เห็นอาจารย์ท่านหนึ่งในเฟสบุ๊ค ท่านวิเคราะห์ จับกลยุทธ์การหาเสียงอนาคตใหม่ การบิดเบือนเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนๆพันทิพคิดยังไง? อยากฟังความคิดเห็นเพื่อนๆครับ
ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่อยากให้มีคยแสดงความคิดเห็นเยอะๆ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบทความ รบกวนโหวตทีครับ
ขอบคุณครับ
ข้อมูลข้างล่างพิมพ์ก็อปมาจากเฟสบุ๊ค
Kittitouch Chaiprasith
ลิงค์ต้นฉบับ
https://www.facebook.com/kittitouch.chaiprasith/posts/2246208615443285
####################################################################################
จับกลยุทธ์การหาเสียงอนาคตใหม่
การบิดเบือนเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
และการเสนอนโยบายที่รัฐบาลทำเสร็จแล้ว
-----------------------
อารัมภบท: กลยุทธ์การหาเสียง
-----------------------
ก่อนจะเข้าไปถึงเนื้อหาหลัก
ผมขอเกริ่นวิธีการหาเสียงและ
ของพรรคอนาคตใหม่ให้เข้าใจ
ว่า 3 ขั้นตอนนี้คือ [กลยุทธ์หลัก]
ในการหาเสียงของพรรคอนาคตใหม่
#การแบ่งแยกผู้คน
- เทคนิคสำคัญที่พรรคอนาคตใหม่ ชอบใช้มากที่สุด คือ "การแบ่งแยกผู้คน" เช่น แบ่งแยกเมือง-ชนบท, กทม.-ภูธร, แบ่งแยกชนชั้นรวย-จน, แบ่งแยกวัย (คนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้า-พวกไดโนเสาร์ล้าหลัง) และล่าสุดคือการแบ่งแยกสถาบันการศึกษา ฯลฯ
#สร้างวาทกรรมกดขี่
- หลังจากแบ่งแยกแล้ว อนาคตใหม่จะพูดต่อว่าพวกคุณนั้น ถูก "กดขี่" หรือ "กดทับ" (น่าจะมีคนทำสถิติทางคำพูด จะพบว่าธนาธรพูดคำนี้บ่อยที่สุดในการหาเสียง และพูดเกือบทุกครั้งที่ขึ้นหาเสียง)
#ทำตัวเป็นผู้มาปลดปล่อย
- หลังจากทำให้คนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแล้ว อนาคตใหม่ก็จะแสร้งว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษของคนยาก มาช่วยปล่อยปลดผู้คนที่โดน "กดขี่/กดทับ" ให้ได้มีอิสรเสรีภาพ และความเท่าเทียม
..........................
*** วิธีการนี้จะใช้กับเกือบทุกเรื่องที่ธนาธรนำอภิปรายบนเวที สุดท้ายหนีไม่พ้นเรื่อง การกดขี่ / กดทับ แล้วก็วาทกรรมเรื่องการกระจายอำนาจ
(ซึ่งจริงๆ การกระจายอำนาจเป็นเรื่องที่ดี และมีการเรียกร้องให้ปฏิรูปมาตั้งแต่การชุมชน กปปส.แล้ว แต่ปัจจุบันนายธนาธร เอามาใช้ปนกับวาทกรรมแห่งความเกลียดชัง เพื่อแบ่งแยกผู้คน)
*** แต่การบิดเบือนครั้งสำคัญ ที่ไม่เนียนที่สุดครั้งหนึ่ง ก็คือ การบิดเบือนเรื่องระบบธนาคารพานิชย์และการเข้าถึงแหล่งทุน โดยพรรคอนาคตใหม่ใช้ทริค แบ่งแยกและทำให้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ/โดนกดขี่ กับเรื่องธนาคาร เช่นกัน
โดยเนื้อหาในเวปไซท์ของอนาคตใหม่มีดังนี้
(ดูจากภาพประกอบได้เลยครับ)
-----------------------
สรุปคำอ้างของพรรคอนาคตใหม่
-----------------------
1. อนาคตใหม่อ้างว่าธนาคารในประเทศไทยมีแค่ 10 กว่าธนาคาร ทำให้มีสัดส่วนน้อยที่สุดในโลก (โดยไม่ยอมนับธนาคารสาขาย่อย)
2. อนาคตใหม่อ้างว่าธนาคารทุกแห่งมีสำนักงานใหญ่ใน กทม. ทำให้ไม่เกิดการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค
3. อนาคตใหม่อ้างว่าให้ไปดูเศรษฐี 50 อับดับของประเทศไทย และบอกว่าทุกคนล้วนแต่มาจาก กทม. ไม่มีเศรษฐีภูธรแม้แต่คนเดียว
4. อนาคตใหม่อ้างว่าที่เป็นแบบนี้เพราะคนภูธร (นอก กทม.) เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ในการทำกิจการ
https://bit.ly/2BqsNY5
-----------------------
เสริม: การพูดออกรายการของโฆษกอนาคตใหม่
-----------------------
- นอกจากนี้ พรรณิการ์ วานิช หรือช่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ไปพูดเรื่องนี้ ออกราย ลุยศึกเลือกตั้ง 62 ทางช่อง Workpoint ในวันที่ 8 มีนาคม 2562
โดยสรุปใจความคือ ช่อโทษว่า
[ปัญหาหนี้นอกระบบ มาจากทุนผูกขาดธนาคาร]
- และอ้างเช่นกันว่าประเทศไทยมีธนาคารแค่ 13 แห่ง ต่อประชากร 68 ล้านคน ทำให้ประเทศไทยมีธนาคารน้อยต่อประชากรน้อยที่สุดในโลก และที่คนไทยมีปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะทุนธนาคารผูกขาด
- นอกจากนี้ช่อยังมีการพาดพิง แต่ไม่เอ่ยชื่อว่ามีทุนธนาคารอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารอีกด้วย
https://www.facebook.com/watch/?v=249405992678365
-----------------
1. จำนวนธนาคารที่แท้จริง
-----------------
ประเทศไทยมีธนาคารพานิชย์ 22 เจ้า
(โดยไม่นับรวมธนาคารต่างชาติ) โดยที่...
- กทม.มีสาขาย่อยทั้งหมด 2,003 แห่ง
- ภาคกลาง (ไม่รวม กทม.) มี 2,169 แห่ง
- ภาคอีสานมี 934 แห่ง,
- ภาพเหนือมี 795 แห่ง,
- ภาคใต้มี 828 แห่ง
รวมทั้งสิ้นมีธนาคารสาขาย่อย 6,729 แห่งทั่วประเทศ
อ้างอิง: ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย เดือนมกราคม ปี 2562 ปรับปรุงข้อมูล่าลสุดวันที่ 08 ก.พ. 2562
http://www2.bot.or.th/statistics/BOTWEBSTAT.aspx…
(ธนาคารในอดีตที่ปิดตัวไปหลังปี 2540
และที่ควบรวมกิจการ มีราว 27 ธนาคาร)
ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ตรงกับที่อนาคตใหม่อ้าง
-----------------
2. ธนาคารสาขาย่อยไม่ใช่ธนาคาร ?
-----------------
- ความตลกอีกประการก็คือ ธนาคารสำนักงานใหญ่ เขาก็มีสาขาย่อยอยู่ทั่วประเทศไม่ใช่ว่าจังหวัดต่างๆ ไม่มีธนาคารสาขา
- นี่มันยุคไหนแล้วครับ ไม่ใช่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือ พ.ศ. 2475 (ที่อนาคตใหม่ถวิลหาอยู่) นะครับ ที่มันไม่มีธนาคารสาขาย่อย ปัจจุบันนี้จะสำนักงานใหญ่ สาขาย่อย มันเข้าระบบพิจารณา ตามหลักการของธนาคารแห่งประเทศไทยเหมือนกันหมด
-----------------
3. พรรคอนาคตใหม่จะตั้งเงื่อนไขให้ธนาคารห้ามตั้งสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ แต่ต้องตั้งจังหวัดอื่น
-----------------
- อนาคตใหม่บอกว่าทุกธนาคารที่มีอยู่ 10 กว่าธนาคารในประเทศไทย (ข้อมูลมั่วๆ) ล้วนแต่มีสำนักงานใหญ่ใน กทม. ซึ่งทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม ไม่มีการกระจายอำนาจ
- อนาคตใหม่จึงเสนอว่าต่อไปนี้ ธนาคารที่จะขอเปิดกิจการจะต้องมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ต่างจังหวัด!!!
.........................
"อนาคตใหม่จะเปิดใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารเพิ่มขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่า ธนาคารใหม่นี้จะต้องมีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ผมต้องการเห็นธนาคารในเชียงใหม่ ผมต้องการเห็นธนาคารในอุดรธานี ผมต้องการเห็นธนาคารในภูเก็ต"
.........................
ตกลงอนาคตใหม่เป็น #พรรคเผด็จการ หรือครับ?
- ถึงจะไปบังคับธนาคารนู้นนี้ว่าจะตั้งอยู่ที่ไหน คือเขาจะตั้งสำนักงานใหญ่ที่จังหวัดไหน ก็ทำได้ ไม่มีข้อห้าม!!!
- แต่ที่เขาตั้งใน กทม.เพราะมันเป็นเมืองหลวงที่สะดวกต่อการติดต่อกับกิจการอื่นๆ ในประเทศและเนื่องจาก กทม.มีแหล่งธุรกรรมการเงินเยอะ เขาก็ตั้งที่นี่ก็แค่นั้นเอง
- มันไม่มีกฎข้อไหนห้ามไม่ให้ตั้งสำนักงานใหญ่ในจังหวัดอื่นนอกจาก กทม. แต่นี่อนาคตใหม่จะทำตัวเป็นเผด็จการ ไปตั้งเงื่อนไขว่าให้จังหวัดธนาคารเปิดใหม่ ต้องตั้งในต่างจังหวัด (นอก กทม.)
-----------------
4. เศรษฐีภูธรเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ?
-----------------
- อีกข้อที่อนาคตใหม่อ้างแบบมั่วๆ คือ เรื่องที่ว่าเศรษฐี 50 อันดับแรกของไทย มีฐานธุรกิจอยู่ใน กทม.ทั้งนั้น และที่ไม่มีนักธุรกิจภูธรติดอับดับ เพราะนักธุรกิจภูธรเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน!!!
"คำตอบหนึ่งในนั้นคือการเข้าถึงแหล่งทุน ไม่มีสำหรับนักธุรกิจภูธร"
แล้ว เนวิน ชิดชอบ คืออะไรครับ?
แล้ว ทักษิณ ชินวัตรนี่คืออะไรครับ?
แล้ว บรรหาร ศิลปอาชา คืออะไรครับ?
วิชัย มาลีนนท์ นี่ก็คนฉะเชิงเทรานะครับ
ยังไม่ต้องนับนักธุรกิจภูธรอื่นๆ อีกมาก
ที่รวยอยู่ในระดับ 3-4-5 หมื่นล้านบาท
(กรุณาดูภาพประกอบที่แนบมาให้)
อ้างอิง:
เปิด 50 อันดับตระกูลเจ้าสัวภูธร รายได้หมื่นล้าน
https://money.kapook.com/view188684.html
https://news.mthai.com/economy-news/619981.html
-----------------
5. สรุปการบิดเบือนของอนาคตใหม่
-----------------
- จากข้อมูลทั้งหมด เราจะเห็นได้ว่าอนาคตใหม่นั้น ใช้วิธีการหาเสียงแบบการแบ่งแยกผู้คน โดยเรื่องที่ผมนำมาเสนอก็คือ เรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
- ที่อนาคตใหม่อ้างว่า "การเข้าถึงแหล่งทุน ไม่มีสำหรับนักธุรกิจภูธร" (ผมใช้คำในเวปไซท์เองเลยนะครับ) ซึ่งชัดเจนว่านี่คือ
#การโกหกคำโตของอนาคตใหม่
- เพราะอนาคตใหม่ใช้ลีลาประหนึ่งว่า ชาวบ้านถ้าไม่ได้มาจาก กทม.จะไม่มีโอกาสกู้ยืมเงิน เพื่อสร้างตัวให้การเป็นนักธุรกิจได้
- และการที่ธนาคารตั้งสำนักงานใหญ่ใน กทม. ทำให้คนในจังหวัดอื่นไม่มีสิทธิเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วย -_-"
- ซึ่งนี่มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระและตรรกะวิบัติมาก และไม่เข้าใจว่าพรรรคนี้เขาดูถูกมวลชนของเขาหรืออย่างไร หรือเขาคิดว่าเขาพูดอะไรที่ใช้คำเท่ๆ อย่างการกระจายอำนาจ แล้วเอามาปนกับวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและแบ่งแยกผู้คน
ทุกคนก็จะเชื่อ ???
-----------------
6. ธนาคารชุมชน / ธนาคารท้องถิ่น: ข้อเสนอของอนาคตใหม่ ที่รัฐบาลประยุทธทำจนสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว
-----------------
- ในขณะที่อนาคตใหม่ กำลังโกหกบิดเบือนข้อมูล ด้วยวาทกรรมในการหาเสียงเช่นนี้ และพยายามชูว่า พวกเขาเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วยการตั้งธนาคารท้องถิ่น/ธนาคารชุมชน หากเขาได้เป็นรัฐบาล...
โดยที่พวกเขาและสาวกของพรรคนี้ คงไม่ทราบว่า รัฐบาลนี้ได้ทำกฎหมายธนาคารชุมชนเรียบร้อยแล้ว!!!
...........................
พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน
...........................
- ปัญหาที่แท้จริงของการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับคนตัวเล็กตัวน้อยมีครับ แต่ไม่ใช่เรื่อง กทม.หรือภูธร แต่เป็นเรื่องของการมีหลักทรัพย์และ statement ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มี
- ปัญหานี้เกิดจากที่หลังวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ธนาคารแห่งประเทศไทยมีกฎเข้มงวดขึ้นมาก ธนาคารพานิชย์ต้องดำเนินตามกฎเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ เพื่อกันไม่ให้เกิดปัญหาฟองสบู่อีก
- แน่นอนว่ายาแรงย่อมส่งผลต่อการเข้าถึงสินเชื่อของคนจำนวนมาก ยังไม่นับเรื่องที่ชาวบ้านไม่มีหลักทรัพย์หรือ statement มาให้ธนาคาร
- ทางแก้ก็คือการออกสถาบันการเงินประชาชน ที่ปล่อยสินเชื่อขนาดย่อม (Micro-Finance) ให้กับประชาชน โดยมีท้องถิ่นเป็นเจ้าของ
- โดยรัฐบาลประกาศว่าจะทำมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2559 เริ่มต้นร่างกฎหมายปี 2560 และผ่าน ครม.ในเดือน ก.พ. ปี 2561 ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นองค์กรประชาสังคมต่างๆ ในเดือนเมษายน 2561
- จนผ่านทุกขั้นตอนเป็นของขวัญปีใหม่ในปี 2562 ที่ผ่านมานี้ ปัจจุบันเหลือแค่รอในหลวง ร.10 ท่านลงพระปรมาภิไธย (ลายเซ็น) เพื่อประกาศใช้เท่านั้น
- และล่าสุดกระทรวงการคลัง และธนาคารออมสินในฐานะพี่เลี้ยงเตรียมดำเนินการช่วยเหลือให้ชาวบ้าน กลุ่มสหกรณ์ต่างๆ จัดตั้งสถาบันการเงินประชาชน หรือธนาคารชุมชนแล้ว!!
-------------------
- ต่อไปชาวบ้านจะมี #สถาบันการเงินท้องถิ่น จะกำหนดการกู้ยืมเงิน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยมีเงื่อนไขที่เหมาะสมกับชุมชน และไม่เอาข้อบังคับของธนาคารขนาดใหญ่มาบังคับ
- ธนาคารชุมชนนี้จะใช้โมเดลการค้ำประกันคล้ายกับ กรามีนแบงก์ (Grameen Bank) ของนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุส (Muhammad Yunus)
- ซึ่งใช้ระบบสังคมมาค้ำประกัน ทำให้ชาวบ้านเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ และสถาบันการเงินก็ให้คนในชุมชนมาค้ำประกันกันเองภายในชุมชนเพื่อให้เกิดการรับผิดชอบต่อคนในชุมชนของตน
- ต่อไปชาวบ้านจะเรียนรู้จักจัดการระบบการเงินด้วยตนเอง และวางแผนการออมเงินให้กับชุมชนของตนเองได้แล้วในอนาคต (นี่ยังไม่นับเรื่อง นักบัญชีชุมชน ที่รัฐบาลก็ทำมาให้แล้วด้วย)
- โดยคนหนึ่งที่มีส่วนสำคัญที่สุดในภารกิจครั้งนี้ ก็คือ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปัจจุบันเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบ
http://backoff.thansettakij.com/2018/10/01/326388
https://www.facebook.com/drkobsakpootrakool/posts/2239903296271654
- เพื่อให้ท้องถิ่นมีพลังในการจัดการตนเอง และมีกฎหมายนิติบุคคลมารองรับธนาคารชุมชน รวมถึงวิสาหกิจชุมชนฉบับปรับปรุง ที่ปัจจุบันมีสถานะเป็นนิติบุคคลได้แล้ว
-------------------
*** ในขณะที่รัฐบาลนี้ทำกฎหมายจนสำเร็จเรียบร้อย เตรียมปูพรมทำธนาคารชุมชนทั่วประเทศแล้ว แต่อนาคตใหม่ ยังเอามาหาเสียง และยังก็วนเวียนอยู่กับการสร้างความเกลียดชัง ดว้ยการแบ่งแยกผู้คนเป็น กทม.กับ ภูธรอยู่เลย!!!
-------------------
เห็นอาจารย์ท่านวิเคราะห์จับกลยุทธ์การหาเสียงพรรคอนาคตใหม่ การบิดเบือนเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนๆคิดยังไง?
ใครเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่อยากให้มีคยแสดงความคิดเห็นเยอะๆ ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับบทความ รบกวนโหวตทีครับ
ขอบคุณครับ
ข้อมูลข้างล่างพิมพ์ก็อปมาจากเฟสบุ๊ค
Kittitouch Chaiprasith
ลิงค์ต้นฉบับ
https://www.facebook.com/kittitouch.chaiprasith/posts/2246208615443285
####################################################################################
จับกลยุทธ์การหาเสียงอนาคตใหม่
การบิดเบือนเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
และการเสนอนโยบายที่รัฐบาลทำเสร็จแล้ว
-----------------------
อารัมภบท: กลยุทธ์การหาเสียง
-----------------------
ก่อนจะเข้าไปถึงเนื้อหาหลัก
ผมขอเกริ่นวิธีการหาเสียงและ
ของพรรคอนาคตใหม่ให้เข้าใจ
ว่า 3 ขั้นตอนนี้คือ [กลยุทธ์หลัก]
ในการหาเสียงของพรรคอนาคตใหม่
#การแบ่งแยกผู้คน
- เทคนิคสำคัญที่พรรคอนาคตใหม่ ชอบใช้มากที่สุด คือ "การแบ่งแยกผู้คน" เช่น แบ่งแยกเมือง-ชนบท, กทม.-ภูธร, แบ่งแยกชนชั้นรวย-จน, แบ่งแยกวัย (คนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้า-พวกไดโนเสาร์ล้าหลัง) และล่าสุดคือการแบ่งแยกสถาบันการศึกษา ฯลฯ
#สร้างวาทกรรมกดขี่
- หลังจากแบ่งแยกแล้ว อนาคตใหม่จะพูดต่อว่าพวกคุณนั้น ถูก "กดขี่" หรือ "กดทับ" (น่าจะมีคนทำสถิติทางคำพูด จะพบว่าธนาธรพูดคำนี้บ่อยที่สุดในการหาเสียง และพูดเกือบทุกครั้งที่ขึ้นหาเสียง)
#ทำตัวเป็นผู้มาปลดปล่อย
- หลังจากทำให้คนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแล้ว อนาคตใหม่ก็จะแสร้งว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษของคนยาก มาช่วยปล่อยปลดผู้คนที่โดน "กดขี่/กดทับ" ให้ได้มีอิสรเสรีภาพ และความเท่าเทียม
..........................
*** วิธีการนี้จะใช้กับเกือบทุกเรื่องที่ธนาธรนำอภิปรายบนเวที สุดท้ายหนีไม่พ้นเรื่อง การกดขี่ / กดทับ แล้วก็วาทกรรมเรื่องการกระจายอำนาจ
(ซึ่งจริงๆ การกระจายอำนาจเป็นเรื่องที่ดี และมีการเรียกร้องให้ปฏิรูปมาตั้งแต่การชุมชน กปปส.แล้ว แต่ปัจจุบันนายธนาธร เอามาใช้ปนกับวาทกรรมแห่งความเกลียดชัง เพื่อแบ่งแยกผู้คน)
*** แต่การบิดเบือนครั้งสำคัญ ที่ไม่เนียนที่สุดครั้งหนึ่ง ก็คือ การบิดเบือนเรื่องระบบธนาคารพานิชย์และการเข้าถึงแหล่งทุน โดยพรรคอนาคตใหม่ใช้ทริค แบ่งแยกและทำให้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ/โดนกดขี่ กับเรื่องธนาคาร เช่นกัน
โดยเนื้อหาในเวปไซท์ของอนาคตใหม่มีดังนี้
(ดูจากภาพประกอบได้เลยครับ)
-----------------------
สรุปคำอ้างของพรรคอนาคตใหม่
-----------------------
1. อนาคตใหม่อ้างว่าธนาคารในประเทศไทยมีแค่ 10 กว่าธนาคาร ทำให้มีสัดส่วนน้อยที่สุดในโลก (โดยไม่ยอมนับธนาคารสาขาย่อย)
2. อนาคตใหม่อ้างว่าธนาคารทุกแห่งมีสำนักงานใหญ่ใน กทม. ทำให้ไม่เกิดการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค
3. อนาคตใหม่อ้างว่าให้ไปดูเศรษฐี 50 อับดับของประเทศไทย และบอกว่าทุกคนล้วนแต่มาจาก กทม. ไม่มีเศรษฐีภูธรแม้แต่คนเดียว
4. อนาคตใหม่อ้างว่าที่เป็นแบบนี้เพราะคนภูธร (นอก กทม.) เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ในการทำกิจการ
https://bit.ly/2BqsNY5
-----------------------
เสริม: การพูดออกรายการของโฆษกอนาคตใหม่
-----------------------
- นอกจากนี้ พรรณิการ์ วานิช หรือช่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ได้ไปพูดเรื่องนี้ ออกราย ลุยศึกเลือกตั้ง 62 ทางช่อง Workpoint ในวันที่ 8 มีนาคม 2562
โดยสรุปใจความคือ ช่อโทษว่า
[ปัญหาหนี้นอกระบบ มาจากทุนผูกขาดธนาคาร]
- และอ้างเช่นกันว่าประเทศไทยมีธนาคารแค่ 13 แห่ง ต่อประชากร 68 ล้านคน ทำให้ประเทศไทยมีธนาคารน้อยต่อประชากรน้อยที่สุดในโลก และที่คนไทยมีปัญหาหนี้นอกระบบ เพราะทุนธนาคารผูกขาด
- นอกจากนี้ช่อยังมีการพาดพิง แต่ไม่เอ่ยชื่อว่ามีทุนธนาคารอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารอีกด้วย
https://www.facebook.com/watch/?v=249405992678365
-----------------
1. จำนวนธนาคารที่แท้จริง
-----------------
ประเทศไทยมีธนาคารพานิชย์ 22 เจ้า
(โดยไม่นับรวมธนาคารต่างชาติ) โดยที่...
- กทม.มีสาขาย่อยทั้งหมด 2,003 แห่ง
- ภาคกลาง (ไม่รวม กทม.) มี 2,169 แห่ง
- ภาคอีสานมี 934 แห่ง,
- ภาพเหนือมี 795 แห่ง,
- ภาคใต้มี 828 แห่ง
รวมทั้งสิ้นมีธนาคารสาขาย่อย 6,729 แห่งทั่วประเทศ
อ้างอิง: ข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย เดือนมกราคม ปี 2562 ปรับปรุงข้อมูล่าลสุดวันที่ 08 ก.พ. 2562
http://www2.bot.or.th/statistics/BOTWEBSTAT.aspx…
(ธนาคารในอดีตที่ปิดตัวไปหลังปี 2540
และที่ควบรวมกิจการ มีราว 27 ธนาคาร)
ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่ตรงกับที่อนาคตใหม่อ้าง
-----------------
2. ธนาคารสาขาย่อยไม่ใช่ธนาคาร ?
-----------------
- ความตลกอีกประการก็คือ ธนาคารสำนักงานใหญ่ เขาก็มีสาขาย่อยอยู่ทั่วประเทศไม่ใช่ว่าจังหวัดต่างๆ ไม่มีธนาคารสาขา
- นี่มันยุคไหนแล้วครับ ไม่ใช่สมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือ พ.ศ. 2475 (ที่อนาคตใหม่ถวิลหาอยู่) นะครับ ที่มันไม่มีธนาคารสาขาย่อย ปัจจุบันนี้จะสำนักงานใหญ่ สาขาย่อย มันเข้าระบบพิจารณา ตามหลักการของธนาคารแห่งประเทศไทยเหมือนกันหมด
-----------------
3. พรรคอนาคตใหม่จะตั้งเงื่อนไขให้ธนาคารห้ามตั้งสำนักงานใหญ่ในกรุงเทพฯ แต่ต้องตั้งจังหวัดอื่น
-----------------
- อนาคตใหม่บอกว่าทุกธนาคารที่มีอยู่ 10 กว่าธนาคารในประเทศไทย (ข้อมูลมั่วๆ) ล้วนแต่มีสำนักงานใหญ่ใน กทม. ซึ่งทำให้เกิดความไม่เท่าเทียม ไม่มีการกระจายอำนาจ
- อนาคตใหม่จึงเสนอว่าต่อไปนี้ ธนาคารที่จะขอเปิดกิจการจะต้องมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ต่างจังหวัด!!!
.........................
"อนาคตใหม่จะเปิดใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคารเพิ่มขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่า ธนาคารใหม่นี้จะต้องมีสำนักงานใหญ่อยู่ต่างจังหวัด ผมต้องการเห็นธนาคารในเชียงใหม่ ผมต้องการเห็นธนาคารในอุดรธานี ผมต้องการเห็นธนาคารในภูเก็ต"
.........................
ตกลงอนาคตใหม่เป็น #พรรคเผด็จการ หรือครับ?
- ถึงจะไปบังคับธนาคารนู้นนี้ว่าจะตั้งอยู่ที่ไหน คือเขาจะตั้งสำนักงานใหญ่ที่จังหวัดไหน ก็ทำได้ ไม่มีข้อห้าม!!!
- แต่ที่เขาตั้งใน กทม.เพราะมันเป็นเมืองหลวงที่สะดวกต่อการติดต่อกับกิจการอื่นๆ ในประเทศและเนื่องจาก กทม.มีแหล่งธุรกรรมการเงินเยอะ เขาก็ตั้งที่นี่ก็แค่นั้นเอง
- มันไม่มีกฎข้อไหนห้ามไม่ให้ตั้งสำนักงานใหญ่ในจังหวัดอื่นนอกจาก กทม. แต่นี่อนาคตใหม่จะทำตัวเป็นเผด็จการ ไปตั้งเงื่อนไขว่าให้จังหวัดธนาคารเปิดใหม่ ต้องตั้งในต่างจังหวัด (นอก กทม.)
-----------------
4. เศรษฐีภูธรเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ?
-----------------
- อีกข้อที่อนาคตใหม่อ้างแบบมั่วๆ คือ เรื่องที่ว่าเศรษฐี 50 อันดับแรกของไทย มีฐานธุรกิจอยู่ใน กทม.ทั้งนั้น และที่ไม่มีนักธุรกิจภูธรติดอับดับ เพราะนักธุรกิจภูธรเข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน!!!
"คำตอบหนึ่งในนั้นคือการเข้าถึงแหล่งทุน ไม่มีสำหรับนักธุรกิจภูธร"
แล้ว เนวิน ชิดชอบ คืออะไรครับ?
แล้ว ทักษิณ ชินวัตรนี่คืออะไรครับ?
แล้ว บรรหาร ศิลปอาชา คืออะไรครับ?
วิชัย มาลีนนท์ นี่ก็คนฉะเชิงเทรานะครับ
ยังไม่ต้องนับนักธุรกิจภูธรอื่นๆ อีกมาก
ที่รวยอยู่ในระดับ 3-4-5 หมื่นล้านบาท
(กรุณาดูภาพประกอบที่แนบมาให้)
อ้างอิง:
เปิด 50 อันดับตระกูลเจ้าสัวภูธร รายได้หมื่นล้าน
https://money.kapook.com/view188684.html
https://news.mthai.com/economy-news/619981.html
-----------------
5. สรุปการบิดเบือนของอนาคตใหม่
-----------------
- จากข้อมูลทั้งหมด เราจะเห็นได้ว่าอนาคตใหม่นั้น ใช้วิธีการหาเสียงแบบการแบ่งแยกผู้คน โดยเรื่องที่ผมนำมาเสนอก็คือ เรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน
- ที่อนาคตใหม่อ้างว่า "การเข้าถึงแหล่งทุน ไม่มีสำหรับนักธุรกิจภูธร" (ผมใช้คำในเวปไซท์เองเลยนะครับ) ซึ่งชัดเจนว่านี่คือ
#การโกหกคำโตของอนาคตใหม่
- เพราะอนาคตใหม่ใช้ลีลาประหนึ่งว่า ชาวบ้านถ้าไม่ได้มาจาก กทม.จะไม่มีโอกาสกู้ยืมเงิน เพื่อสร้างตัวให้การเป็นนักธุรกิจได้
- และการที่ธนาคารตั้งสำนักงานใหญ่ใน กทม. ทำให้คนในจังหวัดอื่นไม่มีสิทธิเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วย -_-"
- ซึ่งนี่มันเป็นเรื่องที่ไร้สาระและตรรกะวิบัติมาก และไม่เข้าใจว่าพรรรคนี้เขาดูถูกมวลชนของเขาหรืออย่างไร หรือเขาคิดว่าเขาพูดอะไรที่ใช้คำเท่ๆ อย่างการกระจายอำนาจ แล้วเอามาปนกับวาทกรรมแห่งความเกลียดชังและแบ่งแยกผู้คน
ทุกคนก็จะเชื่อ ???
-----------------
6. ธนาคารชุมชน / ธนาคารท้องถิ่น: ข้อเสนอของอนาคตใหม่ ที่รัฐบาลประยุทธทำจนสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว
-----------------
- ในขณะที่อนาคตใหม่ กำลังโกหกบิดเบือนข้อมูล ด้วยวาทกรรมในการหาเสียงเช่นนี้ และพยายามชูว่า พวกเขาเสนอแนวทางแก้ปัญหาด้วยการตั้งธนาคารท้องถิ่น/ธนาคารชุมชน หากเขาได้เป็นรัฐบาล...
โดยที่พวกเขาและสาวกของพรรคนี้ คงไม่ทราบว่า รัฐบาลนี้ได้ทำกฎหมายธนาคารชุมชนเรียบร้อยแล้ว!!!
...........................
พ.ร.บ.สถาบันการเงินประชาชน
...........................
- ปัญหาที่แท้จริงของการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับคนตัวเล็กตัวน้อยมีครับ แต่ไม่ใช่เรื่อง กทม.หรือภูธร แต่เป็นเรื่องของการมีหลักทรัพย์และ statement ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มี
- ปัญหานี้เกิดจากที่หลังวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ธนาคารแห่งประเทศไทยมีกฎเข้มงวดขึ้นมาก ธนาคารพานิชย์ต้องดำเนินตามกฎเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ เพื่อกันไม่ให้เกิดปัญหาฟองสบู่อีก
- แน่นอนว่ายาแรงย่อมส่งผลต่อการเข้าถึงสินเชื่อของคนจำนวนมาก ยังไม่นับเรื่องที่ชาวบ้านไม่มีหลักทรัพย์หรือ statement มาให้ธนาคาร
- ทางแก้ก็คือการออกสถาบันการเงินประชาชน ที่ปล่อยสินเชื่อขนาดย่อม (Micro-Finance) ให้กับประชาชน โดยมีท้องถิ่นเป็นเจ้าของ
- โดยรัฐบาลประกาศว่าจะทำมาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2559 เริ่มต้นร่างกฎหมายปี 2560 และผ่าน ครม.ในเดือน ก.พ. ปี 2561 ผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นองค์กรประชาสังคมต่างๆ ในเดือนเมษายน 2561
- จนผ่านทุกขั้นตอนเป็นของขวัญปีใหม่ในปี 2562 ที่ผ่านมานี้ ปัจจุบันเหลือแค่รอในหลวง ร.10 ท่านลงพระปรมาภิไธย (ลายเซ็น) เพื่อประกาศใช้เท่านั้น
- และล่าสุดกระทรวงการคลัง และธนาคารออมสินในฐานะพี่เลี้ยงเตรียมดำเนินการช่วยเหลือให้ชาวบ้าน กลุ่มสหกรณ์ต่างๆ จัดตั้งสถาบันการเงินประชาชน หรือธนาคารชุมชนแล้ว!!
-------------------
- ต่อไปชาวบ้านจะมี #สถาบันการเงินท้องถิ่น จะกำหนดการกู้ยืมเงิน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ โดยมีเงื่อนไขที่เหมาะสมกับชุมชน และไม่เอาข้อบังคับของธนาคารขนาดใหญ่มาบังคับ
- ธนาคารชุมชนนี้จะใช้โมเดลการค้ำประกันคล้ายกับ กรามีนแบงก์ (Grameen Bank) ของนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ศาสตราจารย์มูฮัมหมัด ยูนุส (Muhammad Yunus)
- ซึ่งใช้ระบบสังคมมาค้ำประกัน ทำให้ชาวบ้านเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ และสถาบันการเงินก็ให้คนในชุมชนมาค้ำประกันกันเองภายในชุมชนเพื่อให้เกิดการรับผิดชอบต่อคนในชุมชนของตน
- ต่อไปชาวบ้านจะเรียนรู้จักจัดการระบบการเงินด้วยตนเอง และวางแผนการออมเงินให้กับชุมชนของตนเองได้แล้วในอนาคต (นี่ยังไม่นับเรื่อง นักบัญชีชุมชน ที่รัฐบาลก็ทำมาให้แล้วด้วย)
- โดยคนหนึ่งที่มีส่วนสำคัญที่สุดในภารกิจครั้งนี้ ก็คือ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ และปัจจุบันเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ผลักดันเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นจนจบ
http://backoff.thansettakij.com/2018/10/01/326388
https://www.facebook.com/drkobsakpootrakool/posts/2239903296271654
- เพื่อให้ท้องถิ่นมีพลังในการจัดการตนเอง และมีกฎหมายนิติบุคคลมารองรับธนาคารชุมชน รวมถึงวิสาหกิจชุมชนฉบับปรับปรุง ที่ปัจจุบันมีสถานะเป็นนิติบุคคลได้แล้ว
-------------------
*** ในขณะที่รัฐบาลนี้ทำกฎหมายจนสำเร็จเรียบร้อย เตรียมปูพรมทำธนาคารชุมชนทั่วประเทศแล้ว แต่อนาคตใหม่ ยังเอามาหาเสียง และยังก็วนเวียนอยู่กับการสร้างความเกลียดชัง ดว้ยการแบ่งแยกผู้คนเป็น กทม.กับ ภูธรอยู่เลย!!!
-------------------