จะมีสารชีวเคมี (Antigen) เป็นตัวจำแนกหมู่โลหิต คือ แอนติเจน A(Antigen-A) และแอนติเจน-บี (Antigen-B) เป็นตัวกำหนดกล่าวคือ
หมู่โลหิต A คือหมู่โลหิตที่มีแอนติเจน-เอ (Antigen-A) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดงและมีแอนติบอดี-บี (Antibody-B) อยู่ในน้ำเหลือง หมู่โลหิต B คือหมู่โลหิตที่มีแอนติเจน-บี (Antigen-B) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดงและมีแอนติบอดี-เอ (Antibody-A) อยู่ในน้ำเหลือง หมู่โลหิต O คือหมู่โลหิตที่ ไม่มีแอนติเจน-เอ (Antigen-A) และแอนติเจน-บี (Antigen-B) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดง แต่มีแอนติบอดี-เอ(Antibody-A) และมีแอนติบอดี-บี (Antibody-B) อยู่ในน้ำเหลือง ้ หมู่โลหิต AB คือหมู่โลหิตที่มีแอนติเจน-เอ (Antigen-A) และแอนติเจน-บี (Antigen-B) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดง แต่ในน้ำเหลือง ไม่มีแอนติบอดี-เอ(Antibody-A) และแอนติบอดี-บี (Antibody-B)
จากข้างบนครับ
คือผมสงสัยว่าการที่หมู่เลือดมันตกตะกอน อย่างเช่น หมู่เลือดเอจะเกิดตะกอนในช่องแอนตี้บี การเกิดตะกอนนี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรหรอครับ ตัวสารกับเลือดเหตุใดมันถึงทำปฏิกิริยากัน ทำโดยวิธีไหนยังไงเหรอครับ ผมถามในฐานะที่ผมสงสัยมานานแต่ก็ไม่กระจ่างสักที ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ
การตรวจหมู่เลือด
หมู่โลหิต A คือหมู่โลหิตที่มีแอนติเจน-เอ (Antigen-A) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดงและมีแอนติบอดี-บี (Antibody-B) อยู่ในน้ำเหลือง หมู่โลหิต B คือหมู่โลหิตที่มีแอนติเจน-บี (Antigen-B) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดงและมีแอนติบอดี-เอ (Antibody-A) อยู่ในน้ำเหลือง หมู่โลหิต O คือหมู่โลหิตที่ ไม่มีแอนติเจน-เอ (Antigen-A) และแอนติเจน-บี (Antigen-B) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดง แต่มีแอนติบอดี-เอ(Antibody-A) และมีแอนติบอดี-บี (Antibody-B) อยู่ในน้ำเหลือง ้ หมู่โลหิต AB คือหมู่โลหิตที่มีแอนติเจน-เอ (Antigen-A) และแอนติเจน-บี (Antigen-B) อยู่ที่ผิวของเม็ดเลือดแดง แต่ในน้ำเหลือง ไม่มีแอนติบอดี-เอ(Antibody-A) และแอนติบอดี-บี (Antibody-B)
จากข้างบนครับ
คือผมสงสัยว่าการที่หมู่เลือดมันตกตะกอน อย่างเช่น หมู่เลือดเอจะเกิดตะกอนในช่องแอนตี้บี การเกิดตะกอนนี่มันเกิดขึ้นได้อย่างไรหรอครับ ตัวสารกับเลือดเหตุใดมันถึงทำปฏิกิริยากัน ทำโดยวิธีไหนยังไงเหรอครับ ผมถามในฐานะที่ผมสงสัยมานานแต่ก็ไม่กระจ่างสักที ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ