เมื่อหายร้อนแล้วก็เดินกลับมาทางตึก Esplanade เพื่อเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งนึงของ Marina Bay (ฝั่งสะพาน Helix)
เดินเข้ามาทางสะพาน Helix ก็จะเข้าสู่ห้าง Marina Bay Sands ครับ
ซึ่งจากห้างนี้สามารถเดินไป Garden By the Bay ได้โดยเดินตามป้ายบอกทางได้ง่ายมากครับ
และสามารถใช้ตั๋วที่ซื้อเมื่อวานที่ไชน่าทาวน์เข้าได้เลย อาจเสียค่ารถรับส่งจากหน้าประตูเข้าสู่ด้านใน 3 SGD ครับ
โดยในสวนนี้จะมีโดมแบ่งเป็น 2 โดมหลักๆ คือ Flower Dome และ Cloud Dome ครับ
เราไปเริ่มกันที่ Flower Dome กันก่อนนะครับ
[CR] Mini Guide to Singapore: เที่ยว กิน ถ่ายรูป กับประเทศสิงคโปร์ [Part II]
สำหรับโปรแกรมวันนี้นั้น ผมจะวางไว้รอบๆ Marina Bay และ สวน Garden By the Bay ครับผม
แรกเริ่มนั้นตื่นเช้ามาเตรียมตัวให้เรียบร้อย เตรียมออกหาอาหารเช้า
โดยผมเลือกร้าน Toast Box ร้านโปรดของผม (มีสาขามากมายทั่วสิงคโปร์) ที่ห้าง City Square Mall ใกล้ๆที่พักครับ
เมื่อทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็ดำเนินแผนการเที่ยวต่อได้เลยครับ
เริ่มจากการไปชม น้ำพุแห่งโชคลาภ (Fountain of Wealth)
โดยนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Promenade ทางออก C แล้วเดินมาตามตึก Suntec City Mall เลียบด้านขวา จะเจอกับวงเวียนขนาดใหญ่ครับ
เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆก็จะพบกับน้ำพุแห่งโชคลาภครับ
และข้างๆจะมีทางลงไปข้างล่างเพื่อเข้าใกล้มากขึ้น
มีความเชื่อว่าควรเดินวนรอบน้ำพุ 3 รอบ แล้วอธิฐาน แล้วจะมีโชคดีเข้ามาครับ
จากนั้นเดินกลับมาบริเวณหน้าทางออกรถไฟฟ้า Promenade แล้วเดินข้ามถนน Raffle Boulevard และ Raffle Avenue
จะพบกับตึกทุเรียน (Esplanade) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของสิงคโปร์ครับ
เดินเลียบมาเรื่อยๆจะพบกับเวิ้งอ่าว Marina Bay ครับ
และสามารถเห็น Merlion Park อยู่ไกลๆ แต่ก็สามารถเดินได้ครับ ร้อนมากครับช่วงนั้น TT
อาจรอจังหวะครับ ถ้าทัวร์ลงจะลงพร้อมๆกัน ถ้าหายไปก็จะหายไปพร้อมๆกัน
เดินลอดใต้สะพานมาก็จะเจอกับร้านอาหาร ร้านกาแฟครับ สามารถแวะหลบแดดก่อนได้
เมื่อหายร้อนแล้วก็เดินกลับมาทางตึก Esplanade เพื่อเดินอ้อมไปยังอีกฝั่งนึงของ Marina Bay (ฝั่งสะพาน Helix)
เดินเข้ามาทางสะพาน Helix ก็จะเข้าสู่ห้าง Marina Bay Sands ครับ
ซึ่งจากห้างนี้สามารถเดินไป Garden By the Bay ได้โดยเดินตามป้ายบอกทางได้ง่ายมากครับ
และสามารถใช้ตั๋วที่ซื้อเมื่อวานที่ไชน่าทาวน์เข้าได้เลย อาจเสียค่ารถรับส่งจากหน้าประตูเข้าสู่ด้านใน 3 SGD ครับ
โดยในสวนนี้จะมีโดมแบ่งเป็น 2 โดมหลักๆ คือ Flower Dome และ Cloud Dome ครับ
เราไปเริ่มกันที่ Flower Dome กันก่อนนะครับ
โดยภายในจะมีการจัดสวนดอกไม้สไตล์ยุโรปเป็นส่วนใหญ่ พรรณไม้ด้านในเป็นพรรณไม้ในเขตอบอุ่น (Temperate zone)
และพรรณไม้ทนแล้งตามทะเลทราย อากาศภายในจัดว่าหนาวมากครับ และโชคดีคือช่วงที่ผมไปจะตรงกับเทศกาลทิวลิปครับ
เมื่อเดินเที่ยวใน Flower Dome จนทั่วแล้วผมก็ข้ามไปยัง Cloud Dome ครับ
ภายในจะเป็นป่าแนวป่าฝนเขตร้อน (Tropical Rain Forest) มีน้ำตก มีไอน้ำ มีพรรณพืชหลากหลาย
โดยเด่นๆจะเป็น พืชกลุ่มกินแมลง พืชสกุลบีโกเนีย และพืชในกลุ่มบอนสีครับ
ออกมาจาก Dome ก็เริ่มเย็นแล้วครับ รอต่ออีกหน่อยก็จะมีการแสดงแสงไฟบริเวณต้นไม้ (เห็ด) รอบๆสวน
ก็เดินเล่นรอครับ
เริ่มเปิดไฟแล้วครับ
การแสดงก็เริ่มขึ้นแล้ว ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการเล่นแสงไฟและดนตรี
เมื่อชมเสร็จแล้วก็เดินกลับไปยัง Merlion Park พร้อมกับเก็บภาพสวยๆมาใส่กล้องได้เลยครับ
บริเวณโรงแรมเรือก็จะมีการเล่นแสงสีและดนตรีเช่นกันครับ
จากนั้นเดินข้ามถนนจาก Merlion Park จะเจอกับทางเดินริมแม่น้ำสิงคโปร์เข้าสู่ย่าน Boat Quay
เป็นย่านบาร์ฝรั่ง มีอาหารขายมากมาย และผมก็จัดเบียร์สด Hoegaarden ไปหนึ่งแก้วแล้วครับ
เดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆจะเข้าสู่ย่าน Clarke Quay ซึ่งจะมีสถานีรถไฟฟ้าอยู่สามารถขึ้นกลับที่พักได้ครับ
จากนั้นก็กลับที่พัก อาบน้ำพักผ่อน นอน ครับ เดินมาทั้งวัน เมื่อยขามากครับ
ต่ออีกวันเลยแล้วกันนะครับ
วันนี้ผมจะให้เป็น Free Day ไม่ทำอะไรครับ
เพียงแค่เดินเล่นที่ถนน Orchards และเก็บของที่อยากซื้อบริเวณ China Town
วิธีการมาถนน Orchards ก็เพียงนั่งรถไฟฟ้าลงสถานี Orchards ได้เลยครับ
เวลากำหนดกลับหาดใหญ่คือ 5 โมงเย็น รถจะออกจากหน้าตึก Golden Mile ไปยังหาดใหญ่ครับ
เวลา 3 โมงครึ่งก็เริ่มเตรียมตัวและนั่งรถไฟฟ้ากลับไปยัง สถานี Nicoll Highway สถานีเดียวกับขามา
แล้วก็ขึ้นรถกลับบ้าน ถึงหาดใหญ่ตอนเช้าประมาณ 8 โมง ครับ
ปิดทริปครับ
ขอบคุณสำหรับการติดตามจนจบ
หวังว่ารีวิวนี้จะสามารถแนะนำการเที่ยวประเทศสิงคโปร์ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ
ผมไม่ได้ใส่รายละเอียดราคาอาหาร ที่พัก ค่าซื้อของเข้าไปมากเท่าไหร่
เพราะราคาสิ่งเหล่านี้ขึ้นกับแต่ละคนครับ
ปีหน้าผมจะได้ไปที่ไหน เดี๋ยวไว้จะมาแชร์ให้อ่านอีกนะครับ
..ขอบคุณครับ..
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น