อาหารจีนตำรับเสฉวน "เป็นอาหารจีนที่ใช้เครื่องเทศและของป่ามาก เครื่องปรุงที่เป็นเอกลักษณ์คือพริกหอมหรือพริกเสฉวน เป็นอาหารรสจัดรวมทั้งรสเผ็ดร้อน ใช้เต้าซี่เป็นเครื่องปรุงมีเครื่องเทศมาก อาหารที่มีชื่อเสียงคือซุปเสฉวน" เป็นข้อมูลจาก Wikipedia โดยร้านวันนี้ที่ผมจะพามาทานเป็นร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวนแท้ๆ เพราะเจ้าของเป็นคนจีนครับ แม้แต่ใบเสร็จที่ร้านใช้ก็เป็นภาษาจีน มั่นใจได้เลยว่ารสชาติแบบต้นตำรับแน่นอน ปกติที่บ้านมักจะทานเป็นประจำจนทางร้านให้บัตรสมาชิกลด 10% มาใช้สำหรับทานครั้งถัดไปแล้ว (ปกติต้องทานให้ครบ 8,000 บาท ถึงจะได้บัตรนี้) เพราะคุณแม่เรียกร้องมาทานบ่อยมาก จนเด็กเสิร์ฟที่ร้านจำหน้าได้แล้ว ทานมาหลายครั้งจนมั่นใจว่าร้านนี้อร่อยมาก วันนี้เลยถือโอกาสเอารูปใน Stock มาเขียนรีวิวให้ทุกคนได้ชมกันครับบรรยากาศภายในร้านจะชวนงงๆหน่อย เปิดประตูเข้ามาก็จะพบกับฉากถ่ายรูปสีเขียวขนาดใหญ่ เก้าอี้ในร้านเป็นสีเขียวเข้มสไตล์ยุโรป ส่วนเก้าอี้เล็กเป็นลายสกรีนสารพัดสัตว์ เป็นร้านอาหารจีนที่พยายามที่ตกแต่งให้เป็นสไตล์ยุโรป (ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่) ร้านมี 2 ชั้นครับ โดยถ้าคนเยอะมากเขาจะเปิดชั้น 2 เพิ่มเติม แต่เท่าที่ดูด้วยสายตาแล้วจะมากันเยอะแค่ไหนทางร้านก็มีโต๊ะรองรับทุกรูปแบบเลย ร้านอาหารจีนทองฟูแยกโซนการนั่งเป็น 2 ส่วนคือลูกค้าที่ทาน A La Carte และ Buffet โดยรีวิวนี้จะมีครบทั้ง 2 ส่วน ขอเริ่มจาก A La Carte ก่อนนะครับ
เมนูอาหารที่ร้านมีเยอะมาก ! เมนูทั้งหมด 32 หน้า ปัจจุบันมีการเพิ่มเมนูอาหารกวางตุ้งเข้ามาเพิ่มเติมสำหรับคนที่ทานไม่เผ็ดด้วยนะครับ ถ้าอยากทานของอร่อยเลือกเมนูที่เป็นนิ้วโป้งก็ได้ครับ เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน แต่ในฐานะที่ผมมาบ่อยเมนูที่แนะนำให้สั่งคือ เข่าหยกหมูสามชั้น มะเขืออบ เต้าหู้น้ำแดงรสเผ็ด มะเขือเปรี้ยวหวาน ต้มเผ็ดปลา ไก่เรียกน้ำย่อย เต้าหู้ไข่เยี่ยวม้า หูหมูยำเผ็ด ยำแมงกะพรุน หมูสามชั้นจิ้มกระเทียม เกี๊ยวไส้หมูผักกาดขาวทอด เนื้อผัดก๋วยเตี๋ยวจีน ข้าวผัดกุ้ง ประมาณนี้นะครับที่บ้านผมจะสั่งบ่อย ยังไม่เจอเมนูที่ไม่อร่อยเลย
เมื่อเราสั่งอาหารจานแรกไปแล้ว ที่ร้านจะมี Service เล็กๆน้อยๆ คือถั่วลิสงทอด ผักดอง และซุปไก่ นำมาเสิร์ฟให้ฟรี โดยผักดองกับซุปสามารถขอเพิ่มได้ แต่ถั่วทอดจะได้แค่จานเดียวเท่านั้นนะครับ ถั่วรสชาติมันๆเค็มๆทานได้เพลินๆระหว่างรออาหารมา ผักดองคล้ายกับผักดองเกาหลีรสเปรี้ยว หวาน เย็น กรอบ ส่วนซุปไก่ที่ให้มาค่อนข้าางจืด มีกลิ่นหอมไก่บางๆ เอาไว้ทานเคียงล้างปากเฉยๆครับ ส่วนน้ำดื่มที่นี่เป็นแบบรีฟิลเลือกได้ 2 เมนู คือเก็กฮวย กับชามะลิ รสชาติเข้มข้น เลือกได้ด้วยว่าจะทานหวานหรือไม่หวาน ถ้าเลือกแบบหวานทางร้านจะทำให้รสชาติหวานอ่อนๆทานสบายครับ ที่สำคัญเติมให้เรื่อยๆและเติมถี่มาก น้องที่ร้านบริการดีน่ารักทุกคนครับ
เมนูจานแรก "เต้าหู้น้ำแดงรสเผ็ด" ถ้าอยากทานแบบเผ็ดจริงๆจานนี้ต้องเน้นย้ำน้องคนที่รับออเดอร์ด้วยนะครับ ว่าขอเผ็ดๆ แล้วจะรสชาติอร่อย เต้าหู้เนื้อเนียนหอมทานกับซอสน้ำแดงรสเผ็ด เค็ม หอมเครื่องสมุนไพรแบบจีนอ่อนๆในปาก ได้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ บอกเลยครับว่าดีงามมาก ! จานนี้เป็น 1 ในเมนูประจำที่ร้านผมสั่งบ่อยๆ ราคาก็ไม่แพง 155 บาทเอง จานที่เสิร์ฟให้ค่อนข้างใหญ่ คุ้มราคาอยู่ครับ
เมนูต่อมาเป็น"หมูสามชั้นจิ้มกระเทียม" ราคา 240 บาท เป็นหนึ่งในเมนูแนะนำของทางร้าน หมูสามชั้นต้ม นำมาพันกับผักดองรสหวานเปรี้ยว และแตงกว่ากรอบๆ ทานกับซอสกระเทียมแบบจีน ที่มีความเค็ม ฉุนกระเทียมอ่อนๆ เคี้ยวทีได้หลายสัมผัสในปาก ทั้งความนุ่มของหมูสามชั้น ความกรอบของผัก และกระเทียมสดที่ถูกผสมลงไปในซอส ทานกับข้าวสวยก็เข้ากันไปอีกแบบ สมกับเป็นเมนูแนะนำของทางร้านจริงๆครับ
เมนูนี้สะใจคนชอบทานเผ็ดแบบครอบครัวผมมากๆครับ "ต้มเผ็ดปลา" ใส่ปลากระพงลงไปทั้งตัว หม้อใหญ่ขนาดนี้ราคา 550 บาท ผมสั่งเป็นแบบเผ็ดพิเศษ ทางร้านก็ไม่ได้คิดเงินค่าเครื่องเทศเพิ่มแต่อย่างใดครับ รสชาติเผ็ด เค็ม หอมเครื่องเทศแบบเสฉวน มีความชาลิ้นจากพริกไทยเสฉวน เนื้อปลาหวานสดมาก ! เมนูนี้เป็นเมนูประจำที่บ้านผมจะไม่พลาดทุกครั้งที่ไปทาน แต่มีเหตุที่ทำให้ถูกถอดถอน จะเป็นเพราะอะไรติดตามครับ
"ยำแมงกะพรุน" หน้าตาไม่เหมือนร้านอื่นเลย ปกติที่เคยทานจะเป็นยำแมงกะพรุนน้ำมันงาสีแดงๆ แค่ที่ร้านนี้ยำมาแบบสลัดน้ำมันงาเย็นๆ รสเค็มหวานเปรี้ยวกลมกล่อม หอมน้ำมันงา แมงกะพรุนเนื้อกรุบๆ ยิ่งทานกับแตกกว่าญี่ปุ่นยิ่งกรุบกรอบเข้าไปอีกขั้น อร่อยมาก เย็นสดชื่นทานได้เรื่อยๆ เป็นยำแมงกะพรุนแบบใหม่ที่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน เป็นอีกเมนูที่ผมแนะนำลองครับ สำหรับคนที่มักจะเข้าร้านอาหารจีนและสั่งแมงกะพรุนน้ำมันงาเป็นประจำ ราคาเพียง 185 บาท ให้มาแบบบล้นๆจุใจมาก
"เข่าหยกหมูสามชั้น" หรือเคาหยกที่เรารู้จักกันเป็นปกติ เป็นหมูสามชั้นนึ่งกับผักดองจนเนื้อหมูสามชั้นนิ่มเปื่อย แต่ที่ร้านนี้แปลก มีการราดซอสสีแดงลงบนหน้าเตาหยก แถมหมูสามชั้นไม่ได้ชิ้นใหญ่มันแบบร้านอื่น แต่ใช้เป็นการซ้อนหลายๆชั้น และตักทานได้แบบง่าย ๆ คือหมูสามชั้นบางๆ เอาไปนึ่ง ราดซอส เป็นเคาหยกอีกสูตรที่ไม่เคยทานที่ไหนมาก่อน เนื้อหมูสามชั้นนุ่มๆ ผักดองรสเปรี้ยวอ่อนๆ กับซอสรสหวานเค็ม มีกลิ่นคล้ายเหล้าจีน อร่อยไปอีกแบบครับ ราคาจานนี้อยู่ที่ 280 บาท แพงไปหน่อยสำหรับผม
"หูหมูยำเผ็ด" ราคา 185 บาท เป็นหูหมูกับต้นหอมญี่ปุ่นนำไปซอยเป็นเส้นให้มีขนาดพอๆกัน จากนั้นนำมายำแบบแมงกะพรุนน้ำมันงาพริก มีความหวาน เปรี้ยว หอมน้ำมันงาพริก แช่มาเย็นๆ เคี้ยวกรุบกรอบสดชื่น ตัวต้นหอมซึมซับน้ำยำเข้าไป ยิ่งเคี้ยว ยิ่งมีรสชาติออกมาเรื่อยๆ อร่อยมาก ! ลืมยำหัวหมูแบบไทยตามตลาดนัดไปได้เลย เปิดประสบการณ์การทานหูหมูรูปแบบใหม่ ทานกี่รอบก็ยังติดใจในรสชาติอยู่ครับ ไปทีไรสั่งทุกที
ปิดท้ายด้วยเมนู "ถั่วฝักยาวผัดแห้ง" ที่จริงเมนูนี้ก็คือ ผัดถั่วแขกหมูสับนั่นแหละ ราคา 145 บาท ถั่วแขกกรอบหวาน ผัดกับหมูสับ และพริกสด ปรุงรสให้หวานเค็ม หอมกลิ่นกระทะไหม้และซีอิ๊วจีนอ่อนๆ ต่างจากร้านอาหารจีนอื่นตรงที่ร้านนี้ใส่พริกสดด้วยนี่แหละ รสชาติเผ็ดถูกใจซะจริงๆ เมนูนี้เป็นอีกจานที่เป็นเมนูแนะนำของที่ร้านด้วย เท่าที่ดูแล้ว ต่อให้ไม่เป็นเมนูแนะนำก็อร่อย เพราะตั้งแต่เริ่มทานมา ยังไม่มีจานไหนที่ไม่อร่อยเลย
กินคาวไม่กินหวานได้อย่างไร ? สอบถามน้องเด็กเสิร์ฟว่ามีของหวานอะไรบ้าง ตอนนี้มีแต่เฉาก๊วยกับกล้วยเชื่อมค่ะ งั้นเอากล้วยเชื่อมมาลอง ตอนแรกนึกว่าหน้าตาจะเป็นแบบกล้วยเชื่อตามตลาดนัด แต่ไม่เลย มันคือกล้วยหอมเอาไปคลุกในคาราเมลผสมแปะแซ วิธีทานก็คือนำกล้วยไปจิ้มกับน้ำผสมน้ำแข็ง แล้วกัดทานได้เลย แปะแซด้านนอกจะกรอบแบบลูกกวาด เนื้อกล้วยด้านในหวาน ร้อน (แนะนำว่าค่อยๆกัดทาน ไม่งั้นลวกปาก) หวานกรอบอร่อยดีครับ แต่ทรมาณเหงือกและฟันไปหน่อย ทั้งแข็งกรอบติดฟัน และร้อนลวกเหงือก แต่แปลกใหม่ดีครับ จานนี้เป็นเมนูพิเศษประจำเดือนนะครับ มัวแต่ดองรูปเก็บไว้จนลืมไปแล้วว่าราคาเท่าไหร่ ถ้าอยากทานก็สอบถามที่ร้านนะครับ
ต่อไปนี้จะเป็นการรีวิวในส่วนของบุฟเฟ่ต์ของทางร้านครับใครทานจุแล้วอยากทานหม้อไฟแบบจีนแซ่บๆ ในราคาสุดคุ้มที่ร้านทองฟูก็ตอบโจทย์ครับ วันนี้เดินเข้ามาก็เข้ามาในโซนด้านในสุดของทางร้านที่แยกไว้เฉพาะคนที่ทานบุฟเฟ่ต์เท่านั้นครับ ราคาเริ่มต้นที่คนละ 359.- บาทครับ ตอนนี้มีราคา 659.- ด้วยครับล่าสุด เป็นเนื้อออสเตรเลียพร้อมซุป 2 หม้อ แต่อันนี้เป็นรูปเก่าจะรีวิวเฉพาะที่ได้ทานก่อนนะครับ เด็กต่ำกว่า 6 ขวบทานฟรี 6-12 ขวบ ครึ่งราคา 12 ขวบขึ้นไปราคาเต็ม ทานไม่หมดปรับขีดละ 50 บาท ซุปเริ่มต้นจะได้เป็นแค่ซุปใสสีขาวนะครับ ถ้าอยากทานแบบหมาล่าแซ่บๆ ต้องเพิ่มเงินอีก 199 บาทต่อโต๊ะ เพราะฉะนั้นแนะนำว่าให้มากันหลายๆคน จะได้เฉลี่ยค่าน้ำซุปลงได้เยอะเลย หรือถ้าอยากทานน้ำซุปเสฉวนตัวท๊อปต้องเพิ่มเงินอีก 299 บาท ผมแนะนำว่าเพิ่ม 199 บาทก็พอครับ ซุปหมาล่าในเซ็ตนี้เผ็ดสะใจกว่าเสฉวน รอบนี้ผมเลือกเป็นซุปเสฉวนครับ ส่วนตัวว่าไม่ค่อยเผ็ดชาสะใจสักเท่าไหร่ รอบก่อนหน้ากินแบบ 2 สหาย ซุปหมาล่าในชุดเผ็ดสะใจกว่ามาก ใครชอบทานเผ็ดจี๊ดลิ้นวาร์ปแนะนำครับ
เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ