ลำบากมาก
ส่วนถ้าอยากสบายกว่านั้น ก็ใช้เงินแก้ปัญหาได้ครับ นั่งมอไซค์รับจ้างเอา
ไปกลับ 150,000 IDR (ประมาณ 330 บาท) แถมใช้เวลาแค่ 20 นาที ประหยัดเวลาไปเยอะ
ระหว่างทางจะสวย ๆ หน่อย สองข้างทางจะเป็นธรรมชาติสีเขียว ๆ แต่ถ้านั่งวินจะถ่ายรูปยากนิดนึง เพราะพี่วินแกซิ่งมาก
ระหว่างทางจะมีคนเดินกับปั่นจักรยาน เยอะแยะเต็มไปหมด และก่อนถึงก็จะมีอุโมงค์ให้เรารอดเข้าไปด้วย
ปล.พี่วินจะใช้มอไซค์วิบากและขับแบบโคตรเร้าใจ แนะนำว่าให้จับแน่น ๆ แต่อย่าเกร็งเดี๋ยวตะคริวขึ้น โฟลวตามพี่แกจะสบายกว่า
เมื่อก่อนตรงปากปล่องจะมีน้ำอยู่ค่อนข้างเยอะ สามารถลงไปเล่นได้ (คนท้องถิ่นบอกนะ ผมไม่ได้พูดเอง) แต่เมื่อปี 2014 ที่ผ่านมาภูเขาไฟลูกนี้ปะทุหนักมาก เศษขี้เถ้าลอยไปไกลถึงกรุงจาร์กาต้าเลย แถมทำให้น้ำในปากปล่องหายไปค่อนข้างเยอะ ความเข้มข้นของซัลเฟอร์ที่ละลายอยู่ในน้ำจึงมีความเข้มข้นมากขึ้น ค่าความเข้มข้นของกรดเลยสูง ผู้คนจึงไม่สามารถลงไปเล่นน้ำได้เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว
เค้าเล่ากันว่า
เมื่อก่อนเคยมีเจ้าหญิงอาศัยอยู่ที่นี่ และเจ้าหญิงก็ถูกบิดามารดาของนางบังคับให้แต่งงานกับเจ้าชายจากอีกที่นึง เจ้าหญิงก็เลยขอให้เจ้าชายพิสูจน์ความรัก ด้วยการทำตามที่เจ้าหญิงขอให้ได้
เจ้าหญิงก็บอกให้ทำนั่นทำนี่ แล้วเจ้าชายก็ทำได้หมด จนเจ้าหญิงไม่รู้จะทำยังไง เลยสั่งให้เจ้าชายไปโดดน้ำในปล่องนี้และให้ทหารเอาหินไปปา ไม่ให้เจ้าชายกลับขึ้นมาอีก
เจ้าชายก็เลยตายอยู่ในน้ำแห่งนี้
(ไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอ็ทดิ้งแต่อย่างใด)
แต่เค้าน่าจะแต่งขึ้นมาเพื่อ อยากให้คนเคารพสถานที่หละ ใครที่ลงไปเล่นน้ำจะได้ให้เกียรติสถานที่หน่อย
ไม่ค่อยมีรูปดี ๆ มาชมกันสักเท่าไหร่เลย
พอดีผมมีเวลว่างแค่วันอาทิตย์วันเดียว และช่วงที่ผมมาก็ยังเป็นฤดูฝนอยู่ (ไม่แนะนำให้เที่ยวอินโดช่วงต้นปีนะครับ)
ไว้ผมมีโอกาสจะมาแก้ตัวใหม่นะ
ขอปิดท้ายด้วยสาระเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกนิดนึงละกัน
ต้นนี่ ถ้าเห็นก็อย่าลืมไปถ่ายรูปด้วย เห็นคนท้องถิ่นเค้าตื่นเต้นกัน ต้นนี่เป็นต้นที่ขึ้นตามภูเขาสูง (Bromo ก็มี) เป็นพืชกระกูลเดียวกับ เดซี่ และ ทานตะวัน
คนท้องถิ่นเค้าบอกว่า ความหมายของดอกนี่คือ “Immortal Flower”
เป็นหนึ่งในพืชสงวนของประเทศอินโดนิเซีย
เป็นห้องน้ำที่ค่อนข้างพีค บอกได้เลยว่าพีคกว่าจีนอีก ห้องน้ำจะเป็นห้องรวมไม่แบ่งเพศ ชาย-หญิง ทุกห้องจะมีลักษณะเหมือน ๆ กัน คือ มีพื้นโล่ง ๆ ถังน้ำ และรางปูนที่แชร์กันทุกห้อง
ที่น่าสงสัยก็คือ ถ้าจะถ่ายหนักเนี่ยจะต้องทำยังไงนะ ?
ยังไงก็ตาม ถ้าอยากจะลงเข้าก็เตรียมเงินไปด้วยนะ เพราะเค้าไม่ได้ให้เข้าฟรี มีค่าบริการด้วย 2000 IDR หรือประมาณ 5บาท
เต้าหูทอด รสชาติจะเค็ม ๆ นิดนึง แต่ถ้าจะกินให้เข้ากันแบบคนท้องถิ่น คือต้องกินคู่กับพริก ถืออย่างละมือและกัดทีละข้าง สลับกันไป
Lontong Sayor (เหลาตง ซาย่อ) เป็นอาหารท้องถิ่นที่มีขายเฉพาะตอนเช้า รสชาติเหมือนข้าวไข่ดาวกับน้ำแกง (คล้าย ๆ แกงเขียวหวาน)
ก้อนขาว ๆ นั่นคือข้าวนะ คนที่นี่เค้านิยมเอาข้าวมาอัดเป็นก้อน ๆ แล้วกินกัน แปลก ๆ ดี แต่ส่วนตัว ผมชินกับการกินข้าวเป็นเม็ด ๆ มากกว่า
จริง ๆ ของฝากจากอินโดเป็นเรื่องที่หาค่อนข้างยากนะ
ผมมาก็หลายรอบยังไม่รู้เลยว่าจะซื้ออะไร
นอกจากกาแฟขี้ชะมดแล้ว ผมก็นึกได้แค่ผลไม้ประจำถิ่นอย่าง สละ เนี่ยหละที่รู้สึกว่ามันอร่อย
สละบ้านเค้าจะไม่เหมือนของบ้านเรา สีผิวจะเข้มกว่า ไม่มีหนาม แถมกรอบอร่อยด้วย ถ้าใครขนไหว ผมว่ามันก็เป็นของฝากที่ดีนะ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ถ้าใครสนอยากชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ของเราเพิ่มเติม ติดตามได้ที่เพจ Travel Again
https://www.facebook.com/pg/travelagainn/
กระทู้พันทิปอื่นๆ
ตารางดูดาวประจำปี 2019 : https://ppantip.com/topic/38528864/
สามพันโบกยามค่ำคืน (Milkyway) : https://ppantip.com/topic/38581734
ปฏิทินดาราศาสตร์ประจำปี 2019 (ตามเวลาไทย) : https://ppantip.com/topic/38694940
เกาะแห่งยุทธศาสตร์ไต้หวัน "Kinmen" : https://ppantip.com/topic/38694807/
ทะเลเรืองแสง ไทยแลนด์ : https://ppantip.com/topic/38607376
เที่ยวเซี่ยงไฮ้ทำไรดี ?? กิน เที่ยว เดินทาง ครบจบในกระทู้เดียว : https://ppantip.com/topic/38641240
เดินเก็บ Landscape ที่ สิงคโปร์ : https://ppantip.com/topic/37855150
ทะเลหมอก ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย : https://ppantip.com/topic/37907394