สิงคโปร์จะมีน้ำจืดเป็นของตัวเองแล้วนะ รู้ยัง.. .​ ?


Hi Singapore !

วันนี้ผมจะพาทุกคนเที่ยวสิงคโปร์แบบมีสาระ

แล้วสาระแรกเลยก็คือ น้ำจืดในสิงคโปร์ ..? (สิงคโปร์เนี่ยนะมีน้ำจืด ?)
ใช่เหรอออ ?? …. . เออสิ

จากที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าสิงคโปร์ไม่มีน้ำจืดเป็นของตัวเอง ต้องนำเข้าจากมาเลเซีย ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำเปล่าที่นี่แพงมากและก็เป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ค่าครองชีพของประเทศสูงด้วย

โปรเจ็คผลิตน้ำจืดด้วยตัวเองจึงเกิดขึ้น

..

ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ค่อนข้างเล็ก สถานที่ที่สามารถจุปริมาณน้ำมหาศาลได้ ก็คงจะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจากอ่าวที่ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยแลนด์มาร์คต่างๆ ของประเทศ

ใช่แล้วสถานที่นี่ก็ไม่ใช่ที่อื่นใดนอกจาก

Marina Bay !!

อ่าวที่ทุกคนต้องไปเหยียบ ไม่อย่างงั้นจะถือว่ามาไม่ถึงสิงคโปร์ อ่าวที่โด่งดังนี้ จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า มันมีความสำคัญกับประเทศสิงคโปร์มาก เพราะในอนาคตอ่าวนี้ทั้งอ่าวจะเปล่ี่ยนสภาพจากน้ำทะเลเค็มๆ กลายเป็นน้ำจืดปริมาณมหาศาล

ซึ่งแนวคิดของโปรเจ็ค ก็เป็นหลักการง่ายๆ ที่เราคิดไมาถึง หรือไม่คิดว่าจะสามารถเอามาทำได้จริงๆ คนสิงคโปร์เค้ามองว่าประเทศเค้าตั้งอยู่ในเขตชุ่นชื้น ฝนตกเกือบตลอดทั้งปี ถ้าเค้าก็สร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลไว้และปล่อยให้ฝนตกทับไปน้ำทะเลในอ่าวนั้นไปเรื่อยๆ วันนึงความเค็มในอ่าวนั้นก็จะเจือจางมากพอจนกลายเป็นน้ำจืดไปเอง

และเขื่อนสำคัญที่กั้นอ่าวนี้ จริงๆแล้ว บางคนก็อยากจะเคยไปถ่ายรูปเล่นด้วย มันคือเขือนที่ตั้งอยู่ระหว่าง Garden by The Bay ฝั่ง South กับ East  ชื่อของเขื่อนก็คือ Marina Barrage



และเดี๋ยวผมจะพาเที่ยวรอบๆอ่าวมาริน่าเบย์กันต่อเลยแล้วกันนะครับ


First Thing First : Panorama

หลังจาก Boeing 787 ดรีมไลน์แตะพื้นสนามบิน Changi ผมก็รีบนั่งรถไฟตรงดริ่งมาที่ Marina Bay เลย
มาเก็บวิวพาโนราม่ากับแสงไฟสวยๆ ของ Marina Bay Sand และตึกย่าน Raffles Place


Esplanade Outdoor Theatre

ตั้งอยู่ด้านหลังของ โรงละคร Esplanade (ตึกทุเรียน)
เป็นโดมที่มีไว้ใช้จัดอีเว็นต์หรือโชว์ต่างๆ
แถมยังเป็นสถาที่ที่คู่รักชอบมานั่งสวีทริมน้ำมองวิวตึกย่าน Raffles สะท้อนน้ำไปเพลินๆ

ด้านหลังโดมจะมีเต็นท์อาหารและแอลกอฮอลขายยันเที่ยงคืนเลย ใครเป็นสายชิวก็เดินไปซื้อสตรีทฟู้ตมานั่งกินริมน้ำได้เลยนะครับ แต่กินแล้วก็อย่าลืมเก็บไปทิ้งด้วยหละที่นี่กฏหมายเค้าแรงอยู่นะ ไม่เหมือนบ้านเรา


เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเจอ สะพาน Jubilee Bridge

เป็นสะพานเชื่อม โรงละคร Esplanade และสวน Merlion Park มีไว้สำหรับคนเดินและปั่นจักรยาน
สะพานนี้พึ่งถูกสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน ไม่ถึง 3 ปีดีเลย เมื่อก่อนจะมีแค่สะพานรถข้ามเท่านั้น


วิวจากสะพาน  Jubilee Bridge

มองตรงไปจะเห็นแลนมาร์คของอ่าวมาริน่าเบย์ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้นิดๆ
ที่ประกอบไปด้วยMarina Bay Sand, ArtScience Museum, สะพาน Helix และ Singapore Flyer


ส่วนถ้าใครสายถ่ายรูปชิคๆ ก็ลุยเลย ถ่ายรูปกับวิวตึกด้านหลังแบบคูลๆ (แอบเห็น Merlion สัญลักษณ์ประจำประเทศด้วย)


ทางเดินสู่ Merlion Park สัญลักษณ์แห่งสิงคโปร์
เสร็จจากที่นี่ก็ขอตัวเดินกลับไปนอนที่โฮสเทลย่าน Chinatown ก่อนนะ


เช้าวันแรก
ตี 5 แหกขี้ตาตื่นมาเดินเล่นรอบอ่าวต่อ

วิวตึก CBD (Central Business District) สะท้อนน้ำ
ตึกเหล่านี้มีความสำคัญต่อคนสิงคโปร์มาก เพราะสิงคโปร์โด่งดังเรื่องการเงินมาก และที่นี่ก็ประกอบไปด้วยธนาคารใหญ่ๆของโลกทั้งนั้น ที่นี่เลยเปรียบเสมือนหัวใจของสิงคโปร์หรือที่นักธุรกิจหลายคนเรียกว่า ธนาคารโลกก็ว่าได้

คนท้องถิ่นมักเรียกที่นี่ว่า Raffles Place

วิวนี้มายืนดูได้จาก โป๊ะหลังช็อป Louis Vuitton 

ปล.เค้าเคลมว่าเค้าเป็น ช็อปหลุยที่ใหญ่อันดับสองของโลกรองจาก Paris เลยนะ


แสงแรกของวัน กับธนาคารโลก

โดยปกติแล้วเวลาไปเที่ยวผมจะเป็นคนชอบตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นมาก แต่ผมจะเน้นเที่ยวธรรมชาติเป็นหลัก มานั่งดูวิวพระอาทิตย์ขึ้นกับตึกสูงๆ ก็ได้อีกอารมณ์นึงดีนะ ถึงแม้จะไม่สดชื่นเท่าธรรมชาติ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถมนุษย์ที่สร้างสิ่งต่างๆ ขึ้นมาได้


สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย

รอบๆ อ่าวมาริน่าเบย์ช่วงเช้าก็อากาศดีทีเดียวเลย ถ้าใครไม่มีปัญหากับการตื่นเช้าก็ออกมาเดินเล่น วิ่งเล่นได้เลย คนท้องถิ่นเค้าก็มาวิ่ง เดินฟังเพลง หรือแม้กระทั่งนอนเล่นโทรศัพท์เก้าอี้ชิวๆ ก็มีนะ


Helix Bridge (เมื่อก่อนชื่อ Double Helix)

เป็นสะพานที่มีคอนเซ็ทดีไซน์เป็น DNA มนุษย์ที่มีลักษณะเป็นเกลียวสองเส้นพันกัน
กลางคืนเค้าจะเปิดไฟสีต่างๆ ระยิบระยับตามข้อต่อของโครงสร้างด้วย


ด้านในโครงสร้างของสะพาน DNA มนุษย์
ผมชอบไอเดียการตกแต่งแบบ DNA มนุษย์ (เกลียวคู่พันกัน) ของเค้านะครับ
เพราะนอกจากจะทำให้สะพานมีที่มาที่ไปแล้ว เค้ายังใช้วัสดุการตกแต่งที่ไม่เปลืองอีกด้วย
เค้าใช้เล็กเส้น 2 คู่เลื่อยเป็นเกลียวตามลักษณะ DNA และใช้เหล็กเส้นเล็กๆ ยึดกันเพื่อสร้างความแข็งแรงแถมยังทำให้หน้าตาเหมือน nucleotides อีกด้วย ส่วนการเสริมความยืดหยุนและความปลอดภัย เค้าก็ใช้แค่สลิงดึงเกลียวคู่นี้ไว้ด้วยกันเท่านั้นเอง

เป็นการดีไซน์ที่น่าชื่นชมมาก ผมนี่เดินมองไม่หยุดเลย 😂


The Shoppes

ไม่ใช่ร้านขายของออนไลน์นะ ถึงจะอ่านออกเสียงเหมือนกันก็เถอะ มันสะกดไม่เหมือนกันนะ อันนั้นมันเขียนแบบนี้ Shopee เอาเถอะ ทั้งคู่ก็มีหน้าที่เหมือนๆกัน คือตามชื่อเลย ช้อป เป็นสถานที่ช้อปด้วยกันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นโลกออนไลน์หรือหน้าร้านก็ตาม

ส่วนที่แตกต่างกันของที่นี่ก็คือ ที่นี่เน้นขายแต่ของหรูๆ เป็นห้างหรูที่สุดของสิงคโปร์ก็ว่าได้ แถมที่นี่ยังไม่ได้มีแค่เรื่องช้อปปิ้งให้เสียเงินด้วยนะ เพราะที่นี่มี Casino ให้เข้าไปลืมวันลืมเดือนกันอีกด้วย แต่ถ้าเสียตังไปกับการช้อปปิ้งจนไม่มีเหลือจะลุยต่อกับ Casino แล้วก็ยังสามารถเข้าไปเดินเนียนๆ ดื่มโค้กฟรีแล้วออกมาได้อีกเช่นกัน (อันนี้พี่ที่ทำงานอยู่ที่นู้นเค้าแนะนำมาอีกที ผมไม่เคยลองเหมือนกันนะ)

ปล.จะเข้า Casino ต้องอายุ 21 ปีขึ้นไปนะ


ArtScience Museum

พิพิธพันธ์ทรงกลม หน้าตาประหลาดๆ


ตามสาระเลยก็คือ ที่นี่ได้คอนเซ็ปดีไซน์มาจากนิ้วมือสิบนิ้วบนดอกบัว
ซึ่งกลมๆ ข้างล่างคือ ฐานดอกบัวและประกอบด้วยสิบนิ้วมือที่ปลาย แต่ละปลายนิ้วก็จะถูกตกแต่งโดยกระจกเพื่อให้แต่ละห้องการแสดงได้รับจากแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่

ส่วนในตัวนิทรรศการ ที่นี่ก็โดดเด่นไม่แพ้รูปร่างพิพิธพันธ์เลย เค้าขึ้นชื่อว่าเป็น Future world กันเลยทีเดียว เพราะงานแสดงที่นี่มักจะให้ผู้ชมเข้าไปเล่นหรือมีส่วนร่วมกับสถานที่ได้จริงๆ และเครดิตคนจัดมาจากกลุ่มศิลปินที่มีชื่อเสียงอย่าง teamlab จากญี่ปุ่น

ที่นี่เปิดทำการ 10.00-19.00 โดยรอบสุดท้ายคือ18.00


The Garden by The Bay

เนื่องจากประเทศนี้เป็นประเทศที่มีพื้นที่ค่อนข้างน้อยจึงมีทรัพยากรธรรมชาติที่ค่อนข้างจำกัด
การแก้ปัญหาก็เลยเกิดขึ้นโดยการสร้างมันขึ้นมาทดแทนซะเลยนี่

Garden by the bay จะประกอบไปด้วยสวนใหญ่ๆ สามฝั่งคือ สวนฝั่ง East และ Central ที่เป็นสวนชิวๆ ไว้นั่งเล่น เดินเล่น และถ่ายรูปเล่น ซึ่งสองสวนนี้จะถูกแบ่งด้วยเขื่อน Marina Barrage และส่วนสวนสุดท้ายคือสวนฝั่ง South เป็นสวนที่มีความสำคัญที่สุด เพราะทุกคนที่มาสิงคโปร์ต่างต้องมาเยือน สวนนี้เป็นสวนที่ประกอบไปด้วย โดมดอกไม้นานาพันธุ์ (Flower Dome) โดมป่าฝนที่ประกอบไปด้วยน้ำตกสูง 35เมตร (Cloud Forest Dome) และต้นไม้ยักษ์ประดับไฟ (The SuperTrees Grove)

นอกจากนี้ สวนฝั่ง South ยังถูกประดับไปด้วยรางวัลดังๆ ของโลกเรื่องการออบแบบอีกด้วย


The SuperTrees Light Show

นอกจากที่จะต้องเสียตังเข้าไปเดินเล่นในโดมสองอันกับทางเดินลอยไม้ของ Supertreesแล้ว

ที่นี่ก็ยังมีการแสดงโชว์แสงไฟของ Supertreesให้ชมฟรีอีกด้วยนะ

การแสดงจะมีทุกวัน วันละสองรอบ : 19:45 และ 20:45
ส่วนจะดูจากตรงไหนนั้น เลือกได้ตามสบายเลย จะในสวนมองขึ้น ทางเดินลอยฟ้าใกล้ๆ หรือจะดูภาพรวมๆ ไกลๆ หน่อยแบบผมก็แล้วแต่เลยครับ


Elgin Bridge

สะพานสีรุ้งที่เชื่อมถนนฝั่ง South และ NorthBridge Roads
สะพานนี้เคยเป็นสะพานไม้มาก่อนแต่ปัจจุบันได้ถูกปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นสะพานเหล็กแล้ว


Old Hill Street Police Station

ตามชื่อเลยก็คือ สถานีตำรวจเก่าบนถนน Hill Streetส่วนปัจจุบันถูกใช้เป็น Ministry of Communications andInformation และ Ministry of Culture, Community and Youth หรือถ้าเป็นบ้านเราก็คือ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ กระทรวงวัฒนธรรม

ในส่วนของความยูนีคของที่นี่ก็คือ ตึกประกอบไปด้วยหน้าต่าง 927 บานหลากสี

และสำหรับสายกิน แถวนี่มีร้านบักกุ๊ดเต๋แบบเด็ด แนะนำว่าต้องมาโดนร้านชื่อ Song Fa Bak Kun Teh เดินข้ามสะพานไปก็เจอเลย


Clarke Quay

เป็นที่ที่เหมาะสำหรับสายเที่ยวกลางคืนเลย เพราะที่นี่ืคือย่าน Nightlife ที่มีช้อยให้เลือกมากมายตั้งแต่ดริ้งชิวๆริมน้ำ หรือจะดริ้งไปนั่งเรือชมบรรยกาศรอบๆ อ่าวมาริน่าเบย์ไปด้วยก็ได้ แม้กระทั่งเที่ยวหนักๆ แบบผับเลยก็ยังมี

ส่วนคนที่ดื่มมาเยอะ แน่นท้อง อยากเอาออกซะหน่อย ที่นี่ก็มี Reverse Bungee ไว้เป็นช้อยให้พิจรณาได้ด้วยนะ 😂


Traditional Bumboat

สำหรับใครที่เลือกนั่งเรือ ก็ได้อารมณ์ประมาณนี้เรือจะเป็นเรือแบบดั้งเดิมของที่นี่ (Traditional Bumboat)
ส่วนจะนั่งแบบไหนนั้น ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายแบบเลย

River Cruise : นั่งเป็นทริปๆ คิดเป็นหัว
River Taxi : นั่งแบบเรือด่วนบ้านเรา ลงเป็นท่าๆ ไป
Boat Charter : เหมามันทั้งรับ พร้อมกับ 1 กัปตัน1 ลูกเรือ


Victoria Theatre

หน้าที่หลักๆ ของอีตึกนี้ก็คือ Performing Arts Centre หรือสถานที่ไว้โชศิลปะการแสดง เช่น ออร์เคสตรา หรือ ละครเวที ส่วนชื่อก็ถูกตั้งตามจุดประสงค์ของผู้สร้างเลย คือสร้างไว้เพื่อละลึกถึง QueenVictoria และตึกโซนใกล้ๆกันก็จะมี National Gallery Singapore The Arts House และ Asian Civilisations Museum (ACM) ให้เข้าไปเดินชมได้อีกด้วย


(ต่อในคอมเม้น)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่