สวัสดีทุกคนครับ
ผมจะมาเล่าเรื่องชีวิตของผมให้ฟัง ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อกับชีวิต ถ้าผมเสียคนที่ผมรักไป
ผมเป็นผู้ชายคนนึง ที่ปฏิเสธคนรอบข้าง เพื่อนฝูง สังคม และอื่นๆ ผมอยู่แบบตัวคนเดียวมา20กว่าปี ชีวิตที่ผมเจอมาคนถึงก่อนที่จะมีความรัก
ผมจมอยู่กับความสิ้นหวังของหลายๆสิ่งรอบข้าง ผมเบื่อกับการมีตัวตนอยู่ ผมเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย....แต่แม่ของผมขอไว้ว่า
"อย่างน้อยๆใน ขณะ ที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ ช่วยมีชีวิตอยู่ให้แม่เห็น อนาคตของลูกหน่อย" ผมไม่สามารถที่จะตายไปในตอนนี้ได้
ใน ขณะเดียวกันผมก็ ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อจริงๆ แต่ผมก็ใช้ชีวิตไปวันๆให้เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งผมพึ่งจะมีความรัก ครั้งแรกในชีวิต ครั้งแรกจริงๆผมไม่เคยเปิดใจให้ใคร แค่เพื่อนสนิทยังไม่มี
จริงๆแล้วตัวผมค่อนข้างเป็นที่รู้จัก คือถ้าบอก ประวัติว่าทำอะไรเคยผ่านอะไรมา บางคนอาจจะ...อ้อรู้จักทันทีว่า....ผมเป็นใคร
ตัวผมเป็นคนที่เรียนไม่จบและไม่มีหลักอะไรมาค้ำประกันชีวิตคู่ในระยะยาวได้ แต่ผมมั่นใจว่าผมเป็นคนหาเงินเก่งปัจุบันผมมีเงินเก็บก็หลักแสนแต่...
ในขณะเดียวกันผมก็ใช้เงินเก่งมาก(กับการเสพสุข พาตัวเองพาแฟนไปเที่ยวกินของอร่อยประมาณนั้น)
ผมคบกันมาได้เข้าปีที่5 ตลอดช่วงที่คบกัน ผมมั่นใจว่าเราไม่เหมือน คู่รักคู่อื่นแน่นอน
ตั้งแต่วันแรกที่ผมคบกัน ผมบอกเลยว่า"ผมเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ต้นเป็นอย่างไงปลายก็เป็นอย่างนั้น"
ผมทำอะไรมีเหตุผลตลอด แฟนงอแงไร้เหตุผล ดื้อ โดนจับตี... ทะเลาะกันก็จบด้วย เหตุผลเสมอในทุกๆครั้ง
เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็พอมีเวลามาหากันบ้าง ช่วงที่เรียนอยู่ก็มีเวลามาหาเยอะหน่อย
ผมช่วยเหลือทุกอย่าง เติมเต็มทุกสิ่งเท่าที่ ผู้ชายคนนึงสามารถทำได้
ทางบ้านผู้หญิง ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย มีลูกสองคน เรื่องเงินๆทองๆก็ตามประสา
ผมแชร์ทุกอย่าง ผมเลี้ยงเธอมา ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลานึง ผมอะไรช่วยได้ผมก็ช่วย
ช่วงเรียนมหาลัย ค่าเรียน ค่ากินอะไรช่วยได้ผมก็เต็มใจที่จะช่วย ไปรับไปส่ง จะได้ประหยัดเงินเธอไปบ้าง ให้เธอมีตังเก็บนิดๆหน่อยๆ
ความรักของผมค่อนข้างชัดเจน แน่วแน่ และผมให้คำมั่นสัญญาว่า
"ผมจะรักเธอคนเดียว ตราบเท่าที่ผมมีลมหายใจ และจะไม่ ไขว้เขวในความรักใดๆ"
ผมมีความสุข กับชีวิตในตอนนี้มาก
ผมมีความสุขกับการ ใช้ชีวิตที่เวลาเรา มีเวลาว่างเรามานอนกอดกัน ไปกินข้าวดูหนัง ทำไรร่วมกัน
ทุกรอยยิ้มที่ผมได้รับ มันเหมือน "ของขวัญ" ที่ผมได้รับเพื่อชดเชยให้กับช่วงแย่ๆที่ผ่านมาในชีวิต
ผมรู้สึกว่า บางที....ชีวิตผมอาจจะเจอความหมายที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วก็ได้
จากความคิดที่อยากจะตายในทุกๆวัน
ผมกลับรู้สึกว่า ผมอยากที่จะอยู่ต่อ อีกสักวันสองวัน ต่อไปเรื่อยๆ ขอแค่ผมได้อยู่กับคนที่ผมรัก ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้อยู่ร่วมกัน.....
ข้ามมาปัจจุบัน
เธอเรียนจบแล้ว และเข้าทำงานได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว ทุกอย่างเหมือนเดิมเราใช้เวลาแชร์กันเหมือนเดิมมานอนกอดกัน ว่าง ก็ไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน
ผมแบ่งให้อิสระในการใช้ชีวิตซึ่งกันและกัน ผมเชื่อใจในตัวเธอ และเธอก็สามารถมั่นใจในตัวผมได้ว่า ไม่เคยนอกลู่นอกทาง
ระหว่างที่ เธอ ไปทำงาน และผมนั่งทำงานอยู่บ้าน เธอก็จะบ่นๆให้ฟังแทบทุกวันเลยเนี่ยว่า เหนื่อยบ้าง เจอเพื่อนร่วมงานไม่ดีบ้างละ
และอีกเรื่องที่เธอพูดถึง คือ มีผู้ชายคนนึงที่ทำงาน(นามสมมุติ A ละกัน) อายุใกล้ๆกัน เธอก็เล่าว่าเนี่ย Aมันเข้ามาเหมือนจะจีบมั้ง
แรกๆผมไม่คิดอะไร เธอเล่าให้ฟังว่าเนี่ย เค้าเทคแคร์เธอดีมาก แต่เธอก็บอกว่าเธอมีแฟนอยู่แล้วนะ นายAก็บอกว่า ไม่ได้คิดอะไร แค่อยากดูแล
เธอบอกว่า บางวัน A มันก็เตรียมข้าว เตรียมอะไรไว้ให้กิน กลางวัน บางทีก็มีของกินมาฝาก
เธอก็เล่าให้ผมฟังตลอด แต่เธอก็บอกว่า เธอไม่ได้คิดอะไร ส่วนตัวผมก็เชื่อมั่นในตัวแฟนที่ผมรักเหมือนกัน ผมรู้ว่าเรามีความรักให้กันมากขนาดไหน
จนกระทั่งวันนึง แฟนผมมาเล่าให้ฟังว่า นายAบอกว่า เค้ารู้สึกคิดเกินกว่าเพื่อนแล้วแหละ เค้ารู้สึกหึงหวง ในตัวเธอ
แต่เธอก็ยังยืนกราน ว่าเธอยังคงรัก กับแฟน(ผม)ดี จนนายA เริ่มห่างๆไปไม่นาน นายAก็กลับมาทำตัวเหมือนเดิม
ประมาณว่าไม่เปนไร อยากดูแล อยากเทคแคร์ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเธอมีแฟน
ตัวผมเองก็เชื่อใจแฟน ปล่อยให้แฟนจัดการเอง ผมไม่อยากเข้าไปยุ่มย่ามใน เรื่องงาน เรื่องเพื่อนร่วมงาน หรือที่ทำงานของเธอ
รู้ว่าเธอเหนื่อย หรือท้อแท้ แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปจัดการอะไรได้ ได้แต่วันที่มีเวลาให้กัน กอดให้กำลังใจกัน รับฟังกัน พาไปกินอะไรอร่อยๆบ้าง
เติมเต็ม ให้เธอรู้สึกผ่อนคลายกับชีวิต ผมใช้ชีวิตกันแบบนั้น
จนกระทั่ง ปัจจุบัน เธอบอกกับผมว่าเธอกำลัง สั่นคลอน
เธอเริ่มรู้สึกมีใจให้กับนายA และเธอเองก็รู้สึกผิดกับผมมาก
แต่เธอก็ยังรักผมอยู่ เราคุยกัน เธอพูดไปใจสั่นไป
ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้ไหลออกมาอีก
ผมได้แต่บอกเธอว่า ให้คิดดีๆนะ อย่าให้ความคิด อารมณ์ชั่ววูบ มาเป็นตัวตัดสินใจนะ
เพราะถ้าเธอเลือกแล้ว เธอก็จะเสียอีกทางไปโดยที่ไม่มีวันกลับมานะ
เธอโอเคหรือปล่าวที่จะ เสี่ยงใหม่ กับของใหม่ ที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไง
เธอรักเค้า แล้วหรอ เธอ มั่นใจในความรู้สึกเธอจริงๆใช่มั้ย....
เราคุยกัน และ ผมบอกเธอว่า ไม่ว่าอย่างไรผมจะเคารพการตัดสินใจของเธอนะ
แต่จงรู้ไว้ ผมไม่อยากเสียเธอไป และความรักที่ผมมีให้เธอยังเหมือนเดิม
ไม่ว่า เธอจะเลือกที่จะอยู่กับผมเหมือนเดิม หรือ อย่างไรก็ตาม
เธอบอกว่า "เธอขอเวลากลับไปคิด"
ในตอนที่เราคุยกัน เธอบอกว่าตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออก เธอไม่สามารถสลัดภาพเค้าไปจากหัวได้
เธอยังตัดสินใจไม่ได้ เธอขอเวลากลับไปคิด แต่ผมกลับรู้สึกว่าลึกๆเธออาจจะมีคำตอบอยู่แล้วก็ได้
แต่ในใจลึกๆ ผมกลับรู้สึกว่า ผมอาจจะกำลังจะเสียเธอไปก็ได้ ผมไม่อยากเสียเธอไป
เธอคือทุกอย่างสำหรับผมแล้ว เธอคือ ความหมายของการมีชีวิตอยู่ของผม
ผมไม่รู้สึกโกรธ หรือ โทษว่าเป็นความผิดของใคร
ผมไม่อยากว่าเธอว่า ทำไมเธอทำแบบนั้น
ผมไม่อยากรู้สึกโกรธ หรือ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผมไม่รู้ว่า ผมควรจะทำอย่างไง ถ้าเส้นทางที่เธอจะเลือก มันไม่มีผมอยู่จริงๆ
ผมแค่ไม่อยากเสียเธอไป.......
ผมกำลังจะเสีย คนที่ผมรักสุดหัวใจไป
ผมจะมาเล่าเรื่องชีวิตของผมให้ฟัง ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อกับชีวิต ถ้าผมเสียคนที่ผมรักไป
ผมเป็นผู้ชายคนนึง ที่ปฏิเสธคนรอบข้าง เพื่อนฝูง สังคม และอื่นๆ ผมอยู่แบบตัวคนเดียวมา20กว่าปี ชีวิตที่ผมเจอมาคนถึงก่อนที่จะมีความรัก
ผมจมอยู่กับความสิ้นหวังของหลายๆสิ่งรอบข้าง ผมเบื่อกับการมีตัวตนอยู่ ผมเคยคิดที่จะฆ่าตัวตาย....แต่แม่ของผมขอไว้ว่า
"อย่างน้อยๆใน ขณะ ที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ ช่วยมีชีวิตอยู่ให้แม่เห็น อนาคตของลูกหน่อย" ผมไม่สามารถที่จะตายไปในตอนนี้ได้
ใน ขณะเดียวกันผมก็ ไม่มีเหตุผลอื่นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อจริงๆ แต่ผมก็ใช้ชีวิตไปวันๆให้เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งผมพึ่งจะมีความรัก ครั้งแรกในชีวิต ครั้งแรกจริงๆผมไม่เคยเปิดใจให้ใคร แค่เพื่อนสนิทยังไม่มี
จริงๆแล้วตัวผมค่อนข้างเป็นที่รู้จัก คือถ้าบอก ประวัติว่าทำอะไรเคยผ่านอะไรมา บางคนอาจจะ...อ้อรู้จักทันทีว่า....ผมเป็นใคร
ตัวผมเป็นคนที่เรียนไม่จบและไม่มีหลักอะไรมาค้ำประกันชีวิตคู่ในระยะยาวได้ แต่ผมมั่นใจว่าผมเป็นคนหาเงินเก่งปัจุบันผมมีเงินเก็บก็หลักแสนแต่...
ในขณะเดียวกันผมก็ใช้เงินเก่งมาก(กับการเสพสุข พาตัวเองพาแฟนไปเที่ยวกินของอร่อยประมาณนั้น)
ผมคบกันมาได้เข้าปีที่5 ตลอดช่วงที่คบกัน ผมมั่นใจว่าเราไม่เหมือน คู่รักคู่อื่นแน่นอน
ตั้งแต่วันแรกที่ผมคบกัน ผมบอกเลยว่า"ผมเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ต้นเป็นอย่างไงปลายก็เป็นอย่างนั้น"
ผมทำอะไรมีเหตุผลตลอด แฟนงอแงไร้เหตุผล ดื้อ โดนจับตี... ทะเลาะกันก็จบด้วย เหตุผลเสมอในทุกๆครั้ง
เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็พอมีเวลามาหากันบ้าง ช่วงที่เรียนอยู่ก็มีเวลามาหาเยอะหน่อย
ผมช่วยเหลือทุกอย่าง เติมเต็มทุกสิ่งเท่าที่ ผู้ชายคนนึงสามารถทำได้
ทางบ้านผู้หญิง ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย มีลูกสองคน เรื่องเงินๆทองๆก็ตามประสา
ผมแชร์ทุกอย่าง ผมเลี้ยงเธอมา ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลานึง ผมอะไรช่วยได้ผมก็ช่วย
ช่วงเรียนมหาลัย ค่าเรียน ค่ากินอะไรช่วยได้ผมก็เต็มใจที่จะช่วย ไปรับไปส่ง จะได้ประหยัดเงินเธอไปบ้าง ให้เธอมีตังเก็บนิดๆหน่อยๆ
ความรักของผมค่อนข้างชัดเจน แน่วแน่ และผมให้คำมั่นสัญญาว่า
"ผมจะรักเธอคนเดียว ตราบเท่าที่ผมมีลมหายใจ และจะไม่ ไขว้เขวในความรักใดๆ"
ผมมีความสุข กับชีวิตในตอนนี้มาก
ผมมีความสุขกับการ ใช้ชีวิตที่เวลาเรา มีเวลาว่างเรามานอนกอดกัน ไปกินข้าวดูหนัง ทำไรร่วมกัน
ทุกรอยยิ้มที่ผมได้รับ มันเหมือน "ของขวัญ" ที่ผมได้รับเพื่อชดเชยให้กับช่วงแย่ๆที่ผ่านมาในชีวิต
ผมรู้สึกว่า บางที....ชีวิตผมอาจจะเจอความหมายที่จะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วก็ได้
จากความคิดที่อยากจะตายในทุกๆวัน
ผมกลับรู้สึกว่า ผมอยากที่จะอยู่ต่อ อีกสักวันสองวัน ต่อไปเรื่อยๆ ขอแค่ผมได้อยู่กับคนที่ผมรัก ได้ใช้เวลาร่วมกัน ได้อยู่ร่วมกัน.....
ข้ามมาปัจจุบัน
เธอเรียนจบแล้ว และเข้าทำงานได้ประมาณ 7 เดือนแล้ว ทุกอย่างเหมือนเดิมเราใช้เวลาแชร์กันเหมือนเดิมมานอนกอดกัน ว่าง ก็ไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน
ผมแบ่งให้อิสระในการใช้ชีวิตซึ่งกันและกัน ผมเชื่อใจในตัวเธอ และเธอก็สามารถมั่นใจในตัวผมได้ว่า ไม่เคยนอกลู่นอกทาง
ระหว่างที่ เธอ ไปทำงาน และผมนั่งทำงานอยู่บ้าน เธอก็จะบ่นๆให้ฟังแทบทุกวันเลยเนี่ยว่า เหนื่อยบ้าง เจอเพื่อนร่วมงานไม่ดีบ้างละ
และอีกเรื่องที่เธอพูดถึง คือ มีผู้ชายคนนึงที่ทำงาน(นามสมมุติ A ละกัน) อายุใกล้ๆกัน เธอก็เล่าว่าเนี่ย Aมันเข้ามาเหมือนจะจีบมั้ง
แรกๆผมไม่คิดอะไร เธอเล่าให้ฟังว่าเนี่ย เค้าเทคแคร์เธอดีมาก แต่เธอก็บอกว่าเธอมีแฟนอยู่แล้วนะ นายAก็บอกว่า ไม่ได้คิดอะไร แค่อยากดูแล
เธอบอกว่า บางวัน A มันก็เตรียมข้าว เตรียมอะไรไว้ให้กิน กลางวัน บางทีก็มีของกินมาฝาก
เธอก็เล่าให้ผมฟังตลอด แต่เธอก็บอกว่า เธอไม่ได้คิดอะไร ส่วนตัวผมก็เชื่อมั่นในตัวแฟนที่ผมรักเหมือนกัน ผมรู้ว่าเรามีความรักให้กันมากขนาดไหน
จนกระทั่งวันนึง แฟนผมมาเล่าให้ฟังว่า นายAบอกว่า เค้ารู้สึกคิดเกินกว่าเพื่อนแล้วแหละ เค้ารู้สึกหึงหวง ในตัวเธอ
แต่เธอก็ยังยืนกราน ว่าเธอยังคงรัก กับแฟน(ผม)ดี จนนายA เริ่มห่างๆไปไม่นาน นายAก็กลับมาทำตัวเหมือนเดิม
ประมาณว่าไม่เปนไร อยากดูแล อยากเทคแคร์ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเธอมีแฟน
ตัวผมเองก็เชื่อใจแฟน ปล่อยให้แฟนจัดการเอง ผมไม่อยากเข้าไปยุ่มย่ามใน เรื่องงาน เรื่องเพื่อนร่วมงาน หรือที่ทำงานของเธอ
รู้ว่าเธอเหนื่อย หรือท้อแท้ แต่ผมก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปจัดการอะไรได้ ได้แต่วันที่มีเวลาให้กัน กอดให้กำลังใจกัน รับฟังกัน พาไปกินอะไรอร่อยๆบ้าง
เติมเต็ม ให้เธอรู้สึกผ่อนคลายกับชีวิต ผมใช้ชีวิตกันแบบนั้น
จนกระทั่ง ปัจจุบัน เธอบอกกับผมว่าเธอกำลัง สั่นคลอน
เธอเริ่มรู้สึกมีใจให้กับนายA และเธอเองก็รู้สึกผิดกับผมมาก
แต่เธอก็ยังรักผมอยู่ เราคุยกัน เธอพูดไปใจสั่นไป
ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้ไหลออกมาอีก
ผมได้แต่บอกเธอว่า ให้คิดดีๆนะ อย่าให้ความคิด อารมณ์ชั่ววูบ มาเป็นตัวตัดสินใจนะ
เพราะถ้าเธอเลือกแล้ว เธอก็จะเสียอีกทางไปโดยที่ไม่มีวันกลับมานะ
เธอโอเคหรือปล่าวที่จะ เสี่ยงใหม่ กับของใหม่ ที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไง
เธอรักเค้า แล้วหรอ เธอ มั่นใจในความรู้สึกเธอจริงๆใช่มั้ย....
เราคุยกัน และ ผมบอกเธอว่า ไม่ว่าอย่างไรผมจะเคารพการตัดสินใจของเธอนะ
แต่จงรู้ไว้ ผมไม่อยากเสียเธอไป และความรักที่ผมมีให้เธอยังเหมือนเดิม
ไม่ว่า เธอจะเลือกที่จะอยู่กับผมเหมือนเดิม หรือ อย่างไรก็ตาม
เธอบอกว่า "เธอขอเวลากลับไปคิด"
ในตอนที่เราคุยกัน เธอบอกว่าตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออก เธอไม่สามารถสลัดภาพเค้าไปจากหัวได้
เธอยังตัดสินใจไม่ได้ เธอขอเวลากลับไปคิด แต่ผมกลับรู้สึกว่าลึกๆเธออาจจะมีคำตอบอยู่แล้วก็ได้
แต่ในใจลึกๆ ผมกลับรู้สึกว่า ผมอาจจะกำลังจะเสียเธอไปก็ได้ ผมไม่อยากเสียเธอไป
เธอคือทุกอย่างสำหรับผมแล้ว เธอคือ ความหมายของการมีชีวิตอยู่ของผม
ผมไม่รู้สึกโกรธ หรือ โทษว่าเป็นความผิดของใคร
ผมไม่อยากว่าเธอว่า ทำไมเธอทำแบบนั้น
ผมไม่อยากรู้สึกโกรธ หรือ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผมไม่รู้ว่า ผมควรจะทำอย่างไง ถ้าเส้นทางที่เธอจะเลือก มันไม่มีผมอยู่จริงๆ
ผมแค่ไม่อยากเสียเธอไป.......